เดือน: มิถุนายน 2025

          หอสมุดมหาวิทยาลัยดัง ประกาศเตือนห้ามเข้าห้องน้ำพร้อมกัน 2 คน คนสงสัย เข้าไปทำอะไร แคปชั่นสุดฮาแต่ละคอมเมนต์จนคนแชร์เป็นพัน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 4 มิถุนายน 2568 เฟซบุ๊ก Chiang Mai University Library(CMUL) ของหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการโพสต์คำเตือน ขอความร่วมมือในการใช้ห้องน้ำว่า “กรุณาใช้ทีละ 1 ท่าน ต่อ 1 ห้อง และไม่ควรใช้พร้อมกันหลายท่านในห้องเดียว”

          นอกจากนี้ยังมีข้อความ ขอความกรุณาสงวนห้องน้ำสำหรับผู้พิการไว้สำหรับผู้มีความจำเป็นเท่านั้น ขอบคุณสำหรับความร่วมมือและการเคารพสิทธิผู้อื่น

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chiang Mai University Library(CMUL)

          สาเหตุที่เรื่องนี้เป็นไวรัลคนแชร์มากกว่า
1,000 ครั้ง ใน 4 ชั่วโมง นอกจากความสงสัยว่า
การเข้าห้องน้ำพร้อมกันมากกว่า 1 คนคืออะไรแล้ว
แคปชั่นของทางเพจก็มีการหยอกล้อว่า “มันแคบนะคะ รบกวนเข้าใช้งานทีละท่านน๊าาา”

 
        ทางเพจยังมีการแซวต่ออีกด้วยว่า รู้เลยหรอ ? ว่าเกิดอะไรขึ้นน่ะ,
คนไทยที่อยากใส่ใจ เดินโชว์บัตรประชาชนเรียงแถวมาได้เลยค่ะ

 
          หญิงจับได้สามีนอกใจคบชายอื่น ส่องแชตอึ้ง ปลอบคู่ขาให้ใช้เจลจะได้ไม่เจ็บ ทิ้งลูก 2 คน พ่อป่วยมะเร็ง แถมสร้างหนี้จนบ้านจะถูกยึด

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

          คุณส้ม (นามสมมติ) อายุ 40
ปี เจ้าของเรื่องราว เล่าให้ฟังว่า
เธอกับอดีตสามีรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ปี 3
และตัดสินใจคบหากันเป็นแฟนเรื่อยมา และตกลงแต่งงานจดทะเบียนสมรส
มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนหน้านี้ชีวิตคู่ก็ราบรื่นดี
โดยสามีเป็นผู้ชายที่ดีมาก ๆ จนครอบครัวของเธอทั้งรักทั้งเอ็นดูลูกเขยคนนี้ แม้แต่เพื่อนร่วมงานของเธอยังบอกเลยว่า
อดีตสามีของเธอเป็นคนดีมาก ๆ สุภาพเรียบร้อย พูดน้อย แถมดูแลเอาใจใส่
ทำให้เธอรู้สึกโชคดีมาก ๆ

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

เอะใจขอแยกห้องนอน ก่อนเจอแชตลับสามีคุยหวานกับชายอื่น

 
        กระทั่งช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมา อดีตสามีเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป
ขอแยกห้องนอน อ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของลูก 2 คน
เพราะเขาต้องทำงานเจอกับผู้คนเยอะ เธอก็ไม่ได้ติดใจอะไร
เห็นว่าเป็นเรื่องความปลอดภัยของลูก จึงยอมให้อดีตสามีแยกห้องนอน

   
      ช่วงนั้นอดีตสามีจะกลับบ้านดึกตลอด อ้างว่าต้องเคลียร์งาน
สุดท้ายมีอยู่วันหนึ่ง เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของอดีตสามีมาเล่น ปรากฏว่า
เขารีบกระชากโทรศัพท์กลับไปอย่างผิดปกติ
เธอก็เริ่มสงสัยแล้วว่าต้องมีอะไรปกปิดเธออยู่แน่ ๆ

         
วันต่อมาเธอจึงแอบเข้าไลน์ของสามี
ก็ไปเจอแชตที่สามีคุยกับผู้ชายอยู่คนหนึ่ง พอกดเข้าไปอ่านข้อความ
เธอถึงกับช็อก ทำอะไรไม่ถูก เพราะในบทสนทนามีการเรียกอีกฝ่ายว่า ที่รัก
มีการบอกคิดถึง จึงมั่นใจว่าไม่ใช่การคุยตามประสาเพื่อนผู้ชายทั่วไป
แต่เป็นลักษณะที่ทั้งสองคนกำลังคบหากัน

         
ข้อความในแชตตอนหนึ่ง ยังแสดงถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิด มีการพูดเรื่องจุก
และการใส่เจล จะได้ไม่เจ็บ มีการบอกฝันดี
แถมยังรายงานกันอีกว่าจะอาบน้ำแล้ว

         
แม้จะได้รู้เรื่องนี้แล้ว แต่เธอเลือกยังไม่บอกกับสามี
โดยเก็บเรื่องราวไว้ทั้งหมดเกือบปี จนได้รู้ความจริงเพิ่มเติมว่า
สามีไม่ได้มีแค่ผู้ชายคนนี้คนเดียว แต่สามีเล่นแอปฯ หาคู่ชายรักชาย
และมีนัดเจอกันตามปั๊มน้ำมัน และ มีสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นมากกว่า 2 คน
โดยพบด้วยว่าสามีกินยาต้านเชื้อ HIV
และพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคนี้

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

เดือดร้อนอดีตสามีไม่ส่งเสียลูก ซ้ำทิ้งหนี้จนบ้านจะถูกยึด พ่อป่วยหนักก็ไม่ดูแล

 
        ต่อมาเธอจึงนำเรื่องดังกล่าวเล่าให้กับครอบครัวเธอ
และครอบครัวอดีตสามีฟัง เพื่อจะขอแยกทางกับอดีตสามี ซึ่งอดีตสามีก็ยอม
และตัดสินใจพากันไปหย่า
หลังใบหย่ามีการสลักหลังทำข้อตกลงไว้ว่าฝ่ายชายจะต้องส่งเสียดูแลลูก 2 คน
เดือนละ 5,000 บาท ปรากฏว่าอดีตสามีรับผิดชอบอยู่เพียงไม่กี่เดือน
หลังจากนั้นก็เงียบหายไปเลย ติดต่อไม่ได้

          นอกจากนี้
อดีตสามียังทิ้งปัญหาหนี้สินที่อดีตสามีไปลงทุนไว้อีกจำนวนมากจนมีการฟ้องร้องดำเนินคดี
และมีหมายศาลมาติดที่บ้านว่า จะต้องยึดทรัพย์ขายทอดตลาด
เนื่องจากเป็นบ้านที่กู้ร่วมกัน ตอนนี้เธอรู้สึกว่าได้รับความเดือดร้อนมาก
โดยเฉพาะเรื่องหนี้สินและเรื่องลูกที่อดีตสามีทิ้งความรับผิดชอบไว้ให้เธอเพียงคนเดียว

 
        ส่วนเรื่องที่อดีตสามีไปมีชายอื่น เธอไม่ได้โกรธหรือติดใจอะไรแล้ว
เพราะหย่าร้างกันไปได้ 3 ปีแล้ว
ตอนนี้ต้องการให้อดีตสามีกลับมารับผิดชอบเรื่องหนี้สินและเรื่องลูก
เธอเคยพยายามไปตามหาสามีถึงที่ทำงาน แต่ก็ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพบ
เพราะอดีตสามีอ้างกับหัวหน้างานว่าเธอไปตามราวีรังควาน
สุดท้ายเธอได้แต่ฝากจดหมายน้อยของลูก 2 คนไปถึงอดีตสามีพอลูก 2
คนก็คิดถึงพ่อมาก

          ปัจจุบันเธอต้องทำงานหาเงินคนเดียว
เลิกจากงานประจำเธอต้องไปขับแกร็บต่อ และไลฟ์ขายของเพื่อหาเงิน
รวมถึงตอนนี้พ่อของอดีตสามีก็ป่วยหนัก
ทางครอบครัวก็ฝากให้เธอเป็นคนประสานและพยายามติดต่อหาอดีตสามีให้กลับมาดูแลพ่อของเขาด้วย

 
        ด้าน หนุ่ม กรรชัย เผยว่า
ทราบว่าพ่อของอดีตสามีป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
แต่คนที่ดูแลก็คืออดีตภรรยา ซึ่งเธอต้องแบกรับทั้งหนี้สินและดูแลพ่อสามี
จนรู้สึกรับผิดชอบไม่ไหวแล้ว
ทางฝั่งของครอบครัวของฝ่ายชายจึงเอาตัวคุณพ่อกลับไปดูแลแทน
แล้วก็ตอนนี้เธอกับลูกก็ลำบาก จะไม่มีที่อยู่ เพราะบ้านจะถูกยึด

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

          หญิงหอบขุมทรัพย์ สะสมไว้ 8 ปีมาขาย ชี้ร้านอื่นไม่รับซื้อ บอกเลยไปลุยหามาเอง กับซื้อต่อมา งานอดิเรกที่มีค่า รู้ราคาแล้วอึ้ง 

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่  

          เป็นคลิปชวนทึ่งที่ได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์ เมื่อหญิงคนหนึ่งยอมเดินทางไกลข้ามประเทศ เพื่อนำขุมทรัพย์ที่เก็บสะสมไว้มานาน 8 ปี มาขายให้ทางร้านทองแห่งหนึ่ง ซึ่งมูลค่าของมันนั้นบอกเลยว่าไม่ใช่น้อย ๆ 

          โดยจากคลิปที่เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่ โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เผยให้เห็นภาพของหญิงรายหนึ่งซึ่งนำของสะสมมาขายให้กับทางร้าน เป็นทองคำธรรมชาติที่เธอใช้เวลาในการเก็บรวบรวมถึง 8 ปี จากการออกไปหาเองและซื้อต่อมา 

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่ 

          หญิงคนนี้เผยว่า เธอมาจากประเทศออสเตรเลีย มาถึงไทยได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว ส่วนทองที่เห็นอยู่นี้เป็นทองคำธรรมชาติ โดยที่ประเทศออสเตรเลียจะมีบางพื้นที่ซึ่งอนุญาตให้เข้าไปหาทองได้ เช่นตามอุทยานแห่งชาติ ซึ่งคนที่จะไปหาทองได้ก็ต้องมีใบอนุญาตเช่นกัน 

          การจะหาทองคำเจอหรือไม่นั้นแล้วแต่ดวง บางวันก็อาจจะเจอ 2-3 ชิ้น ถ้าโชคไม่ดีก็อาจจะไม่ได้เลย เธอใช้เวลา 8 ปีในการหาทองและทยอยนำมาเก็บที่ไทย นับเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่ง  

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่  

          ก่อนหน้านี้เคยนำทองไปให้ร้านอื่นดูแล้ว
แต่ร้านที่กรุงเทพฯ ไม่รับไว้เพราะเขาไม่แน่ใจ จึงลองนำมาที่นี่
ซึ่งเธอก็คาดหวังว่าน่าจะได้ราคามากกว่า 200,000 บาท 

          ทั้งนี้
เมื่อลองนำทองก้อนหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนโลมาไปเอกซเรย์ดู พบว่าเป็นทอง
98.52% ค่าบริสุทธิ์สูงมาก และก้อนอื่น ๆ ก็มีเปอร์เซ็นต์สูงเหมือน ๆ กัน
ซึ่งท้ายที่สุดทางร้านรับซื้อทองคำธรรมชาติเหล่านี้ ในราคา 260,059 บาท
ซึ่งทางลูกค้าก็แฮปปี้มาก ยอมรับว่าขนลุก ไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้ 

          หนุ่มเปิดภาพ เทียบตัวเองเมื่อ 10 ปี ก่อน กับการเปลี่ยนแปลงสุดว้าว จากหนุ่มหน้าแก่ ดูเด็กกว่าเดิมจนแทบจะไม่ได้ หน้าใสเหมือนดารา บอกให้ฟังทำอะไรบ้าง 

ภาพจาก X @Akii_fit 

          วันที่ 2 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล รายงานว่า อากิ หนุ่มญี่ปุ่นวัย 33 ปี กลายเป็นที่ฮือฮากันการเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้ว ที่เกิดขึ้นหลังยอมเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตใหม่ ซึ่งช่วยให้เขาพลิกโฉมจากหนุ่มหน้าแก่ มาเป็นหนุ่มหน้าใสที่ดูเด็กลงกว่าเดิมจนแทบจำไม่ได้ แถมยังทำให้เขากลายมาเป็นคนดังที่ได้รับการยกให้เป็นกูรูด้านการชะลอวัยบนโลกออนไลน์ 

          เรื่องราวของ อากิ กลายมาเป็นที่สนใจ จากการปรากฏตัวในช่องทีวีออนไลน์ ABEMA ของญี่ปุ่น เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเขาได้บอกเล่าเรื่องการพลิกโฉมอย่างสุดทึ่ง ที่เริ่มขึ้นจากจุดตกต่ำของชีวิตเมื่อ 10 ปีก่อน 

ภาพจาก X @Akii_fit 

          โดย อากิ เล่าว่า ทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน
เจ้านายของเขาในตอนนั้นดูถูกภาพลักษณ์ของเขา ที่ดูแก่เกินอายุจริงไปมาก
แถมยังเริ่มหัวล้าน และเขาก็เลิกกับแฟนสาวในเวลาไม่นานหลังจากนั้น
เรียกว่าชีวิตของเขาจมอยู่ในจุดที่ดำมืดจริง ๆ
แต่แทนที่นั่งสมเพชชีวิตตัวเองต่อเขา อากิตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้กลายเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดียิ่งขึ้น 

          นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อากิก็หันมาดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด รวมถึงการทาครีมกันแดดทุกวัน
ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกก็ตาม เขายังออกกำลังกายเป็นประจำ
หมั่นตรวจสุขภาพกระเพาะอาหาร หมั่นเข้าสปาเพื่อดูแลผิว
นอกจากนี้ยังหยุดสูบบุหรี่และเลิกการนอนดึก 

ภาพจาก X @Akii_fit 

          เพื่อพัฒนารูปลักษณ์ภายนอก อากิยังเริ่มลงทุนในเรื่องการเสริมความงาม
ทั้งการฉีดโบท็อกซ์ และการปลูกผม เพื่อให้มั่นใจว่าแนวผมของเขาจะดูดีเสมอ 
 
          และความพยายามของเขาก็นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี อากิเผยในรายการว่า “ตอนนี้ผิวของผมดูเหมือนกับเมื่อ 10 ปีก่อน” และ “ผู้คนปฏิบัติกับผมอย่างอ่อนโยนขึ้นนับตั้งแต่รูปลักษณ์ของผมเปลี่ยนไป
การดูอ่อนเยาว์ยังทำให้ผมได้ประโยชน์ทั้งเรื่องการงานและความรักด้วย”

ภาพจาก X @Akii_fit 

          ในขณะที่อากิเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ใหม่เพื่อพัฒนาตัวเอง
เขายังใช้ช่องทาง X @Akii_fit มาแชร์เคล็ดลับและแนวทางชะลอวัย
ให้ชาวเน็ตได้ติดตามกันด้วย ซึ่งไม่เพียงแค่จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์
แต่เขายังพร้อมเปิดรูปก่อน-หลัง เปลี่ยนแปลงตัวเอง
ที่ดูแตกต่างราวกับคนละคน เพื่อโชว์ให้ชาวเน็ตได้เห็นชัด ๆ
ว่าเขามาไกลแค่ไหน ซึ่งก็ได้รับเสียงชื่นชมไม่น้อย 

ภาพจาก X @Akii_fit 

ภาพจาก X @Akii_fit 

ภาพจาก X @Akii_fit 

ภาพจาก X @Akii_fit 

ภาพจาก X @Akii_fit 

ภาพจาก X @Akii_fit 

ขอบคุณข้อมูลจาก Odditycentral

          อินฟลูเอนเซอร์สาว ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหาร สิ้นใจในวัย 25 แฟน ๆ ใจหาย พบเจ้าตัวเคยเผยสาเหตุ นิสัยการกินที่ไม่ดีนัก ด้านแพทย์เตือนการกินอาหารรสเผ็ด  

ภาพจาก Douyin 

          ข่าวการเสียชีวิตของอินฟลูเอนเซอร์และบล็อกเกอร์สาวชาวจีน ที่พบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ก่อนจากไปด้วยวัยเพียง 25 ปี กลายมาเป็นเรื่องสะเทือนใจที่ถูกพูดถึงกันบนโซเชียลขณะนี้ โดยพบว่า เฉียนเฉียน บล็อกเกอร์สาวรายนี้ ได้ใช้โซเชียลของเธอบอกเล่าการเดินทางเกี่ยวกับการต่อสู้โรคร้าย ตั้งแต่ช่วงต้น ๆ ที่ได้รับการวินิจฉัย ซึ่งแม้ว่าเธอจะต้องทุกข์ทรมาน แต่หญิงสาวยังคงมีทัศนคติบวก จนสร้างความตื้นตันแก่ชาวเน็ตจำนวนมาก

          จากรายงานของสื่อจีนเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เฉียนเฉียน ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะลุกลาม ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 และได้ผ่าตัดกระเพาะอาหารออกไปจนหมดแล้ว แต่โรคของเธอกลับมาอีกครั้งหลังผ่าตัดได้ 1 เดือน กระทั่งในที่สุดเซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังเยื่อบุช่องท้อง ทำให้อาการของเธอทรุดลง

ภาพจาก Douyin 

          แม้ว่าสุขภาพจะย่ำแย่ แต่บล็อกเกอร์สาวไม่เคยยอมแพ้ และยังคงอัปเดตอาการผ่านโซเชียลอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าเธอยังคงมีความหวังอยู่เสมอ แต่ในที่สุดเมื่ออาการของเธอทรุดลงหนัก หญิงสาวต้องเข้าโรงพยาบาลในเดือนมีนาคม 2568 ก่อนที่จะเสียชีวิตในวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา 

          ทั้งนี้ ในช่วงที่รักษาตัว เฉียนเฉียนเคยเปิดใจกับสื่อท้องถิ่น เกี่ยวกับพฤติกรรมที่เธอสงสัยว่าอาจเป็นสาเหตุของโรค โดยเล่าว่า เธอไม่ได้กินมื้อเช้ามาเป็นเวลานานแล้ว ขณะที่มื้อเที่ยงกับมื้อเย็นก็มักกินไม่เป็นเวลา นอกจากนี้เธอยังชอบอาหารเผ็ดจัด ๆ และท้องของเธอก็ไม่ค่อยดีนัก 

ภาพจาก Douyin 

          มิร์เรอร์ รายงานว่า แม้จะมีอาการปวดท้องแต่ช่วงแรก ๆ เฉียนเฉียนไม่ค่อยใส่ใจอาการเหล่านั้นเท่าไหร่ กระทั่งอาการปวดรุนแรงขึ้นจนทนไม่ไหว เธอจึงไปตรวจด้วยวิธีส่องกล้อง กระทั่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารในที่สุด 

          ข่าวการจากไปของเธอทำให้เหล่าผู้ติดตามใจหายอย่างมาก และเริ่มมีกระแสคำเตือนเกี่ยวกับเรื่องการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ รวมถึง หลี่สือจิน แพทย์ด้านโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยา จากโรงพยาบาลต้าหลิน จือชือ ในไต้หวัน ที่ออกมาเตือนผู้คนให้ระมัดระวังการเลือกกินอาหารเช่นกัน โดยเฉพาะอาหารรสเผ็ด ที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคได้ 

ภาพจาก Weibo 

          โดย หลี่สือจิน ชื่อว่าการบริโภคพริกมากจนเกินไป อาจส่งผลเสียต่อผนังกั้นเยื่อเมืองของกระเพาะอาหาร และความระคายเคืองที่เกิดขึ้นเป็นเวลานาน อาจทำเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหารก็เป็นได้ 

          ทั้งนี้ เธอขอให้ผู้คนมาพบแพทย์หากมีอาการไม่สบายเป็นเวลานาน หรือแม้แต่คนที่อยากพัฒนานิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพในชีวิต ก็สามารถมาขอรับคำปรึกษาได้เช่นกัน  
  

ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror, seehua.com, Taipao 

          ชายสุดเฮง ถูกหวยกับแม่กว่า 5 พันล้าน แค่ไม่กี่วันโดนหิ้วเข้าคุก หลังฉลองความรวยจนมีเรื่อง จากทริปในฝันกลายเป็นฝันร้าย ชะตาพลิกในไม่กี่วัน 

ภาพจาก X @kylottery 

          ในขณะที่หลายคนอาจมีชีวิตพลิกผันจากโชคลาภที่ได้รับ แต่เศรษฐีใหม่รายหนึ่งกลับมีจุดจบอย่างเลวร้ายจากสิ่งที่ต่างออกไป โดยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเรื่องราวของ เจมส์ ฟาร์ธิง ชายวัย 50 ปี ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขากับแม่เพิ่งเป็นผู้โชคดีที่สุดของรัฐเคนทักกี สหรัฐฯ หลังชนะรางวัลแจ็กพอตPowerball มูลค่า 167.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.4 พันล้านบาท) ซึ่งเป็นหนึ่งในรางวัลใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ 

          ช่วงเวลานั้น ลินดา กริซเซิล แม่ของเจมส์ ยังเล่าให้สื่อฟังด้วยน้ำเสียงเบิกบานว่า “มันจะเป็นวันแม่ที่ดีที่สุด” และ “เงินจำนวนนี้จะช่วยจ่ายหนี้ของฉันได้”

          โดยลอตเตอรี่ที่คู่แม่ลูกถูกรางวัลนั้น คือสลากของ Powerball
ที่ทั้งคู่ร่วมกันซื้อมาจากร้านค้าในเมืองจอร์จทาวน์ ในราคาเพียงใบละ 2
ดอลลาร์สหรัฐ (65 บาท) โดยไม่คิดว่าจะเปลี่ยนชีวิตทั้งครอบครัวไปตลอดกาล 

 
        ในวันที่ 26 เมษายน
ภาพของเจมส์และแม่ที่ยิ้มกว้างขณะรับมอบเงินรางวัล
ยังปรากฏอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ในท้องถิ่น
โดยทั้งคู่เลือกรับรางวัลเป็นเงินสดก้อนเดียว มูลค่า 77.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(ราว 2.5 พันล้านบาท) แทนการรับเงินรางวัลเต็มจำนวน แต่แบ่งจ่ายเป็นรายปี
30 งวด 

วันหยุดในฝันที่กลายเป็นฝันร้าย

         
ด้วยความตื่นเต้นจากโชคลาภที่เพิ่งได้รับ เจมส์พาแฟนสาววัย 42 ปี
เดินทางไปเฉลิมฉลองด้วยกันที่ TradeWinds Island Grand Resort
รีสอร์ตหรูริมหาดในเซนต์พีทบีช ของรัฐฟลอริดา
แต่ช่วงเวลาที่ควรจะเป็นการเฉลิมฉลองความเป็นเศรษฐีใหม่
กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา 

          โดยวันที่ 28 เมษายน
เวลาประมาณ 23.10 น.
เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นที่บาร์ของรีสอร์ต
ปรากฏว่าเจมส์ซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมา มีเรื่องวิวาทและต่อยหน้าแขกคนอื่น
และเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงเพื่อควบคุมสถานการณ์
เขากลับยิ่งอาละวาดขัดขืนการจับกุม ทั้งยังเตะหน้าเจ้าหน้าที่อีกด้วย
จนทำให้ตาขวาของเจ้าหน้าที่บวมแดง 

          สิ่งที่เกิดขึ้น
ทำให้เขาต้องเผชิญข้อหาขัดขืนการจับกุม และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่
ซึ่งเป็นข้อหาร้ายแรง แต่เรื่องราวยังซับซ้อนไปอีก
เมื่อพบว่าแท้จริงแล้วชายคนนี้ยังมีประวัติอาชญากรรมติดตัวยาวเป็นหางว่าว
ทั้งคดีทำลายหลักฐาน มีส่วนร่วมในกลุ่มอาชญากรรม ข้อหายาเสพติด รับของโจร
และลักทรัพย์ด้วยการยึดครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
อีกทั้งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว
สำหรับความผิดที่ก่อไว้ในรัฐเคนทักกี คดีลักทรัพย์และยาเสพติด 

     
    เหตุการณ์นี้จึงทำให้เขาไม่เพียงถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติม
แต่เขายังถูกออกหมายจับข้อหาละเมิดเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราว
ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาอาจต้องกลับไปติดคุกต่อยาว ๆ 

 
        ขณะที่แฟนสาวของเขาก็ไม่รอดจากเหตุการณ์นี้
เธอถูกจับกุมข้อหาเมาในที่สาธารณะ หลังมีคนพบเห็นเธอกรีดร้อง ตะโกน
และพูดเรื่องไร้สาระ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่พยายามควบคุมสถานการณ์
แม้ว่าตอนนี้เธอจะได้รับการปล่อยตัวแล้ว
แต่ทริปสุดครื้นเครงของเธอและแฟนหนุ่ม กลับกลายเป็นฝันร้ายอย่างสิ้นเชิง 

 
        ทั้งนี้
ปัจจุบันเจมส์ที่เพิ่งกลายเป็นเศรษฐีใหม่ได้เพียงไม่กี่วัน
กำลังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำของรัฐฟลอริดา ด้วยเงินประกัน 10,000
ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.2 แสนบาท)
ซึ่งบันทึกของเรือนจำแสดงว่าเขามีเงินในบัญชีนักโทษเพียง 315 ดอลลาร์สหรัฐ
(ราว 10,000 บาท) เท่านั้น 

ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail