เดือน: พฤษภาคม 2025

          เรื่องราวของพ่อลูกแฝดวัย 47 ปี นักร้องนำวงร็อก เปิดโลกใหม่หลังเข้าวงการแต่งหญิง สวยจนเกินจริง ได้อาชีพใหม่มาเพิ่ม

ภาพจาก Instagram tani_takuma

          วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์มิเรอร์มีเดีย เผยเรื่องราวของ ทานิ ทาคุมะ คุณพ่อลูกแฝดชาวญี่ปุ่นวัย 47 ปี ซึ่งมีลูกสาว 2 คน และเป็นนักร้องนำวงดนตรีเพลงร็อก แต่ปัจจุบันได้รับความสนใจและเป็นที่รู้จักในฐานะ “นางแบบสาว” ภายหลังจากได้มีโอกาสเข้าสู่โลกของการแต่งหญิงแบบจำเป็น แต่หลังจากเข้าวงการมาก็กลับออกไปไม่ได้อีกเลย เพราะความสวยที่น่าทึ่งจนเกินจริง

          จุดเริ่มต้นย้อนกลับไปเมื่อตอนทาคุมะ อายุ 34 ปี ในงานงานหนึ่ง มีนางแบบสาวรายหนึ่งไม่สามารถมาทำงานได้อย่างกะทันหัน ทำให้ต้องหานางแบบตัวแทนเป็นกรณีเร่งด่วน ทางทีมงานจึงไปขอให้ทาคุมะมาช่วยแต่งเป็นผู้หญิงสวมชุดแฟชั่นสไตล์โลลิตา เพื่อมาเข้าฉากถ่ายภาพ ตอนนั้นข้างในใจเขาปฏิเสธไม่อยากรับงานนี้ เพราะกลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิด

          อย่างไรก็ดี สุดท้ายทาคุมะก็รับงานถ่ายแบบดังกล่าวจนเสร็จเรียบร้อย แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ หลังจากนั้นผลงานของเขามีกระแสตอบรับที่ดีมาก ถึงขนาดมีงานถ่ายแบบเสื้อผ้าติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เขาไม่ปฏิเสธโอกาส เลือกตัดสินใจลองอะไรใหม่ ๆ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มชินกับการแต่งหญิง ทั้งการสวมใส่เสื้อผ้า การแต่งหน้า รวมไปถึงการโพสท่าและแสดงสีหน้าในการถ่ายภาพ

ภาพจาก Instagram tani_takuma

          ทาคุมะ เผยว่า ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่ารูปร่างของเขาเป็นปมด้อย เมื่อเทียบกับผู้ชายทั่วไป เนื่องจากเขาตัวเล็กและผอมบาง แต่ตอนนี้ข้อด้อยนั้นกลับกลายเป็นข้อดีที่ทำให้เขาได้เปรียบ เมื่อต้องแต่งเป็นผู้หญิง และโอกาสใหม่ ๆ จากงานถ่ายแบบนี้ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างสรรค์ผลงานเพลงในรูปแบบใหม่ ๆ ด้วย ตั้งแต่เนื้อเพลงไปจนถึงรูปแบบการร้องเพลง

          ในตอนแรกทาคุมะยอมรับว่า การแต่งหญิงของเขาทำให้เพื่อน ๆ รู้สึกไม่ชอบและรังเกียจ พวกเขาบางคนรู้สึกสับสนกับสิ่งที่ทาคุมะเป็น แต่หลังจากเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ พวกเขาก็ค่อย ๆ เข้าใจและยอมรับ รวมไปถึงครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน คุณแม่ของเขาเคารพในเสรีภาพส่วนบุคคล ไม่เพียงแค่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของลูกชาย แต่ยังให้คำแนะนำเรื่องการแต่งกายด้วย

          ปัจจุบันทาคุมะในวัย 47 ปี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับการแต่งหญิง
ควบคู่ไปกับบทบาทหน้าที่อื่น ๆ ทั้งนักร้องนำวงเพลงเพลงร็อก
และเป็นคุณพ่อของลูกสาวฝาแฝดทั้งสองคน
ทั้งครอบครัวและภรรยาของเขาต่างให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามหากในอนาคต เมื่อลูก ๆ ของเขาโตขึ้นและไม่ยอมรับกับสิ่งนี้
เขาก็พร้อมที่จะออกจากวงการ

          “ถ้าผมไม่ได้รับการยินยอมจากครอบครัว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำต่อไป” ทาคุมะ กล่าว

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ภาพจาก Instagram tani_takuma

ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media

          บอล จักรพันธ์ พรใส กัปตันเกษตรศาสตร์ เอฟซี เข้าพิธีวิวาห์กับแฟนสาว จัดแบบอบอุ่นสไตล์ล้านนา แฟน ๆ แห่ร่วมยินดี

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

          กลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลไทยชื่อดังที่ความรักสุกงอม สำหรับ กัปตันบอล จักรพันธ์ พรใส อดีตแข้งทีมชาติไทย ซึ่งฤดูกาลล่าสุดค้าแข้งอยู่กับ เกษตรศาสตร์ เอฟซีในศึกไทยลีก 2 ที่ได้เข้าพิธีวิวาห์กับแฟนสาวเป็นที่เรียบร้อย

          ล่าสุด (28 พฤษภาคม 2568) กัปตันบอล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมแท็ก ตังเม ปิยะธิดา ภรรยาสาว กับภาพบรรยากาศชวนอบอุ่นในงานแต่งงาน ที่จัดในกลิ่นอายล้านนา โดยในงานนี้เชิญเฉพาะครอบครัวและคนสนิท ก่อนจะเตรียมจัดงานฉลองแต่งงานอีกครั้งที่กรุงเทพฯ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

          กัปตันบอล โพสต์ ระบุว่า เรียบง่าย อบอุ่น
ตามแบบฉบับล้านนา ขอบคุณญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
และเพื่อนพี่น้องที่มาช่วยงานด้วครับ ป.ล.
ขออภัยที่ไม่ได้เรียนเชิญเพื่อนพี่น้องอีกมากมายนะครับ ไว้งาน กทม.
เจอกันครับผม  #JPTM 
          
          โพสต์ดังกล่าวมีผู้คนในแวดวงฟุตบอล รวมทั้งแฟนคลับต่างเข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดีกับ บอล จักรพันธ์ พรใส เป็นจำนวนมาก

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

          สำหรับ บอล จักรพันธ์ พรใส เคยมีชื่อติดทีมชาติไทย
รวมทั้งยังเคยลงเล่นให้กับสโมสรใหญ่อย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด, บางกอกกล๊าส,
แบงค็อก ยูไนเต็ด และราชบุรี มิตรผล เป็นต้น

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jakkapan Pornsai

ภาพจาก Sohu

          เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ NetEase เผยเรื่องราวของ อวี้ชิง แม่ชีชาวจีน วัย 40 ปี ซึ่งชีวิตของเธอเดินหน้าเข้าสู่ทางธรรม บวชเป็นภิกษุณีมาตั้งแต่เด็ก ทว่าเมื่อไม่นานมานี้เธอมีโอกาสลงจากเขาและได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในชีวิตเป็นครั้งแรก หลังจากได้พบรักกับชายหนุ่มวัย 20 ปี เธอจึงตัดสินใจละทิ้งทางธรรม เพื่อกลับเข้าสู่ทางโลก  

          อวี้ชิง ได้ติดตามอาจารย์ของเธอไปบวชเป็นภิกษุณีตั้งแต่ยังเด็กมาก พร้อมทั้งได้รับการตั้งชื่อในทางธรรมหรือฉายาจากอาจารย์ด้วย ซึ่งมีความหมายว่า ความเป็นอิสระจากความปรารถนา บริสุทธิ์ไร้เดียงสา และการอุทิศตนเพื่อฝึกฝนจิตวิญญาณ  

ภาพจาก Sohu

          ตอนที่ อวี้ชิง ไม่สบาย ต้าจวง เป็นห่วงเธอมาก ทำบะหมี่มังสวิรัติที่เธอชอบเป็นพิเศษด้วยตัวเองเพื่อนำมาให้เธอกิน หลังจากใช้เวลาใกล้ชิดกันมาสักระยะ ความสัมพันธ์ของเธอและเขาก็พัฒนาขึ้น ทั้งสองตกหลุมรักกันอย่างลึกซึ้ง ต้าจวงยังพาอวี้ชิงไปสัมผัสโลกภายนอกที่เธอไม่เคยได้พบเห็นอีกด้วย

          อวี้ชิง ได้มีประสบการณ์ความสุขมากมายที่เธอไม่เคยรู้จักและพบเจอมาก่อนในชีวิต ซึ่งเธอเชื่อว่าส่วนสำคัญเป็นเพราะเธอได้อยู่กับ ต้าจวง ครั้งหนึ่งต้าจวงช่วยอวี้ชิงปลอมตัวจากแม่ชีเป็นสาวงามที่เป็นผู้ใหญ่และเซ็กซี่ และพาเธอไปเที่ยวบาร์ที่เธอไม่เคยกล้าแม้แต่คิดที่จะไป 

          ด้วยเหตุดังกล่าว อวี้ชิง จึงคิดว่าเธอพบรักแท้และรักแรกของเธอในวัย 40
และเมื่อถึงจุดนี้เธอจึงยอมผิดศีลละเว้นข้อควรข้อปฏิบัติ
ไม่เพียงแค่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่เธอยังมอบพรหมจรรย์ที่เก็บรักษาเอาไว้เป็นเวลา
40 ปีให้กับต้าจวงอีกด้วย

          ต้าจวง เผยความปรารถนาว่า เขาอยากมีครอบครัวกับ อวี้ชิง
อยากมีลูกเป็นของตัวเอง
และอยากมอบความสุขให้อวี้ชิงอย่างที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรได้รับ ในที่สุดอวี้ชิงจึงตัดสินใจละทิ้งทางธรรม
ขอลาสิกขากลับไปใช้ชีวิตเป็นฆราวาสเพื่อต้าจวง
เธอตกหลุมรักเขาและเชื่อว่าการอยู่กับผู้ชายคนนี้จะทำให้เธอมีความสุข

 
       
ทางด้านอาจารย์ของอวี้ชิงได้ทราบว่า อวี้ชิง ไม่สามารถถือศีลและประพฤติพรหมจรรย์ได้อีกต่อไป
จึงอนุญาตให้เธอลาสิกขา และเมื่อเข้าสู่ชีวิตการเป็นฆราวาสผู้ครองเรือน
เธอจะต้องยึดมั่นในหลักคำสอน การเชื่อฟัง 3 ประการ และคุณธรรม 4 ประการ
ซึ่งเป็นหลักการทางศีลธรรมและหลักปฏิบัติทางสังคมสำหรับหญิงที่แต่งงานแล้ว
รวมถึงการดูแลเลี้ยงดูสามีและลูก ๆ ของเธอ

ขอบคุณข้อมูลจาก NetEase  

 
           เผยเคสเตือน ครอบครัว 3 คน ตรวจพบเป็นมะเร็งทางเดินอาหารติดต่อกัน แพทย์ชี้เพราะนิสัยการกิน 1 อย่าง เชื่อเป็นปัญหาหลายบ้าน

              โดยมีเคสตัวอย่างของครอบครัวหนึ่งในไต้หวัน
ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งทางเดินอาหารติดต่อกัน 3 คน
หลังจากตรวจร่างกายตามขั้นตอนทางการแพทย์และซักประวัติก็ทำให้ทราบว่า
ครอบครัวนี้มีพฤติกรรมบริโภคอาหารเหลือเก็บ เนื่องจากต้องการประหยัดเงิน
และทำเช่นนี้มาเป็นเวลานาน จนส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงดังกล่าว  

              “บางคนรู้สึกเสียดายจนไม่สามารถทิ้งอาหารได้
และมักกินอาหารเหลือ นั่นคือพฤติกรรมที่นำไปสู่โรคมะเร็งทางเดินอาหาร
เราเจอผู้ป่วยมะเร็งในเคสแบบนี้เป็นจำนวนมาก” ดร.เหลียวจี้ติ้ง กล่าว

              ทั้งนี้
ดร.เหลียวจี้ติ้ง เผยว่า ในประสบการณ์ทางการแพทย์ 30 ปีของเขา
มักจะพบผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเพราะประหยัดเงิน
ในกรณีนี้คือผู้ที่ชอบกินอาหารเหลือ
แม้ว่าตู้เย็นจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของอาหารได้
แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อย่างสมบูรณ์
โดยเฉพาะผักใบเขียว หากทิ้งไว้ข้ามคืนจะผลิตสารไนโตรซามีนเพิ่มขึ้น
ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในอาหาร

              นอกจากนี้หลายครอบครัวยังมีนิสัยประหยัด
ชอบซื้อผลไม้และผักที่ลดราคา หรือตัดส่วนที่ขึ้นราของผลไม้แล้วกินต่อ
โดยอาหารที่ขึ้นราจะผลิตสารอะฟลาทอกซิน เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับ
หากรับประทานเป็นเวลานาน อาจส่งผลทางอ้อมต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
และอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์มะเร็งได้
รวมไปถึงการกินอาหารแปรรูปเพื่อประหยัดเงินและเวลา
ซึ่งไม่เพียงแค่มีน้ำตาลและโซเดียมสูง
แต่ยังมีสารเติมแต่งซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย

              นอกจากนี้
ดร.เหลียวจี้ติ้ง ยังเตือนบางครอบครัวที่มีนิสัยประหยัด
รีบปิดเครื่องดูดควันทันทีหลังจากทำอาหารเสร็จ เพื่อประหยัดค่าไฟ
ซึ่งในขณะนั้นยังมีควันและสารอันตรายหลงเหลืออยู่ในครัว
ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพปอด จึงแนะนำให้เปิดเครื่องดูดควันตั้งแต่ก่อนทำอาหาร
และเปิดต่อไปจนถึงหลังจากทำอาหารเสร็จ 3-5 นาที  

              “อย่าเสียสละสุขภาพทางเดินหายใจของคุณ เพียงเพื่อประหยัดค่าไฟเพียงเล็กน้อย” ดร.เหลียวจี้ติ้ง กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก SETN, CTWANT

          เจ้าของบ้านเรียกช่างมาซ่อมไฟฟ้า ไม่รู้ว่าจะมีอีกคนเข้ามาช่วย งานนี้ถึงกับทำตัวแทบไม่ถูก กลายเป็นไวรัลพีค 4 แสนวิว

ภาพจาก TikTok @panitchaj 

          เป็นหนึ่งในงานบ้านที่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำเองได้ กับการ ซ่อมไฟ เพราะจำเป็นต้องมีทักษะและอุปกรณ์เฉพาะ จนบางครั้งแม้แต่ช่างก็ยังเอาไม่อยู่จนต้องขอตัวช่วย

          วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ผู้ใช้ TikTok @panitchaj ลงคลิปที่จ้างช่างมาซ่อมไฟที่บ้าน แต่ก็ต้องเจอเซอร์ไพรส์เพราะงานนี้ช่างไม่ได้มาเพียงคนเดียว เล่นเอาทำตัวไม่ถูกไปพอสมควร

          จากคลิปเผยให้เห็นคนกำลังซ่อมไฟในบ้าน แต่ดูจากเสื้อผ้าและการแต่งกายชัดเจนว่าคนที่ซ่อมนั้นเป็นพระสงฆ์ โดยใกล้ ๆ มีผู้ชายอีกคนคอยนั่งเป็นลูกมือ ส่วนผู้หญิงในบ้านก็ได้แต่ยืนดูห่าง ๆ ด้วยอาการสำรวม โดยเจ้าของคลิประบุข้อความว่า “เมื่อคุณข้างช่างไฟมาดูแต่ช่างบวชอยู่”

ภาพจาก TikTok @panitchaj 

ภาพจาก TikTok @panitchaj 

          ปรากฏว่าคลิปนี้กลายเป็นไวรัลชวนพีคจนมียอดเข้าชมกว่า 4 แสนครั้ง
โดยชาวเน็ตได้เห็นต่างก็แปลกใจ
เพราะไม่เคยเห็นช่างไฟที่มาในรูปแบบพระสงฆ์เช่นนี้
เรียกว่าเจ้าของบ้านได้รับแสงแห่งพระธรรมไปเต็ม ๆ 
          
       
  ส่วนที่มานั้นเจ้าของคลิป ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะให้พระมาซ่อมไฟ
โดยเริ่มจากที่ติดต่อช่างปกติ
แต่ช่างนั้นนิมนต์ให้พระรูปดังกล่าวมาช่วยทำอีกที
จนเกิดเป็นเหตุการณ์นี้ขึ้นนั่นเอง 

          กองโรคเอดส์ เปิดรายชื่อ 5 จังหวัดน่ากังวล โรคติดต่อทางเพศ ไม่ได้มีแค่ มหาสารคาม พร้อมเผยพื้นที่จำนวนผู้ติดเชื้อมากสุด

          จากกรณี นพ.วัฒนะ ศรีวัฒนา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่าสถานการณ์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ของจังหวัด มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยในปีนี้มีผู้ป่วย 443 ราย โดยเป็น โรค HIV จำนวน 136 ราย นั้น

อ่านข่าว : คนวิเคราะห์ 2 เหตุผล ทำไม ซิฟิลิส – HIV ระบาดหนักมากที่มหาสารคาม พุ่งสูงแตะ 500 คน 

          วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีจังหวัดมหาสารคาม รายงานการพบผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จำนวน 443 ราย ในปี 2568 ว่า โดยปกติกรมควบคุมโรคมีการเก็บตัวเลขรายปี ซึ่งแต่ละปีก็จะพบผู้ป่วยเฉลี่ยประมาณ 400-500 ราย ตามที่ปรากฏในข่าว ไม่ใช่ว่าจังหวัดมหาสารคามไม่เคยพบผู้ป่วยมาก่อน แล้วมาเจอในปีนี้เยอะ

          ในแง่การเฝ้าระวังและป้องกันตัวเองยังมีความจำเป็น ขณะนี้พบว่าอัตราการสวมถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นนั้นลดลงมาก อาจเพราะไม่ได้มีข่าวว่าพบผู้ป่วย คนเลยคิดว่าไม่มีโรคนี้แล้วจึงไม่ได้ป้องกัน ไม่ได้สวมถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์

          การติดเชื้อเอชไอวี (HIV) โรคซิฟิลิส โรคหนองใน พบสูงขึ้นมากในกลุ่มวัยรุ่นเยาวชน
โดยเฉพาะโรคซิฟิลิสและโรคหนองใน อัตราเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยสูงถึง 6 เท่า
เมื่อเทียบกับ 3-4 ปีที่ผ่านมา 

          รายชื่อ 5 จังหวัด มีผู้ป่วยโรคทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้น

 
        จากกรณีดังกล่าว จังหวัดมหาสารคาม ไม่ใช่จังหวัดเดียวที่ควรกังวล
ถ้าดูเฉพาะผู้ป่วยรายใหม่ แต่ไม่ได้เทียบจากสัดส่วนประชากร
ในปีที่ผ่านมาพบว่า
จังหวัดที่พบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มสูงขึ้นและมีความน่ากังวล ได้แก่ 

          – มหาสารคาม
          – กรุงเทพมหานคร
          – ชลบุรี
          – เชียงใหม่
          – นครราชสีมา

          จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ HIV  มากที่สุด (ข้อมูล 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2567)

          1. กรุงเทพมหานคร 4,790 ราย 
          2. ชลบุรี 1,766 ราย
          3. นครราชสีมา 920 ราย
          4. สมุทรปราการ 854 ราย
          5. เชียงใหม่ 778 ราย 

ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวช่องวัน 

           นักท่องเที่ยวกลับไต้หวัน เจอของฝากจากไทยติดกลับไปด้วย อึ่งอ่างตัวเป็น ๆ ที่ยังมีชีวิต สุดงง ผ่าน ตม. มาได้ไง

 
ภาพจาก Threads

          วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Sin Chew เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีหญิงรายหนึ่งในไต้หวันได้โพสต์ภาพพร้อมเรื่องราวที่น่าตกตะลึง ผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียล Threads โดยเล่าว่า เธอเพิ่งเดินทางกลับมาจากการไปเที่ยวที่เชียงใหม่ ประเทศไทย แต่ปรากฏว่าในขณะที่เธอกำลังจัดการกับกระเป๋าสัมภาระ เธอกลับเจอกับ “ของฝาก” ที่ไม่คาดคิดจนทำให้สะดุ้งอย่างแรง

           เมื่อหญิงรายนี้หยิบหมอนรองคอที่เธอพกไปเที่ยวขึ้นมา เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างที่นุ่มนิ่มแปลก ๆ อยู่ในนั้น แต่ยังไม่ทันที่จะนึกว่ามันคืออะไร อยู่ ๆ ก็มีสัตว์สี่ขาที่ยังมีชีวิตกระโดดออกมา เธอตกใจมากจนสติแตกไปชั่วขณะ กรีดร้องออกมาเสียงดังด้วยความหวาดผวา เมื่อสังเกตดูดี ๆ แล้วพบว่ามันคือ “อึ่งอ่าง”

           “ฉันจะบ้าตาย ! ฉันผ่านด่านศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองมาถึงสองครั้ง แต่ฉันก็ผ่านมาได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเหลือจะเชื่อจริง ๆ”

           และที่ทำให้อึ้งไปกว่านั้นก็คือ เมื่อเธอโทร. ไปขอคำปรึกษาที่ศูนย์ให้บริการข้อมูลและรับเรื่องร้องเรียนของเมืองไทเป เธอได้รับคำตอบกลับมาว่า “เราไม่เคยจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ หรือไม่เช่นนั้นคุณก็สามารถจัดการมันได้ด้วยตัวเอง” 

           ตอนนี้เธอเผยว่า เธอไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับ “อึ่งอ่างนักท่องเที่ยวจากไทยตัวนี้” ได้แต่ดูแลมันไปแบบห่าง ๆ
ยังไม่กล้าจัดการอะไรกับมัน หรือนำมันไปปล่อยที่ไหน
เพราะกลัวว่าจะกระทบกับระบบนิเวศท้องถิ่น

          
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาก็กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์
ชาวเน็ตในไต้หวันพากันเข้าไปแสดงความคิดเห็นมีทั้งขำขันและประหลาดใจ
ขณะที่บางรายก็เป็นกังวล กล่าวว่า “อึ่งอ่างสายพันธุ์นี้
เป็นสายพันธุ์ต่างถิ่นที่แข็งแกร่ง
และเป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศในท้องถิ่นของไต้หวัน”

          
ต่อมา ทางหญิงรายนี้จึงได้บอกว่า
เธอตั้งใจจะติดต่อไปยังหน่วยงานด้านการเกษตรของไต้หวัน
เพื่อให้มาช่วยจัดการปัญหานี้
แต่หากทางเจ้าหน้าที่ยังยืนยันที่จะให้เธอจัดการเอง หรือรับมันเลี้ยงไว้เอง
เธอคงต้องไปพึ่งพาให้เพื่อนช่วย เพราะเธอกลัวมาก ไม่กล้าแม้แต่จะมองมัน

ขอบคุณข้อมูลจาก Sin Chew