KUBET – เปิด 3 เหตุผลลับ ทำไม พนง. ต้อนรับบนเครื่องบินต้องมายืนทักทาย ไม่ใช่แค่เรื่องมารยาท

           เปิด 3 เหตุผล ความลับเบื้องหลัง ทำไมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต้องมายืนทักทายผู้โดยสาร ความจริงไม่ใช่แค่เรื่องมารยาท



แอร์โฮสเตส

           เมื่อผู้โดยสารเดินทางขึ้นเครื่องบิน เป็นเรื่องปกติที่มักจะเห็นเหล่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมายืนทักทายที่บริเวณทางขึ้นอยู่เสมอ หลายคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องของมารยาทในการทำงานหรือเพราะความสุภาพต่อผู้โดยสาร นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แท้จริงแล้วมีเหตุผลเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ ซึ่งบางคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

           วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Hk01 เผยว่า ราเนีย (Rania) อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบิน Wizz Air ของประเทศฮังการี ได้เผยคลิปบน TikTok แชร์ประสบการณ์เบื้องลึกเกี่ยวกับการทำงานในสายอาชีพนี้ โดยเธอได้เผยถึงเหตุผลลับ 3 ประการ ที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจำเป็นต้องออกไปยืนทักทายผู้โดยสารทุกคน เพื่อความปลอดภัยของเครื่องบินทั้งลำ

ข้อที่ 1

           ในขณะที่กล่าวทักทายต้อนรับผู้โดยสาร
ทางลูกเรือจะคอยสังเกตว่าผู้โดยสารมีอาการผิดปกติหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นอาการเมา หรือการเจ็บป่วยต่าง ๆ
หากพบว่าผู้โดยสารมีอาการดังกล่าว และประเมินถึงความรุนแรงของอาการแล้ว
อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้โดยสารคนนั้น ๆ ไม่สามารถเดินทางขึ้นเครื่องได้  

ข้อที่ 2

           ในขณะเดียวกัน

ทางพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะคอยตรวจสอบทางกายภาพของผู้โดยสารในเบื้องต้น
เพื่อที่จะได้สามารถระบุได้ว่าผู้โดยสารคนใดมีสภาพร่างกายแข็งแรง
เผื่อในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน
พวกเขาจะได้ให้ความช่วยเหลือทางลูกเรือ
หรือช่วยอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบินได้
ดังนั้นการมองหาผู้โดยสารที่มีศักยภาพไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับมือจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ข้อที่ 3

           นอกจากนี้ ในขณะที่ทักทายผู้โดยสาร
ทางพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต้องคอยเช็กจำนวนผู้โดยสารว่ามีผู้โดยสารที่เป็นผู้สูงอายุ
เด็ก ผู้หญิง ผู้มีความอ่อนแอทางร่างกาย รวมถึงผู้ที่มีภาวะทางจิตใจ
จำนวนกี่คนบนเครื่องบิน และนั่งตรงตำแหน่งไหน
เพื่อให้แน่ใจว่าผู้โดยสารเหล่านั้นไม่ได้นั่งใกล้บริเวณทางออก
เพื่อหลีกเลี่ยงความลำบากเมื่อต้องอพยพ
ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นบนเครื่องบิน
 
ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01

 

KUBET – วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 หยุดไหม หลังเป็นวันพืชมงคล ใครบ้างที่ได้หยุด

          วันพืชมงคล สรุป คน 2 กลุ่มที่จะได้หยุดในวันนี้ และมีอีก 2 กลุ่มที่ต้องทำงานตามปกติ ใครบ้าง ปีนี้ตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม 2568



วันพืชมงคล 9 พฤษภาคม 2568 ใครได้หยุดบ้าง

          ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีวันพืชมงคล ซึ่งเป็นวันที่มีการทำพิธีทำขวัญเมล็ดพืชพันธุ์ต่าง ๆ ทำนายเหตุการณ์การเกษตรสำหรับปีนี้ว่าจะมีพืชผลดีอย่างไร แต่ละปีไม่กำหนดตายตัวว่าจะเป็นวันไหน

          วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 หลายคนคงสงสัยว่า วันพืชมงคลในปีนี้ ตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ใครบ้างที่จะได้หยุดในวันดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้

คนที่จะได้หยุด

          – ข้าราชการ

          – บุคลากรที่โรงเรียน (กรณีวันพืชมงคลตรงกับช่วงเปิดเทอม)

คนที่ไม่ได้หยุด

          – พนักงานเอกชน

          – พนักงานธนาคาร

KUBET – แก๊งสาวบิกินี่หนีวุ่น เหตุเรือ147 ล้าน ล่ม จากปาร์ตี้สู่หายนะ ชี้เรือรับได้ 16 แต่อัดกันมา 32

           แก๊งอินฟลูจัดปาร์ตี้บนเรือยอชต์ 147 ล้าน แต่ทริปหรูกลายเป็นหายนะในพริบตา หลังเรือล่ม จมลงกลางทะเล กู้ภัยเร่งอพยพ พบสาว ๆ ไม่สลด ยังปาร์ตี้ต่อได้



แก๊งสาวบิกินี่หนีวุ่น เหตุเรือ 147 ล้าน ล่ม จากปาร์ตี้สู่หายนะ
ภาพจาก Instagram leonatlantis

           วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ปาร์ตี้บนเรือยอชต์สุดหรูของแก๊งนางแบบสาวอินฟลูเอนเซอร์ เกือบจบลงด้วยหายนะ เมื่อเรือยอชต์แลมโบกินี่มูลค่า 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 147 ล้านบาท) จมลงกลางทะเลนอกหาดไมแอมี บีช รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพสาว ๆ ในชุดบิกินี่เป็นการด่วน แต่แม้จะเกิดเหตุการณ์เฉียดตายต่อหน้า สาว ๆ เหล่านี้ก็ยังคงงปาร์ตี้กันต่ออย่างครื้นเครงบนเรือชูชีพ โดยไม่ปล่อยให้อะไรมาหยุดความสนุกไปได้

แก๊งสาวบิกินี่หนีวุ่น เหตุเรือ 147 ล้าน ล่ม จากปาร์ตี้สู่หายนะ
ภาพจาก Instagram leonatlantis

           เหตุการณ์ระทึกนี้เกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา (3 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อแก๊งอินฟลูเอนเซอร์สาวในชุดบิกินี่หลากสีสันกว่า 30 ชีวิต พากันมาปาร์ตี้กินดื่มอย่างเฮฮาบนเรือยอชต์ ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับผู้โดยสารได้เพียง 16 คนเท่านั้น

           โดยพบว่าแต่ละคนมีการถ่ายภาพและโพสต์อวดผ่านโซเชียลกันอย่างสนุกสนาน มีทั้งภาพเปิดแชมเปญและเต้นกันอย่างครื้นเครง ขณะที่บางคนนอนอาบแดดอย่างสบายใจ แต่แล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นเมื่อเรือยอชต์ลำนี้เริ่มเอียงและจมลงอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนทริปอันหรูหราให้กลายเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินชวนแตกตื่น

แก๊งสาวบิกินี่หนีวุ่น เหตุเรือ 147 ล้าน ล่ม จากปาร์ตี้สู่หายนะ
ภาพจาก Instagram leonatlantis

           จากคลิปที่ ลอเรน นิโคล หนึ่งในสาวบนเรือถ่ายไว้ได้ เผยให้เห็นว่าเสื้อชูชีพสีส้มถูกแจกจ่าย ขณะที่บรรดาสาว ๆ กำลังรอขึ้นเรือกู้ภัยด้วยความกังวล นอกจากนี้ยังพบว่ามีชิ้นส่วนเรือยอชต์ที่หลุดและลอยอยู่ในน้ำ ขณะที่ลอเรนร้องตะโกนด้วยความตื่นตระหนก

           หลังเจ้าหน้าที่นำเรือกู้ภัยเข้ามาช่วยอพยพ 32 ชีวิตออกมาได้ เรือยอชต์ของพวกเธอก็ค่อย ๆ จมหายลงไปในทะเล

แก๊งสาวบิกินี่หนีวุ่น เหตุเรือ 147 ล้าน ล่ม จากปาร์ตี้สู่หายนะ
ภาพจาก Instagram leonatlantis

           แต่แม้จะเกิดหายนะขึ้น สาว ๆ ยังไม่ยอมให้อะไรมาพรากความสนุกสนานในทริปนี้ได้ โดยจะเห็นว่าพวกเธอยังคงปาร์ตี้และหัวเราะร่าขณะมองดูเรือยอชต์จมลงไป สาวคนหนึ่งยังไม่พลาดคว้าขวดเตกิล่ามูลค่า 330 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,000 บาท) ติดมือมาด้วย พร้อมตะโกนบอกเพื่อน ๆ ว่า “เด็กน้อยปลอดภัยแล้ว !”

แก๊งสาวบิกินี่หนีวุ่น เหตุเรือ 147 ล้าน ล่ม จากปาร์ตี้สู่หายนะ
ภาพจาก Instagram leonatlantis

           ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เผยว่าสามารถช่วยเหลือทั้ง 32 คนออกมาจากเรือยอชต์ได้สำเร็จ โดยไม่มีรายงานผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์นี้ ขณะเดียวกันจะมีการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น โดยพบว่าเรือยอชต์ลำนี้มีการบรรทุกคนเกินกว่าความจุที่กำหนดไว้มาก

แก๊งสาวบิกินี่หนีวุ่น เหตุเรือ 147 ล้าน ล่ม จากปาร์ตี้สู่หายนะ
ภาพจาก Instagram leonatlantis
แก๊งสาวบิกินี่หนีวุ่น เหตุเรือ 147 ล้าน ล่ม จากปาร์ตี้สู่หายนะ
ภาพจาก Instagram leonatlantis

แก๊งสาวบิกินี่หนีวุ่น เหตุเรือ 147 ล้าน ล่ม จากปาร์ตี้สู่หายนะ
ภาพจาก Instagram leonatlantis

ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail

KUBET – อัปเดตภาพ เพ็ชร ฐกฤต หลังผันตัวทำสวน เก็บมะม่วงขาย คนสั่งเยอะจนแก่ไม่ทัน

KUBET – ไวรัล TikTok เจอร้านติดป้ายนึกว่าโดนด่า ปัญหาโลกแตกคนสั่งก๋วยเตี๋ยวจริง ๆ

           เมื่อเข้าร้านก๋วยเตี๋ยว เจอป้ายร้านเขียนมาแบบนี้สะดุ้งเลย เหมือนโดนด่า ปัญหาโลกแตกของคนสั่งก๋วยเตี๋ยวจริง ๆ แยกเมนูนี้ไม่ออก



ก๋วยเตี๋ยว

           หนึ่งในปัญหาโลกแตกของคนเข้าร้านก๋วยเตี๋ยว เวลาสั่งอาหารมักมีความสับสนกับเมนูบะหมี่กับเส้นหมี่ แล้วเมื่อสั่งด้วยคำว่า “หมี่” สั้น ๆ จึงเกิดความกำกวมว่า ตกลงเป็นเส้นหมี่หรือบะหมี่ ถ้าทำมาผิดจากที่คิดก็โชคร้าย

           วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 TikTok @surasaktor มีการลงคลิปการไปร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ที่มีป้ายเขียนเอาไว้ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนโดนด่า เพราะที่ป้ายมีการบอกอธิบายชัดเจน แก้ปัญหาโลกแตกได้เป็นอย่างดีว่า

