KUBET – ครอบครัว ผู้กองจ๊อบ ร่ำไห้สูญเสียลูกชาย ฮ. ตำรวจตก เศร้าเพิ่งแต่งงาน – พ่อป่วยติดเตียง

          ครอบครัว ผู้กองจ๊อบ ร่ำไห้สูญเสียลูกชายคนเดียว เหตุ ฮ. ตกที่ประจวบฯ ด้านพ่อป่วยติดเตียง พบเพิ่งเข้าวิธีวิวาห์เมื่อต้นปี



ครอบครัว ผู้กองจ๊อบ ร่ำไห้สูญเสียลูกชาย ฮ. ตำรวจตก
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

          จากอุบัติเหตุ เฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตกที่บริเวณวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้เสียชีวิตเป็นตำรวจนักบิน 2 นาย ชื่อ พ.ต.ต. ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.อ. ทรงพล บุญชัย  และเป็นช่างเครื่อง 1 นาย คือ ร.ต.ท. ทินกฤต สุวรรณน้อย นั้น

อ่านข่าว : เปิดรายชื่อ 3 ตำรวจ เสียชีวิตเหตุ ฮ.ตก – พบรุ่น เบล 212 ใช้ประจำการมาตั้งแต่ปี 2516
          
          วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ช่อง 3 รายงานว่า  พ.ต.ต. ประเทือง ชูเลิศ หรือผู้กองจ๊อบ อายุ 33 ปี นักบิน (สบ2) กลุ่มงานการบิน บ.ตร.กลุ่มงานการบินกองบินตำรวจ (ประจำการ) ปฏิบัติหน้าที่ประจำหน่วยบินตำรวจกาญจนบุรี สังกัดกองบินตำรวจ เป็นชาว ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พ่อกับแม่เปิดร้านขายยา โดย ผู้กองจ๊อบ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว

ครอบครัว ผู้กองจ๊อบ ร่ำไห้สูญเสียลูกชาย ฮ. ตำรวจตก
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

          บรรยากาศที่ร้านขายยา สมบูรณ์เภสัช พบว่า นางบุญสม วัย 59 ปี คุณแม่ของสารวัตรจ๊อบ อยู่ในอาการร่ำไห้ด้วยความเสียใจอย่างหนัก โดยมีญาติสนิทและเพื่อนบ้านคอยปลอบใจ

ครอบครัว ผู้กองจ๊อบ ร่ำไห้สูญเสียลูกชาย ฮ. ตำรวจตก
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

ครอบครัว ผู้กองจ๊อบ ร่ำไห้สูญเสียลูกชาย ฮ. ตำรวจตก
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

          ขณะที่ นายสะอาด วัย 60 ปี คุณพ่อของสารวัตรจ๊อบ
ซึ่งป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้านพักในชุมชนบ้านวังลังกา ตำบลท่าขนุน
ก็ได้รับแจ้งข่าวร้ายเช่นกัน และอยู่ในอาการร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก

         
ด้าน ร.ต.ต. สมบูรณ์  ผู้เป็นลุง เปิดเผยว่า
เมื่อทราบข่าวเครื่องบินตำรวจตก
ก็รู้สึกตกใจและได้แต่ภาวนาขออย่าให้เป็นหลานชาย แต่สุดท้ายก็เป็นความจริง
โดยหลานนั้นเป็นนักบินที่ 1 และเพิ่งติดยศว่าที่ พ.ต.ต. ได้ไม่นาน

ครอบครัว ผู้กองจ๊อบ ร่ำไห้สูญเสียลูกชาย ฮ. ตำรวจตก
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

         
นอกจากนี้พบว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ผู้กองจ๊อบ
เพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานกับภรรยา นับเป็นการสูญเสียของครอบครัว
เพราะผู้กองจ๊อบเป็นบุตรชายเพียง 1 คนของบ้าน

ครอบครัว ผู้กองจ๊อบ ร่ำไห้สูญเสียลูกชาย ฮ. ตำรวจตก
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

KUBET – เฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก ในพื้นที่กองบิน ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นมีรายงานเสียชีวิต 3 ราย

          ด่วน ! เฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก ในพื้นที่กองบิน ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นมีรายงานเสียชีวิต 3 ราย



เฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand

          วันนี้ (24 พฤษภาคม 2568) เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand แจ้งเหตุด่วนเมื่อเวลา 13.00 น. เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติตก บริเวณแยกประจวบ พื้นที่กองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต

          ขณะที่ เดลินิวส์ รายงานว่า
เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ศพ และกระโดดร่มออกไปได้ 1 ราย
ซึ่งมีรายงานว่าได้รับบาดเจ็บ
ส่วนรายละเอียดและความคืบหน้าจะมีรายงานให้ทราบต่อไป

          ทั้งนี้ ทางเพจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์เมื่อเวลา 13.10 น. หลังเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รุ่น BELL 212 ตก บริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

เฮลิคอปเตอร์ตก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand

          เบื้องต้นได้รับรายงานมีข้าราชการตำรวจเสียชีวิต จำนวน 3 ราย ได้แก่

          – พ.ต.ต. ประเทือง ชูเลิศ นักบิน
          – ร.ต.อ. ทรงพล บุญชัย นักบิน
          – ร.ต.ท. ทินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง

          ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการด่วนไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเหตุการณ์โดยด่วน และช่วยเหลือเยียวยาให้กำลังครอบครัวผู้เสียชีวิต และในนามสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอไว้อาลัยและแสดงความ เสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียในครั้งนี้

เฮลิคอปเตอร์ตก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand

เฮลิคอปเตอร์ตก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์

KUBET – ดราม่าผู้จัดเทงานวิ่ง กินค่าสมัคร 450-1200 นักวิ่งอึ้งซุ้มงานเขียนจัดปี 2028 จะวิ่งกี่โมง

          ดราม่างานวิ่ง นักวิ่งกลายเป็นผู้ประสบภัย มาถึงงาน โดนผู้จัดเท จ่ายค่าสมัครแล้ว 450-1,200 บาท แต่ไม่ได้วิ่ง อึ้งซุ้มงานเขียนจัดปี 2028 หรือต้องรออีก 3 ปี ?



ผู้จัดเทงานวิ่ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Red Skull XXX

          เป็นประเด็นเดือดในหมู่นักวิ่ง สำหรับงานวิ่ง Run for Destination 2025 ที่มีกำหนดจัดขึ้น ณ สวนหลวง ร.9 ในวันนี้ (25 พฤษภาคม 2568) แต่เมื่อถึงวันจริง กลับพบว่าผู้จัดเทงาน ลอยแพนักวิ่งจำนวนมากที่พากันมาถึงที่จัดงาน แต่กลับไม่มีผู้จัดใด ๆ มีเพียงซุ้มงานวิ่งซึ่ง ระบุวันที่ “28 พฤษภาคม 2028” ตั้งไว้เท่านั้น

          ตรวจสอบพบว่างานวิ่งดังกล่าว ได้เปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม ทั้งทางออนไลน์และหน้างาน มีค่าสมัครคนละ 450 บาท โดยของแจกมีทั้ง กระเป๋า เสื้อ นาฬิกา หมวก รวมถึงรองเท้าวิ่ง 1 คู่

          รวมถึงมีการสมัครประเภทคู่ 2 คน คู่ละ 800 บาท ประเภทครอบครัว 3 คน 1,200 บาท และประเภท VIP 1,200 บาท ซึ่งทางเพจผู้จัดงานยังคงโพสต์อัปเดตข้อมูลผ่านทางหน้าเพจจนถึงเวลา 23.14 น. ก่อนที่จะหายเงียบไป แม้จะมีนักวิ่งมากมายเข้ามาถล่มคอมเมนต์ ถามหาผู้จัดงาน และโวยให้ออกมารับผิดชอบ เช่น

ผู้จัดเทงานวิ่ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Red Skull XXX

          “มาแล้วทำไมไม่มีฝ่ายจัดคะ เห็นมีแต่นักวิ่ง”
 
          “เห้ย ยังไงคะ เราก็สมัคร แต่งานเลื่อนมาจากมกราคม มาเดือนนี้ คิดในใจแล้วล่ะว่าคงไม่ได้ไป ทั้งเสื้อแพ็คเกจ การแข่งขันก็ดู คุณภาพไม่ค่อยโอเค เราก็ตัดสินใจแล้วล่ะว่าไม่ไปหรอก ก็ทิ้งเงินค่าสมัครไปเลย สรุปผู้จัดทิ้งงานเหรอคะ”

          “ผู้จัดงานอยู่ไหนครับ นักวิ่งพร้อมแล้ว ออกมารับผิดชอบด้วย”
 
          “Run for final destination”

          “งง ๆ คะเจองานแรกที่โดนเท แปลกแต่จริง โปรโมตขนาดนี้เทกันได้”

ผู้จัดเทงานวิ่ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สวนหลวง วันนี้

          ขณะที่บางคนแจ้งว่า ได้มีคนเข้าไปแจ้งความที่ สน.ประเวศ
แล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าให้ลงชื่อกับเบอร์โทรไว้
จะทำการสอบสวนก่อน

          ทั้งนี้
ยังมีคนเผยภาพที่มีผู้เข้าไปสอบถามทางเพจผู้จัดงานก่อนหน้านี้
เพื่อขอคำยืนยันว่าจะยังจัดงานอยู่หรือไม่ เพราะเห็นเพจเงียบ ๆ ไป
ซึ่งทางเพจก็เข้ามายืนยันว่าจัดปกติ
โดยทิ้งข้อมูลติดต่อทั้งไลน์และเบอร์โทร. ไว้ให้

ผู้จัดเทงานวิ่ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Run Destination

          ด้านเพจ
สวนหลวง วันนี้ ปรากฏผู้จัดงานสักคน ถูกเททั้งที่จ่ายค่าสมัครไปหมดแล้ว
กลายเป็นผู้ประสบภัยขึ้นมาโดยไม่ตั้งตัว

ผู้จัดเทงานวิ่ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Run Destination

          ขณะที่เพจ Red Skull XXX
ตั้งข้อสังเกตว่า งานวิ่งครั้งนี้แปลก ๆ ตั้งแต่ของแจกที่แถมแล้ว
โดยระบุว่า “ค่าสมัครปกติ แถมรองเท้า แถมโทรศัพท์ แถมเสื้อวอร์ม
ตจว.มีแพ็คเกจค่าที่พักโรงแรม 5 ดาว ค่อย ๆ
คิดก็จะได้คำตอบว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ พอเอารายชื่อกรรมการไปเช็ก
เจอคนโพสต์ 1 จาก 2 รายชื่อ ก็ชัดเลย”
พร้อมระบุว่า “มิจรักนักวิ่ง”

ผู้จัดเทงานวิ่ง

ผู้จัดเทงานวิ่ง

ผู้จัดเทงานวิ่ง

ผู้จัดเทงานวิ่ง

ผู้จัดเทงานวิ่ง

 

KUBET – พระเบนซ์ เปิดใจ ปม พระชงกาแฟ พร้อมน้อมรับคำวิจารณ์ที่ต่อว่าไม่เหมาะสม

          พระเบนซ์ ชงกาแฟ กลายเป็นไวรัลเสียงแตก แบบนี้เหมาะสมไหม ล่าสุดเปิดใจแล้วกับเรื่องที่เกิดขึ้น



พระเบนซ์ ชงกาแฟ
ภาพจาก ไทยพีบีเอส

          วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 รายการวันใหม่ ไทยพีบีเอส รายงานว่า ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กมีการแชร์คลิปพระวัดโพธิ์รัตนาราม ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รูปหนึ่ง กำลังชงกาแฟ ทำให้ชาวเน็ตเสียงแตกว่า ทำแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ ?

          พระเบนซ์ พระรูปดังกล่าว เพิ่งบวชเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ส่วนคลิปที่เกิดขึ้น มาจากการเดินทางไปช่วยบำเพ็ญกุศลศพแม่ของเจ้าอาวาสวัดหัวโป่ง และอาตมาก็ไปชงกาแฟเพื่อถวายพระผู้ใหญ่ คณะสงฆ์ที่มาร่วมงาน ดังนั้นจึงมีการถ่ายคลิปด้วย ทำเป็นปกติตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาสแล้ว แต่ไม่คิดว่า พอมาโพสต์จะกลายเป็นประเด็นแบบนี้

พระเบนซ์ ชงกาแฟ
ภาพจาก ไทยพีบีเอส

พระเบนซ์ ชงกาแฟ
ภาพจาก ไทยพีบีเอส

          ขณะที่พระผู้ใหญ่ก็มาตักเตือนขอให้ระมัดระวังกับพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งอาตมาก็น้อมรับไว้ เหรียญมันมี 2 ด้านเสมอ

          ด้านพระปลัดสุวัฒน์ชัย รองเจ้าอาวาสวัดโพธิ์รัตนาราม เปิดเผยว่า พระเบนซ์ทำกิจของสงฆ์ได้อย่างดี
ไม่ขาด ส่วนประเด็นการที่ติติงเรื่องวินัยสงฆ์ ยืนยันว่า
พระเบนซ์ทำไปด้วยจิตอาสา
อาตมาได้กำชับเรื่องความสำรวมและการใช้สื่อโซเชียลแล้ว

พระเบนซ์ ชงกาแฟ
ภาพจาก ไทยพีบีเอส

พระเบนซ์ ชงกาแฟ
ภาพจาก ไทยพีบีเอส

พระเบนซ์ ชงกาแฟ
ภาพจาก ไทยพีบีเอส

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส

KUBET – อดีตเด็กสมองพิการ ถูกหลอกไปเป็นขอทาน 7 ปี เปลี่ยนชีวิต มุ่งหน้าเรียนจนได้เป็นหมอ

 
           เปิดชีวิตน่าทึ่งชวนเหลือเชื่อ อดีตเด็กสมองพิการวัย 9 ขวบ ถูกหลอกไปเป็นขอทาน 7 ปี ก่อนพบจุดเปลี่ยนชีวิต มุ่งหน้าเรียบจบได้เป็นหมอ



 แรงบันดาลใจ
ภาพจาก Weibo
               เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์
เผยเรื่องราวน่าทึ่งของชายชาวจีนรายหนึ่ง ซึ่งมีภาวะสมองพิการ
จนถูกหลอกไปเป็นขอทานอยู่นานถึง 7 ปี
แต่กลับไม่ย่อท้อหรือยอมแพ้ต่ออุปสรรคและโชคชะตา
มุ่งหน้าไล่ตามความฝันด้วยความพากเพียรพยายาม
แม้ว่าจะยากลำบากกว่าคนปกติทั่วไป จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จได้เป็นหมอ
เรื่องราวของเขาจึงกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงและได้สร้างแรงบันดาลใจให้หลายคน

               หลี่ ฉวงเย่ ป่วยเป็นโรคสมองพิการตั้งแต่อายุได้ 1 ขวบ
ตอนนั้นเขาไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางด้านร่างกาย หลี่ต้องเดินในท่านั่งยอง ๆ
ไปตลอดชีวิต
ส่วนพ่อแม่ของเขาได้พยายามหาหนทางรักษาจนใช้เงินเก็บของครอบครัวไปจนหมด
กระทั่งตอนที่หลี่อายุ 9 ขวบ หลังจากการผ่าตัดรักษาไม่สำเร็จ
เขาตัดสินใจว่าจะไม่เป็นภาระให้ครอบครัวอีกต่อไป

               หลี่ ฉวงเย่ ได้ไปหาชายรายหนึ่งซึ่งเคยสัญญากับเขาว่าจะหางานให้ทำ
แต่ปรากฏว่าเขาคนนั้นเป็นมิจฉาชีพ
เขาอาศัยความพิการของเด็กหลอกให้ไปเป็นขอทาน
หลี่ถูกบังคับให้ไปนั่งขอทานอยู่ตามถนน โดยได้เงินเพียงแค่เดือนละ 100 หยวน
(ราว 455 บาท) ตั้งแต่อายุ 9 ถึง 16 ปี เขาถึงยอมปล่อยตัวหลี่ออกมา
เพราะเขาคิดว่า หลี่แก่เกินกว่าที่จะได้รับความเห็นอกเห็นใจแล้ว  

               อิสรภาพครั้งนั้นนับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของหลี่ ฉวงเย่ ซึ่งเพิ่งรู้ตัวว่าเขาไม่รู้หนังสือใด ๆ เลย
แม้กระทั่งตัวหนังสือบนหนังสือพิมพ์เขาก็อ่านไม่ออก
เขาจึงหาโอกาสเพื่อศึกษาหาความรู้
ตัดสินใจลงทะเบียนเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในขณะที่อายุ 16 ปี
หลังจากนั้นเขาก็ตั้งใจฝึกฝนเล่าเรียนและพยายามอย่างหนัก จนในปี 2556
เขาสามารถเรียนต่อในวิทยาลัยแพทย์ได้สำเร็จในวัย 25 ปี

 แรงบันดาลใจ
ภาพจาก Weibo

               หลี่ ฉวงเย่ มุ่งมั่นศึกษาด้วยความขยันขันแข็ง
และได้เข้าเรียนหลักสูตรทางคลินิกที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในปี 2559
หลี่ทุ่มเทให้กับการเรียนและทำวิจัยทางแพทย์
โดยใช้ตัวเองเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับโรคสมองพิการให้เพื่อนร่วมชั้นของเขา
ครั้งหนึ่งในวันเกิดของเขา เขาได้สัญญาว่า หลังจากที่เขาเสียชีวิต
เขาจะบริจาคร่างกายของเขาเพื่อการวิจัยทางการแพทย์

               กระทั่งในปี
2562 หลี่ ฉวงเย่ ได้สำเร็จการศึกษา ในวัย 31 ปี
เขาเริ่มทำงานเป็นบรรณาธิการให้กับบริษัททางการแพทย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยของเขา
แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือนเขาก็ลาออก
เมื่อรู้ตัวว่าความใฝ่ฝันที่แท้จริงของเขาคือการเป็นหมอ
แต่แน่นอนว่าความพิการของเขาเป็นความท้าทายอย่างมาก

               แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ
ในที่สุด หลี่ ฉวงเย่ ก็สามารถเข้าฝึกงานที่คลินิกชุมชนในเหอหนานได้
ในขณะที่เตรียมตัวสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์
ซึ่งเขารู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้ให้ทำงานที่คลินิกเล็ก ๆ แห่งนี้
เพราะเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ทำงานในโรงพยาบาลขนาดใหญ่  

               ปัจจุบัน หลี่ ฉวงเย่ ในวัย 37 ปี ประสบความสำเร็จในการเป็นแพทย์ได้อย่างที่ใฝ่ฝัน
เขาได้ย้ายไปอยู่ที่มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และเปิดคลินิกเล็ก
ๆ เป็นของตัวเอง

               นอกจากนี้ หลี่ ฉวงเย่ ยังมีอีกความน่าทึ่ง
เมื่อเขาได้ก้าวข้ามขีดจำกัดทางร่างกายของตัวเอง ด้วยการเป็นผู้พิชิตยอดเขา
แม้ว่าความสูงของเขาเมื่อยืนเต็มตัวจะสูงได้แค่ 80 เซนติเมตร โดยเมื่อปี
2559 เขาสามารถพิชิตภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 ของจีนได้สำเร็จ
รวมถึงภูเขาหวงซานที่มีชื่อเสียงของจีน

 แรงบันดาลใจ
ภาพจาก Weibo

 แรงบันดาลใจ

ภาพจาก Weibo

ขอบคุณข้อมูลจาก South China Morning Post

KUBET – พนง. เซเว่นฯ เลิกงานแล้ว ทำเพื่อนรอยกใหญ่ เฉลยกำลังยืนหาอะไร

          พนักงานเซเว่นฯ เลิกงานแล้ว แต่ต้องยืนรอเพื่อนหาของที่ลืมยกใหญ่ ก่อนพูดเฉลยเป็นเสียงเดียวกัน เล่นเอาเจ้าตัวเขินจนหัวเราะหนัก



          เป็นการใช้ชีวิตที่ต้องคอยตื่นตัวเสมอ สำหรับคนที่มักจะลืมข้าวของ ซึ่งก่อนจะไปและกลับต้องคอยเช็กเสมอว่าลืมอะไรทิ้งไว้หรือเปล่า จนกลายเป็นภาพชวนเอ็นดูไม่น้อย

          วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 โลกออนไลน์แชร์คลิปชวนอมยิ้ม กรณีผู้ใช้ TikTok @ssss.com7 ลงบรรยากาศก่อนกลับบ้านของกลุ่มพนักงานเซเว่นฯ ที่ต้องรอคนในกลุ่มอยู่คนเดียว ซึ่งเธอดูจะกระวนกระวายพยายามหาของสุด ๆ โดยระบุข้อความว่า “ทั้งยาดม ทั้งโทรศัพท์ กูไม่ได้กลับหรอก”

ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ
ภาพจาก TikTok @ssss.com7
          จากคลิปเผยให้เห็นภาพในห้องพักของพนักงาน ซึ่งกะนี้เลิกงานแล้วและรอออกพร้อมกัน ต่างคนต่างเก็บของตัวเองเสร็จแล้ว แต่ก็ต้องรอหญิงคนหนึ่งพยายามหาของให้เจอ ทั้งยาดมและโทรศัพท์ ก่อนที่ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โทรศัพท์ก็อยู่ในกระเป๋าเสื้อ ซึ่งมันก็ยื่นโผล่มาจนคนอื่นก็มองเห็นได้ไม่ยาก

          หลังจากได้รู้ความจริงสุดใกล้ตัว ทำเอาสาวขี้ลืมถึงกับหัวเราะหนักมาก ผิดกับกลุ่มเพื่อนที่ทำหน้าสิ้นหวังสุด ๆ เพราะคาดว่านี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมักจะลืมของที่อยู่กับตัวเองอยู่แล้วเช่นนี้

ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ
ภาพจาก TikTok @ssss.com7

          คลิปนี้กลายเป็นไวรัลซึ่งมียอดเข้าชม 1.6 ล้านครั้ง โดยชาวเน็ตเห็นแล้วต่างเอ็นดูในความขี้ลืม บ้างแซวว่า ดูเหมือนทุกคนจะชินชากับเรื่องนี้มาก บ้างก็เดาว่าถ้าไม่บอกเธอคงจะหาแบบนี้ไปทั้งคืน ขณะที่บางส่วนเห็นแล้วก็นึกถึงตัวเองที่ขี้ลืมไม่ต่างกันกับคนในคลิป เป็นต้น

ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ
ภาพจาก TikTok @ssss.com7
ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ
ภาพจาก TikTok @ssss.com7
ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ
ภาพจาก TikTok @ssss.com7
ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ
ภาพจาก TikTok @ssss.com7
ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ

ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ

ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ

ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ

ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ

ไวรัล พนง. เซเว่นเลิกงาน ยืนรอเพื่อนหาของ เฉลยถึงกับขำ

KUBET – คดีช็อก แท็กซี่ญี่ปุ่นข่มขืนผู้โดยสารหญิง 50 คน พบรูปถ่าย-คลิปอนาจารมากกว่า 3,000

             คดีช็อก ตำรวจญี่ปุ่นจับคนขับแท็กซี่ ก่อเหตุข่มขืนผู้โดยสารหญิง 50 ราย พบหลักฐานทั้งรูปถ่าย และคลิปอนาจารมากกว่า 3,000
 

             วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เจแปนไทม์ส รายงานว่า ตำรวจนครบาลโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้จับกุมชายวัย 54 ปี อดีตคนขับแท็กซี่ ซึ่งอาศัยในกรุงโตเกียว หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีมอมยาและล่วงละเมิดทางเพศผู้โดยสารหญิงในรถแท็กซี่ โดยเชื่อว่ามีเหยื่อมากถึง 50 ราย นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา
 
             หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun และสำนักข่าว Jiji Press ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ตำรวจพบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอและภาพถ่ายของชายรายนี้ประมาณ 3,000 รายการ ในขณะที่กำลังล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงประมาณ 50 ราย ในรถแท็กซี่ รวมทั้งที่บ้านของเขา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังคลิปวิดีโอในโทรศัพท์ของเขา และอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งเริ่มมีบันทึกมาตั้งแต่ปี 2551 หรือเมื่อประมาณ 17 ปีก่อน 
 

            โดยเมื่อปีที่ผ่านมา หญิงสาวรายหนึ่งซึ่งขณะนั้นอายุ 20 ปี ตกเป็นหนึ่งในเหยื่อของชายรายนี้ โดยระหว่างที่เธอกำลังนั่งโดยสารบนรถแท็กซี่ของเขา เขาได้ให้เธอกินยานอนหลับ (รายงานไม่เปิดเผยรายละเอียดวิธีการ) จนทำให้เธอหมดสติ จากนั้นจึงพาเธอไปที่บ้านของเขา และกระทำอนาจาร พร้อมทั้งถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ทั้งนี้ รายงานการสอบสวนระบุว่า พบสารประเภทยานอนหลับในเส้นผมของเธอ

            รายงานพบว่า ชายรายนี้มีประวัติอาชญากรรม โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ชายรายนี้เคยถูกจับกุมครั้งหนึ่ง หลังต้องสงสัยว่าวางยาหญิงสาวอีกราย และขโมยเงินของเธอไปจำนวน 40,000 เยน (ราว 9,100 บาท) ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัว และถูกควบคุมตัวอีกครั้งในเดือนธันวาคม ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ

            อย่างไรก็ดี รายงานไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่แน่ชัดเกี่ยวกับโทษที่เขาได้รับในครั้งที่ผ่านมา กระทั่งมาถูกจับกุมครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหา ล่วงละเมิดทางเพศผู้อื่นโดยไม่ยินยอม รวมทั้งละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพอวัยวะเพศ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Japan Times, Sin Chew

 

KUBET – ต่างหูดาราสาววัย 17 ใส่ไปงานโรงเรียน ทำซวยถึงพ่อ โดนสืบเป็นแบรนด์หรูราคา 10 ล้าน

           ดาราสาวจีนวัย 17 ถ่ายเซลฟี่อวดต่างหูใส่ไปงานโรงเรียน ทำพ่องานเข้าโดนสอบทุจริต หลังชาวเน็ตตาดีสืบเจอเป็นแบรนด์หรูราคาถึง 10 ล้าน



หวงหยางเตี้ยนเถียน
ภาพจาก Weibo 黄杨钿甜
           วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Hk01 เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีประเด็นร้อนแรงบนโซเชียลมีเดียของจีน กรณีของนักแสดงสาววัย 17 ปี ที่ชื่อว่า หวงหยางเตี้ยนเถียน (Huang Yang Tiantian) ภายหลังจากเธอโพสต์ภาพเซลฟี่สวมต่างหูคู่งาม เพื่อไปร่วมงานของโรงเรียน แต่ปรากฏว่าต่างหูคู่นั้นดันไปเตะตาชาวเน็ต เหล่านักสืบโซเชียลไปเจอว่ามันคือต่างหูของแบรนด์หรู ที่มีราคามากถึง 10 ล้าน ทำให้พ่อของเธอซึ่งเป็นข้าราชการท้องถิ่น งานเข้าอย่างจัง โดนสอบคดีทุจริตผิดกฎหมาย

จุดเริ่มต้นหายนะ

           เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หวงหยางเตี้ยนเถียน ได้โพสต์ภาพลงบนบัญชี Weibo ขณะสวมใส่ต่างหูสีเขียวระย้าประดับเพชร เพื่อไปร่วมงานพิธีก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์ เมื่อมีชาวเน็ตตาดีสืบไปเจอว่าต่างหูคู่นี้เป็นแบรนด์หรูของอังกฤษ GRAFF ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2.3 ล้านหยวน (ราว 10.4 ล้านบาท)

           หลายคนพากันตั้งคำถามด้วยความไม่พอใจว่า หวงหยางเตี้ยนเถียน นักแสดงสาววัยรุ่นรายนี้มีรายได้มากถึงขนาดมีความสามารถซื้อต่างหูคู่ละเป็นสิบล้านได้เลยเหรอ แม้ว่าหลังจากนั้นไม่นาน เธอจะบอกว่า “ต่างหูคู่นี้เป็นของแม่” แต่ผู้คนต่างสงสัยไปถึงภูมิหลังครอบครัวของเธอ จนมีการสืบค้นพบว่า พ่อของเธอมีตำแหน่งเป็นข้าราชการท้องถิ่นในเมืองหย่าอัน มณฑลเสฉวน จึงจุดประกายให้เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่าพ่อของเธอมีการทุจริตคอร์รัปชันหรือไม่

หวงหยางเตี้ยนเถียน
ภาพจาก Weibo 黄杨钿甜

ตำแหน่งของพ่อ และข้อกล่าวหา

           ตามการยืนยันของสื่อท้องถิ่น ระบุว่า พ่อของหวงหยางเตี้ยนเถียนทำงานในสำนักงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจและกิจการต่างประเทศ ของเมืองหยาอัน ตั้งแต่ปี 2558-2560 และเป็นผู้รับผิดชอบดูแลกองทุนกองทุนฟื้นฟูเหตุภัยพิบัติ จากนั้นได้ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวจนถึงปัจจุบัน    

           แหล่งข่าวเผยว่า เขาได้ถอนตัวออกจากตำแหน่งผู้ถือหุ้นและตัวแทนทางกฎหมายของบริษัทที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว หลังจากเกิดเหตุภัยพิบัติในพื้นที่ นอกจากนี้มีการกล่าวอ้างว่า เขาอาจมีส่วนร่วมทุจริตในโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ และเขาเคยอวดบ้านหรูในเซินเจิ้นที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านหยวน (ราว 450 ล้านบาท)

หวงหยางเตี้ยนเถียน
ภาพจาก Weibo 黄杨钿甜

แถลงการณ์ปฏิเสธ

           วันที่ 16 พฤษภาคม บริษัท Jiaxing Media ต้นสังกัดของหวงหยางเตี้ยนเถียน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติการเผยแพร่ข่าวลือและข้อมูลที่เป็นเท็จ และในขณะเดียวกันทางพ่อของของเธอได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “ต่างหูนี้ไม่ใช่ของแท้ แต่เป็นของเลียนแบบ สามารถนำไปตรวจสอบโดยสถาบันอย่างเป็นทางการได้”

           นอกจากนี้ พ่อของหวงหยางเตี้ยนเถียน ยังยืนยันว่า เขาไม่ได้กระทำความผิดทางวินัย หรือทางกฎหมายใด ๆ ในระหว่างที่ทำงาน รวมทั้งปฏิเสธข้อกล่าวหาการยักยอกเงินกองทุนฟื้นฟูหลังเกิดภัยพิบัติ พร้อมยินดีให้ดำเนินการตรวจสอบและพร้อมรับผิดชอบทุกประการ

หวงหยางเตี้ยนเถียน
ภาพจาก Weibo 黄杨钿甜

ชาวเน็ตเสียงแตก

           ชาวเน็ตบางส่วนมองว่าต่างหูที่ หวงหยางเตี้ยนเถียน นักแสดงสาวรายนี้สวมใส่นั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างจากของแท้ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นแค่ของเลียนแบบที่ละเมิดลิขสิทธิ์  

           มีผู้พบต่างหูลักษณะคล้ายกันจำหน่ายอย่างแพร่หลายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยมีราคาตั้งแต่ไม่กี่ดอลลาร์ไปจนถึงหลายร้อยดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับวัสดุและรายละเอียดของสินค้า

           ผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งบอกว่า เธอสวมต่างหูแบบเดียวกันนี้ที่ซื้อมาทางออนไลน์ไลน์ในราคา 38 หยวน (ราว 170 บาท) ไปร่วมงานสังสรรค์กับเพื่อนเธอ และทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต่างหูคู่นี้ดูเหมือนของจริง

หวงหยางเตี้ยนเถียน
ภาพจาก Weibo 黄杨钿甜

พ่องานเข้าของจริง  

           วันที่ 22 พฤษภาคม รัฐบาลท้องถิ่นเมืองหยาอัน ได้ออกประกาศว่า หยางเหว่ย พ่อของหวงหยางเตี้ยนเถียน ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการพลเรือน ถูกสอบสวนในข้อกล่าวหาประพฤติมิชอบในระหว่างดำรงตำแหน่งราชการ รวมถึงมีการดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และปกปิดการให้กำเนิดบุตรคนที่สองอย่างผิดกฎหมาย ขณะสมัครสอบเข้ารับราชการและระหว่างดำรงตำแหน่ง

           หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจังตามกฎหมาย โดยเน้นย้ำว่า “เราจะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องอย่างตรงไปตรงมา และยอมรับการกำกับดูแลจากทุกภาคส่วนของสังคมอย่างจริงใจ”

ประวัติและผลงานหวงหยางเตี้ยนเถียน

           หวงหยางเตี้ยนเถียน ประวัติเกิดที่เมืองเซินเจิ้น ในเดือนกรกฎาคม 2550 ปัจจุบันอายุ 17 ปี เธอเป็นนักแสดงที่มีผลงานมาตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มรับบทเป็นตัวละครในวัยเด็ก ในละครชุดตำนานโบราณเรื่อง Princess Agents ก่อนที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเป็นทางการ ได้แสดงในภาพยนตร์และซีรีส์ทางทีวีหลายเรื่อง อาทิ Ruyi’s Royal Love in the Palace, Mozart from Outer Space และ Five Blessings

หวงหยางเตี้ยนเถียน
ภาพจาก Weibo 黄杨钿甜

ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01, Yahoo

KUBET – สาววัย 28 เที่ยวต่างแดน ป่วยเข้ารพ. 2 วัน เสียชีวิตลึกลับ ร่างถูกส่งกลับ พบหัวใจหาย

          สาววัย 28 ปี เที่ยวต่างแดนพร้อมครอบครัว ป่วยเข้าโรงพยาบาล 2 วันเสียชีวิตลึกลับ ร่างถูกส่งกลับประเทศ ผลชันสูตรพบหัวใจหาย 



สาวเที่ยวต่างแดน ป่วยตายลึกลับ ส่งร่างกลับพบหัวใจหาย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Sin Chew เผยเรื่องราวเคสที่น่าตกใจของหญิงสาวชาวอังกฤษวัย 28 ปี เมื่อเธอเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศตุรกีกับครอบครัว ก่อนที่จะรู้สึกไม่สบายจนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล แต่หลังจากนั้นเธอกลับเสียชีวิตอย่างลึกลับ กระทั่งเมื่อร่างของเธอถูกส่งกลับมายังอังกฤษและได้รับการชันสูตรพลิกศพ ผลที่ออกมาทำให้ครอบครัวช็อกสุดขีด เมื่อพบว่า หัวใจของเธอหายไป

          ตามรายงานของ Daily Mail เผยว่า เบธ มาร์ติน วัย 28 ปี และ ลุค มาร์ติน สามีของเธอ พร้อมด้วยลูกเล็ก 2 คน จากเมืองพอร์ตสมัท ในอังกฤษ ได้เดินทางไปเที่ยวประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา ทว่าหลังจากที่ไปถึงได้เพียงไม่นาน เธอก็มีอาการไม่สบาย วันที่ 28 เมษายน เธอถูกพาตัวไปที่โรงพยาบาลด้วยภาวะสับสนทางจิตใจ และอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว จึงถูกส่งต่อไปยังห้องไอซียูเพื่อรับการรักษา

          ลุค เผยว่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่เบธอยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาล เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมภรรยา เขาไม่ทราบถึงความร้ายแรงของอาการป่วยของภรรยา และทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้อธิบายถึงวิธีการดูแลรักษาเธอให้เขาทราบ เขาทราบเพียงแค่ว่า เบธเสียชีวิตในวันที่สอง หลังจากเข้าโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังคงไม่ทราบแน่ชัด

          และที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ลุคกลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยถูกกล่าวหาว่าวางยาพิษฆาตกรรมภรรยาตนเอง และถูกตำรวจท้องที่เข้าสอบสวน อย่างไรก็ดี ในท้ายที่ เขาสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ และพ้นข้อกล่าวหาดังกล่าว

          จนกระทั่งเมื่อศพของเบธถูกส่งกลับมายังอังกฤษ ทางครอบครัวได้ดำเนินการส่งชันสูตรพลิกศพเพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด แต่ผลปรากฏว่า แพทย์ไม่พบหัวใจของเธอ หัวใจของเธอถูกนำออกไปจากร่างของเธอโดยที่ไม่มีใครทราบ สร้างความตกใจให้กับทางครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง จึงแจ้งความไปยังเจ้าหน้าที่ให้ติดตามสืบสวน ซึ่งขณะนี้ทางการตุรกีได้เริ่มการสอบสวนโรงพยาบาลแห่งนี้แล้ว

          ข้อมูลจากคำแนะนำการเดินทางของสำนักงานต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร เผยว่า กฎหมายของตุรกีระบุไว้ว่า เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพสามารถเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อหรืออวัยวะเพื่อการตรวจสอบ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัว และไม่ต้องแจ้งให้ครอบครัวทราบ โดยตัวอย่างเนื้อเยื่อหรืออวัยวะดังกล่าวมักจะถูกส่งคืนหลังจากการตรวจสอบแล้ว แต่ในบางกรณี เจ้าหน้าที่อาจยังคงเก็บไว้

          ตอนนี้ครอบครัวของเบธต่างก็พยายามค้นหาคำตอบอย่างสิ้นหวังว่าเธอเสียชีวิตได้อย่างไร และเพราะเหตุใด โดยลุคกล่าวว่า เขากำลังเผชิญกับอาการบาดเจ็บทางจิตใจที่ร้ายแรงที่สุด โดยเฉพาะเมื่อต้องบอกลูก ๆ ว่า พวกเขาจะไม่มีวันได้พบแม่อีก “เราไปเที่ยวกัน 4 คน แต่กลับมาได้เพียงแค่ 3 คน มันเจ็บปวดหัวใจอย่างที่สุด”  

          ทั้งนี้ ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การเสียชีวิตของเบธเกี่ยวข้องกับการค้าอวัยวะผิดกฎหมาย ขณะที่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ตุรกีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการปลูกถ่ายอวัยวะสูงที่สุดในโลก โดยในปี 2566 มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ 61.5 คนต่อ 1 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 25.84 คน รายงานระบุว่า การค้าอวัยวะผิดกฎหมายยังคงแพร่หลายในตุรกี

          ตามรายงานของ Global Financial Integrity กลุ่มนักวิจัยในสหรัฐฯ เมื่อปี 2560 ชี้ว่า ราคาอวัยวะหัวใจในตลาดมืด อยู่ที่ประมาณ 130,000-290,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.2-9.5 ล้านบาท)

ขอบคุณข้อมูลจาก Sin Chew, Daily Mail

KUBET – ฝรั่งลองทุเรียนครั้งแรก ทำใจกับกลิ่นนาน พอชิมถึงกับเปลี่ยนใจ


          คนไทยรีวิว ให้ฝรั่งลองชิมทุเรียนครั้งแรก ทำใจอยู่นานกับกลิ่น แต่พอได้ชิมถึงกับเปลี่ยนท่าที กลายเป็นไวรัล 4.1 ล้านครั้ง



          ต้องยอมรับว่า ทุเรียน นั้นเป็นผลไม้ที่ไม่ได้เป็นมิตรกับหลาย ๆ คน ซึ่งส่วนใหญ่ต่างไม่ได้เปิดใจกินเนื่องจากไม่ชอบกลิ่น แต่หากได้ลองชิมแล้วอาจจะประทับใจกว่าที่คิดก็เป็นได้

รีวิว ให้ฝรั่งลองกินทุเรียนครั้งแรก ทำใจกับกลิ่นอยู่นาน
ภาพจาก TikTok @krufonyoga

          วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ผู้ใช้ TikTok @krufonyoga ลงคลิปให้ชาวต่างชาติลองกินทุเรียนครั้งแรก ซึ่งพอเจ้าตัวได้เห็นใกล้ ๆ ก็ถึงกับทำหน้าตาชวนกังวล ก่อนจะตัดสินใจหั่นออกมาชิ้นเล็ก ๆ เพื่อลองชิม

          ก่อนจะกินนั้น หญิงไทยถามว่า หอมไหม ทางฝรั่งตอบว่า ไม่หอม พอถามว่า เหม็นไหม ก็อธิบายไม่ถูก จากนั้นจึงลองชิมดูครั้งแรก ก่อนจะยอมรับว่า รสชาติไม่ได้แย่ขนาดนั้น พอถามว่าอร่อยไหม เจ้าตัวก็ไม่ได้ตอบ แต่ก็ทำการดูดนิ้วที่เพิ่งจับทุเรียนและก็กินชิ้นที่หั่นออกมาจนหมด

รีวิว ให้ฝรั่งลองกินทุเรียนครั้งแรก ทำใจกับกลิ่นอยู่นาน
ภาพจาก TikTok @krufonyoga

          ปรากฏว่าคลิปนี้กลายเป็นไวรัลซึ่งมียอดเข้าชมกว่า 4.1 ล้านครั้ง ซึ่งชาวเน็ตได้เห็นท่าทีในคลิปแล้ว เชื่อว่าต่อไปน่าจะชื่นชอบทุเรียนได้ไม่ยากแน่นอน ขณะที่บางส่วนแซวว่า ที่จริงไม่ควรไปฝึกให้ฝรั่งกินทุเรียน เพราะต่อไปอาจจะติดใจจนมาแย่งเรากินได้ เป็นต้น

รีวิว ให้ฝรั่งลองกินทุเรียนครั้งแรก ทำใจกับกลิ่นอยู่นาน
ภาพจาก TikTok @krufonyoga
รีวิว ให้ฝรั่งลองกินทุเรียนครั้งแรก ทำใจกับกลิ่นอยู่นาน
ภาพจาก TikTok @krufonyoga