KUBET – ภาพนี้คนแห่ชม จนท. ทำงานด้วยใจยังมี ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เผยแล้วทำไมต้องบนเรือ

           ผู้คนชื่นชม ชุดเคลื่อนที่กรมการปกครอง อ.บ้านแพ้ว ลงพื้นที่บริการประชาชน ชี้ไม่มีอะไรลำบาก ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เผยทำไมต้องถ่ายบนเรือ ตัดต่อเอาได้ไหม



ถ่ายบัตรประชาชน คนแก่
ภาพจาก TikTok @job_job09

           เป็นภาพที่เรียกเสียงชื่นชมจากประชาชนอย่างมาก กรณีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ทางบัญชี TikTok @job_job09 ของปลัดอำเภอบ้านแพ้ว ได้โพสต์ภาพการปฏิบัติหน้าที่ของชุดเจ้าหน้าที่จากกรมการปกครอง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ขณะลงพื้นที่ให้บริการถ่ายบัตรประชาชนแก่ประชาชน ที่ไม่สะดวกในการเดินทางมาทำบัตรยังที่ว่าการอำเภอ พร้อมระบุข้อความ “มันไม่มีอะไรลำบาก ทุกอย่างอยู่ที่ใจ”

           จากภาพสะท้อนให้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่พยายามทำงานเพื่อประชาชนเป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ได้ลงเรือไปพร้อมช่วยจัดศีรษะของหญิงสูงวัย โดยมีทีมงานใช้กล้องและคอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกัน

           ด้านประชาชนที่เห็นต่างก็เข้ามาชื่นชมการทำงาน พร้อมชี้ว่านี่คือหน่วยเคลื่อนที่ สำหรับงานบริการทำบัตรประชาแก่ผู้สูงอายุหรือผู้พิการ ที่เดินทางมาอำเภอไม่ได้ ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้ดีมาก คนที่ตั้งใจและรักในงานแบบนี้ยังมีอยู่จริง

           ขณะที่ทางเจ้าของคลิปได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

ว่าสาเหตุที่ต้องถ่ายรูปกันในเรือเพราะทางหญิงสูงวัยมีสภาวะไม่พร้อมหลายอย่าง
และบ้านไม่มีทางเข้าทางบก
อีกทั้งเครื่องผลิตบัตรต้องอยู่ด้วยตลอดขณะถ่ายรูป
ไม่สามารถใช้การตัดต่อช่วยได้ ส่วนที่ต้องจับคอเช่นนั้น
เพราะท่านมีปัญหาด้านการบิดคอ เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยเหลือ ทั้งนี้
ขอยืนยันว่าไม่มีอะไรลำบากสำหรับการทำงานปกครอง

ถ่ายบัตรประชาชน คนแก่

ถ่ายบัตรประชาชน คนแก่

ถ่ายบัตรประชาชน คนแก่

KUBET – ไวรัล TikTok ตั้งใจเสี่ยงดวงเขย่าเซียมซียักษ์ ทำจนสำเร็จถึงรู้วัดเอาไว้ให้หยิบ



         หนุ่มสายบุญโชว์พลังศรัทธาแบบจัดเต็ม หวังเสี่ยงดวงด้วยการเขย่าเซียมซียักษ์ แต่สุดท้ายถึงบางอ้อ ทำเอาขำกันทั้งวัด เป็นไวรัลคนดู 4 ล้านครั้งแล้ว



เขย่าเซียมซียักษ์
ภาพจาก TikTok @baiyokboo

         วันที่ 5 มีนาคม 2568 ทำเอาชาวโซเชียลหัวเราะกันน้ำตาเล็ด เมื่อมี TikTok @baiyokboo มีการลงคลิปตัวเองและครอบครัวไปทำบุญที่ วัดพะเนียงแตก จังหวัดนครปฐม ซึ่งระหว่างนั้นได้เห็นเซียมซียักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ แฟนหนุ่มเจ้าของคลิปจึงอยากลองเสี่ยงดวงดู ก็ไม่รอช้า ออกแรงยกเซียมซียักษ์เขย่าเต็มที่สุดกำลัง

         แต่เดี๋ยวก่อน…หลังจากออกแรงจนสุดแขน เจ้าของคลิปก็ถึงบางอ้อ เพราะความจริงแล้วเซียมซียักษ์ไม่ได้มีไว้ให้เขย่า แต่มีไว้ให้หยิบ ทำเอาทั้งพระผู้พบเห็นรวมถึงชาวเน็ตที่ได้ชมคลิปพากันหัวเราะจนท้องแข็ง

เขย่าเซียมซียักษ์
ภาพจาก TikTok @baiyokboo

         งานนี้ไม่รู้ว่าดวงจะดีหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ
ได้เสียงหัวเราะจากคนทั้งวัดไปเต็ม ๆ แถมเจ้าของคลิปยังบอกอีกว่า
เลขที่เขย่าออกมาได้นั้น คือ 21

เขย่าเซียมซียักษ์
ภาพจาก TikTok @baiyokboo

KUBET – คนญี่ปุ่นในไทย โพสต์เล่าเรื่องพัทยา คนแชร์กันฉ่ำ จนเป็นไวรัลเกือบ 19 ล้านวิว

         คนญี่ปุ่นในไทย โพสต์เล่าเรื่องพัทยา จนเป็นไวรัลเกือบ 19 ล้านวิว คนแชร์กันฉ่ำ คอมเมนต์กันเพียบ ตอนนี้กำลังเป็นกระแสในโซเชียลญี่ปุ่น



คนญี่ปุ่นในไทย โพสต์เล่าเรื่องพัทยา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา

          เป็นไวรัล 18.9 ล้านวิว ที่แชร์กันมากในหมู่ชาวเน็ตญี่ปุ่นขณะนี้ เมื่อผู้ใช้บัญชี X @extreem_mossann  ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้โพสต์เรื่องราวถึง “พัทยา” แหล่งท่องเที่ยวดังของไทย อันเป็นจุดหมายของชาวต่างชาติมากมาย ผ่านทางโซเชียลของเขาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 โดยทั้งหมดเป็นสิ่งที่เขาเขียนขึ้นจากเรื่องราวที่ได้รับฟังมาจากชายแก่คนหนึ่ง

          โดยผู้โพสต์ เล่าว่า พวกคุณรู้เรื่องเกี่ยวกับพัทยากันไหม ? ที่นั่นเป็นสวรรค์เขตร้อนของไทย ที่มีทั้งชายหาด มีเหล้า และยังมีย่านราตรีที่เต็มไปด้วยผู้หญิงกลางคืน และยังมีพวก “ฝรั่ง” คนยุโรปผิวขาวที่มารวมตัวกันเพียบ โดยเฉพาะพวกผู้ชาย แต่ยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจ คือมีพวกที่มาจบชีวิตที่นี่กันไม่หยุดเลย ทำไมถึงเป็นยังนั้นน่ะเหรอ ลองฟังดูนะ

          อย่างแรกเลย พัทยาเป็นเหมือนดินแดนในฝันสำหรับคนพวกนั้น พวกคนแก่ที่เคยทำงานห่วย ๆ ในยุโรปหรืออเมริกา ตัวสั่นอยู่ในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ มาที่นี่แล้วก็คิดว่า “พอได้แล้ว มาใช้ชีวิตสบาย ๆ ในเมืองร้อนกันเถอะ” แล้วก็ขายบ้าน กำเงินบำนาญ ขอวีซ่า มาเช่าคอนโด และเที่ยวผู้หญิงสาว ๆ ซึ่งในตอนแรกมันก็เหมือนกับสวรรค์

          เขาอาจจะคิดว่า “ฉันสามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้จริงดิ” แต่ประเด็นคือ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่คุ้นชินกับสิ่งต่าง ๆ แม้แต่สวรรค์ หากได้อยู่ที่นั่นทุกวัน สุดท้ายก็จะเบื่อ แล้วปัญหาก็เริ่มขึ้น คือเงินที่ลดลงไปเรื่อย ๆ บำนาญก็ใช่ว่าจะไม่มีวันหมด หากคุณเอาแต่ถลุงไปกับสาว ๆ กินเหล้า และปาร์ตี้ ไม่ช้าก็จะหมดตัว

          ยิ่งไปกว่านั้น ฝรั่งที่จมปลักในพัทยาบางคนเลือกที่จะกลับบ้านเกิดไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ขายบ้านไปแล้ว ก็ตัดความสัมพันธ์กันไปแล้ว เพื่อนและครอบครัวอยู่ไกลเหมือนคนละฟากฟ้า มันคือการโดดเดี่ยวอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงเท่านั้น สุขภาพก็เริ่มจะทรุดโทรม ยิ่งแก่ก็ยิ่งแย่

          อากาศร้อน ๆ ดื่มเหล้ามากเกินไป เที่ยวผู้หญิงมากเกินไป และใช้ยากระตุ้นมากเกิน หัวใจกับตับก็พัง จะไปโรงพยาบาลก็ต้องใช้เงิน ประกันสุขภาพก็แพงจัด แถมคนพวกนี้ยังมีโรคประจำตัวติดมากันไม่น้อย เมื่อบวกกับความเหนื่อยล้าทางจิตใจ สวรรค์ที่เคยฝันก็เริ่มจะดูเหมือนคุกเข้าไปทุกที ๆ

          ถ้าให้พูดตรง ๆ
คนพวกนี้เหมือนสูญเสียความหมายในการมีชีวิตอยู่ไปแล้ว
หากกลับไปประเทศตัวเอง ก็ยังพอมีงานทำหรือมีครอบครัวอยู่ แต่ในพัทยา
พวกเขาไม่ต่างจากคนเร่ร่อน ไม่มีใครชื่นชม ไม่มีใครมาพึ่งพา
ความเหงาและความสิ้นหวังค่อย ๆ รัดคอ จนวันหนึ่งพวกเขาก็คิดว่า “บางที
เท่านี้คงพอได้แล้ว”

         
คนเหล่านี้จึงจบด้วยการโดดออกจากระเบียง แขวนคอ หรือไม่ก็ยิงตัวเอง
แม้ไม่มีสถิติชัด ๆ แต่ตามหนังสือพิมพ์ก็มักเห็นพาดหัวว่า “ฝรั่งจบชีวิตตัวเองอีกคน” และยิ่งไปกว่านั้น
พัทยายังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีสิ่งเร้าจัด ๆ มีเสียงดังทั้งวันทั้งคืน
แสงนีออนสว่างจ้า ทำให้คนเพี้ยนได้

         
แน่นอนว่าการถูกความเหงากลืนกิน
ท่ามกลางความวุ่นวายเหล่านี้ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง
ท้ายที่สุดของคนที่มาหาความสำราญ สิ่งที่รออยู่คือความว่างเปล่า เพื่อนเอ๋ย
ความสุขคือสิ่งที่จะกลืนกินคุณได้ถ้าไม่ระวัง สรุปคือ
เหตุผลที่ฝรั่งมาจบกันที่พัทยา เกิดจากความฝันที่พังทลาย ความโดดเดี่ยว
และขีดจำกัดของการหนีความจริง ที่รุมเร้าเข้ามาในคราเดียว

          “ถ้าคิดว่าหนีมาสวรรค์แล้ว ท้ายที่สุดก็หนีตัวเองไม่พ้น
เพราะไม่ว่ามนุษย์จะไปที่ไหน ก็ยังแบกตัวเองไว้เสมอ
ดังนั้นจึงไม่มีที่ให้หนี นี่ไม่ใช่เรื่องน่าขำหรอกเหรอ
และนี่คือสิ่งที่ชายแก่ซึ่งนั่งข้าง ๆ ผมในบาร์ไอริช
เล่าให้ฟังเมื่อวานนี้”
ผู้โพสต์ระบุ

         
แม้จะไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม
หรือตัวเลขสถิติทางการมาอ้างอิงเรื่องเล่าดังกล่าว
แต่โพสต์ข้างต้นนี้ก็ดึงดูดความสนใจของชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก จนพากันกดไลก์
แชร์ และคอมเมนต์พูดคุยกับมากมาย
บางคนยังคล้ายจะได้แง่คิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตรวมถึงเรื่องของการไล่ตามความสุขด้วย

 

KUBET – เม็กซิโก เจอ 9 ศพ นักศึกษา ท้ายรถที่จอดทิ้งไว้ หลังหายตัวข้ามเดือน

          คดีช็อก เจอร่าง 9 นักศึกษา ตรงรถที่จอดทิ้งไว้ข้างถนนในเม็กซิโก หลังทริปเที่ยวชายหาดแสนสุข ชะตากรรมสลด ยังไม่ระบุตัวฆาตกร



ฆ่าหั่นศพ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 4 มีนาคม 2568 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานคดีสุดช็อกจากประเทศเม็กซิโก หลังนักศึกษา 9 ราย ที่หายตัวไประหว่างทริปวันหยุดพักผ่อนทางตอนใต้ของประเทศเมื่อเดือนก่อน ถูกพบกลายเป็นเหยื่อฆ่าหั่นศพ ซุกร่างไว้ท้ายรถยนต์ที่จอดทิ้งอยู่ข้างถนน พร้อมกระเป๋าที่ใส่ชิ้นส่วนมือหลายข้าง ถูกทิ้งไว้ในบริเวณใกล้ ๆ กัน นับเป็นความสยองล่าสุดที่เกิดขึ้นในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอาชญากรรมรุนแรง และมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

          สภาพศพอันน่าสยดสยองของนักศึกษากลุ่มนี้ ถูกพบเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ข้างถนนทางหลวงในเมือง San Jose Miahuatlan ตรงจุดที่เป็นพื้นที่เขตแดนระหว่างรัฐ Puebla และ Oaxaca โดยมี 4 ศพที่ถูกพบอยู่ในกระโปรงท้ายรถ Volkswagen Vento สีเทาเข้ม และอีก 5 ศพถูกกองทิ้งไว้ใต้ผ้าใบกันน้ำเปื้อนเลือด ขณะเดียวกันในที่เกิดเหตุยังพบกระเป๋าที่ภายในมีชิ้นส่วนมืออยู่ 8 คู่ และยังมีมืออีก 2 ข้างที่ยัดไส้ในท้ายรถ

ฆ่าหั่นศพ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก DNOL-No Localizados.

          สำหรับศพที่พบนั้น เป็นของหญิง 5 ราย และชาย 5 ราย อายุระหว่าง 19 – 30 ปี ทั้งหมดมีบาดแผลจากกระสุนปืนและร่องรอยการทรมาน ทั้ง 9 คนเป็นคณะนักศึกษาจากเมือง Tlaxcala ที่มีรายงานว่าหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ขณะเดินทางมาพักผ่อนกันในที่ชายหาดในรัฐ Oaxaca โดยเจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวตนของเหยื่อได้แล้ว 8 ราย และยังไม่มีการระบุตัวผู้ต้องสงสัย

          ขณะนี้สำนักงานอัยการของรัฐ Puebla
กำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในรัฐ Tlaxcala และ Oaxaca
เพื่อติดตามตัวฆาตกร นอกจากนี้ยังพบคลิปจากกล้องวงจรปิด
ที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พบว่ารถคันที่เจอศพ
ถูกใครสักคนขับไปตามถนนทางหลวงเส้นหนึ่ง ห่างจากจุดที่เจอศพประมาณ 144
กิโลเมตร  

ฆ่าหั่นศพ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก DNOL-No Localizados.

          “จนถึงขณะนี้เรายังไม่สามารถให้ข้อมูลได้
เรามีแนวทางในการสอบสวนแล้ว
แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นความลับ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนในสิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
เมื่อเราได้รับคำตอบและการสืบสวนเสร็จสิ้น
เราจึงอยู่ในจุดที่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้”
หัวหน้าสำนักงานอัยการรัฐ
Puebla ระบุในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (3 มีนาคม)

          อนึ่ง

เม็กซิโกขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีเหตุความรุนแรงและอาชญากรรมติดอันดับโลก
โดยเมื่อปี 2566 เม็กซิโกเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น 30,000 คดี
นับเป็นตัวเลขสูงสุด
และทำให้ปีดังกล่าวกลายเป็นปีที่มีความรุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ซึ่งเหตุฆาตกรรมส่วนใหญ่ในเม็กซิโกมักเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด

ฆ่าหั่นศพ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fiscalía de personas desaparecidas del estado de tlaxcala

ฆ่าหั่นศพ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก DNOL-No Localizados.

ฆ่าหั่นศพ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก DNOL-No Localizados.

ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post

KUBET – ดูดวงเดือนมีนาคม 2568 รูปแบบ 12 นักษัตร ปีไหนได้ดวงยังไง ใครได้นาทีทอง


          ดูดวงเดือนมีนาคม 2568 ในรูปแบบ 12 นักษัตร ปีไหนเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางคนได้นาทีทอง บางคนได้บทเรียนต้องอดทน


          วันที่ 5 มีนาคม 2568 เฟซบุ๊ก สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีการลงข้อมูลดูดวง 12 นักษัตร ประจำเดือนมีนาคม 2568 แต่ละปีนักษัตร มีดวงในเดือนนี้อย่างไรบ้าง รายละเอียดดังนี้

          ชวด

          เป็นช่วงนาทีทองของชีวิต หากตัดสินใจคว้า มีโอกาสพลิกชีวิต

          ฉลู

          มีเวลาให้กับตัวเองและคนในครอบครัวมากขึ้น หลังตรากตรำมานาน

          ขาล

          สิ่งที่มุ่งมั่นทุ่มเทแรงใจ มีโอกาสพบความสำเร็จ ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า

          เถาะ

          ทำน้อยได้น้อย ทำมากได้มาก อยากมีอยากได้อะไรให้รีบลงมือทำทันที

          มะโรง

          ความสำเร็จที่คาดหวัง แม้จะช้าแต่มาแน่นอน ขอเพียงไม่ท้อแท้กลางคัน

          มะเส็ง

          มีพลังกายใจในการผลักดันความฝันให้เป็นจริง ขอให้ทำทุกอย่างให้เต็มที่

          มะเมีย

          มีโอกาสได้เริ่มต้นหรือรีเซตชีวิตใหม่ มีหนทางในการก้าวเดินที่มั่นคง

          มะแม

          พบการเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน ให้รีบปรับตัว ยิ่งเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น

          วอก

          มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิต จากสิ่งที่ไม่คาดฝันหรือมีโอกาสได้รีเทิร์นรักเก่า

          ระกา

          สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ อย่าท้อแท้

          จอ

          พบเจอปัญหาอุปสรรคครั้งใหญ่เข้ามาทดสอบชีวิต ขอให้มีสติและอดทน

          กุน

          สถานการณ์พลิกผันจากร้ายกลายเป็นดี โดยเฉพาะเงินทองที่มีเข้ามาเกินคาด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

KUBET – แฉเอเจนซี่ลอยแพ เบี้ยวค่ารีวิวสินค้า พบเหยื่อเพียบ คาดเสียหายกว่า 20 ล้าน

           อินฟลูเอนเซอร์ แฉเอเจนซี่ลอยแพ เบี้ยวไม่จ่ายค่าจ้าง ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ทำมาหลายปี โกงฉ่ำทั้งอินฟลูฯ – เจ้าของสินค้า คาดเสียหายกว่า 20 ล้าน พบทำมา 5-6 ปีแล้ว



 แฉเอเจนซี่ เบี้ยวค่ารีวิวสินค้า
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          กลายเป็นดราม่าในกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ กรณีอินฟลูเอนเซอร์หลายรายออกมาโพสต์แฉ ถูกเอเจนซี่ลอยแพ เบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง หลังมาติดต่อขอให้มีการรีวิวสินค้า แต่กลับค้างค่ารีวิวฉ่ำชนิดที่ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ช่วงแรก ๆ ขอเลื่อนจ่าย แต่ก็ไม่จ่ายสักที โดยพบว่าคนที่ถูกโกงค่าจ้างนั้นมีตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักแสนบาท

           ล่าสุด (3 มีนาคม 2568) ข่าวช่อง 3 ได้พูดคุยกับ คุณขวัญ อินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพ แม่และเด็ก ซึ่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคม เธอได้รับการติดต่อจากบริษัทเอเจนซี่แห่งหนึ่ง ที่ดูแลด้านการตลาดให้สินค้าเกี่ยวกับเด็กเล็ก ว่าจ้างให้รีวิวสินค้า ด้วยการโพสต์คลิปในช่องของเธอ เมื่อดำเนินการครบข้อกำหนด 30 วัน เธอได้ติดต่อกลับไปสอบถามเรื่องการชำระเงิน ครั้งแรกทางบริษัทแจ้งว่าเกิดความผิดพลาดจากพนักงาน แจ้งรอบการชำระวันผิดจาก 30 วัน ขอเปลี่ยนเป็น 45 วัน

           เมื่อครบกำหนดเธอติดต่อไปอีกครั้งเพื่อทวงถามค่าจ้าง ทางตัวแทนบริษัทแจ้งว่าอยู่ระหว่างการทำเบิกจากฝ่ายบัญชี นับจากนั้นเธอยังพยายามติดต่อเรื่อง ๆ แต่ทุกครั้งทางบริษัทก็จะมีข้ออ้างมาบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมจ่ายเงิน ทวงถามไปหลายครั้ง ทางบริษัทขอผ่อนจ่าย จนปัจจุบันผ่านมา 3 เดือนเศษ ก็ยังได้ค่าจ้างไม่ครบ
 
           เธอรู้สึกว่าไม่ปกติ จึงพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนอินฟลูเอนเซอร์ ทำให้ทราบว่าเอเจนซี่เจ้านี้มีพฤติกรรมเบี้ยวค่าจ้างมาหลายครั้ง เธอจึงนำมาโพสต์เพื่อแชร์เรื่องราว หวังเตือนภัยเพื่อน ๆ ร่วมอาชีพ

           จากนั้นพบว่ามีผู้เสียหายหลายราย ทักเข้ามาแจ้งเรื่องที่ถูกเอเจนซี่เบี้ยวค่าจ้าง ทั้งที่เป็นกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์กว่า 30 คน และยังมีเจ้าของแบรนด์สินค้าอีกกว่า 20 ราย ที่ถูกเบี้ยวงาน รับเงินไปแล้วแต่ไม่โปรโมตสินค้าให้ คาดว่ามีมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

           โดยพฤติกรรมของทางเอเจนซี่
เมื่อทุกคนทวงถามไปยังเจ้าหน้าที่บริษัท ก็จะได้รับคำตอบว่า
ขอผัดผ่อนไปก่อน จะทยอยจ่ายให้ บางรายก็ได้รับคำตอบว่า
บริษัทขอเลื่อนจ่ายไปแบบไม่มีกำหนด เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงิน
โดยบริษัทมีพฤติกรรมลักษณะนี้มา 5-6 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมีปัญหาทางการเงิน
เหมือนคำพูดที่ว่า ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย

 
           โดยหลังตนโพสต์เรื่องไป
ก็มีกลุ่มผู้เสียหายหลายคนรวมตัวมาให้ข้อมูล
พบว่าทางเอเจนซี่เคยถูกดำเนินคดีและฟ้องร้อง
ลักษณะเบี้ยวค่าจ้างมาหลายครั้ง จนต้องจ่ายค่าเสียหายให้ผู้ร้องหลายราย
แต่ยังคงทำพฤติกรรมเช่นเดิม

           เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบข้อมูลของบริษัท
พบมีการแจ้งจดทะเบียนบริษัทมาแล้ว 3 ครั้ง
โดยที่ตั้งบริษัทปัจจุบันอยู่ในเขตลาดพร้าว
หลังจากนี้ทางกลุ่มผู้เสียหายได้พูดคุยว่าจะไปรวมตัวแจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบปราม
ในวันที่ 10 มีนาคม 2568
 
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3

KUBET – เปิดแชตคิวงาน ลำไย ไหทองคำ หลังเป็นข่าวดังเลิกปุ้ย L.กฮ. ก่อนกลับมาคืนดี

KUBET – หนุ่มหัวกะทิ เปิดธุรกิจ บ. ใหญ่ทาบทาม ตั้งแต่เรียนไม่จบ ยื่นฟ้อง ม.ดัง ไม่รับเข้าเรียน


           หนุ่มหัวกะทิ เป็นเจ้าของธุรกิจ และได้รับข้อเสนองานจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ตั้งแต่ไม่จบชั้นมัธยม ยัวะหนักหลังถูก 16 มหาวิทยาลัยปฏิเสธ ไม่รับเป็น นศ. ยื่นฟ้องเอาผิด มองถูกเลือกปฏิบัติ



เด็กหนุ่มหัวกะทิชาวเอเชีย ถูกมหาวิทยาลัยปฏิเสธ แม้ถูกทาบทามจาก บ.ดัง

           วันที่ 4 มีนาคม 2568 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเรื่องราวของ สแตนลีย์ จง หนุ่มเชื้อสายจีนวัย 19 ปี ซึ่งเป็นอัจฉริยะที่ทำคะแนนได้อย่างน่าทึ่งในชั้นมัธยมปลาย และยังเป็นเจ้าของธุรกิจที่ใช้เวลาหลังเลิกเรียนในการบริหารจัดการ เขาคนนี้ยังเป็นบุคคลระดับหัวกะทิที่ได้รับการทาบทามจาก Google ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ แต่ไม่คาดคิดว่าจะต้องเผชิญสถานการณ์ที่ชวนหงุดหงิด หลังถูกมหาวิทยาลัย 16 จาก 18 แห่ง ปฏิเสธไม่รับเข้าศึกษา แม้จะมีผลการเรียนดีขนาดนี้ก็ตาม

           และนั่นจึงเป็นเหตุให้ สแตนลีย์ จง พร้อมด้วย หนาน จง พ่อของเขา ตัดสินใจยื่นฟ้องเอาผิดมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ ภายใต้ข้อกล่าวหาเรื่องการเลือกปฏิบัติต่อพวกเขา ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย

           รายงานเผยว่า ระหว่างที่สแตนลีย์อยู่ชั้นมัธยมปลาย เขาทำเกรดเฉลี่ยได้ดีเยี่ยม และยังทำคะแนน SAT ได้มากกว่า 1,590 คะแนน ทำให้เขาจัดอยู่ในกลุ่มหัวกะทิ ท็อป 1% ของสหรัฐฯ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังมุ่งมั่นที่จะศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ พร้อมใช้เวลาว่างในการก่อตั้งธุรกิจชื่อ Rabbit-Sign ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ด้วยความสามารถระดับนี้ใครก็คงคิดว่าเส้นทางการศึกษาของเขาคงดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

           ในปี 2566 สแตนลีย์ ยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัย 18 แห่ง แต่กลับถูกปฏิเสธจาก 16 สถาบัน รวมถึงสถาบันชั้นนำอย่าง มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย และสถาบันอื่น ๆ ทำให้ชายหนุ่มกับพ่อไม่พอใจอย่างมาก
 
           ครอบครัวจง เชื่อว่าเด็กหนุ่มถูกเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ในกระบวนการรับเข้าศึกษา และตัดสินใจยื่นฟ้องสถาบันหลายแห่งต่อศาลระดับรัฐบาลกลาง โดยผู้เป็นพ่อยังชี้ว่า “ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะสนใจ ว่ากำลังสร้างความเสียหายให้เด็ก ๆ เหล่านี้มากแค่ไหน”
 
           อีกหนึ่งเหตุผลที่ทางครอบครัวเลือกจะต่อสู้คดีนี้ ยังเป็นเพราะครอบครัวจงมีลูกชายอีกคนที่อายุ 16 ปี ซึ่งกำลังกังวลหนัก เกี่ยวกับสิ่งที่อาจต้องเผชิญในกระบวนการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย

           ขณะนี้คู่พ่อลูก ได้ยื่นฟ้องมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแล้ว ด้วยเอกสารคำร้อง 291 หน้า ในคำฟ้องระบุว่า สแตนลีย์ จง ได้รับข้อเสนอให้ร่วมงานกับ Google ในฐานะวิศวกรซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งสำหรับผู้ที่มีวุฒิปริญญาเอก หรือประสบการณ์เทียบเท่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาที่สถาบันในเครือของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่หลาย ๆ เมืองก็ตาม

           “การที่ข้อเสนอตำแหน่งงานของ Google มาถึงหลังถูกมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียปฏิเสธ หมายความว่าทางมหาวิทยาลัยไม่อาจเล็งเห็นว่าทาง Google จะยอมรับว่าทักษะของสแตนลีย์เทียบเท่าระดับปริญญาเอกแล้ว แต่ประเด็นหลักยังอยู่ที่ ผลงานทางเทคนิคที่ระบุไว้ในสมัครที่ยื่นกับมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เหมือนกันอย่างมากกับที่ส่งไปยัง Google” หนาน จง กล่าว
 
           สิ่งที่สแตนลีย์ต้องเผชิญนี้ จึงเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของรูปแบบการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ต่อนักเรียนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ของสถาบันดังกล่าว แม้การนำเรื่องเชื้อชาติมาพิจารณาในกระบวนการรับสมัครนักศึกษา จะขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ตาม

           ขณะนี้ครอบครัวจง กำลังเรียกร้องค่าเสียหายที่ไม่ระบุจำนวน และขอให้มีการพิจารณาคดีโดยคณะลูกขุน รวมทั้งกล่าวหากระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐฯ ว่าไม่ได้ดำเนินการต่อการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติของระบบมหาวิทยาลัย นอกจากนี้พวกเขายังยื่นฟ้องคดีในลักษณะเดียวกัน ต่อมหาวิทยาลัยวอชิงตันและมหาวิทยาลัยมิชิแกนด้วย โดยมีรายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของพนักงานศาล

           อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดแต่อย่างใด
 
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail, Sin Chew

KUBET – บอส แดนเซอร์ ลำไย ไหทองคำ ตอบเหตุทำไมยอมจ่าย 2 ล้านให้ โม ทั้งที่ไม่มีทะเบียนสมรส

          บอส เอวหวาน แดนเซอร์ ลำไย ไหทองคำ ตอบเหตุทำไมยอมจ่าย 2 ล้านให้อดีตแฟนสาว โม ทั้งที่ไม่มีทะเบียนสมรส ยันจบกับ ลำไย แล้ว



บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส


          เป็นมหากาพย์ดราม่าที่หลายคนยังให้ความสนใจ สำหรับปมข่าวร้อนของ ลำไย ไหทองคำ กับแดนเซอร์ในวง บอส เอวหวาน หลังเจ้าตัวออกมายอมรับว่าเคยคุยจริงในช่วงที่ห่างแฟน อีกทั้งยังมีการจ่ายเงินกว่า 2 ล้านให้ โม อดีตแฟนสาวของ บอส เพื่อจบเรื่องไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็เป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการ

          ล่าสุด (5 มีนาคม 2568) บอส เอวหวาน ได้ออกมาเปิดใจในรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 ในช่วงหนึ่งได้มีการพูดถึงกรณีการจ่ายเงิน 2 ล้านเป็นค่าเสียใจให้อดีตแฟนสาวทั้ง ๆ ที่ไม่มีทะเบียนสมรสว่า หลังเรื่องแตกได้คุยกับ โม ว่าจะชดใช้ความรู้สึกที่ตัวเองทำผิด จะขอให้เดือนละ 50,000 บาท และจะทำงานตรงนี้ต่อ และจะเลิกยุ่งกับพี่ลำไย แต่โมไม่โอเค ซึ่งตอนนั้นตนก็รู้สึกว่า ทำไมตนต้องให้เงินเขา ซึ่งตอนนั้นตนก็พร้อมจบกับ โม อยู่แล้ว

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

          เขาบอกว่าเขามาอยู่กับบอส
พอมีเรื่องนี้ก็รู้สึกว่าเสียเวลา
ทำให้ตนรู้สึกผิดจึงยื่นข้อเสนอเป็นเงินเดือนละ 50,000 บาท
และอยู่ด้วยกันต่อ ส่วนกับพี่ลำไยตนจะเลิกยุ่ง
ซึ่งตอนนั้นพี่ลำไยยังไม่ได้รู้เรื่องที่ตนไม่ได้เลิกกับ โม จริง ๆ
ตอนที่เรื่องแตก ตอนที่ตนเราเรื่องเงินไปปรึกษากับค่าย แต่โมไม่เอา
และเขาเป็นคนพูดเองว่าอยากได้จากทางพี่ลำไยเป็นค่าเสียความรู้สึกมากกว่าไม่ได้อยากได้จากตน
เขาเรียก 10 ล้านบาท  

         
หลังจากนั้นตนก็ไปคุยกับทางค่ายว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น
ทางค่ายมองว่าเงินมันมากเกินไป และในส่วนของพี่ลำไยก็ไม่ได้ผิดอะไร
หลังจากนั้นก็มีการโทรศัพท์คุยกัน 3 คน คือค่าย บอส และโม เจรจามาที่ 5
ล้าน ซึ่งตอนนั้น โม ก็พูดว่า ไม่ได้อยากได้เงิน
ทางค่ายก็ถามว่าคนที่ทำผิดคือบอส ทำไมต้องมาเรียกร้องจากค่าย
และถามว่าโมมีทะเบียนสมรสไหมที่จะใช้สิทธิ์มาเรียกเงิน ซึ่งก็ไม่มี
ตนจึงบอกว่าเพราะตนจะชดใช้ และเจรจาจบที่ 2 ล้าน ซึ่งใน 2
ล้านนี้ตนได้คุยกับทางค่ายว่าจะจัดการเอง โดยยืมทางค่ายมาก่อน
และจะชดใช้ทีหลัง จากนั้นก็มีการนัดทำสัญญา และจบกันแบบแฮปปี้

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

          ในขณะที่ หนุ่ม กรรชัย ก็ถามว่าคุณจ่ายเงินเป็นค่าอะไร 2 ล้าน ? ด้าน บอส ก็ตอบว่า “เพราะมีภาพผมกับพี่ลำไยที่ไม่เหมาะสม เราก็รู้สึกผิดในสิ่งที่เราทำ”

         
งานนี้ทำเอา หนุ่ม กรรชัย และทนายแก้ว ถึงกับอึ้งและพูดว่า “เดี๋ยวนะ แม่ง
! สิ่งที่คุณจำเป็นต้องจ่ายให้โม 2 ล้าน
เป็นเพราะเขามีภาพที่ไม่เหมาะสมของคุณกับลำไย
รวมถึงข้อความที่พูดคุยกันจากไอแพดของคุณถูกไหม คุณเลยจำเป็นต้องจ่าย 2
ล้าน เพื่อหยุดเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่มีทะเบียนสมรส จริง ๆ
เขาไม่มีสิทธิ์ได้อะไรด้วยซ้ำ”
ด้าน บอส ก็ตอบว่า “ครับ”

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

          หนุ่ม กรรชัย ยังบอกอีกว่า
“ผมเข้าใจแล้วว่านี่คือประเด็นหลักทำไมค่ายถึงข้ามตัวคุณเพื่อมาจัดการเรื่องนี้
เพราะ ลำไย ถือเป็นสินค้าของไหทองคำ (พร้อมกับขอโทษที่ต้องพูดคำนี้)
เพราะฉะนั้นสินค้าของเขากำลังโดนคุกคาม
ต้นสังกัดจึงต้องเข้ามาทำสัญญาเพื่อไม่ให้มีภาพที่ไม่สมควรหลุดออกไปถูกไหม ?
แม่งจบเลยเนี่ย เข้าใจ เรียกเงินตรงนี้ว่าเป็นค่าเสียใจ”
บอส “ครับ”

          โดยหลังจาก บอส พูดจบก็เล่นเอาถอนหายใจกันทั้งรายการ

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก รายการ โหนกระแส

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก Instagram bosz_montian

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก Instagram bosz_montian

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก Instagram bosz_montian

บอส แดนเซอร์ ลำไย ตอบชัด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ลำไย ไหทองคำ

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส

KUBET – เตือน ผัก 5 อย่าง ไม่ควรกินสด ระวังพยาธิขึ้นตา อึ้งแต่ละอย่างกินกันประจำ

             เตือน ผัก 5 อย่าง ไม่ควรกินสด ระวังพยาธิขึ้นตา เสี่ยงตาบอด แต่ละอย่างคนไทยกินกันประจำ อึ้ง ต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่ายฝรั่ง พยาธิเยอะสุด !!



เตือนผักที่ไม่ควรกินสด

             วันที่ 1 มีนาคม 2568 นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา โพสต์ให้ความรู้ผ่านเฟซบุ๊ก หมอเจด เรื่อง ผัก 5 อย่างไม่ควรกินสด ระวังพยาธิขึ้นตา เสี่ยงตาบอด ! แม้ว่าการกินผักจะมีประโยชน์ต่อร่างกายและดีต่อสุขภาพ แต่ก็มีเรื่องที่ต้องระวัง เพราะผักสดบางชนิดอาจมีพยาธิติดมาด้วยแบบที่เราไม่รู้ตัว หากล้างไม่สะอาด หรือบางทีเราก็ไม่เห็น ย้ำว่าไม่ได้ห้ามกิน แต่ต้องระวังให้มากขึ้น ให้มาดูกันว่าผักอะไรเสี่ยงที่สุด และต้องล้างยังไงให้มั่นใจว่ากินได้ปลอดภัย

ผักสดที่เสี่ยงมีพยาธิเยอะที่สุด

             จากการศึกษาของ Punsawad C ซึ่งเก็บตัวอย่างผักจากตลาดใน จ.นครศรีธรรมราช พบว่ามี 5 ชนิดที่เสี่ยงพยาธิ เรียงจากน้อยไปมาก ดังนี้

             – ผักชีฝรั่ง พบพยาธิ 11%
             – ใบบัวบก พบพยาธิ 12%
             – ต้นหอม พบพยาธิ 13%
             – ผักชีไทย พบพยาธิ 13%
             – ขึ้นฉ่ายฝรั่ง พบพยาธิ 63.3%

             อันนี้ต้องระวังเลย ผักบางอย่างเราก็ไม่คิดว่าพยาธิเยอะ โดยเฉพาะขึ้นฉ่ายฝรั่ง ตัวนี้แชมป์เรื่องพยาธิเพราะก้านมีร่องลึก ดินเข้าไปฝังตัวแน่น บางทีแหล่งปลูกก็ใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ เลยกลายเป็นแหล่งสะสมของพยาธิไปโดยปริยาย

พยาธิที่พบในผัก และมันทำอะไรกับเราได้บ้าง ?

             พยาธิที่พบในผักสดมันส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติ ตั้งแต่อาการเล็กน้อย เช่น ท้องเสีย ไปจนถึงปัญหาร้ายแรง เช่น ภาวะขาดสารอาหาร หรือการติดเชื้อภายในลำไส้ พยาธิพวกนี้ส่วนใหญ่จะพบในพื้นที่ที่มีการใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ โดยไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ไข่พยาธิปนเปื้อนลงสู่ดินและน้ำได้ง่าย พยาธิแต่ละชนิดก็ส่งผลแตกต่างกัน

เตือนผักที่ไม่ควรกินสด

มาดูกันว่ามีตัวไหนบ้าง และมันแย่กับร่างกายเรายังไงบ้าง

             – พยาธิปากขอ (Hookworm) ตัวนี้ดูดเลือดจากลำไส้ ทำให้โลหิตจาง อ่อนเพลีย และขาดธาตุเหล็กได้

             – พยาธิเส้นด้าย (Threadworm) ตัวนี้ชอบออกมาแถว ๆ ทวารหนักตอนกลางคืน ทำให้คัน และถ้าไม่รักษา อาจแพร่กระจายไปทั่วบ้านได้

             – พยาธิแส้ม้า (Whipworm) ทำให้ท้องเสียเรื้อรัง ลำไส้อักเสบ และถ้าหนัก ๆ อาจทำให้ขาดสารอาหาร

             – พยาธิไส้เดือน (Ascaris) ตัวใหญ่และยาวสุด อาจทำให้แน่นท้อง ปวดท้องหนัก และบางครั้งพยาธิอาจเคลื่อนที่ไปถึงปอด ทำให้ไอเรื้อรังได้

             – พยาธิไส้เดือนสุนัข (Toxocara canis) อันตรายมาก โดยเฉพาะถ้าไข่พยาธิเข้าไปในตา อาจทำให้ตาบอดได้เลยนะ

พยาธิพวกนี้เข้าสู่ร่างกายได้ยังไงบ้าง ?

             – กินผักที่ล้างไม่สะอาด ถ้ามีไข่พยาธิหรือดินปนเปื้อนมากับผัก แล้วเรากินเข้าไปโดยไม่ล้างดี ๆ ก็เสี่ยงรับพยาธิเข้าท้องเต็ม ๆ

             – มือสกปรกแล้วไปหยิบอาหารเข้าปาก ถ้าจับผักที่ยังไม่ได้ล้าง แล้วไม่ล้างมือก่อนกินข้าว โอกาสพยาธิเข้าร่างกายก็เพิ่มขึ้น

             – อุปกรณ์ครัวปนเปื้อน มีด เขียง จาน หรือภาชนะที่ใช้สัมผัสกับผักที่มีพยาธิ แล้วไม่ล้างให้สะอาดก่อนใช้งานต่อ ก็ทำให้เราติดพยาธิได้

เตือนผักที่ไม่ควรกินสด

ล้างผักยังไงให้สะอาด ปลอดภัยจากพยาธิ ?

             เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการล้างผักนะ ทำง่าย ๆ ตามนี้เลย

             1. ล้างผักด้วยน้ำไหล ขยี้ใบ ถูเบา ๆ ให้ดินและสิ่งสกปรกออกให้หมด

             2.
แช่ในน้ำเกลือหรือน้ำส้มสายชู ใช้เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ หรือ น้ำส้มสายชู 1
ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 4 ลิตร แช่ไว้ 10-15 นาที
แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

             3. ใช้แปรงขัดผักที่มีร่องลึก เช่น ขึ้นฉ่ายฝรั่งหรือต้นหอม เพราะสิ่งสกปรกติดอยู่เยอะ

             4. ลวก หรือต้มก่อนกิน ถ้าผักชนิดนั้นไม่จำเป็นต้องกินดิบ แนะนำให้ลวก หรือต้มก่อน ช่วยฆ่าพยาธิได้แน่นอน

กินผักสดยังไงให้มั่นใจว่าปลอดภัย ?

             – เลือกซื้อผักจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หลีกเลี่ยงผักที่ดูสกปรก หรือปลูกในที่ที่ไม่มั่นใจเรื่องความสะอาด

             – ล้างมือให้สะอาดก่อน-หลังสัมผัสผัก ป้องกันการแพร่กระจายของพยาธิ

             – ล้างอุปกรณ์ครัวหลังใช้ โดยเฉพาะเขียงและมีดที่ใช้หั่นผัก ควรล้างให้สะอาดก่อนนำไปใช้กับอาหารอื่น

             – เลี่ยงการกินผักดิบถ้าไม่มั่นใจเรื่องความสะอาด บางชนิดล้างออกยาก ถ้าไม่มั่นใจ แนะนำให้ทำให้สุกก่อน

             แม้ว่าผักสดจะดีต่อสุขภาพ
แต่ถ้าไม่ล้างให้ดี พยาธิก็อาจเข้าร่างกายได้ 
แนะนำว่าล้างให้สะอาดก่อนกิน เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะเลยนะ
การแช่ผักในน้ำเกลือ หรือน้ำส้มสายชู เป็นวิธีง่าย ๆ
ที่ช่วยลดการปนเปื้อนของพยาธิและแบคทีเรียได้ดี ทุกบ้านน่าจะมีทั้ง 2
อย่างติดบ้านอยู่แล้วนะ ย้ำอีกรอบ ผักสดกินได้ แต่ต้องระวังให้มากขึ้น
เอาวิธีด้านบนไปใช้ จะได้กินผักแบบสบายใจ

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก หมอเจด