KUBET – ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก อาสาซื้อใหม่ไม่เหมือนเดิม ชี้ร้านนี้ไฮโซ

 
          ไรเดอร์ทำกาแฟหก รับผิดชอบซื้อให้ใหม่ แต่เปลี่ยนเป็นแบบหรูกว่าเดิม เผย ร้านนี้ไฮโซ ทำเพจร้านไม่รอช้า เปลี่ยนโลโก้รับกระแสไวรัล



 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก James Kittiphong

          เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
เมื่อสั่งของกินจากแอปฯ เดลิเวอรี่ แล้วเกิดความผิดพลาดระหว่างขนส่ง
จนหลายครั้งไรเดอร์ต้องแสดงสปิริตรับผิดชอบ
ชนิดที่ว่าเปลี่ยนจากเรื่องชวนเฟล กลับกลายเป็นไวรัลชวนใจฟูในพริบตา

          วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก James Kittiphongเล่าว่า ตนสั่งกาแฟผ่านแอปฯ แต่โชคร้ายกาแฟหกระหว่างทาง
พี่ไรเดอร์จึงขอรับผิดชอบด้วยการไปซื้อกาแฟใหม่ให้เองทันที

         
แต่เรื่องที่พีคคือ พี่ไรเดอร์ไม่ได้ซื้อจากร้านเดิม กลับเลือกไปร้านใหม่
พร้อมเหตุผลว่า “ร้านนี้ไฮโซกว่า” จนงานนี้ทำเอาลูกค้าถึงกับโกรธไม่ลงเลยทีเดียว ที่เด็ดสุด ๆ
คือกาแฟที่ไรเดอร์ซื้อให้ อร่อยตาแตก งงมาก 

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก James Kittiphong

          จากแชตไรเดอร์ส่งภาพกาแฟที่ทำหกไปแจ้งลูกค้า ก่อนจะอัปเดตว่า “Espresso hot
ได้น้อย ผมเลย เอาตัวนี้แทนปริมาณเยอะกว่าครับ”
โดยแนบรูปกาแฟที่สั่งมาใหม่ พร้อมระบุว่า “ร้านนี้ไฮโซ” 

         
ซึ่งเมื่อลูกค้าแจ้งว่าจะโอนเงินส่วนต่างไปเพิ่มให้
แต่ไรเดอร์ไม่ขอรับเงินเพิ่ม ระบุว่า “ไม่เป็นไรครับ ให้ดาว
ในช่องทางแกร็บปกติพอครับ ผมทำงานผิดพลาดเองครับ รับผิดชอบได้ครับ”

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก James Kittiphong

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก James Kittiphong

 
        หลังจากเรื่องราวนี้ถูกแชร์จนเป็นไวรัล ล่าสุด ร้าน First Officer
Coffee Roasters ร้านที่ไรเดอร์เลือกซื้อกาแฟใหม่
ก็ไม่รอช้าที่จะเกาะกระแสนี้ ด้วยการโพสต์ภาพพร้อมแคปชั่นว่า “กาแฟหกไม่เท่าไหร่ กาแฟใหม่ต้องอร่อยกว่าเดิม” พร้อมเปลี่ยนโลโก้ร้านในเพจ
ด้วยการเติมแฮชแท็กว่า #ร้านนี้ไฮโซ  

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก First Officer Coffee Roasters 

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก

ภาพจาก เฟซบุ๊ก First Officer Coffee Roasters 

         
งานนี้ทำเอาชาวเน็ตต่างยอมใจในความพีคของเรื่องราว โดยแห่เมนต์สนั่นเช่น (ร้าน) อาศัยจังหวะชุลมุน, พี่ไรเดอร์ทำการตลาดให้
ต้องจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์แล้ว
นอกจากนี้หลายคนยังชื่นชมใจพี่ไรเดอร์ที่จิตใจหล่อสุด ๆ
เสี่ยเงินเพิ่มไม่เป็นไร ลูกค้าแฮปปี้ก็พอ
จนหลายคนแซวว่าพี่เขาอาจไม่ได้มาขับเอาเงิน แต่มาขับเอาสังคม เป็นต้น

  ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก

 ไวรัล เมื่อไรเดอร์ทำกาแฟหก

KUBET – ดราม่า ซ้อก้าด กับ แอมมี่ ปมฟาดแบรนด์บรีฟรีวิวยิบ แต่ไม่มีงบให้

           ซ้อก้าดแจงดราม่า ย้ำยังไม่ได้ส่งของให้อินฟลูดัง ชี้อีกฝ่าย พูดไม่ตรง ไม่ยอมตอบกลับ ด้าน แอมมี่ กิตติยา งัดหลักฐาน มองแบบนี้เกินขอบเขตไป



ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก TikTok @cardncyn

           จากประเด็นร้อน กรณี แอมมี่ กิตติยา บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง โพสต์ฟาดแรงถึงพฤติกรรมของแบรนด์เครื่องสำอางเจ้าหนึ่งที่ส่งของมาให้ แต่บรีฟละเอียดระดับแคมเปญใหญ่ ทั้งกำหนดวันโพสต์ ขอรีวิวเต็มรูปแบบ เก็บผลลัพธ์ พร้อมขอนำรูปไปใช้งานต่อ แต่กลับไม่มีงบประมาณหรือค่าตอบแทนใด ๆ งานนี้เจ้าตัวลั่นแรงว่า “ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน” พร้อมเตือนว่าอย่านำความใจดีของคนอื่นมาเอาเปรียบ

           ต่อมา ซ้อก้าด เจ้าของแบรนด์ Love Potion ออกมาชี้แจงขอโทษ พร้อมระบุว่า เป็นการเข้าใจผิดกันเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ทดลอง (Tester) ที่ยังไม่ได้วางขาย และไม่ได้มีเจตนาให้บล็อกเกอร์ลงโพสต์จริงจัง ซึ่งตนขอโทษแทนทีมงานและขอน้อมรับผิดไว้ แต่กระแสดราม่าก็ยังลุกลามต่อเนื่อง เมื่ออีกหนึ่งบิวตี้บล็อกเกอร์คนดัง นุ่น นพลักษณ์ ออกมาแชร์ประสบการณ์ตรง พร้อมตั้งคำถามถึงมาตรฐานการทำงานของแบรนด์บางราย ที่เรียกใช้บล็อกเกอร์แบบไร้ค่าตอบแทน แต่กลับคาดหวังงานระดับมืออาชีพทุกขั้นตอนนั้น

           อ่านข่าว : สรุปดราม่า บิวตี้บล็อกเกอร์ ฟาดแบรนด์ดัง บรีฟเน้น ๆ แต่รีวิวฟรี – ซ้อก้าด โพสต์แล้ว

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก TikTok @cardncyn
ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก TikTok @cardncyn
ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก TikTok @cardncyn
           วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ซ้อก้าด เจ้าของแบรนด์ Love Potion ลงคลิปชี้แจงดราม่าอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยระบุว่า 

           – จากแชตที่ทุกคนได้เห็น จริง ๆ แล้วทางแบรนด์ยังไม่ได้มีการส่งของให้กับคุณบล็อกเกอร์ท่านนี้ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการคุยเพื่อตกลงเจรจากัน 

           – ทางแบรนด์มีการแจ้งเงื่อนไขทุกครั้งก่อนส่งของ หากท่านใดไม่สะดวก ทางเรายินดีมาก ๆ ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ 

           – โดยปกติแล้วทางแบรนด์จะมีการแจกผลิตภัณฑ์ทดลอง (Tester) เพื่อเก็บฟีดแบ็กกับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ใช่แค่บิวตี้บล็อกเกอร์ เพื่อนำไปพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้น 

           – หลังจากที่บิวตี้บล็อกเกอร์ท่านนั้นลงโพสต์ ก้าดก็ได้เทกแอ็คชั่นแล้ว ขอโทษทันทีเลยค่ะ

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก TikTok @cardncyn
ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก TikTok @cardncyn

           – แต่พอไปดูรายละเอียดกลับพบว่าข้อมูลไม่ตรงกับสิ่งที่โพสต์ และทำให้ใครหลาย ๆ คนเข้าใจผิด 

           – ก้าดมองว่าปัญหาครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเราทั้ง 2 ฝ่ายคุยกันว่าเราสบายใจแบบไหน แต่บล็อกเกอร์ท่านนี้เลือกที่จะโพสต์ลง โดยที่เรายังไม่ได้ข้อสรุป และพยายามทำให้มีประเด็น

           – หลังจากนั้น บล็อกเกอร์ ก็เลือกที่จะไม่ตอบกลับทางเราทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทีมงานก้าด ทางออฟฟิเชียล ตัวก้าดเอง หรือแม้กระทั่งการโทร.

           – ยืนยันว่าแบรนด์พร้อมที่จะแก้ปัญหาและเทคแอคชั่นให้ไวที่สุด 

           – ก้าดและ Love Potion ยืนยันเสมอว่า เราพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น พร้อมที่จะปรับปรุง แก้ไข พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
 ภาพจาก TikTok @cardncyn

แอมมี่ กิตติยา อัดคลิปแจงอย่างละเอียดปมดราม่า

           – ขออนุญาตชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้น พอดีว่าเพิ่งถึงจีน จึงอัดคลิปช้าหน่อย

           – ประเด็นแรก ทำไมถึงต้องโพสต์ทั้งที่สามารถปฏิเสธได้ 

           – ปกติแล้วแบรนด์จะส่งของมา ซึ่งแอมโพสต์ให้ทั้งวิดีโอให้ทั้งรูปหลายครั้งมาก ๆ 

           – แล้วเราก็ใจดีกับเขามาตลอด เพราะว่าเราอยากสนับสนุนเขา 

           – แต่ว่ามารอบนี้ รู้สึกว่ามันแอบเกินขอบเขตไปหน่อย ตรงที่ว่าเป็นตัวเทสเตอร์ 2 อย่าง เขาขอฟีดแบ็กและให้ถ่ายรูป 7-14 วัน ตรงนี้แอมก็เลยรู้สึกว่ามันแอบเกินขอบเขตไปนิดหนึ่ง

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amy Kitiya

           – ปกติแล้วแบรนด์ใหญ่ ๆ หรือว่าแบรนด์อื่นที่เราเคยส่งของให้ หรือว่าร่วมงานกัน ก็จะส่งของให้ แล้วก็เราลงในสิ่งที่เราชอบ อะไรที่เราแบบรู้สึกไม่ได้อยากบอกต่อ เราก็จะไม่ได้ลง 

           – ประเด็นที่ 2 ที่ ทางแบรนด์ส่งสินค้าให้แอมทดลอง ซึ่งเขาบอกว่า ไม่มีบัดเจ็ต 

           – อันนี้คือเข้าใจ แต่เขาบอกว่า กรณีถ้าเราแพ้เขาจะยินดีรับผิดชอบ ทุกคนเก็ตความหมายของแอมไหม คือเราต้องแพ้ก่อน เขาถึงจะมีเงินไปจ่ายค่าดูแลรักษาเรา แอมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแฟร์ และแอมไม่อยากให้เกิดกรณีแบบเนี้ยทั้งอินฟลูตัวเล็กหรือใหญ่

           – ถ้าเกิดคุณไม่มีมีบัดเจ็ต อันนี้เข้าใจดี สินค้าเสร็จส่งให้เลยถ้าชอบคือลงรีวิวให้แน่นอน 

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amy Kitiya

           – ประเด็นที่ 3 เขาบอกว่าทำไมไม่ตอบทั้งที่ทางแบรนด์พยายามติดต่อ

           – ขอแจ้งก่อน ปกตินะแอมอยู่ขอนแก่น ก็ต้องบินมากรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ตอนที่น้อง (ซ้อก้าด) ส่งข้อความมาทางไอจี ตอนนั้นแอมต่อขนตาอยู่

           – ด้วยความที่แอมพาน้อง ๆ แอดมินมาเที่ยวที่จีนกัน แอมก็เลยต้องแพ็กของ ต้องปิดยอด ต้องสรุปทุกอย่างในบริษัทให้จบ 

           – ถ้าทุกคนติดตามแอม จะรู้ว่าแอมไปตอบน้องในเพจให้ทุกคนเห็นในตอนเช้า ซึ่งแอมไม่ได้มีการเบี่ยงประเด็น หรือไม่ตอบหรืออะไรเลย 

           – ซึ่งทุกคนมีชีวิตส่วนตัวและมีธุระที่ต้องทำอันนี้คือเรื่องปกติ

           – ประเด็นที่ 4 แอมไม่ได้อยากคนโยงเรื่องอื่นมาพูดที่มันไม่ได้เกี่ยวกับประเด็น ขออนุญาตคุยแค่ในขอบเขตเท่านั้น 

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amy Kitiya

           – ประเด็นที่ 5 ที่คนพิมพ์มาบอกว่า ถ้าอินฟลูฯ ท่านอื่นโดนก็ให้เปิดหลักฐานมาเลย

           – หลังจากที่แอมโพสต์ไป ซึ่งแอมไม่ได้บอกว่าแบรนด์อะไร มีอินฟลูฯ หลายท่านทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ก็ทักมาหาหลังบ้านว่าโดนอะไรกันบ้าง 

           –  แอมขออนุญาตไม่หยิบคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

           – แต่สิ่งหนึ่งที่แอมอยากจะพูด จากใจที่เป็นบล็อกเกอร์มา 14 ปี แอมสนับสนุนแบรนด์ไทยมาตลอด แล้วรู้สึกว่า หลาย ๆ แบรนด์ แบรนด์ยักษ์ใหญ่ แบรนด์ Global หรือว่าแบรนด์ไทยหลาย ๆ แบรนด์น่ารักมาก ๆ 

           – แบรนด์ส่งของมาให้เสร็จ เราก็รีวิวให้ แล้วเราก็รีวิวฟรีด้วย เราไม่ได้เรียกร้องเงินอย่างเดียว ไม่งั้นไม่อยู่โตมาถึงทุกวันนี้

           – แต่แบบครั้งนี้ แอมรู้สึกว่ามันแอบเกินขอบเขตไปนิดหนึ่ง 

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amy Kitiya

           – แอมได้มีการสวอตนะรูปลิปไป แล้วก็โพสต์ ซึ่งเป็นงานไม่มีบัดเจ็ต อันนี้เราเข้าใจ แอมใส่เครดิตไปอย่างชัดเจน 

           – มีตัวแทนของทางแบรนด์หลายคนเอารูปไปใช้ในไลฟ์แล้วลบเครดิตออก ซึ่งแอมก็ไม่ได้แคปหลักฐานไว้ ต้องขอโทษด้วย

           – แต่แอมพิมพ์ไปว่า ขอโทษนะคะ ถ้าจะเอารูปไปใช้รบกวนไม่ลบเครดิตออกนะคะ พิมพ์ไป 4-5 ครั้ง เขาก็ไม่ทำอะไรเลย แล้วเราพิมพ์ไปถี่ ๆ เขาก็ลบรูปออก ตรงนี้แอมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยโอเค

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amy Kitiya

           – อีกเรื่องหนึ่ง คือจริง ๆ ถ้าแบรนด์ยากจะร่วมงานกับอินฟลูฯ ตัวเล็กหรือว่าตัวใหญ่ที่ไม่ใช่แอม อยากให้เขาอะให้เกียรติคนอื่นให้มาก ๆ แล้วก็นึกถึงคนอื่น เพราะว่าทุกคนมีต้นทุนค่ะ แบรนด์มีต้นทุน เราก็มีต้นทุนเหมือนกันลองนึกถึงคนอื่นเยอะ ๆ นะคะ 

           – อีกประเด็นคืออยากให้คลิปนี้เป็นคลิปสุดท้ายที่เราจะพูดเรื่องนี้ เพราะว่ามันก็ควรจะต้องแยกย้ายไปทำอย่างอื่น 

           – ตอนนี้ถ้าแอมมีการตอบช้า หรือว่า แอมแบบไม่ได้ตอบทุกคอมเมนต์ แอมต้องขออภัย เพราะเดินทางมาที่จีน อาจจะตอบช้านิดหนึ่ง ขอขอบคุณนะคะทุกท่านที่เข้ามาดูคลิปนี้ แล้วขอให้เรื่องนี้จบเท่านี้นะคะ ขอบคุณค่ะ

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amy Kitiya
ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amy Kitiya
ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amy Kitiya

ซ้อก้าด แจงดราม่าแบรนด์ให้อินฟลูฯ รีวิวฟรี ชี้พูดไม่ตรง แอมมี่ โต้รู้สึกเกินขอบเขต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amy Kitiya

KUBET – ไวรัลแปลก เจอแมงมุมประหลาด มีรูปหน้าคนยิ้มอยู่ด้านหลัง ซูมดูใกล้ยิ่งหลอน

          ประสบการณ์เจอแมงมุมประหลาด มีรูปหน้าคนยิ้มอยู่ด้านหลัง ซูมดูใกล้ยิ่งชวนให้หลอน กลายเป็นไวรัล ก่อนมีผู้รู้มาอธิบายคืออะไร



แมงมุมหน้ายิ้ม
ภาพจาก Reddit

          วันที่ 27 มิถุนายน 2568 เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีผู้ใช้โซเชียลในต่างประเทศได้แชร์คลิปวิดีโอสั้น ๆ ผ่านทางเครือข่ายชุมชนออนไลน์ Reddit และได้กลายเป็นไวรัล เมื่อเขาสามารถบันทึกภาพของสัตว์ตัวหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นแมงมุม แต่ที่หลังของมันกลับมีลักษณะที่แปลกประหลาด คือมีลวดลายคล้ายกับหน้าคนกำลังยิ้ม ชวนให้รู้สึกทั้งประหลาดใจและชวนหลอนในเวลาเดียวกัน

          จากคลิปวิดีโอที่ถูกนำมาโพสต์แสดงให้เห็นว่า แมงมุมตัวนี้มีสีเขียวสว่างสดใสกำลังไต่ไป-มาอยู่ที่รถของเขา เขาจึงใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพ โดยเมื่อสังเกตที่บริเวณด้านหลังของมันดี ๆ จะพบว่าตรงส่วนนั้นมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมสีเหลือง มีรูปคิ้วตาสีดำ และปากยิ้มกว้างสีแดง ราวกับว่ามีคนไปจับวาดให้มัน

          ผู้ใช้โซเชียลรายนี้เขียนข้อความระบุว่า “แมงมุมรูปร่างประหลาดตัวนี้มีหน้ายิ้มอยู่บนหลัง”

แมงมุมหน้ายิ้ม
ภาพจาก Reddit

          หลังจากนั้นไม่นานโพสต์ดังกล่าวก็ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว มีผู้กดโหวตถูกใจให้มากกว่า 75,000 ครั้ง ภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน พร้อมทั้งพากันเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากกว่า 1,600 ครั้ง โดยมีทั้งผู้ที่เข้าแสดงความตกตะลึง และคาดเดาว่ามันคือตัวอะไร

          โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าแมงมุมที่เห็นนี้มีชื่อว่า
Theridion grallator หรือที่รู้จักกันในชื่อ แมงมุมหน้ายิ้ม
เป็นแมงมุมเฉพาะถิ่นของหมู่เกาะฮาวาย อยู่ในตระกูลแมงมุม Theridiidae
ซึ่งรวมถึง แมงมุมแม่ม่ายดำ (Black Widow) ที่เป็นที่รู้จักกันดี
แต่แมงมุมหน้ายิ้มไม่ได้มีพิษร้ายแรงเหมือนแมงมุมสายพันธุ์อื่น ๆ
และไม่เป็นภัยอันตรายต่อมนุษย์ ลักษณะของมันจะมีขนาดเล็ก ยาวประมาณ 1/4
นิ้ว ชอบอาศัยอยู่ใต้ใบไม้

         
โดยส่วนที่เป็นรูปหน้ายิ้มของมันนั้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า
เกิดจากยีนควบคุมรูปแบบสีของสายพันธุ์ที่มีลักษณะเฉพาะของเกาะ
และบางคนเชื่อว่า
ลักษณะพิเศษของแมงมุมชนิดนี้จะช่วยให้พวกมันรอดพ้นจากภัยคุกคาม
รวมไปถึงนักล่าได้ สีของแมงมุมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอาหาร
รวมถึงส่วนที่เป็นรูปร่างและสีของใบหน้านั้นก็จะแตกต่างกันไปด้วย

แมงมุมหน้ายิ้ม
ภาพจาก Reddit

แมงมุมหน้ายิ้ม
ภาพจาก Reddit

แมงมุมหน้ายิ้ม
ภาพจาก Reddit

แมงมุมหน้ายิ้ม
ภาพจาก Reddit

แมงมุมหน้ายิ้ม
ภาพจาก Reddit

ขอบคุณข้อมูลจาก Cornell University

KUBET – รู้จัก เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY จากนักมวย สู่วันทำธุรกิจ ชีวิตไม่ง่าย

 
          รู้จักกับ เชอรี่ อภิชญา CEO สาวแบรนด์ TERRY จากอดีตเคยต่อยมวย ค่าตัว 100 สู่จุดเปลี่ยน สร้างแบรนด์เครื่องสำอางออนไลน์ ไม่ง่ายกว่าจะมาถึงจุดนี้ 



เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY
ภาพจาก Instagram yodcherryceoterry 

              เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสาวเก่งที่หลาย ๆ คนอยากทำความรู้จัก สำหรับ เชอรี่
อภิชญา นุชประไพ ซีอีโอสาววัย 26 ปี ที่พลิกชีวิตจากนักมวยหญิง “ยอดเชอรี่
ศิษย์ยอดธง”
ก้าวมาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
สามารถสร้างแบรนด์สกินแคร์ออนไลน์อย่าง TERRY ได้จนเป็นที่รู้จัก 

              ไม่เพียงแค่ TERRY เท่านั้น แต่ เชอรี่ อภิชญา ยังมีธุรกิจแบรนด์อื่น ๆ ด้วย คือ GALA
CAMLLE และ BENUTRA
อีกทั้งในช่วงที่เธอเริ่มจับธุรกิจใหม่ ๆ
เมื่อหลายปีก่อน เธอยังเคยทำแบรนด์ร่วมกับเพื่อน
ก่อนที่จะแยกตัวออกมาทำแบรนด์ของตัวเอง 

เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY
ภาพจาก Instagram yodcherryceoterry 

เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY
ภาพจาก Instagram yodcherryceoterry 

เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY

ภาพจาก Instagram yodcherryceoterry 

              โดยเมื่อปี 2563
ขณะทำแบรนด์ร่วมกับเพื่อน เชอรี่ เคยเปิดใจเล่าเส้นทางกว่าจะเป็น CEO ว่า
ก่อนหน้าที่จะทำแบรนด์ เธอคือเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นนักมวยอาชีพ
ต่อยมวยมาตั้งแต่ 6 ขวบ ต่อยมวยหาเงินช่วยพ่อมาตั้งแต่เด็ก
ต่อยครั้งแรกได้ค่าตัว 100 บาท ต่อยกับผู้ชาย เธอชนะ แต่เจ็บมาก
ด้วยเลือดนักสู้เธอก็ต่อยมวยไปเรื่อย ๆ จนหาเลี้ยงตัวเองได้
และได้แชมป์หลาย ๆ เส้น เป็นเวลา 14 ปีในการสร้างเส้นทาง จนได้ค่าตัวกว่า 4
แสนบาท 

              แม้จะต้องทนเจ็บ ทนเหนื่อย แต่เธอก็ยังเริ่มทำแบรนด์นี้
พร้อม ๆ กับเรียนไปด้วย คิดย้อนกลับไปยังนึกว่า หรือตัวเองคืออเวนเจอร์
ตอนนั้นต่อยมวยชิงแชมป์โลกแพ้ เธอก็ผิดหวัง เรียนก็ติด F โดนรีไทร์
ชีวิตพังมา แต่ยังดีที่มีแบรนด์ที่ทำไว้ จากนั้นเธอก็ตัดสินใจ
เลือกที่จะทำแบรนด์ และเลิกชกมวย ซึ่งเธอตั้งใจทำแบรนด์มาก ๆ
เพราะถ้าไม่ทำจะไม่มีเงินเลี้ยงตัวเอง
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ผิดหวังในสิ่งที่เลือก ทำให้ภาคภูมิใจว่าตัวเองในวัย 22
ปี ผ่านอะไรมาเยอะมาก ร้องไห้เป็นพันครั้งกว่าจะมีวันนี้ 

เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY
ภาพจาก TikTok @yodcherryceoterry 

              ต่อมาในปี 2567 เชอรี่ อภิชญา ยังเผยคลิปรีวิวช่วงอายุ เทียบกับรายได้ และอาชีพ ดังนี้ 

              อายุ 6 ขวบ รายได้ 100 อาชีพนักมวย
              อายุ 10 ขวบ รายได้ 8,500 อาชีพนักมวย
              อายุ 15 ปี รายได้ 15,000 อาชีพนักมวย
              อายุ 18 ปี รายได้ 180,000 อาชีพนักมวย
              อายุ 20 ปี รายได้ 350,000 อาชีพนักมวย
              อายุ 21 ปี รายได้ 21 ล้าน งาน TERRY
              อายุ 23 ปี รายได้ 30 ล้าน งาน TERRY
              อายุ 24 ปี รายได้ 100 ล้าน งาน TERRY
              อายุ 26 ปี รายได้ XXX ล้าน งาน TERRY, GALA และ BENUTRA

เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY
เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY
ภาพจาก Instagram yodcherryceoterry 
เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY
ภาพจาก Instagram yodcherryceoterry 

เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY
ภาพจาก Instagram yodcherryceoterry 

เชอรี่ อภิชญา CEO แบรนด์ TERRY
ภาพจาก Instagram yodcherryceoterry 

KUBET – เมย์ วาสนา พูดแล้ว สัมพันธ์ จี๋ สุทธิรักษ์ เป็นแฟนกันจริงไหม

KUBET – ดิว อริสรา โอดไม่ถนัด หมอของขวัญ จ้างไลฟ์ใช้หนี้ – เชน ธนา โผล่รับงานทันที

KUBET – ไม่อยู่บ้านปีเดียว โดนติดคอมเพรสเซอร์แอร์ล้อม 12 เครื่อง ร้อนจนเกินทน กระหึ่มทั้งคืน

          หญิงช็อก ไม่อยู่แค่ปีเดียว ระเบียงถูกคอมเพรสเซอร์แอร์ล้อม 12 เครื่อง พบเป็นของร้านค้าชั้นล่าง ดังกระหึ่มทั้งวัน ร้อนอ้าวจนสุดทน 



ปัญหาเพื่อนบ้าน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 25 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานกรณีปัญหาเพื่อนบ้าน เมื่อหญิงรายหนึ่งในเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ไม่อยู่ที่บ้านนานร่วมปีเนื่องจากเหตุผลเรื่องงาน แต่ไม่คิดเลยว่าตอนที่เธอกลับมาอยู่บ้านหลังนี้อีกที จะต้องเผชิญปัญหาทั้งความร้อน ความอับชื้น รวมถึงเสียงดังรบกวน เมื่ออยู่ ๆ ระเบียงนอกบ้านของเธอ ก็ถูกรายล้อมไปด้วยคอมเพรสเซอร์แอร์ ถึง 12 เครื่อง 

          โดย หญิงนามสกุลเหลียง เผยว่า ครอบครัวเธออยู่ที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ต้นยุค 90 จนไม่นานมานี้ เธอย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเพราะเรื่องงานประมาณ 1 ปี ก่อนที่จะกลับมา บ้านของเธอคือห้องที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร ที่บริเวณชั้น 1 เปิดเป็นร้านค้าต่าง ๆ และคอมเพรสเซอร์แอร์เหล่านี้ ก็เป็นของร้านค้าเหล่านั้น 

          คอมเพรสเซอร์แอร์พวกนี้ทำงานทั้งวันทั้งคืน ทำให้ตอนกลางวันมีไอร้อนสะสมมาก และเสียงก็ดังราวกับฟ้าร้องตอนกลางคืน 

          นับตั้งแต่เธอย้ายกลับมาในเดือนมีนาคม ก็พบว่าอากาศในบ้านร้อนและมีความอับชื้นอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะในห้องครัวและห้องนั่งเล่น หากไม่เปิดแอร์หรือพัดลม คนแก่ในบ้านก็จะเหงื่อไหลไม่หยุด 

          สำหรับคอมเพรสเซอร์แอร์ทั้ง 12 เครื่อง ที่ถูกติดล้อมระเบียงบ้านของเธอ เป็นของร้านค้า 4 แห่งที่อยู่ชั้นล่าง โดยในจำนวนนี้มี 10 เครื่อง ที่ถูกนำมาติดตั้งเพิ่มในช่วง 1 ปีที่เธอไม่อยู่ 

          ด้านนักข่าวท้องถิ่นของจีนเข้าไปสำรวจบ้านของนางสาวเหลียง
พบว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ส่งเสียงดังกระหึ่มขณะทำงาน
บางเครื่องถูกติดสูงกว่าขอบผนัง ทำให้บังแสงที่จะส่องเข้ามา
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อเดินเข้าไปในครัว
ก็จะรู้สึกถึงคลื่นความร้อนได้อย่างชัดเจน และในเวลาเพียงไม่ถึง 10 นาที
เสื้อผ้าของนักข่าวก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ 

          ทั้งนี้
ตามกฎข้อบังคับ คอมเพรสเซอร์แอร์ควรติดห่างจากประตู หน้าต่าง
และต้นไม้ใบเขียวให้มากที่สุด
อีกทั้งควรอยู่ห่างจากประตูและหน้าต่างของผู้อื่นไม่ต่ำกว่า 3-4 เมตร 

          อย่างไรก็ตาม
คอมเพรสเซอร์แอร์เหล่านี้ถูกติดไว้ห่างจากบ้านของนางสาวเหลียงไม่ถึง 2
เมตร บางเครื่องห่างไปไม่ถึง 1 เมตรด้วยซ้ำ
จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเธออย่างชัดเจน เรียกว่าตั้งแต่เดือนมีนาคม
ที่ผ่านมา เธอไม่กล้าเปิดหน้าต่างตรงระเบียงเลย 

          “ฉันรู้สึกว่าอากาศร้อนมาก แม้แต่เก้าอี้ยังร้อน จะยืนหรือนั่งก็ไม่สบายเลย” นางสาวเหลียง กล่าว 

          ทั้งนี้
ภายใต้การประสานงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในที่สุดร้านค้าเหล่านี้ก็ยอมที่จะถอดคอมเพรสเซอร์แอร์บางส่วนออก
และบางร้านก็ยอมย้ายตำแหน่ง ให้กระจายออกไปมากขึ้น 

          นางสาวเหลียง
เปิดใจหลังจากนั้นว่า ในที่สุดบ้านของเธอก็เงียบและเย็นลงกว่าเดิม
แต่เธอยังหวังว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ทั้งหมดจะถูกถอดออกไปในอนาคต
โดยเธอเชื่อว่าโครงสร้างระเบียงห้องนั้น
ไม่ได้ถูกคำนวณเผื่อไว้ตอนออกแบบอาคารครั้งแรก
จึงทำให้เกิดข้อพิพาทดังกล่าว 
 

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday 

KUBET – ลูกค้าผงะ เปิดตู้แช่ร้านบุฟเฟต์ได้กลิ่นหอมแปลก ๆ ก่อนเจอที่มาสุดอึ้ง

           ลูกค้าไปร้านบุฟเฟต์ เปิดตู้ของแช่เย็นแล้วได้กลิ่นหอมแปลก ๆ ก่อนพบที่มาชวนอึ้ง งานนี้เห็นแล้วแทบกินต่อไม่ลง  



ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ha Peerapat Jaturong 

           วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ha Peerapat Jaturong โพสต์ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค แชร์ประสบการณ์ชวนตกใจหลังเข้าไปกินร้านบุฟเฟต์แห่งหนึ่ง แต่เมื่อตักอาหารกลับได้กลิ่นหอมผิดธรรมชาติ ก่อนจะพบต้นตอชวนตกใจว่า ร้านใช้ของที่ไม่ควรมาปะปนในอาหารอย่างยิ่ง 

           จากภาพจะเห็นได้ชัดว่าในตู้เก็บของหวานมีเจลปรับอากาศวางอยู่ เจ้าของโพสต์ระบุว่า แจ้งเรื่องกับทางร้านและแคชเชียร์แล้ว โดยท้วงติงว่าการนำเจลปรับอากาศไปใส่ในตู้แช่อาหารนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะกลิ่นของมันได้แทรกซึมเข้าไปในผลไม้และขนมหวานจนไม่สามารถรับประทานได้

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ha Peerapat Jaturong  

           นอกจากนี้ยังเผยว่า ร้านใส่เจลปรับอากาศดับกลิ่นทุกตู้ ไม่เว้นแม้แต่ตู้เนื้อสัตว์ กลิ่นเนื้อในอาหารคงถูกกลบหมด แต่ตอนเปิด กลิ่นเจลปรับอากาศหอมโชย นึกว่าเปิดประตูเข้าห้องน้ำ

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ha Peerapat Jaturong  

           โพสต์นี้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว
หลายคนตั้งคำถามถึงมาตรฐานร้านอาหาร และมองว่าไม่ควรใช้เจลปรับอากาศเพื่อกลบกลิ่นในตู้แช่แบบบุฟเฟต์
เนื่องจากไม่ปลอดภัยกับของกิน หากวางไว้ในตู้แช่อาหารอาจทำให้สารเหล่านี้ซึมเข้าไปในอาหารได้
โดยเฉพาะของหวานหรือผลไม้ที่ดูดกลิ่นได้ง่าย
ซึ่งอาจเสี่ยงต่อสุขภาพลูกค้าได้

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ha Peerapat Jaturong  

           ขณะเดียวกันหลายเสียงแนะนำว่า หากร้านต้องการดับกลิ่นจริง ๆ
ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่ออาหาร เช่น ถ่านดูดกลิ่น
หรือผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับตู้เย็น
ไม่ใช่ใช้เจลปรับอากาศในบริเวณที่มีอาหารเช่นนี้

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่

ร้านบุฟเฟต์ ใช้เจลปรับอากาศ ในตู้แช่

KUBET – ร้านอาหารเปิดใหม่ เจอชายมากินฟรีครึ่งปี เจ้าของไม่ถามเหตุผล แต่บอกให้มาทุกวัน

          เรื่องราวของร้านอาหารเปิดใหม่ เจอชายมากินฟรีครึ่งปี มาเป็นประจำเวลาเดิม เจ้าของไม่รู้เหตุผลและไม่ถาม แต่บอกให้มาทุกวัน



ร้านอาหารให้ชายชรากินฟรีครึ่งปี
ภาพจาก Weibo

          วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวน่าประหลาดใจที่กลายเป็นความอบอุ่นใจจากร้านอาหารแห่งหนึ่งประเทศจีน เมื่อร้านอาหารแห่งนี้เพิ่งเปิดมาได้ราวครึ่งปี แต่กลับมีชายรายหนึ่งมานั่งกินอาหารฟรีที่ร้านทุกวันตั้งแต่ร้านเปิด เข้ามานั่งกินเงียบ ๆ แล้วก็ออกจากร้านไปเงียบ ๆ โดยที่ทางเจ้าของก็ไม่รู้เหตุผล แต่กลับยังคงเตรียมอาหารให้เขาคนนี้กินเช่นเดิม

          เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เผยว่า เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ได้เปิดร้านร่วมกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ในขณะนั้นมีชายสูงอายุรายหนึ่งได้มานั่งกินอาหารที่ร้านโดยไม่มีเงินจ่าย ทว่าทางเจ้าของร้านไม่ปฏิเสธ ตรงกันข้ามกลับบอกว่า “ไม่เป็นไร อยากกินก็มาตอนไหนก็ได้”

          หลังจากนั้นในทุกวันตอนเวลาประมาณ 16.00 น. ชายรายนี้จะปั่นจักรยานของเขามาที่ร้านแล้วเดินเข้าไปในร้าน ทางเจ้าของร้านจะเตรียมข้าว 1 ชาม ผสมกับกระเทียมสับและซีอิ๊วขาววางเอาไว้ให้เขา เขาก็จะไปนั่งกินอยู่ในมุมเงียบ ๆ ของเขาคนเดียวไม่วุ่นวายกับใคร หลังจากกินเสร็จเขาก็จะออกจากร้านไปอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน และเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทุกวันมานานกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา

ร้านอาหารให้ชายชรากินฟรีครึ่งปี
ภาพจาก Weibo

          ทางเจ้าของร้านเปิดใจ กล่าวว่า “ตราบใดที่ชายผู้นี้มา นั่นหมายความว่าร้านยังเปิดอยู่” โดยตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เธอไม่ได้พูดคุยหรือถามอะไรเขามากนัก จึงไม่รู้สาเหตุหรือสถานการณ์ของเขาที่แน่ชัด

          อย่างไรก็ดี เมื่อไม่กี่วันก่อนอยู่ ๆ ชายคนนี้ก็หายไป ซึ่งทำให้เธอสับสนและเป็นกังวลใจมาก หากเขากลับมาอีกครั้งก็ตั้งใจจะถามไถ่ แต่ไม่อยากจะก้าวก่ายชีวิตของเขามากแค่จะถามว่า “ช่วงนี้คุณไม่สบายหรือเปล่า ทำไมไม่มา” แต่ถ้าเขาไม่มาอีก เธอก็หมดหนทาง ได้แต่หวังว่า “เขาจะกินอาหารได้และมีสุขภาพดี”

          หลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไปบนโลกออนไลน์
หลายคนก็เกิดประหลาดใจและเกิดคำถามมากมาย บางรายสงสัยว่า
เป็นการจัดฉากที่ทางร้านสร้างขึ้นมาเองหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าของร้านได้ปฏิเสธ
โดยกล่าวว่า ถ้าเธอต้องการโปรโมตร้านเช่นนี้ เธอคงต้องทำทุกวัน
แต่เธอไม่ได้ทำ และหลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป
ร้านของเธอก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่นัก
เธอแค่ต้องการแบ่งปันพลังบวกให้และอยากให้คนใส่ใจผู้สูงอายุมากขึ้น

          เจ้าของร้านเผยว่า
ชายสูงอายุคนนี้ทำให้เธอคิดถึงครอบครัวและพ่อของเธอ กล่าวว่า
“หากวันหนึ่งฉันหมดความสามารถแล้ว
และเรื่องอาหารการกิน..กลายเป็นปัญหาของครอบครัวฉัน
ฉันจะรู้สึกขอบคุณมากหากมีคนใจดีที่คอยให้ความอบอุ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ แก่ฉัน”

ร้านอาหารให้ชายชรากินฟรีครึ่งปี
ภาพจาก Weibo

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

KUBET – สุนารี ราชสีมา ขายผัก เปิดรายได้ ขายได้เท่าไรแล้ว สิ้นปีจะชัดเจน