 ก๋วยเตี๋ยว
ภาพจาก TikTok @surasaktor

          “หมี่ = หมี่ขาว

           บะหมี่ = หมี่เหลือง

           เข้าใจตรงกันนะคะ

           ขอบคุณค่ะ”

ก๋วยเตี๋ยว
ภาพจาก TikTok @surasaktor

           พออ่านป้ายแล้วชัดเจนในทันที
คงไม่มีใครสั่งผิดอีกแล้ว ส่วนชาวเน็ตก็เห็นด้วย พร้อมแนะทริกว่า
ถ้าบอกว่า หมี่ขาวหรือหมี่เหลือง อันนี้ก็ชัดเจนเช่นกัน

ก๋วยเตี๋ยว

KUBET – หมาถูกทิ้งกลางไฟแดง ตะกุยรอบรถไม่หยุด เปิดประตูปุ๊บโดดขึ้นปั๊บ ชะเง้อหาแต่เจ้าของ

          เวทนาหมาน้อยตาละห้อย วิ่งวนรอบรถขอความช่วยเหลือ หลังถูกทิ้งกลางสี่แยกบางคูวัด เจอคนเปิดประตูรถปุ๊บ กระโดดขึ้นปั๊บ


หมาถูกทิ้งวิ่งรอบรถกลางสี่แยก ชะเง้อหาเจ้าของ
ภาพจาก TikTok @hanglayhera

          เป็นอีกคลิปที่เรียกน้ำตาคนรักน้องหมา หลังผู้ใช้ TikTok @hanglayhera โพสต์เหตุการณ์เมื่อเจ้าตูบตัวหนึ่งถูกทิ้งไว้กลางสี่แยกบางคูวัด จังหวัดปทุมธานี วิ่งวนรอบรถไม่หยุด เหมือนอยากขอความช่วยเหลือ ก่อนจะรีบกระโดดขึ้นรถทันทีที่เจ้าของรถเปิดประตู

          โดยเจ้าของคลิปเล่าว่า ขณะจอดติดไฟแดงที่แยกบางคูวัด ก็สังเกตเห็นเจ้าหมาตัวหนึ่งวิ่งวนอยู่รอบรถ พยายามตะกุยประตูอย่างมีความหวัง ลุงขายผลไม้แถวนั้นยังบอกอีกว่าน้องโดนทิ้ง ทำเอาเจ้าของคลิปใจอ่อน รีบเปิดประตูให้น้องขึ้นรถทันที

หมาถูกทิ้งวิ่งรอบรถกลางสี่แยก ชะเง้อหาเจ้าของ
ภาพจาก TikTok @hanglayhera

          เจ้าหมาน้อยตัวนี้เป็นเพศผู้ พันธุ์ไทยหลังอาน ทำหมันแล้ว
สุขภาพดูดี ตัวสะอาด เรียบร้อย เชื่อง ไม่ดุเลยแม้แต่นิดเดียว
ที่สำคัญคือมีแววตาเศร้าจับใจ เวลาเห็นรถขับผ่านหน้าบ้านก็จะคอยชะเง้อมอง
เหมือนเฝ้ารอเจ้าของกลับมา

         
แต่เนื่องจากพื้นที่บ้านของเจ้าของคลิปมีจำกัด
ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงน้องไว้ได้
จึงอยากขอความช่วยเหลือจากคนใจดีช่วยรับเลี้ยงเจ้าตูบตัวนี้ให้มีบ้านใหม่ที่อบอุ่น
ปลอดภัย และเต็มไปด้วยความรัก ใครสนใจอยากช่วยเหลือหรือรับเลี้ยงน้อง
สามารถติดต่อไปที่เจ้าของคลิปได้เลย

หมาถูกทิ้งวิ่งรอบรถกลางสี่แยก ชะเง้อหาเจ้าของ
ภาพจาก TikTok @hanglayhera

หมาถูกทิ้งวิ่งรอบรถกลางสี่แยก ชะเง้อหาเจ้าของ
ภาพจาก TikTok @hanglayhera

หมาถูกทิ้งวิ่งรอบรถกลางสี่แยก ชะเง้อหาเจ้าของ
ภาพจาก TikTok @hanglayhera

หมาถูกทิ้งวิ่งรอบรถกลางสี่แยก ชะเง้อหาเจ้าของ
ภาพจาก TikTok @hanglayhera

KUBET – ชายใช้ชีวิตในรถ แทนการเช่าห้อง ชี้กว่า 3 ปี ประหยัดเงินเกือบครึ่งล้าน แฮปปี้สุด ๆ

         ชายจีน ใช้ชีวิตบนรถแทนการเช่าห้อง ชี้กว่า 3 ปี ประหยัดเงินเกือบครึ่งล้าน สุดแฮปปี้ชีวิตติดอิสระ ฟีลเหมือนแคมปิ้ง เผยตัวจริงไม่จน ทำไมเลือกทางนี้



ชายใช้ชีวิตในรถ แทนการเช่าห้อง ชี้กว่า 3 ปี ประหยัดเงินเกือบครึ่งล้าน
ภาพจาก sina

         ในขณะที่การอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อาจจะเพิ่มโอกาสในการทำงาน แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือค่าครองชีพแสนแพง ไม่เพียงแค่ค่ากินอยู่ แม้แต่การเช่าห้องก็ยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ค่าเช่าห้องแพง ๆ เหล่านั้นไม่ได้เป็นปัญหาอีกต่อไปสำหรับโปรแกรมเมอร์หนุ่มรายหนึ่ง ที่ตัดสินใจเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ จากการอยู่ห้องเช่าแบบคนทั่วไป เขาเลือกที่จะเปลี่ยนรถให้กลายเป็นบ้าน ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าช่วยให้เขาประหยัดเงินถึง 100,000 หยวน (ราว 452,000 บาท) ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา

         รายงานจากเว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 เผยว่า ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า นายจางหยุนไหล อายุ 41 ปี มาจากเมืองหยางเจียง ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ก่อนจะย้ายมาทำงานอยู่ในเมืองเซินเจิ้นเมื่อหลายปีก่อน เดิมทีเขาก็ใช้ชีวิตเช่นเดียวกับคนทั่ว ๆ ไป นั่นคือเดินทางไป-กลับ ระหว่างห้องเช่ากับออฟฟิศ โดยเสียเงินค่าเช่าห้องเดือนละ 2,500 หยวน (ราว 11,000 บาท)

         อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์การแคมปิ้งในสวน ทำให้เขาได้รับแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแนวใหม่ นั่นคืออาศัยอยู่ในรถไฟฟ้า แทนการเช่าห้อง โดยเขาซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) คันหนึ่งมาเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งบริเวณเบาะหลังนั้นสามารถปรับเอนจนราบ ทำให้เขาสามารถปูที่นอนและนอนหลับได้อย่างสบาย ๆ นับจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็เลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในรถคันเล็ก ๆ ของเขา ในช่วงวันที่ต้องไปทำงาน

ชายใช้ชีวิตในรถ แทนการเช่าห้อง ชี้กว่า 3 ปี ประหยัดเงินเกือบครึ่งล้าน
ภาพจาก sina

         “รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้คุณสามารถเปิดแอร์ได้ แถมยังนำที่นอนมาปูได้พอดี การนอนในรถจึงรู้สึกสบายมาก” จางหยุนไหล กล่าว
 
         โดยในแต่ละวัน เขาจะกินอาหารที่โรงอาหารของบริษัทตอนหลังเลิกงาน ไปอาบน้ำที่ฟิตเนส ก่อนจะขับรถไปชาร์จที่สถานีชาร์จพลังงาน สุดท้ายก็ขับรถออกไปหาสถานที่เงียบ ๆ ในสวนสาธารณะ เพื่อทำการปรับเบาะหลังรถ ปูที่นอน และนอนหลับพักผ่อนในช่วงกลางคืน

         จางหยุนไหลชี้ว่า ภายในสวนสาธารณะนั้นยังมีห้องน้ำระดับ 5 ดาว ที่เขาสามารถอาบน้ำล้างตัวได้ ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่ในแต่ละวันนั้น เขาจะเก็บกลับไปซักที่บ้านในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

         ด้วยการปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์แบบนี้ ค่าใช้จ่ายของเขาในแต่ละเดือนลดลงอย่างมาก โดยจางหยุนไหลชี้ว่าเขามีค่าใช้จ่ายรายวันเฉลี่ยแค่วันละ 100 หยวน (ราว 450 บาท) เท่านั้น ซึ่งรวมค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้ว ในส่วนของที่จอดรถนั้น เขาเสียค่าจอดรถประมาณคืนละ 6 หยวน (ราว 27 บาท) และอีก 20 หยวน (ราว 90 บาท) ตอนนำรถไปจอดที่ออฟฟิศช่วงกลางวัน

ชายใช้ชีวิตในรถ แทนการเช่าห้อง ชี้กว่า 3 ปี ประหยัดเงินเกือบครึ่งล้าน
ภาพจาก sina

         อย่างไรก็ตาม จางหยุนไหลยืนยันว่าการอาศัยอยู่ในรถ
เป็นเพียงสิ่งที่เขาเลือกเพราะเขาแฮปปี้ที่จะใช้ชีวิตแบบนี้เท่านั้น
ไม่ได้เกิดจากปัญหาด้านการเงิน
หรือมีจุดมุ่งหมายในการประหยัดเงินแต่อย่างใด
ในทางกลับกันมันช่วยมอบความรู้สึกเป็นอิสระและความสะดวกสบายแก่เขา

         “ผมไม่ได้มีความกดดันด้านการเงินนัก ต่อให้มีคนเสนอที่พักให้ผมฟรี ๆ
ผมก็คงไม่ย้ายไป สภาพแวดล้อมในสวนสาธารณะดีกว่าห้องเช่าทั่วไปมาก
และมันก็มอบอิสระแก่ผม”
จางหยุนไหล กล่าว

        
พูดถึงเรื่องการเงินนั้น แม้การอาศัยอยู่ในรถจะช่วยให้เขาประหยัดเงินได้ราว
100,000 หยวน ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา แต่จริง ๆ
แล้วจางหยุนไหลยังเป็นเจ้าของบ้าน 4 ชั้น ขนาด 400 ตารางเมตร
ที่บ้านเกิดของเขา ซึ่งเขาก็จะขับรถกลับไปอยู่ที่บ้านในทุก ๆ สุดสัปดาห์
เพื่อจัดการซักผ้าและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับครอบครัวของเขา

         แม้ว่าการเดินทางกลับบ้านเกิด จะหมายถึงการขับรถระยะทางไกลร่วม 300
กิโลเมตร
แต่จางหยุนไหลก็มองว่ามันคุ้มที่เขาจะได้นอนอยู่ที่บ้านตัวเองสัปดาห์ละ 3
คืน และชีวิตในเซินเจิ้นของเขาก็เป็นไปเพื่อการหาเงินล้วน ๆ

ชายใช้ชีวิตในรถ แทนการเช่าห้อง ชี้กว่า 3 ปี ประหยัดเงินเกือบครึ่งล้าน
ภาพจาก sina 

        
จางหยุนไหล เผยว่า เดิมทีเขาเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ทำงานทางไกล
โดยมีรายได้เดือนละ 10,000 หยวน (ราว 45,000 บาท)
แต่เมื่อโปรเจกต์ดังกล่าวจบลง เขาก็ตัดสินใจไปทำงานอยู่ที่เซินเจิ้น
ซึ่งตอนนี้สร้างรายได้แก่เขาเดือนละหลายหมื่นหยวน

         “มีโปรแกรมเมอร์มากมายที่ค่อย ๆ ออกจากอาชีพไปเมื่ออายุถึง 35 ปี
แต่ผมโชคดีที่ยังมีงานทำในเซินเจิ้น อย่างไรก็ตาม
ผมมีแผนที่จะทำงานต่ออีกสัก 2-3 ปี
จากนั้นก็จะย้ายกลับบ้านเกิดไปอยู่กับครอบครัวของผม”
จางหยุนไหล เผย

 
        
ทั้งนี้ เมื่อเรื่องราวของจางหยุนไหลได้รับการเปิดเผย
ก็กลายมาเป็นที่พูดถึงมากมายบนโซเชียลมีเดียของจีน โดยมีคอมเมนต์เช่น “สุขภาพของเขาคงดีมาก ๆ และฤดูหนาวในเซินเจิ้นก็คงจะอุ่นกว่า ฉันอิจฉาทั้ง 2
อย่างเลย” และ “เขาอาจจะใช้เงินทั้งหมดที่หามา ไปกับค่าทางด่วน”

 
ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP

 

KUBET – บีเบล ยูทูบเบอร์ล้านซับ ประกาศเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เล่าเรื่องพ่อเด็ก พอรู้ว่าท้อง ก็เปลี่ยนไป

KUBET – เปิดคลิปเสียงคิมแซรน รับนอนกับคิมซูฮยอน ตั้งแต่ ม.2 อึ้งมีส่งภาพกินตับคนอื่นมาให้ดู

KUBET – ชะตาสลด เด็กหญิง 1 ขวบ ตกระเบียงชั้น 5 ร่างกระแทกทางเท้าดับ คนช็อกสะเทือนใจ

          เด็กหญิงวัย 1 ขวบ ตกระเบียงที่พักชั้น 5 ร่างกระแทกทางเท้าดับ คนเดินผ่านช็อกสะเทือนใจ กลายเป็นประเด็นวิจารณ์ ตำรวจเร่งสอบสวน



ชะตาสลด เด็กหญิง 1 ขวบ ตกระเบียงชั้น 5
ภาพจาก X (Twitter)


          วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์มิเรอร์ เผยว่า เกิดเหตุช็อกสะเทือนใจ เด็กหญิงวัย 1 ขวบในประเทศตุรกี พลัดตกลงมาจากระเบียงที่พักชั้น 5 ร่างร่วงกระแทกพื้นทางเดินเท้าด้านล่าง สร้างความตกใจให้กับผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น และกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์

          เหตุการณ์เกิดขึ้นที่อาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองเตคีร์ดัก ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น. คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ติดกับริมถนน แสดงให้เห็นว่า อยู่ ๆ เด็กหญิงวัยแบเบาะคนหนึ่ง ตกลงมาจากด้านบนอาคาร และกระแทกที่พื้นทางเท้าด้านล่างอย่างรุนแรง มีผู้คนบางส่วนที่อยู่ในบริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์จึงวิ่งเข้าไปช่วยด้วยความตกใจ

          ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า
เด็กหญิงรายดังกล่าวได้รับการระบุชื่อว่า เมฟลูด นาซ บี อายุ 1 ปี
โดยภายหลังจากเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินเข้ามาปฐมพยาบาลยังที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จะพาตัวเด็กหญิงส่งโรงพยาบาล ซึ่งในตอนแรกเธอยังมีสัญญาณชีพอยู่
ทีมแพทย์ได้ให้การรักษาตามสุดความสามารถ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส
ทำให้เธอเสียชีวิตลงในที่สุด

         
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เชิญตัวพ่อแม่ของเด็กหญิงมาให้ปากคำ
พร้อมทั้งได้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ
ยังไม่มีการเปิดเผยรายอะเอียดเพิ่มเติม
ขณะที่บนสังคมออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์
และคาดเดาเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เด็กหญิงเผชิญชะตากรรมเลวร้ายจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้


ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror