KUBET – ดิจิทัลวอลเล็ต สรุปข้อมูลแต่ละเฟส ย้ำเฟส 2 จ่ายเงินรอบสุดท้าย 28 เม.ย.

          เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท สรุปความคืบหน้าแต่ละเฟส ย้ำเฟส 2 จ่ายเงินรอบสุดท้าย 28 เม.ย. 68 เช็กด่วน รับผ่านพร้อมเพย์


เงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 จ่ายรอบสุดท้าย

          เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท สรุปความคืบหน้าแต่ละเฟส ย้ำเฟส 2 จ่ายเงินรอบสุดท้าย 28 เม.ย. 68 เช็กด่วน รับผ่านพร้อมเพย์

          ยังคงเกาะติดอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท ซึ่งดำเนินการจ่ายให้ส่วนของ เฟส 1 และเฟส 2 กันไปแล้ว ขณะที่ประชาชนยังคติดตามข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องการแจกเงินเฟส 3 กลุ่มวัยรุ่น-นักศึกษา ที่กำลังจะมาถึง ตลอดจนเฟสอื่น ๆ หลังจากนี้

          สำหรับความคืบหน้า ดิจิทัลวอลเล็ต ในแต่ละเฟส สรุปได้ดังนี้

เฟส 1 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และบัตรผู้พิการ

          – จ่ายครบแล้ว รับเป็นเงินสด 10,000 บาทผ่านพร้อมเพย์ ที่ผูกบัตรประชาชน

เฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ

          – จ่ายเงินแล้ว ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ธนาคารใดก็ได้

          – กลุ่มเป้าหมายที่จ่ายเงินให้ไม่สำเร็จ จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) รอบที่ 3 เป็นครั้งสุดท้าย ในวันที่ 28 เมษายน 2568 (ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 23 เมษายน 2568)

          – กลุ่มตกหล่น ควรตรวจสอบกับธนาคาร ว่าบัญชีพร้อมเพย์ยังมีสถานะปกติ รับเงินโอนได้หรือไม่

          – เมื่อพ้นกำหนดการจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3 กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ

เฟส 3 อายุ 16-20 ปี ที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ

          – กำหนดการจ่ายไม่เกินเดือนมิถุนายน 2568

          – รับเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ใช้จ่ายกับร้านค้าร่วมโครงการ ใช้จ่ายผ่านแอปฯ

เฟส 4 กลุ่มคนทำงาน อายุ 21-59 ปี

          – จะเริ่มดำเนินการเมื่อระบบจ่ายเงินมีความเสถียร

          – จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2568 สำหรับคนที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้

การใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3

         
1. ประชาชนจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กภายในเขต (50 เขต) ในกรุงเทพฯ
หรือภายในอำเภอ (878 อำเภอ) ของจังหวัดเดียวกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของตน
ทั้งนี้ ตามประเภทร้านค้าที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด

          2. ในการใช้จ่ายภายใต้โครงการฯ แต่ละครั้ง ระบบจะตรวจสอบ ดังนี้

          – ที่อยู่ (เขตหรืออำเภอ) ของร้านค้าตามที่ลงทะเบียนโครงการฯ

          – ที่อยู่ (เขตหรืออำเภอ) ของประชาชนตามทะเบียนบ้าน ณ วันที่ส่งข้อมูลไปตรวจสอบกับกรมการปกครอง

          – เขตหรืออำเภอของร้านค้าและประชาชน ต้องตรงกัน

         
– ประชาชนต้องเปิด Location ในขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้า
เพื่อให้สามารถตรวจสอบพิกัดตำแหน่งขณะใช้จ่าย การชำระเงินจึงจะสมบูรณ์

ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ

KUBET – ณิชา ณัฏฐณิชา แม่ยุ้ย ออกทริปเที่ยวด้วย ส่องจุดเช็กอินชัด ๆ ไปที่ไหน หลังทิ้งตั๋วเซี่ยงไฮ้

KUBET – ชัชชาติ เผยภาพใต้ดินตึก สตง. ยังไม่พบอีก 30 คน แม้เหลือไม่ถึง 3 เมตร

            ชัชชาติ อัปเดตการรื้อถอนซากตึก สตง. ตอนนี้สูงไม่ถึง 3 เมตร พร้อมพาไปดูชั้นใต้ดิน คาดสาเหตุยังไม่เจอร่างอีก 30 ชีวิต



            วันที่ 27 เมษายน 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์เฟซบุ๊กอัปเดตการค้นหาผู้สูญหายในซากอาคาร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ซึ่งขณะนี้ใต้ซากตึกนี้ ยังคงมีผู้ประสบภัยติดอยู่ 30 ราย ขณะที่การขุดค้นหาและรื้อถอนซากอาคารเหลืออีกไม่ถึง 3 เมตร ก็จะถึงพื้นชั้น 1 แต่ก็ยังไม่พบผู้สูญหาย

            ซึ่งคำตอบอาจอยู่ซากอาคารที่ยุบพังลงมาสู่ชั้นใต้ดิน ความลึกอีก 4 เมตร และเป็นการยุบรวมตั้งแต่ชั้น 5 ลง มากองรวมที่ชั้นใต้ดิน คนงานอาจวิ่งลงมาจากชั้นบนแล้วหนีไม่ทัน ทำให้ตรงนี้อาจจะเป็นหนึ่งจุดที่จะเจอผู้ที่ติดอยู่ในอาคาร

          เพราะฉะนั้นถึงแม้กองด้านนอกจะเป็นศูนย์แล้ว แต่ก็ยังมีอยู่อีกประมาณ 4 เมตรที่อยู่ด้านใต้ที่ต้องรื้อออกไปด้วย หวังว่าจะเป็นจุดที่มีร่างผู้ที่ติดค้างอยู่ข้างในอีกเยอะ เพราะเป็นการยุบรวมของชั้น 5 ลงมา ซึ่งเป็นจุดที่คนกำลังหนีออกมาจากชั้นบน ซึ่งขั้นตอนก็คึบหน้าไปได้ตามแผน เป้าหมายคือสิ้นเดือนคือถึงชั้นกราวน์ก็น่าจะทำได้ แต่ว่าเหลือใต้ดินที่จะเป็นตัวที่ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง

         พร้อมกันนั้น นายชัชชาติ ยังไลฟ์เผยภาพบริเวณชั้นใต้ดินของอาคารจอดรถ 5 ชั้นที่ไม่ได้พัง ซึ่งอยู่ติดกับอาคารที่พังถล่ม มองไปเห็นสภาพของชั้นใต้ดินตึกที่ถล่ม

          ด้าน นายสุริยชัย รวิวรรณ
ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26
เมษายน เจ้าหน้าที่พบผู้ติดค้างในโซน D 1 คน และพบชิ้นส่วน 5 ชิ้น
ทั้งหมดถูกนำส่งพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว

         
ส่วนงานรื้อถอนขณะนี้ลดระดับความสูงมาอยู่ที่ประมาณ 2.50 เมตร
คาดว่าในวันที่ 28 เมษายน จะสามารถเปิดพื้นที่ลงไปถึงชั้น 1 ได้
ซึ่งจะเพิ่มกำลังเครื่องจักรหัวเจาะเข้าดำเนินการมากขึ้น นอกจากนี้
ได้เพิ่มกำลังคนเข้าสนับสนุนงานตัดเหล็ก
โดยจะดำเนินการรื้อถอนในทุกพื้นที่พร้อมกันเพื่อให้งานขุดเจาะเดินหน้าได้เร็วขึ้น
สำหรับการขนย้ายเศษซากอาคาร สตง. ที่รื้อถอนออกมาไปยังจุดทิ้งซากอาคาร
ได้ดำเนิการขนย้ายไปได้ 343 เที่ยวแล้ว

          ขณะเดียวกันพบโพรงที่เชื่อมระหว่างอาคารจอดรถกับตัวอาคารที่พังถล่มลงมา
ไม่ใช่โพรงชั้นใต้ดิน โดยช่วงเช้าได้เข้าสังเกตการณ์ร่วมกับนายชัชชาติ
ซึ่งอาจเป็นจุดที่คาดว่าจะพบผู้ติดค้างเพิ่มเติม
โดยขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 62 คนและอยู่ระหว่างการติดตามอีก 32 คน

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, ThaiPBS

KUBET – กัน จอมพลัง ตอบปมถูกขุดบ้านเก่า ก่อนขับรถหรู โคตรเสียใจ ลั่นไม่ได้อยากเกิดมาจน

          กัน จอมพลัง ตอบกลับปมถูกขุดภาพบ้านเก่า 20 กว่าปี เทียบภาพขับแลมโบกินี่ รับเคยอยู่จริง แต่ไม่โทรมขนาดนี้ เสียใจช่วยคนแต่โดนว่า ลั่นไม่ได้อยากเกิดมาจน



กัน จอมพลัง ตอบปมถูกขุดบ้านเก่า ก่อนขับรถหรู
ภาพจาก กันจอมพลัง ช่วยสู้

          เป็นประเด็นที่ชาวเน็ตให้ตามใส่ใจกันในช่วงคืนที่ผ่านมา เมื่อเพจ CSI LA ได้ออกมาเปิดประเด็นเกี่ยวกับ กัน จอมพลัง โดยมีการเปิดภาพบ้านหลังหนึ่งที่ระบุว่าเป็นบ้านเก่าของกัน พร้อมกับข้อความของบุคคลที่อ้างตัวเป็นเพื่อนสมัยประถมของพี่ชายกัน ซึ่งไม่ได้เจอกันนาน แต่มาเห็นอีกทีชีวิตกลับเป็นจากหน้ามือเป็นหลังมือ

          โดยระบุว่า “ความหลังของ ‘กัน’ ที่คุ้นเคย จากเพื่อนเก่าคนหนึ่งในบางแก้ว เคยเป็นเพื่อนสมัยประถม อยู่บ้านเก่าใกล้กัน ย่านบางแก้ว ตอนเด็ก ๆ วิ่งเล่นด้วยกันที่บ้าน ‘กร’ พี่ชายแท้ ๆ ของกัน หลังจบประถม ต่างคนต่างแยกย้าย ไม่มีการติดต่อกันอีก

          เวลาผ่านไปหลายสิบปี จู่ ๆ เห็นชื่อโผล่ออกทีวีอีกที ปัจจุบันมีรถแลมโบกินี่ขับ ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ”

กัน จอมพลัง ตอบปมถูกขุดบ้านเก่า ก่อนขับรถหรู

บ้านเก่า กัน จอมพลัง
ภาพจาก CSI LA

กัน จอมพลัง ตอบปมถูกขุดบ้านเก่า ก่อนขับรถหรู
ภาพจาก CSI LA

กัน จอมพลัง รับเป็นบ้านเก่าจริง แต่ยันไม่เคยเปลี่ยนชื่อ

          ต่อมา กัน จอมพลัง ก็เข้ามาคอมเมนต์ตอบทางเพจ ระบุว่า “บ้านหลังนี้ผมเคยอยู่จริงครับ จนถึงประมาน ป.5 พ่อเลิกกับแม่ ผมก็มาอยู่กับแม่ ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่โทรมขนาดนี้และไม่ใช่สภาพนี้ครับ เอาตรง ๆ ผมก็เสียใจเหมือนกันนะครับที่ต้องมาโดนคนด่าคนว่า แล้วคนก็เชื่อด้วย

          วันนี้การที่ผมออกมาช่วยคนจนทำคนหมั่นไส้ออกมาด่าแบบนี้ บอกตรง ๆ ก็ท้อเหมือนกันครับ แล้วการที่มีเพื่อนพี่น้องเป็นนักการเมือง ผมก็มีทุกพรรค แต่ไม่เคยเอาพลังไปรังแกใครเลย มีแต่เอามาแจกคนลำบากฟรี และผมเองก็ไม่เล่นการเมือง ผมไม่เคยเปลี่ยนชื่อ และไม่เคยใช้ชื่อ กันต์ธีร์ ศุภมงคลชัย ครับเสียใจจริง ๆ บอกตรง ๆ ครับ”

กัน จอมพลัง ตอบปมถูกขุดบ้านเก่า ก่อนขับรถหรู

          ขณะที่ทางเพจ CSI LA ตอบกลับว่า “ขอบคุณคุณกันเช่นกันครับ ผมเองก็ชื่นชมในความตั้งใจและความพยายามของคุณในการช่วยเหลือสังคม เพจ CSI LA ทำหน้าที่เพียงรวบรวมข้อเท็จจริงและเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้อธิบายตัวเองอย่างเต็มที่ เราทุกคนต่างมีบทบาทที่แตกต่างกัน แต่เชื่อว่าหากตั้งใจทำดีจริง เวลาและผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์เสมอครับ”

กัน จอมพลัง ตอบปมถูกขุดบ้านเก่า ก่อนขับรถหรู

กัน ไม่ขัดข้อง จับมือ CSI LA ตรวจสอบรัฐ แต่ขอระบายจากใจ

         
ทั้งนี้ ท่ามกลางกระแสการจับจ้องของชาวเน็ต กับการเคลื่อนไหวของเพจ ต่อมา
CSI LA ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติม ระบุว่าอยากเชิญ กัน จอมพลัง
มาร่วมกันขับเคลื่อนตรวจสอบหน่วยงานรัฐ เปิดโปงเครือข่ายทุนสีเทา
ต่อสู้กับปัญหายาเสพติด และการพนันที่ทำลายอนาคตเยาวชนไทย

         
ทางด้านคอมเมนต์จาก กัน จอมพลัง มีดังนี้
“ถ้าเป็นประโยชน์กับชาวบ้านผมยินดีนะครับ เพราะผมก็ทำงานร่วมกับหลาย ๆ
เพจอยู่แล้วครับ
แต่ข้อมูลอาจจะต้องชัดและเรื่องราวต้องไม่เกินตัวของผมครับเพราะบางเรื่องผมถนัดบางเรื่องผมไม่ถนัดครับ
ถ้ามีข้อมูลอะไรให้ช่วยส่งในข้อความได้เลยนะครับ

         
แต่ก่อนที่จะร่วมงานกันผมขอระบายและบอกพี่ตรง ๆ
จากใจอย่างนึงครับคือเมื่อกี้ผมเห็นบ้านที่เคยอยู่เมื่อ 20
กว่าปีที่แล้วผมน้ำตาไหลไม่หยุดเลยครับ ยืนยันเลยครับไม่อยากเกิดมาจนจริง ๆ
ความรู้สึกตอนนี้มันโคตรเสียใจเลยครับ จากใจครับ”

กัน จอมพลัง ตอบปมถูกขุดบ้านเก่า ก่อนขับรถหรู

         
สิ่งที่เกิดขึ้นนำมาสู้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่ใช่น้อย
โดยมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยกับทางเพจที่กล้าขุดเรื่องต่าง ๆ
ขึ้นมาแบบไม่เลือกฝั่ง อยากรู้เบื้องหลังธุรกิจ กัน จอมพลัง
กับฝ่ายที่เห็นต่าง ไม่เข้าใจเจตนาของทางเพจ

          นอกจากนี้หลายคนสงสัยถึงจุดประสงค์ของการขุดภาพบ้านเก่าของกันมาเทียบกับชีวิตปัจจุบัน
โดยมองว่าด้วยช่วงเวลาที่ห่างกันขนาดนี้
ไม่ใช่เรื่องแปลกหากต่างคนต่างแยกย้ายไปทำมาหากิน และผลักดันตัวเองจนมีฐานะ
ซึ่งหลาย ๆ คนก็ทำกันได้
จะดีกว่าไหมหากเล่นในเรื่องของหลักฐานหากมีเรื่องที่มีลับลมคมในจริง ๆ

เพจแฉเคลียร์ใจ ประกาศเราคือพันธมิตร

         
ทั้งนี้ สุดท้ายเรื่องระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายดูเหมือนจะจบลงด้วยดี เมื่อ CSI
LA ได้โพสต์ทิ้งท้ายว่า “หลังจากได้พูดคุยกับกัน จอมพลัง
ผมสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริง และพลังบวกที่เขามีให้กับสังคม
เขาไม่กร่างเหมือน ‘ทนายตั้ม’ ไม่เพี้ยนเหมือน ‘ตาเหลือก’
ตราบใดที่หัวใจยังยืนข้างประชาชน – เราคือพันธมิตรกันเสมอ”

กัน จอมพลัง ตอบปมถูกขุดบ้านเก่า ก่อนขับรถหรู

กัน จอมพลัง รถหรู
ภาพจาก CSI LA

KUBET – สื่อตีข่าว คิมซูฮยอน เดตสาวอีกคนตอนเข้ากรม ชี้เป้านักแสดงที่เคยเป็นไอดอล

KUBET – หนุ่มกินแซ่บงานเลี้ยงแม้ไม่รู้จักเจ้าภาพ คนอมยิ้มหลังรู้ที่มา ชื่นชมเจ้าบ้านน่ารักมาก

          หนุ่มกินแซ่บงานเลี้ยงแม้ไม่รู้จักเจ้าภาพ คนอมยิ้มหลังรู้ที่มา ชื่นชมเจ้าภาพน่ารักมาก ที่แท้นักท่องเที่ยวมาร่วมจอย เห็นคึกคักนึกว่าร้านอาหาร



หนุ่มนั่งกินงานเลี้ยงแม้ไม่รู้จักเจ้าภาพ คนอมยิ้มหลังรู้ที่มา
ภาพจาก TikTok @lindaproton

         เป็นเรื่องราวที่พบเห็นกันในบางครั้ง กับกรณีของคนแปลกหน้าแอบเข้ามากินอาหารงานเลี้ยง แม้ไม่ได้รับเชิญ และไม่รู้จักเจ้าภาพ แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมาเลเซียเมื่อไม่นานมานี้ กลับเป็นเรื่องชวนอมยิ้มที่ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์อย่างมาก

         จากรายงานของเว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 ผู้ใช้ TikTok @lindaproton ได้โพสต์ภาพของชายคนหนึ่งที่อยู่ ๆ ก็เดินเข้ามาในบ้านที่กำลังจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง และมีภาพนั่งกินอาหารเนียนอยู่กับแขกคนอื่น ๆ แต่ที่น่าสนใจคือชายคนนี้เป็นคนต่างถิ่น ที่เจ้าภาพเองก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แถมยังพูดคนละภาษากันด้วย

หนุ่มนั่งกินงานเลี้ยงแม้ไม่รู้จักเจ้าภาพ คนอมยิ้มหลังรู้ที่มา
ภาพจาก TikTok @lindaproton

         ในคลิประบุแคปชั่นว่า “เหตุการณ์ตลก ๆ เกิดขึ้นตอนที่เรากำลังจัดงานเลี้ยงฉลอง โชคดีที่เรามีเพื่อนที่พูดภาษาจีนได้ พ่อหนุ่มอายมากที่รู้ว่าเข้ามาผิดที่ แต่ที่นี่คือมาเลเซีย แน่นอนว่าเราต้องกิน”

หนุ่มกินแซ่บงานเลี้ยงแม้ไม่รู้จักเจ้าภาพ คนอมยิ้มหลังรู้ที่มา
ภาพจาก TikTok @lindaproton

         กลายเป็นว่า ชายคนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเที่ยวมาเลเซีย
ทำให้ไม่คุ้นกับธรรมเนียมเปิดบ้านจัดงานเลี้ยง
จึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นร้านอาหาร อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขารู้ความจริง
ทางเจ้าภาพก็ไม่ได้ไล่เขาออกไป
แถมยังยืนยันให้เขาอยู่ร่วมงานและกินอาหารให้อร่อย
ขณะที่หนุ่มจีนเองก็ขอบคุณเจ้าภาพเช่นกัน

หนุ่มนั่งกินงานเลี้ยงแม้ไม่รู้จักเจ้าภาพ คนอมยิ้มหลังรู้ที่มา
ภาพจาก TikTok @lindaproton

        
ก็เรียกว่าเป็นโมเมนต์ดี ๆ ที่สร้างความทรงจำดี ๆ ทั้ง 2 ฝ่าย
โดยเจ้าภาพได้นำอาหารหลายเมนูมาให้หนุ่มต่างชาติคนนี้ลิ้มลอง
ขณะที่ชาวเน็ตเองต่างก็เข้ามาชื่นชมเจ้าภาพที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนอย่างใจกว้าง
พร้อมชื่นชมหนุ่มจีนคนนี้ที่ยินดีตอบรับน้ำใจของเจ้าภาพ
และเข้ามาร่วมเป็นแขกในงานได้อย่างกลมกลืน
 
ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzz

KUBET – สาวโชว์ไลฟ์สไตล์หรู ใช้เงินพ่อแม่วันละแสน ตอบดราม่าฟุ่มเฟือย

          สาววัย 21 โชว์ชีวิตหรูจนโด่งดัง ไวรัลใช้เงินพ่อแม่วันละเกือบ 2 แสน แจงดราม่าโดนว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย



Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก Instagram chloeabeth

          วันที่ 25 เมษายน 2568 เว็บไซต์ kenh14 รายงานเรื่องราวของ โคลอี้ เลียม หรือที่รู้จักกันในชื่อ Chloe L. สาวคนดังชาวสิงคโปร์ วัย 21 ปี ซึ่งเธอนั้นนิยามตัวเองว่าเป็น ลูกสาวอยู่บ้าน จนมีผู้ติดตามกว่า 1.1 ล้านคนผ่าน TikTok

          สิ่งหนึ่งที่ทำให้คอนเทนต์ของ โคลอี้ มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก มาจากไลฟ์สไตล์ที่ไม่ได้พบเห็นกันบ่อย ๆ เพราะเธอนั้นไม่จำเป็นต้องไปทำงานนอกบ้าน แต่ก็มีเงินใช้เท่าที่ต้องการ ด้วยบัตรเครดิตของพ่อกับแม่ผู้ซึ่งเป็นมหาเศรษฐี

          โคลอี้ จึงเลือกที่จะลงคอนเทนต์การใช้ชีวิตประจำวันตามสไตล์ของคนร่ำรวย จนกลายมาเป็นโมเมนต์ในฝันของหลาย ๆ คน เช่น การช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม การไปทานอาหารหรูหรา และการไปคาเฟ่กับก๊วนเพื่อน

          นอกจากนี้ โคลอี้ ยังได้รับฉายาว่า “เจ้าหญิง Van Cleef ของสิงคโปร์” เนื่องจากเธอนั้นเป็นแฟนตัวยงของ Van Cleef แบรนด์จิวเวลรี่สุดหรูจากฝรั่งเศส มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ซึ่งครั้งแรกเธอที่เธอสะสมของแบรนด์เนม เริ่มจากการใช้เงินของตัวเองซื้อแหวน แบรนด์ Perlé ซึ่งคุณแม่และครอบครัวต่างชื่นชอบแบรนด์นี้ คุณแม่ของฉันก็ชอบแบรนด์นี้เหมือนกัน ครอบครัวของเธอซื้อของจากแบรนด์นี้เยอะมาก

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

          อย่างไรก็ดี โคลอี้ ยอมรับว่าเธอรู้สึกตกใจไม่น้อยที่มีผู้คนสนใจไลฟ์สไตล์ของเธอมากมายเช่นนี้ โดยเฉพาะกับการใช้เงินกับทุกเรื่องได้แบบไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อย ซึ่งสิ่งนี้เปรียบเหมือนความฝันของหลาย ๆ คนทั่วโลก

          แต่สำหรับ โคลอี้แล้ว เธอยืนยันว่า คนรอบ ๆ ตัวของเธอต่างก็ใช้ชีวิตเช่นนี้ เพียงแต่พวกเขาไม่ค่อยได้แชร์มันลงบนโซเชียลเท่านั้น เธอมองว่าการใช้เงินของพ่อแม่ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นเรื่องสุดแสนจะปกติ เพราะเธอทำแบบนี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เพื่อน ๆ รอบตัวเธอต่างก็มีไลฟ์สไตล์แบบนี้เหมือนกัน

          หนึ่งในคอนเทนต์ที่ทำให้ชื่อของ โคลอี้ กลายเป็นไวรัล คือคลิปการใช้ชีวิตธรรมดาหนึ่งกับการเป็นลูกสาวของพ่อแม่ ด้วยการใช้เงินไปประมาณ 5,075 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 170,000 บาท) ใน 24 ชั่วโมง เริ่มจากเข้าช้อป Cartier เพื่อซ่อมสร้อยข้อมือ ก่อนจะซื้อต่างหูใหม่คู่หนึ่งในราคา 4,250 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 142,000 บาท)

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

          จากนั้น โคลอี้ ไปทานมื้อกลางวันกับพ่อของเพื่อนสนิทที่ร้านอาหารหรูในราคา 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,000 บาท) ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ถูกที่สุดของเธอในวันนั้นคือการสั่งของหวาน 1 ชิ้น ในราคา 25 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 800 บาท)

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

          ในช่วงท้ายคลิป โคลอี้ ก็ได้สรุปว่าเงินที่ใช้ไปทั้งหมดในวันนี้ “ฟรี” เนื่องจากเธอไม่ต้องจ่ายเงินใดใด เพราะเป็นการใช้เงินของพ่อกับแม่ทั้งหมด ซึ่งเธอยังย้ำว่าคอนเทนต์นี้ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่หรูหราเป็นพิเศษ เป็นเพียงวันธรรมดา ๆ วันหนึ่งในชีวิตประจำวันเท่านั้น

          นอกจากนี้ ยังมีอีกคลิปที่ โคลอี้
และครอบครัวของเธอไปทริปกินข้าว ด้วยการเดินทางจากสิงคโปร์ไปยังอินโดนีเซีย
ที่บ้านของลุงซึ่งเลี้ยงปลาคาร์ป แพงสุดตัวละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 33
ล้านบาท)
โดยครอบครัวของเธอขึ้นเครื่องบินส่วนตัวข้ามประเทศเพื่อไปกินมื้อกลางวัน
ก่อนจะเดินทางกลับสิงคโปร์ในช่วงเย็น

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

          เรื่องราวของ
โคลอี้
ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกทึ่งกับการใช้ชีวิตของกลุ่มคนรวยของจริง
และมองว่าอาชีพเป็นลูกสาวของพ่อแม่แบบโคลอี้เป็นอะไรที่น่าอิจฉาสุด ๆ
แต่ก็หนีไม่พ้นที่จะมีกระแสบางส่วนไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วยกับการใช้เงินของพ่อแม่
เพราะมองว่ามันไม่ใช่อะไรที่น่าภูมิใจ
และยังติงด้วยว่าพ่อแม่เธอควรที่จะสอนลูกให้พึ่งพาตัวเองให้มากกว่านี้หรือไม่

          ล่าสุด
โคลอี้ เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวผ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร Grazia
เธอยืนยันว่า ได้อ่านความคิดเห็นที่มีทั้งในเชิงบวกและแง่ลบแล้ว
และได้อธิบายหลายครั้งผ่านคอมเมนต์ใน TikTok ของตัวเอง เธอยืนยันว่า
คลิปที่เธอลงไปนั้นไม่ใช่เรื่องแต่ง ไม่ได้ทำให้มันสวยหรูเกินไป และย้ำว่า
ทุกอย่างที่ได้เห็นนั้นคือชีวิตจริงของเธอจริง ๆ
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะใช้ชีวิตแบบที่คนอื่นได้เห็นทุกวัน
มันก็มีวันที่เธอนั้นเจอกับความกดดันและปัญหาในชีวิตของเธอเช่นเดียวกัน

          โคลอี้
เล่าถึงช่วงเวลาในวัยเด็กของเธอว่า
พ่อแม่ผลักดันให้เธอทำทุกอย่างให้หนักขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเทนนิส
การเล่นเปียโน เป็นข้อตกลงที่เธอนั้นไม่สามารถต่อรองได้เลย
ซึ่งการจะบ่นไปหรือตัดพ้อไป ล้วนไม่อยู่ในตัวเลือกเช่นกัน

          ปัจจุบัน
โคลอี้ ยังคงต้องเอาจริงเอาจังทางด้านการเรียน
ในฐานะนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์
ศึกษาเกี่ยวกับการเงินและการตลาด ซึ่งความจริงแล้วก่อนหน้านี้
เธอไม่ใช่คนที่มีเทสต์ด้านการแต่งตัวมากมายนัก
โดยในตู้เสื้อผ้านั้นมีแต่ชุดนักเรียนและชุดเล่นเทนนิส
จนกระทั่งเธอได้เข้ามาสู่โลก TikTok ก็ทำให้ได้มารู้จักแฟชั่น
จนกลายมาเป็นอีกในตัวตนที่ผู้ติดตามต่างชื่นชอบในตัวเธอ

          ทั้งนี้แม้ที่ผ่านมา
โคลอี้
จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวและภูมิหลังของพวกเขามากนัก
ซึ่งหลายคนนั้นเชื่อว่าเธอนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูล Liem ที่ร่ำรวย
ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อตระกูล Sampoerna แห่งสิงคโปร์

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก Instagram chloeabeth

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก Instagram chloeabeth

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก Instagram chloeabeth

Chloe L โชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู
ภาพจาก Instagram chloeabeth

ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14, ibtimes

KUBET – ลิซ่า ปังต่อเนื่องได้ร่วมงานเพลงใหม่ Maroon 5 คลิปเรียกเสียงกรี๊ดกระหึ่ม

KUBET – เหตุระเบิดใหญ่ท่าเรืออิหร่าน เสียชีวิต 25 ราย บาดเจ็บ 800 คน

           เหตุระเบิดใหญ่ท่าเรือสำคัญประเทศอิหร่าน เสียชีวิตกว่า 25 ราย บาดเจ็บพุ่ง 800 คน ควันดำปกคลุมพื้นที่ สั่งปิดโรงเรียน สถานที่ราชการชั่วคราว



ท่าเรืออิหร่านระเบิด
ภาพจาก MOHAMMAD RASOLE MORADI / IRNA / AFP

          วันที่ 27 เมษายน 2568 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือ ชาฮิด ราจี ท่าเรือพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน ใกล้กับเมืองบันดาร์อับบาส ซึ่งล่าสุดมีตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย และบาดเจ็บอีก 800 ราย

          การระเบิดดังกล่าว ทำให้หน้าต่างและหลังคาของอาคารใกล้เคียงแตก และรถยนต์ได้รับความเสียหาย ประชาชนรายงานว่า รู้สึกถึงแรงกระแทกจากแรงระเบิดแม้อยู่ในพื้นที่ที่ห่างออกไปถึง 50 กิโลเมตร

          วิดีโอที่ได้รับการยืนยัน แสดงให้เห็นไฟลุกไหม้ขึ้นก่อนจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ โดยผู้คนต่างพากันหลบหนีจากการระเบิด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่บนถนน ซึ่งเต็มไปด้วยเศษซากการระเบิดและควันดำที่พวยพุ่งปกคลุมทั่วบริเวณ

          ผู้เห็นเหตุการณ์เผยกับสื่อท้องถิ่นว่า โกดังทั้งหมดเต็มไปด้วยควัน ฝุ่น และขี้เถ้า จำไม่ได้ว่าตัวเองนั้นไปอยู่ใต้โต๊ะเองหรือกระเด็นไปเพราะแรงระเบิด

          ภาพทางอากาศแสดงให้เห็นว่าพื้นที่อย่างน้อย 3 จุดเกิดไฟไหม้ ซึ่งในเวลาต่อมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอิหร่าน ยืนยันว่า ไฟนั้นลามจากตู้คอนเทนเนอร์หนึ่งไปยังอีกตู้คอนเทนเนอร์หนึ่ง โดยได้สั่งการให้โรงเรียนและสำนักงานในภูมิภาคปิดทำการชั่วคราวในวันนี้

          ด้าน Ambrey Intelligence บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางทะเล วิเคราะห์ว่า ไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากการจัดการที่ไม่เหมาะสมในการขนส่งเชื้อเพลิงแข็งสำหรับใช้กับขีปนาวุธของอิหร่าน เชื่อว่าตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้รับผลกระทบนั้นมีเชื้อเพลิงแข็งสำหรับขีปนาวุธบรรจุอยู่ ซึ่งพวกเขาทราบว่าช่วงมีนาคม ที่ผ่านมา มีเรือที่ติดธงอิหร่านได้ขนถ่ายเชื้อเพลิงจรวดโซเดียมเปอร์คลอเรตที่ท่าเรือดังกล่าว

          ขณะที่ Financial Times สื่อชื่อดัง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานว่ามีเรือ 2 ลำขนเชื้อเพลิงจากจีนมายังอิหร่าน

          สื่อของรัฐ อ้างคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ว่า การระเบิดเกิดขึ้นหลังจากเกิดไฟไหม้และลามไปยังตู้คอนเทนเนอร์ที่ไม่ได้ปิดผนึก ซึ่งเก็บ “วัสดุไวไฟ” เอาไว้

ท่าเรืออิหร่านระเบิด
ภาพจาก AFP PHOTO / HO / IRIBNEWS

         เจ้าหน้าที่ศุลกากร ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา ระบุว่า
การระเบิดดังกล่าวน่าจะเกิดจากไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในคลังสินค้าจัดเก็บวัสดุอันตรายและสารเคมี

         
รายงานล่าสุด Ambrey
ได้อ้างแถลงจากขององค์การป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติของอิหร่านว่า
เจ้าหน้าที่ได้ออกคำเตือนไปยังท่าเรือ ชาฮิด ราจี
ให้เฝ้าระวังการจัดเก็บสารเคมีให้ปลอดภัย

          นอกจากนี้
สื่อท้องถื่นรายงานด้วยว่า บริษัทผลิตน้ำมันแห่งชาติของอิหร่าน ระบุว่า
เหตุระเบิดที่ท่าเรือดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงกลั่นน้ำมัน
ถังเชื้อเพลิง และท่อส่งน้ำมันของประเทศ

         
ด้าน ประธานาธิบดี มาซูด เปเซซเคียน ของอิหร่าน แถลงแสดงความ
เสียใจและเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
พร้อมประกาศดำเนินการสอบสวนโดยรัฐบาล
พร้อมส่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่เพื่อนำการสอบสวน

         
สำหรับท่าเรือชาฮิด ราจี
เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดของอิหร่าน
โดยเป็นท่าเรือที่เรือขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ของอิหร่านส่วนใหญ่ต้องแล่นผ่าน

         
ท่าเรือดังกล่าวตั้งอยู่บนช่องแคบฮอร์มุซ
ซึ่งเป็นช่องทางเดินเรือหลักสำหรับบรรทุกน้ำมัน
โดยอยู่ห่างจากบันดาร์อับบาส
เมืองท่าสำคัญทางชายฝั่งทางใต้ของอิหร่านไปทางตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร
และเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือหลักของกองทัพเรืออิหร่าน

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC 

KUBET – คู่รักพนักงานช็อก เลิฟซีนในห้องประชุม ไม่รู้ตัวถูกถ่ายทอดสดไปทั่ว

          คู่รักพนักงานแอบพรอดรักสุดเร่าร้อนในห้องประชุม พีคไม่รู้บริษัทกำลังถ่ายทอดสดอยู่ ด้านต้นสังกัดสั่งพักงานทันที



คู่รักเห็นห้องประชุมว่าง แอบเข้ามาเลิฟซีนดูดดื่ม ซีดไม่รู้มีประชุมออนไลน์
ภาพจาก X @Appraiser008 

          วันที่ 25 เมษายน 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า โลกออนไลน์ของจีนกำลังแชร์คลิปเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างการประชุมออนไลน์ เมื่อจู่ ๆ ทุกสายตากลับหลุดโฟกัสไปที่คู่รักปริศนาที่กำลังพรอดรักกันอย่างเร่าร้อนในห้องประชุม โดยไม่คิดว่าฉากนี้จะถูกแพร่ภาพสดสู่สายตาผู้คนในบริษัท

          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมออนไลน์ของบริษัทรัฐวิสาหกิจจีน ซึ่งที่ห้องประชุมของบริษัทสาขาอานฮุย กลับเผยให้เห็นภาพของคู่รักชาย-หญิงกำลังกอดและจูบกันอย่างดูดดื่มในห้องประชุม แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้เลยว่าภาพอันเร่าร้อนถูกถ่ายทอดสดไปยังศูนย์กลางควบคุมที่อยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 10 คนที่อยู่ในศูนย์ควบคุมถึงกับตกตะลึง

คู่รักเห็นห้องประชุมว่าง แอบเข้ามาเลิฟซีนดูดดื่ม ซีดไม่รู้มีประชุมออนไลน์
ภาพจาก X @Appraiser008 

คู่รักเห็นห้องประชุมว่าง แอบเข้ามาเลิฟซีนดูดดื่ม ซีดไม่รู้มีประชุมออนไลน์
ภาพจาก X @Appraiser008 

          จากคลิปเผยให้เห็นบรรยากาศในห้องประชุมแห่งหนึ่ง
ซึ่งพบว่าบนจอด้านหน้าเป็นภาพของอีกห้องประชุมที่เกือบจะว่างเปล่า
เว้นแต่ข้าง ๆ นั้นมีคู่รักชาย-หญิงกำลังพลอดรักกันอย่างดูดดื่ม
ทั้งกอดและจูบจนแนบชิด
แถมชายชายยังเอื้อมมือไปลูบไล้บั้นท้ายของคนรักไม่หยุด
ทำเอาเหล่าพนักงานที่บังเอิญได้เห็นภาพนี้ถึงกับอุทานกันอย่างอื้ออึง
ก่อนที่ภาพในห้องประชุมดังกล่าวจะตัดไป

คู่รักเห็นห้องประชุมว่าง แอบเข้ามาเลิฟซีนดูดดื่ม ซีดไม่รู้มีประชุมออนไลน์
ภาพจาก X @Appraiser008 

         
ภายหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกแชร์สนั่น
ทางบริษัทดังกล่าวได้ออกแถลงการณ์เร่งด่วนเมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา
ระบุว่า หลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว
บริษัทจึงเร่งประชุมฉุกเฉินเมื่อคืนนี้
ก่อนตัดสินใจสั่งพักงานพนักงานที่เกี่ยวข้อง
เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลเชิงลบอย่างยิ่งต่อบริษัท
พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคมและประชาชน  

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday