เดือน: พฤษภาคม 2025

         นักเรียนและผู้ปกครองโวย โรงเรียนดังพัทยา ออกวุฒิการศึกษาปลอม เดือดร้อนกว่า 50 คน พบจ่ายเงินกับรอง ผอ. กลับได้ ใบเสร็จปลอม

ภาพจาก ข่าวเช้าช่องวัน

         วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า กลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร้องเรียนกรณีการออกวุฒิการศึกษาปลอม รวมถึงใบเสร็จรับเงินปลอม ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 50 ราย ซึ่งมีการแจ้งความที่ สภ.หนองปรือ ไว้แล้ว

         ผู้ปกครองรายหนึ่ง เผยว่า ลูกสาวเคยสมัครเรียนเมื่อปี 2563 แต่หยุดเรียนไปเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ และกลับมาเรียนใหม่ในปี 2567 พอเรียนได้เทอมเดียว ทางโรงเรียนกลับแจ้งว่าเรียนจบแล้ว พร้อมมีใบเกรดออกให้ครบทุกเทอมระดับ ปวส. ทั้งที่ยังเรียนไม่จบ โดยรองผู้อำนวยการโรงเรียนยังเรียกเก็บค่าเทอม 40,000 บาท แม้ต่อมาจะคืนมาให้ 10,000 บาท แต่ยังไม่ได้รับเงินส่วนที่เหลือคืน

         ด้าน นักเรียน อายุ 19 ปี ระบุว่า ตนทยอยจ่ายค่าเทอมครบ 6 เทอม แต่เมื่อเช็กกับทางโรงเรียนกลับพบว่ามีการลงเงินแค่ 3 เทอม โดยระบุว่า รอง ผอ.โรงเรียน เป็นผู้รับเงินเอง และใบเสร็จรับเงินเป็นของปลอม ทำให้เธอต้องเสียโอกาสในการนำวุฒิไปสมัครงาน

ภาพจาก ข่าวเช้าช่องวัน

         ขณะที่ผู้ปกครองและนักเรียนอีกหลายรายออกมาเปิดเผยตรงกันว่า
ชำระค่าเทอมกับ รอง ผอ. โดยตรง แต่เมื่อจะขอใบวุฒิหรือใบเกรด
กลับพบว่าเอกสารเป็นของปลอม
และยังต้องจ่ายเงินใหม่อีกครั้งเพื่อขอเอกสารตัวจริง

         ผู้เสียหายบางรายเรียนจบ
ม.3 แล้วแต่ยังไม่ได้รับวุฒิ แม้เวลาจะผ่านมากว่า 3 ปี
ทำให้ไม่สามารถนำไปสมัครเรียนต่อหรือหางานทำได้ ขณะที่บางรายระบุว่า
แม้จ่ายเงินครบแต่ก็ยังถูกแจ้งว่ามียอดค้าง ต้องจ่ายใหม่เพื่อขอรับเอกสาร

ภาพจาก ข่าวเช้าช่องวัน

 
         ล่าสุด
กลุ่มผู้ปกครองได้เข้าพบกับ ผอ.โรงเรียน ดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่า
ได้รับเรื่องร้องเรียนตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ รอง ผอ. ท่านหนึ่ง
ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารแล้ว

         อย่างไรก็ตาม
กลุ่มผู้ปกครองยังรู้สึกว่าโรงเรียนไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการ
เกรงว่าจะมีการปกป้องผู้กระทำผิด
จึงเตรียมเข้าร้องเรียนเพิ่มเติมกับศูนย์ดำรงธรรมและหน่วยงานรัฐเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3

         จอน อึ๊งภากรณ์ ผู้ก่อตั้ง iLaw และสำนักข่าวประชาไท เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยวัย 77 ปี

ภาพจาก iLaw

         วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก iLaw โพสต์แจ้งข่าวการเสียชีวิตของ นายจอน อึ๊งภากรณ์ ซึ่งจากไปอย่างสงบ ด้วยวัย 77 ปี เมื่อช่วงเช้ามืด ที่ผ่านมา

ประวัติ จอน อึ๊งภากรณ์

         นายจอน อึ๊งภากรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2490 เป็นบุตรชายคนโตของ ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ และ มาร์กาเร็ต สมิธ มีน้องชาย 2 คน คือ ไมตรี และ ใจ อึ๊งภากรณ์

ภาพจาก iLaw

         นายจอน จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัย Sussex ประเทศอังกฤษ  เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา
และเป็นผู้ก่อตั้ง ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ
iLaw และผู้ร่วมก่อตั้งสำนักข่าวประชาไท นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลรามอน
แมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะ ปี 2548

         เพจเฟซบุ๊ก iLaw
ระบุว่า “อาลัย จอน อึ๊งภากรณ์
ผู้มีความฝันอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเขียนกฎหมายที่จะนำมาใช้กับพวกเขาได้โดยตรง
จึงก่อตั้ง iLaw ขึ้นเมื่อปี 2552 และยืนยันให้ iLaw
ต้องทำงานต่อต้านการรัฐประหาร ส่งเสริมประชาธิปไตย จนมาถึงในวันนี้”

           กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้ฝนยังตกแบบนี้ตลอดทั้งสัปดาห์ ส่วนมากมาช่วงไหน ชี้ 13 – 18 พ.ค. ทุกภาคเจอฝนสูงสุด 70 – 80% ไทยตอนบน – ภาคใต้ ระวังน้ำท่วม

           วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา โพสต์เตือนสภาพอากาศในช่วงสัปดาห์นี้ ระบุว่า “ฝนยังตกแบบนี้ไปตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ในสัปดาห์นี้ ฝนส่วนมากจะเริ่มมาช่วงบ่ายถึงค่ำ มากขึ้น (หลังเลิกงาน) ช่วงนี้ยังเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูฯ”

           ขณะที่พยากรณ์อากาศ 7 วัน ระหว่างวันที่ 12 – 18 พฤษภาคม 2568 คาดหมายอากาศทั่วไปในช่วงวันที่ 13 – 18 พฤษภาคม ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ประกอบกับในช่วงวันที่ 14 – 18 พฤษภาคม จะมีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

           สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร                             

           ข้อควรระวัง : ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง

           ส่วนในช่วงวันที่ 13 – 18 พฤษภาคม ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 12 – 18 พฤษภาคม

           ภาคเหนือ : ช่วงวันที่ 13 – 18 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

           อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส
           อุณหภูมิสูงสุด 30 – 38 องศาเซลเซียส

           ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ช่วงวันที่ 13 – 18 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

           อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 27 องศาเซลเซียส
           อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส

           ภาคกลาง : ช่วงวันที่ 13 – 18 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

           อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส
           อุณหภูมิสูงสุด 30 – 37 องศาเซลเซียส

           ภาคตะวันออก : ช่วงวันที่ 13 – 18 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

           อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส
           อุณหภูมิสูงสุด 29 – 36 องศาเซลเซียส

           ช่วงวันที่ 13 – 14 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

           ส่วนในช่วงวันที่ 15 – 18 พฤษภาคม ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

           ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

           อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส
           อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส

           ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

           อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส
           อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส

           กรุงเทพและปริมณฑล : ในช่วงวันที่ 13 – 18 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

           อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 28 องศาเซลเซียส
           อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส
 
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา 

         หญิงรีวิวโรงแรมดังเกาะกูด พัก 5 วัน 4 คืน จองเรืออย่างดี แต่ขากลับกลับให้ไปนั่งอัดกับที่อื่น เด็ก ๆ ต้องนั่งตากแดดเป็น ชม. ซ้ำไม่มีเสื้อชูชีพ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sarah Nuttaporn

          วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sarah Nuttaporn โพสต์ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค รีวิวประสบการณ์สุดเฟลหลังนั่งเรือขากลับจากที่พักแห่งหนึ่งในเกาะกูด ซึ่งบริการต่างจากตอนเข้าพักขั้นสุด ต้องไปนั่งอัดร่วมกับเรืออื่นจนแน่นเต็มลำ ต้องตากแดด 1 ชั่วโมง ซ้ำยังไม่มีเสื้อชูชีพให้ใส่ด้วย จนทำให้ปิดท้ายทริปด้วยความหัวร้อน

          โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า เรือขากลับจากเกาะกูด โรงแรมต้องเข้า-ออกโดยเรือเท่านั้น ตนซื้อแพ็คเกจที่พักรวมเรือและอาหารไป 3 วัน 2 คืน แล้วซื้อที่พักต่ออีก 2 คืน สรุปคือพัก 5 วัน 4 คืน ขาไปเรือโรงแรมมารับ ให้ใส่เสื้อชูชีพ บริการทุกอย่างดีมาก อาหารดีมาก เวลาโรงแรมพาไปดำน้ำก็มีเสื้อชูชีพให้ใส่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sarah Nuttaporn

          แต่ขากลับ โรงแรมจองเรือให้เราไปจอย (ไม่แน่ใจว่าเรือของอะไร) เรือออกจากคลองยายกี๋ตอน 13.00 น. เรือมารับกลุ่มเราที่โรงแรมเป็นกลุ่มสุดท้าย พนักงานโรงแรมส่งที่ท่าเรือ ไม่ได้ช่วยเช็กดูอะไร (ปกติต้องมีโบกมือดูว่าลูกค้านั่งเรียบร้อย)

          พอขึ้นเรือ เรือก็ออกเดินทางเลย ไม่ทันได้เดินไปที่นั่ง สรุปคือมี 1 ที่นั่ง ลูก ๆ ไม่ยอมนั่ง จะให้ตนนั่งข้างใน เพราะตนเป็นแพ้ภูมิตัวเองโดนแดดนานไม่ได้  แล้วเด็ก ๆ ไปนั่งหน้าเรือตากแดดเดินทาง 1 ชั่วโมง ไม่มีเสื้อชูชีพ ทั้งเรือมีใส่เสื้อชูชีพแค่ไม่กี่คน และตอนที่ไปฝนตกแทบทุกวัน ขากลับก็มีเจอฝนนิดหน่อยด้วย จบทริปด้วยความโกรธ แย่มากค่ะวันที่ 7 พฤษภาคม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sarah Nuttaporn

          หลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไป
ได้สร้างความตกใจให้กับผู้คนที่เดินทางไปเที่ยวทะเลเกาะกูด
โดยมองว่าการที่เรือไม่มีชูชีพให้ใส่เป็นอะไรที่อันตรายมาก
แถมยังต้องนั่งตากแดด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น

         
ต่อมา เจ้าของเรื่องราวอัปเดตว่า
ได้ทำการเช็กกับทางโรงแรมแล้วถึงเรื่องเรือดังกล่าว ก่อนที่เรือจะโทร.
มาคุย ฟังแล้วโมโหกว่าเดิม โดยเสนอว่าขอรับผิดชอบด้วยการคืนเงินคนละ 600
บาท แลกกับการไม่แจ้งต่อ

          หญิงถอดกล่องสวิตช์ ตกใจเจอไข่ปริศนานับสิบเรียงราย สงสัยมันคือตัวอะไร ชาวเน็ตแนะอย่าทิ้ง ชี้เก็บไว้มีประโยชน์

ภาพจาก Threads @ellaaaaaa

         12 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Sinchew รายงานว่า โลกออนไลน์กำลังแชร์เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัล กรณีหญิงคนหนึ่งโพสต์ภาพไข่สีขาวปริศนา อยู่ในกล่องสวิตช์ไฟที่บ้านของเธอ จนเกิดข้อสงสัยว่ามันคือไข่ของตัวอะไรกันแน่

         เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีหญิงสาวคนหนึ่งในฮ่องกงเจอไข่สีขาวขนาดเล็กจำนวนมากกว่า 20 ฟอง อยู่ภายในสวิตช์โดยบังเอิญขณะทำความสะอาดบ้าน จากภาพจะเห็นว่าไข่บางส่วนแตก และมีเปลือกไข่หล่นอยู่บนพื้น เธอไม่ทราบว่าไข่นี้เป็นไข่ของสัตว์ชนิดใด จึงโพสต์มาถามด้วยความตกใจ

ภาพจาก Threads @ellaaaaaa

         หลังจากภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ปรากฏว่าชาวเน็ตต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันคือไข่ของจิ้งจก ซึ่งหลายคนต่างวิเคราะห์ว่าแถวนั้นน่าจะมีแมลงเยอะ ทำให้จิ้งจกเลือกที่จะปักหลักที่นั่น โดยยึดเอาหลังสวิตช์เป็นถิ่นฐานของพวกมัน

ภาพจาก Threads @ellaaaaaa

         นอกจากนี้
ชาวเน็ตบางส่วนแนะนำว่าเจ้าของบ้านไม่จำเป็นต้องนำไข่เหล่านี้ไปทิ้ง
เพราะมองว่าจิ้งจกเหล่านี้ช่วยทำหน้าที่กำจัดแมลงในบ้าน
นอกจากนี้จิ้งจกนั้นจะคอยกินไข่ของแมลงสาบอีกด้วย

        
อย่างไรก็ดี
หลายคนได้เห็นภาพของปริมาณไข่จิ้งจกดังกล่าวต่างก็รู้สึกประหลาดใจ
เพราะปกติแล้วจะพบได้คราวละ 2-3 ฟองเท่านั้น
จึงคาดเดาว่าบ้านของเธอน่าจะมีแมลงเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งบางส่วนยังบอกด้วยว่า
หากเธอจะทิ้งไข่จิ้งจกจริง ๆ ก็ยินดีจะรับไว้แทน
เพราะที่บ้านแทบจะไม่มีจิ้งจก รู้สึกว่ามียุงเยอะเกินไป เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew
 

          อ.เจษฎา เตือนไม่ควรนำอาหารไปใส่บนถาดสังกะสี โดยเฉพาะส้มตำ ชี้เสี่ยงอันตรายจากสีที่อาจปนเปื้อน

          วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant เป็นการแชร์เรื่องราวให้ระวังการใช้ภาชนะของเมนู ส้มตำถาด ระบุว่า เตือนมานานแล้วครับ ว่าไม่ควรทำ ไม่ควรเอาอาหารไปใส่บนถาดสังกะสีแบบนี้ เสี่ยงอันตรายจากสีที่ออกมาปนเปื้อนในอาหารได้ .. ไม่นึกว่ายังทำกันอยู่อีกนะ

          โพสต์ดังกล่าว เป็นการแชร์ข้อความต้นทางจากเฟซบุ๊ก Makut Onrudee ระบุว่า ทุกวันนี้มีคนนำถาดพ่นลายสีฉูดฉาด หรือที่เรียกว่า ถาดสังกะสีเคลือบมาใช้ใส่อาหารกิน แทนจานชามกันมาก แต่เดิม ถาดก็คือภาชนะรองภาชนะอื่น เช่น วางถ้วยชามจานในถาดเพื่อยกไป ถาดพ่นสีฉูดฉาดประเภทสีน้ำมันนี้ มิใช่ภาชนะที่ผลิตสำหรับใส่อาหารกิน เพราะมีทั้งสี สารเคมี โลหะหนัก สารตะกั่ว

          แต่ทุกวันนี้คนนิยมกินอาหารในถาดแบบนั้น
ทั้งถาดเล็กและถาดใหญ่ อย่างครึกโครม
เจ้าของร้านอาหารจะรู้หรือไม่รู้ถึงผลเสีย โดยเฉพาะส้มตำที่มีส่วนผสมของกรด
อาหารรสเปรี้ยว อาหารร้อน คนกินก็กินสารตะกั่ว กินสารเคมีในสีเข้าไป
วันหนึ่งอาจสำแดงผล
อย่ากินอาหารในถาดสังกะสีพ่นสีเลยครับแม้บางคนจะทำให้เห็นว่าโก้
ก็อาจไม่คุ้ม

          ขณะเดียวกัน อ.เจษฎา
ยังให้ความรู้เพิ่มเติมว่า หากนำใบตองหรือพลาสติกรองถาดไว้ได้หรือไม่
มองว่า ทำได้ แต่แนะนำว่า ใบตองต้องทำให้สะอาด
หรือแผ่นรองก็ควรจะเลือกแบบที่สามารถทนความร้อนและทนกรดได้

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant