KUBET – ขุดพบยอดพระเจดีย์ 7 ชั้น ในพื้นที่วัดโบราณ สภาพสมบูรณ์ อายุกว่าพันปี

            ฮือฮา ขุดพบยอดพระเจดีย์ 7 ชั้น อายุกว่าพันปี ในพื้นที่วัดโบราณ จ.พะเยา หลังเวนคืนที่เดินเพื่อสร้างทางรถไฟ รอกรมศิลปากรเข้าตรวจสอบ



ขุดพบยอดพระเจดีย์ 7 ชั้น ในพื้นที่วัดโบราณ สภาพสมบูรณ์ อายุกว่าพันปี
ภาพจาก โหนกระแส

            วานนี้ (24 มีนาคม 2568) โหนกระแส รายงานกรณีฮือฮา ชาวบ้านและพระสงฆ์ในพื้นที่บ้านเจดีย์งาม ตำบลท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ขุดพบวัตถุโบราณบริเวณที่นาของชาวบ้าน ที่ถูกเวนคืนเพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ใกล้กับชุมชนบ้านเจดีย์งาม ซึ่งชาวบ้านเรียกกันมาแต่โบราณว่า วัดธาตุนกแซว เป็นพื้นที่วัดโบราณเก่าแก่ราว 1,000 ปี อีกแห่งหนึ่งของ จ.พะเยา

            โดยขุดพบทั้งเศษอิฐเก่า ฐานเสาวิหารยอดดอกบัวซึ่งเป็นหินแกะสลัก และปลายยอดเจดีย์หรือพระธาตุ สูง 2 เมตร ฐานกว้าง 1 เมตร ลักษณะเป็นอิฐก่อด้วยปูน เป็นยอดเจดีย์ 7 ชั้น ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์

            หลังขุดพบ ทางผู้นำหมู่บ้าน ตลอดจนชาวบ้านและพระสงฆ์วัดเจดีย์งาม จึงช่วยกันขนย้ายขึ้นรถเครนมาไว้ในบริเวณวัด เพื่อรอกรมศิลปากรเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง รวมถึงทำแนวกั้นเขตพื้นที่ดังกล่าวไว้ เพื่อไม่ให้เซียนพระหรือนักขุดสมบัติเข้ามาในบริเวณนั้น
 
            นอกจากนี้ ทางผู้นำชุมชนได้ประสานกรมศิลปากรเข้ามาทำการสำรวจอีกครั้งในสัปดาห์หน้า จะได้ค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์วัดโบราณ เพื่ออนุรักษ์ให้เป็นโบราณสถานและที่ท่องเที่ยวของหมู่บ้านเจดีย์งามต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส

KUBET – เชน ธนา เผยยอดหนี้ล่าสุด เหลือ 600 ล้าน ทำได้อย่างไร เล่าเหตุทำธุรกิจเจ๊ง

KUBET – อดีตลูกน้อง สาวไส้ทนายรักษ์ สั่งอุ้มแฟนเก่า ซ้ำเบี้ยวค่าจ้างเป็นแสน ชอบส่งรูปลับให้สาว ๆ

         อดีตลูกน้องทนายรักษ์ สาวไส้ แฉถูกสั่งทำงานเสี่ยงผิดกฎหมาย ยันสั่งอุ้มอดีตแฟน สั่งทำร้ายหากอยู่กับผู้ชายใหม่ แถมเบี้ยวค่าจ้าง



อดีตลูกน้อง สาวไส้ทนายรักษ์ สั่งอุ้มแฟนเก่า
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์ 

          ลูกน้องทนายรักษ์ ย้ายฝั่งโดดช่วยคุณเอ้ อดีตแฟนสาวของทนายรักษ์ที่ถูกคุกคามข่มขู่ พร้อมแฉพฤติกรรมทนายสั่งทำงานแต่ละอย่างเสี่ยงผิดกฎหมาย แต่ใช้ความรู้ในทางที่ผิด แถมคุยโวชี้ผิดเป็นถูกได้ และที่เจ็บใจจนต้องย้ายฝั่งเพราะ เคยถูกว่าจ้าง 200,000 ให้ไปยึดโรงแรมใน จ.ภูเก็ต แต่เบี้ยว ไม่ยอมจ่าย

          จากกรณี คุณเอ้ อดีตแฟนสาวของทนายรักษ์ ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกทนายรักษ์หลอกยืมเงินกว่า 1 ล้านบาทแล้วไม่คืน แถมยังถูกส่งคนมาทำร้ายด้วยนั้น

          ล่าสุด (25 มีนาคม 2568) เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 รายงานว่า ขณะนี้พยานปากสำคัญ 2 คน ที่เคยเป็นอดีตลูกน้องทนาย ได้ออกมาแฉแล้ว

อดีตลูกน้อง สาวไส้ทนายรักษ์ สั่งอุ้มแฟนเก่า
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์ 

          เริ่มจาก นายวุฒิ เผยว่า เมื่อปี 2567 ตนได้รับการติดต่อจากทนายรักษ์ ให้หาชายฉกรรจ์สัก 10-15 คน ว่าจ้างให้ไปยึดโรงแรม 3 แห่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทนายรักษ์อ้างว่า เป็นโรงแรมที่คดีการฟ้องร้องเสร็จสิ้นลงแล้ว และต้องยึดโรงแรมคืนจากเจ้าของเก่า หากเสร็จภารกิจจะจ่ายเงินค่าจ้าง 200,000 บาท

          ขณะนั้นตนถามย้ำไปว่า ที่สั่งให้ทำนั้นถูกตามกฎหมายหรือไม่ ทนายรักษ์ยืนยันว่าทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีอะไรเดี๋ยวเคลียร์ให้ ตนจึงตกลงรับงาน โดยหลังยึดโรงแรมมา 2 แห่งแล้ว ทนายรักษ์จ่ายเงินมาประมาณ 30,000 บาท พร้อมบอกว่าหลังยึดโรงแรมที่ 3 เสร็จ จะจ่ายเป็นเงินก้อนทีเดียว 200,000 บาท รวมทิปพิเศษ

อดีตลูกน้อง สาวไส้ทนายรักษ์ สั่งอุ้มแฟนเก่า
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

 
          แต่ปรากฏว่า หลังจบภารกิจโรงแรมที่ 3 ตนยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างสักบาท และพยายามทวงถาม ก็ได้รับการปฏิเสธและผัดไปเรื่อย จากนั้นทนายรักษ์ก็หันไปติดต่อ นายเก่ง ลูกน้องของตนแทน ไม่กล้าติดต่อตนเพราะมีเรื่องค้างค่าจ้างกัน

          โดยทนายรักษ์ จะว่าจ้างลูกน้องของตนให้ไปตามและรายงานความเคลื่อนไหวของคุณเอ้ อดีตแฟนสาว พร้อมสั่งให้อุ้มและกระทืบด้วย หากพบว่าคุณเอ้อยู่กับผู้ชายคนอื่น

          นายเก่งเห็นท่าไม่ดี จึงนำเรื่องนี้มาปรึกษาตน ตนจึงสั่งห้ามรับงานนี้ เพราะดูแล้วว่าทนายคนนี้มีอะไรแปลก ๆ  

อดีตลูกน้อง สาวไส้ทนายรักษ์ สั่งอุ้มแฟนเก่า
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์ 

อดีตลูกน้อง สาวไส้ทนายรักษ์ สั่งอุ้มแฟนเก่า
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์ 

          นายวุฒิ ชี้ว่า ส่วนตัวมองว่าทนายรักษ์เป็นทนายที่ใช้ไม่ได้
ไม่รักษาคำพูด และดูเหมือนคนสติไม่ค่อยเต็ม ชอบโพสต์หาเรื่องชาวบ้านไปทั่ว
ท้าตีท้าต่อย แถมยังถ่ายรูปอวัยวะเพศส่งให้สาว ๆ ภายในจังหวัดด้วย
สำหรับทนายคนนี้ คนในจังหวัดภูเก็ตก็ไม่ค่อยโอเค
ทำเรื่องร้องเรียนไปยังสภาทนายความ
แต่สภาทนายความในจังหวัดภูเก็ตเองก็นิ่งเฉยไม่ทำอะไร

         
วันนี้ตนมาพร้อมพูดทุกอย่างเกี่ยวกับพฤติกรรมของทนายความคนนี้ และตน
ทราบมาด้วยว่าทนายรักษ์กำลังหาจ้างมือปืนมาเก็บตน
เพราะย้ายฝั่งไปเป็นพยานให้คุณเอ้ และขอยืนยันว่า ณ
วันนี้คงกลับไปญาติดีกับทนายรักษ์ไม่ได้แล้ว

อดีตลูกน้อง สาวไส้ทนายรักษ์ สั่งอุ้มแฟนเก่า
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์ 

          ทางด้าน
นายเก่ง ลูกน้องของนายวุฒิ เล่าว่า
ทนายรักษ์ได้ติดต่อว่าจ้างตนให้ไปติดตามและรายงานความเคลื่อนไหวของคุณเอ้
โดยสั่งให้ติดตามไปถ่ายรูป รายงานว่าผู้หญิงคนนี้ไปไหน
ทำอะไรกับใครเท่านั้น ตนตกลงรับงาน

          โดยครั้งที่ 1
และครั้งที่ 2 ไปตามหาตัวคุณเอ้ ไม่เจอ จึงรายงานกลับไปที่ทนายรักษ์
ทนายรักก็ไม่ได้ว่าอะไร และจ่ายค่าจ้างครั้งละ 3,000 บาท จนกระทั่งครั้งที่
3 ทนายรักษ์มีคำสั่งเพิ่มเติมว่า หากเจอคุณเอ้อยู่กับผู้ชายคนอื่น
ให้กระทืบหรือแทงได้เลย และให้อุ้มคุณเอ้ขึ้นรถ พากับมาส่งให้ทนายรักษ์

อดีตลูกน้อง สาวไส้ทนายรักษ์ สั่งอุ้มแฟนเก่า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อนันตรักษ์ เพ็ชรหิน

         
ตอนนั้นตนติดตามไปจนเจอคุณเอ้ แต่ตัดสินใจโกหกทนายรักษ์ว่าไม่เจอ
เพราะกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น จากนั้นก็รีบแจ้งไปยังนายวุฒิ
นายวุฒิจึงสั่งห้ามและให้ยกเลิกงานนี้ทันที โดยครั้งที่ 3
ตนได้ค่าจ้างเพียง 2,000 บาท

          จากนั้นตนก็ไม่ได้ติดต่อรับงานอะไรจากทนายคนนี้อีก เพราะมองว่าแต่ละงานที่ทนายรักษ์สั่งให้ทำ สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย
 
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
 

KUBET – ไฟไหม้รถบัสนักเรียน ป.6 เด็ก 35 ชีวิตหนีตาย คนขับเผยสาเหตุ

          ไฟไหม้รถบัสนักเรียน ป.6 หลังกลับทัศนศึกษา เด็กเอะใจแอร์ไม่เย็น ซ้ำควันพุ่งเต็มท้ายรถ คนขับรีบจอด เปิดประตูฉุกเฉิน ช่วย 35 ชีวิตปลอดภัย
   



หวิดสลดซ้ำ รถบัสนักเรียนไฟไหม้ เด็กเอะใจ รีบแจ้งคนขับ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

         วันที่ 25 มีนาคม 2568 สำนักข่าวไทย รายงานว่า เมื่อเวลา 17.40 น. วานนี้ (24 มีนาคม) หน่วยกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด เขตบ่อไร่ ได้รับแจ้งเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษา บนถนนสายคลองแอ่ง-บ่อไร่ หมู่ 7 ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนรีบไปช่วยเหลือ

         ที่เกิดเหตุพบรถบัสแบบ 2 ชั้น ทะเบียนจันทบุรี สภาพด้านท้ายมีเปลวไฟและกลุ่มควันหนาแน่น เจ้าหน้าที่และคนขับใช้ถังดับเพลิงเข้าระงับเหตุ โดยใช้เวลาราว 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นนักเรียน 35 คน และครู 7 คน หนีลงมาได้ทัน ไม่ได้รับบาดเจ็บ

หวิดสลดซ้ำ รถบัสนักเรียนไฟไหม้ เด็กเอะใจ รีบแจ้งคนขับ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

หวิดสลดซ้ำ รถบัสนักเรียนไฟไหม้ เด็กเอะใจ รีบแจ้งคนขับ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
หวิดสลดซ้ำ รถบัสนักเรียนไฟไหม้ เด็กเอะใจ รีบแจ้งคนขับ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

หวิดสลดซ้ำ รถบัสนักเรียนไฟไหม้ เด็กเอะใจ รีบแจ้งคนขับ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

         สอบถาม นายเมธี อายุ 49 ปี คนขับรถ เปิดเผยว่า
ขณะกำลังพานักเรียนชั้น ป.6 จำนวน 35 คน จากโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ่อไร่
กลับหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมทัศนศึกษาที่อ่าวธรรมชาติ อ.แหลมงอบ ขับตามกันมา 2
คัน ขณะมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ ๆ
นักเรียนแจ้งว่าแอร์ไม่เย็นและได้กลิ่นไหม้ที่ท้ายรถ จึงจอดรถตรวจสอบ
พบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมา จึงรีบเปิดประตูฉุกเฉินและประตูรถทุกบาน
เพื่อให้นักเรียนทั้งหมดหนีลงจากรถ ก่อนที่ไฟจะลุกลาม
เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากพัดลมคอยล์ร้อนของระบบปรับอากาศช็อตจนลุกไหม้

หวิดสลดซ้ำ รถบัสนักเรียนไฟไหม้ เด็กเอะใจ รีบแจ้งคนขับ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

หวิดสลดซ้ำ รถบัสนักเรียนไฟไหม้ เด็กเอะใจ รีบแจ้งคนขับ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

        
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ตราดโพสต์ นิวส์ รายงานว่า
ผู้ปกครองของหนึ่งในเด็กนักเรียนที่อยู่บนรถคันที่เกิดเหตุบอกว่า
ลูกสาวบอกตนว่าเห็นควันไฟมาจากหลังรถ
หลังจากนั้นคนขับก็จอดรถและเปิดประตูฉุกเฉินให้ลงจากรถอย่างปลอดภัย
และเด็กบนรถทั้งหมดก็ปลอดภัย ซึ่งตนไม่ได้อยากให้ลูกไป
แต่เห็นว่าเป็นการไปเที่ยวทัศนศึกษาก่อนจะจบ ป.6

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย, ตราดโพสต์ นิวส์

KUBET – หมิง น่านฟ้า เปิดวาร์ปสาวเซ็กซี่คนดัง คนติดตามเพียบ แห่กดไลก์รัว ๆ

         รู้จัก หมิง น่านฟ้า สาวสวยตัวแม่แนวเซ็กซี่ หลังโพสต์ภาพ เซบาสเตียน ลี กดไลก์ไอจีรัว ๆ พร้อมเปิดวาร์ปให้แล้ว



หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

         กลายเป็นประเด็นฮือฮาว่อนโซเชียล กรณี หมิง น่านฟ้า สาวสายเซ็กซี่ ออกมาโพสต์ภาพหลังบ้านในไอจีส่วนตัว ซึ่งพบว่า เซบาสเตียน ลี สามีของ ดิว อริสรา เข้าไปกดหัวใจรัว ๆ ให้กับเธอ ท่ามกลางมรสุมของดาราสาว จนเกิดเป็นประเด็นดราม่าเพิ่มเติมอีกนั้น

หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

         อ่านเพิ่มเติม : หมิง น่านฟ้า โดนทัวร์ลงหลังโชว์ภาพ เซบาสเตียน ไลก์รัว ยันไม่ได้จะซ้ำเติม ดิว อริสรา

         
         สำหรับ หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม จบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยบูรพา เธอนั้นกลายมาเป็นที่ติดตามจากผลงานถ่ายภาพแนวเซ็กซี่ จนมียอดติดตามหลักแสนคนเลยทีเดียว

หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

         นอกจากนี้ หมิง ยังลงคอนเทนต์เซ็กซี่แบบลับเฉพาะผ่านช่องทาง
OnlyFans ซึ่งเปิดให้แฟน ๆ สมัครได้ผ่านช่องทาง @merryxming อีกด้วย

         ส่วนช่องทางติดตามในโซเชียลของ หมิง น่านฟ้า มีทั้ง เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์ ผู้ติดตาม 1.6 แสนคน รวมทั้ง Instagram mingdekza ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.5 แสนคนอีกด้วย

หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

หมิง น่านฟ้า เป็นสาวสวยจาก จ.มหาสารคาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น่านฟ้า บงกชลักษณ์

KUBET – นิหน่า พ้อทำสินค้าเป็นปี ๆ จนออมุกพอจะขายได้ กลับเจอแบบนี้ เสียใจมาก

KUBET – ดิว อริสรา ปล่อยต่อแบรนด์เนมมือสอง คนชี้ทำถูกแล้ว ดิ้นรนใช้หนี้ ล็อตนี้หมดอย่างไว

KUBET – ระทึก รถพุ่งชนทะลุร้านเบเกอรี่ หวิดทับเด็ก รอดชีวิตหวุดหวิด

 
          นาทีชีวิต เด็กน้อยเดินในร้านขนม จู่ ๆ รถเก๋งพุ่งทะลุกระจกหวิดทับ 2 ชีวิต รอดมาแบบหวุดหวิด คนขับหน้าซีดเผยเข้าเกียร์ผิด



เข้าเกียร์ผิด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เฮียขับรถ

          วันที่ 24 มีนาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก เฮียขับรถ เผยภาพอุบัติเหตุชวนระทึก เป็นวงจรปิดภายในร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่ง
ซึ่งขณะนั้นกำลังมีเด็กชายเดินเข้าประตูมาไม่นาน จู่ ๆ
ก็มีรถเก๋งพุ่งชนทะลุร้านมาจนหวิดชนเด็กชายและพนักงาน
โชคดีที่รถนั้นไปชนเข้ากับมุมตรงกลางที่เป็นเสาขนาดใหญ่แล้วก็หยุดทันที
ทำให้เด็กชายและคนในร้านรอดถูกชนอย่างหวุดหวิด

         
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก สนามข่าวเมืองปราการ รายงานว่า
ร้านเบเกอรี่ที่ถูกรถพุ่งชนเสียหายดังกล่าว
อยู่ที่บริเวณตรงข้ามโรงเรียนนายเรือ ถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ
อ.เมืองสมุทรปราการ เหตุเกิดขึ้น เมื่อช่วง 08.39 น. วันที่ 24 มีนาคม
ที่ผ่านมา

          สอบถามเจ้าของร้านเบเกอรี่ กล่าวว่า
ก่อนเกิดเหตุพนักงานมาเปิดร้านและทำความสะอาดร้าน เตรียมขายเบเกอรี่ตามปกติ
โดยในวันนั้นพาลูกชายเดินทางมาที่ร้านด้วยเนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม
ก่อนที่จู่ ๆ จะมีรถเก๋งของแม่ค้าขายอาหารอยู่ร้านข้างกัน
พุ่งเข้ามาชนกระจกทะลุเข้ามาในร้านจนเกือบชน
พนักงานและลูกชายตัวน้อยแบบฉิวเฉียด

เข้าเกียร์ผิด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เฮียขับรถ

เข้าเกียร์ผิด

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เฮียขับรถ

          หลังเกิดเหตุ
มีกระจกหน้าร้านและข้าวของเสียหาย ส่วนคนขับเป็นหญิงอายุ 64 ปี
ลงจากรถด้วยอาการตกใจ ต่อมาทราบว่า เกิดจากการเข้าเกียร์ผิด จะเข้าเกียร์ R
ถอยหลัง แต่กลับไปเข้าเกียร์ D เดินหน้า
เมื่อเหยียบคันเร่งรถจึงพุ่งชนเข้าในร้าน โดย
คุณป้าเจ้าของรถยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหาย และได้มีการพูดคุยกับประกันแล้ว
แต่การเคลมใช้เวลาค่อนข้างนาน ร้านจึงสำรองเงินค่าซ่อมกระจกไปก่อน 18,000
บาท เพื่อให้เปิดร้านได้ เพราะถ้าหยุดไปหลายวันจะขาดรายได้
จากนั้นก็จะเจรจากับประกันของคู่กรณีต่อไป

         
จากเหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องโชคดีมากที่พนักงานและลูกชายไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่ทั้งสองคนต่างยังผวากับเรื่องที่เจอ
โดยที่ร้านตัดสินใจลงคลิปเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนสติกับผู้ใช้รถให้ระมัดระวังอุบัติเหตุ

เข้าเกียร์ผิด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เฮียขับรถ

ขอบคุณข้อมูลจาก สนามข่าวเมืองปราการ

KUBET – เมียกับชู้รวมหัวฆ่าผัว สะเทือนใจลูก 6 ขวบ พร่ำบอกเพื่อนบ้าน พ่ออยู่ในถัง

          ช็อก เมียกับชู้รวมหัวฆ่าหั่นศพผัว ซ่อนศพในถังน้ำมัน-โบกปูน สะเทือนใจลูก 6 ขวบเห็นเข้า เอาแต่บอกเพื่อนบ้าน พ่ออยู่ในถัง ก่อนความจริงปรากฏ



ฆ่าหั่นศพ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 24 มีนาคม 2568 เว็บไซต์ Sinchew มีรายงานคดีฆาตกรรมช็อกจากประเทศอินเดีย เมื่อภรรยาได้รวมหัวกับชายชู้ ก่อเหตุฆ่าหั่นศพผู้เป็นสามี ก่อนซ่อนชิ้นส่วนศพ 15 ชิ้นไว้ในถังน้ำมัน ซึ่งเป็นที่น่าสะเทือนใจอย่างยิ่งเมื่อดูเหมือนลูกสาววัย 6 ขวบ จะเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเอาแต่พร่ำบอกกับเพื่อนบ้านว่า “พ่ออยู่ในถัง”

          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในอำเภอเมรฐะ รัฐอุตตรประเทศ ของอินเดีย โดยเมื่อหลายปีก่อน A (นามสมมติ) ซึ่งทำงานอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เดินทางกลับมาที่อินเดียเพื่อจะฉลองวันเกิดครบรอบ 6 ขวบ ของลูกสาว แต่กลับถูกภรรยาคือ B (นามสมมติ) และ C (นามสมมติ) ซึ่งเป็นชายชู้ วางแผนฆาตกรรมอำพราง โดยหั่นศพเขาออกเป็น 15 ชิ้น ซ่อนเก็บไว้ในถังน้ำมันและโบกปูนทับ
 
          ด้านแม่ของผู้ตาย เผยว่า หลานสาวของเธอน่าจะเห็นอะไรบางอย่าง มีคนบอกว่า เด็กหญิงเอาแต่บอกว่า “พ่ออยู่ในถัง” ทำให้คิดว่าเด็กน่าจะเห็นเหตุภาพโหดร้ายนั้นเข้า
 
          ทั้งนี้ หลังลงมือก่อเหตุ B กับ C ก็เตรียมที่จะออกจากบ้านที่เกิดเหตุ เนื่องจากเจ้าของบ้านจำเป็นต้องรีโนเวทบ้านใหม่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่คนงานพยายามจะนำถังพลาสติกออกจากห้อง พวกเขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติ แต่เมื่อถาม B ว่ามีอะไรอยู่ในถัง เธอก็อ้างว่าเป็นแค่ขยะเท่านั้น

          เมื่อคนงานเปิดฝาถังออก ก็มีกลิ่นเหม็นรุนแรงโชยออกมาทันที ทำให้พวกเขาตัดสินใจโทร. เรียกตำรวจ ขณะที่ B รีบหนีกลับไปบ้านพ่อแม่ของตัวเอง

          ด้านแม่ของ B เผยกับสื่อว่า ลูกสาวมาสารภาพว่าลงมือฆ่าสามีตัวเอง ทางครอบครัวจึงพาเธอมามอบตัวที่สถานีตำรวจ

ฆ่าหั่นศพ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          แต่แม่ของผู้ตายไม่ปักใจเชื่อ
มองว่าแม่ของสะใภ้พยายามบิดเบือนรูปคดี จริง ๆ
ครอบครัวฝ่ายหญิงน่าจะรู้ถึงสิ่งที่ลูกสาวทำมานานแล้ว แต่ปิดเงียบไว้
และได้ปรึกษากับทนายก่อนนำ B มามอบตัว ดังนั้นเธอจึงมองว่าครอบครัวของ B
สมควรถูกแขวนคอด้วย  

          รายงานเผยว่า A กับ B
แต่งงานกันเมื่อปี 2559
ก่อนจะแยกบ้านมาอาศัยอยู่ด้วยกันเนื่องจากความขัดแย้งกับครอบครัวฝ่ายชาย
ต่อมาในปี 2562 ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน แต่ความสุขอยู่ได้ไม่นาน เมื่อ A
พบว่าภรรยาแอบเป็นชู้กับ C ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขา

          แม้ความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยาจะแย่มาก จน A คิดที่จะหย่า
แต่เพื่อการเติบโตของลูกสาว ทำยอมที่จะอดทนและย้ายไปทำงานที่ลอนดอนในปี
2556 ซึ่งระหว่างนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างภรรยากับชายชู้ก็ยิ่งแนบแน่น
จนในที่สุดทั้งคู่ก็วางแผนจะสังหาร A

 
          แม่ของ B
อ้างว่า ลูกสาวของเธอและชายชู้ใช้ยาเสพติดด้วยกัน และเลือกที่จะฆาตกรรม A
เพราะชายชู้กลัวว่าเขาจะห้าม ไม่ให้ทั้งคู่มาเจอกันอีก ทั้งนี้ A
ให้การสนับสนุน B มาเสมอ
และเคารพตัวเลือกของเธอตอนที่ไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับพ่อแม่สามี
แต่ไม่คิดเลยว่า B จะมาก่อเหตุเลวร้ายกับสามีตัวเองแบบนี้  
 
          อนึ่ง ขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน

ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew

KUBET – นักโบราณคดี เผยสิ่งที่ค้นพบใต้พีระมิด อาจเปลี่ยนความคิดเดิม ๆ ที่มีต่อพีระมิดไปตลอด

         นักโบราณคดี เผยสิ่งที่ค้นพบจากสุสานพีระมิดในซูดาน อาจล้มล้างความคิดที่คนเชื่อเกี่ยวกับพีระมิด อาจไม่ได้เป็นเพียงสุสานของชนชั้นสูงเสมอไป



นักโบราณคดี เผยสิ่งที่ค้นพบใต้พีระมิด อาจเปลี่ยนความคิดเดิม ๆ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

         ในขณะที่นักโบราณคดีมีข้อสันนิษฐานมาอย่างยาวนานว่าพีระมิดคือสถานที่พักพิงสุดท้ายหลังความตายของเหล่าชนชั้นสูง ตลอดจนเศรษฐีผู้มีอันจะกินเท่านั้น แต่สิ่งที่นักโบราณคดีค้นพบใต้พีระมิดในแหล่งอารยธรรมทอมบอส (Tombos) ของประเทศซูดาน อาจล้มล้างแนวคิดเหล่านั้นไปอย่างสิ้นเชิง หลังมีข้อบ่งชี้ที่นำมาสู่การวิเคราะห์ว่า แม้แต่แรงงานที่อยู่ในชนชั้นต่ำ ยังอาจได้รับการบรรจุร่างไว้ในพีระมิดเช่นกัน

         จากรายงานของเว็บไซต์ Ladbible วันที่ 20 มีนาคม 2568 ระบุว่า แหล่งอารยธรรมทอมบอส ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ นูเบีย (Nubia) ตั้งอยู่ในประเทศซูดาน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามย้อนกลับไปเมื่อหลายพันปีก่อน ภูมิภาคดังกล่าวถูกพิชิตโดย ฟาโรห์ทุตโมสที่ 1 เมื่อช่วงประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล และอยู่ภายใต้การปกครองของอียิปต์โบราณในอีก 4 ศตวรรษ  
 
         อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสำรวจสุสานที่หมู่บ้านโบราณของทอมบอส นักโบราณคดีค้นพบว่าแม้แต่ชนชั้นแรงงาน ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นล่างของสังคม ก็ได้รับบรรจุร่างอยู่ภายในพีระมิดอียิปต์โบราณเช่นกัน โดย ซาราห์ ชเรเดอร์ นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยไลเดน ของเนเธอร์แลนด์ ได้ข้อสรุปดังกล่าวหลังทำงานอย่างหนักอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลาร่วม 10 ปี

         ซาราห์ และทีมงาน
อาศัยการวิเคราะห์ซากที่พบอยู่ใต้พีระมิดในทอมบอส
เพื่อค้นหาว่าคนเหล่านั้นมีหน้าที่อะไรกันบ้างเมื่อครั้งยังมีชีวิต
และพบว่าผู้คนที่นั่นมีความหลากหลายอย่างมาก
ซึ่งจากการตรวจสอบโครงกระดูกที่พบในพีระมิด
ทำให้สังเกตได้ว่าซากศพบางส่วนนั้นเป็นของกลุ่มชนชั้นสูง
ที่เคยทำกิจกรรมทางกายภาพน้อยมากในช่วงชีวิต
ขณะที่บางส่วนผ่านการทำกิจกรรมทางกายภาพมาอย่างหนัก
 
         “ผลการค้นพบของเราชี้ให้เห็นว่าสุสานพีระมิด
ซึ่งเคยคิดว่าเป็นที่พักสุดท้ายของชนชั้นสูงสุด
ยังอาจเป็นที่พักสุดท้ายของแรงงานที่ทำงานอย่างหนักและมีสถานะต่ำต้อยเช่นกัน”
ซาราห์ ระบุในผลการศึกษา ที่ตีพิมพ์ลงวารสาร Journal of Anthropological Archaeolog

        
เธอยอมรับว่า ตอนแรกทีมงานไม่เข้าใจความหมายของข้อมูลเหล่านั้น
เพราะเคยมีข้อสันนิษฐานกันมายาวนานว่าพีระมิดมีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น  

         อนึ่ง
ภูมิภาคทอมบอสนี้เคยอยู่ใต้การควบคุมของอียิปต์โบราณ
ในช่วงที่อารยธรรมรุ่งเรืองที่สุด อย่างไรก็ตาม
ในช่วงเวลานั้นชนชั้นสูงของอียิปต์โบราณไม่นิยมใช้พีระมิดเป็นที่พำนักหลังความตายอีกต่อไป
ราชวงศ์เปลี่ยนรูปแบบการฝังพระศพ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอาจมีขุนนางอียิปต์ที่ยังคงชื่นชอบพีระมิดอยู่เช่นกัน

 
        
ทางทีมยังสันนิษฐานว่า
บุคคลที่อยู่ในต่ำแหน่งสูงกว่าอาจจะสร้างพีระมิดเหล่านี้ขึ้นเป็นพิเศษ
เพื่อเป็นที่พำนักหลังความตายแก่ตัวเอง คนในครอบครัวที่ใกล้ชิด
ตลอดจนคนรับใช้หรือกลุ่มคนงาน
โดยอาจเชื่อว่ากลุ่มคนงานยังสามารถติดตามไปรับใช้ตนเองต่อได้ในชีวิตหลังความตาย

 
ขอบคุณข้อมูลจาก Ladbible, New York Post