KUBET-ข่าว สาระ บันเทิง วาไรตี้

           วิสามัญคาที่ 1 ศพ คนร้ายลักทรัพย์ หลัง 2 คนรวมหัวลักรถจักรยานยนต์ ขัดขืนการจับกุม ชักปืนยิงสู้ตำรวจ

ภาพจาก ศูนย์ อปพร.เขตสายไหม

          วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 BRIGHT TV รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้าย 2 คน ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ เมื่อเจ้าหน้าที่พยายามเข้าจับกุม พบว่าคนร้ายพยายามขับรถหลบหนีตำรวจ และใช้อาวุธปืนต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ โดยเหตุเกิดภายในซอยวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพ

ภาพจาก ศูนย์ อปพร.เขตสายไหม

          ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.คันนายาว
จึงทำการวิสามัญคนร้าย 1 ราย เป็นคนที่ซ้อนท้าย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
โดยบริเวณที่เกิดเหตุพบปืนไม่ทราบชนิด 1 กระบอก และรถของกลางที่ถูกขโมยมา
เบื้องต้นอยู่ระหว่างรอผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูล
และส่งมอบให้ผู้เกี่ยวข้องต่อไป

ภาพจาก ศูนย์ อปพร.เขตสายไหม

ภาพจาก ศูนย์ อปพร.เขตสายไหม

ขอบคุณข้อมูลจาก BRIGHT TV

          หนุ่มขับรถมาเที่ยวต่างเมือง จอดรถทิ้งไว้ 3 วัน กลับมาอีกทีเข่าทรุด ช็อกสภาพรถขาวทั้งคัน ต้องหมดเงินเกือบพัน ชาวบ้านเผยสาเหตุ คนในเมืองไม่จอดกันตรงนี้

ภาพจาก Weibo

          เป็นปัญหากวนใจที่เจ้าของรถหลาย ๆ คนเคยพบเจอ หลังจอดรถทิ้งไว้กลางแจ้งแล้วถูกนกขี้ใส่ ซึ่งหากเป็นรอยเล็ก ๆ และล้างออกได้ทันก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่สำหรับสิ่งที่ชายคนหนึ่งต้องเผชิญเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เขาถึงกับเข่าทรุดเมื่อได้เห็นสภาพรถของตัวเอง

          โดยเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า ไม่นานมานี้ชายคนหนึ่งเพิ่งจะเดินทางไปเที่ยวที่เมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน และเจอจุดจอดรถว่าง ๆ อยู่ริมถนน จึงจอดรถทิ้งไว้ที่นั่นขณะไปเที่ยวเล่นในเมือง แต่เขาไม่คิดเลยว่าตอนกลับมาที่รถอีกครั้งในอีก 3 วันต่อมา ภาพตรงหน้าจะทำให้เขาช็อกหนัก เข่าแทบทรุด เพราะสภาพรถของเขาเต็มไปด้วยขี้นกทั่วทั้งคัน ราวกับมีคนนำฟิล์มสีขาวหนา ๆ มาเคลือบไว้

ภาพจาก Weibo

          เห็นแบบนี้เจ้าของรถก็ไม่รู้จะทำยังไง ยอมรับว่าเขาต้องหมดเงินไปถึง 200 หยวน (ราว 900 บาท) เป็นค่าล้างรถ และกล่าวว่า “นี่มันเสียหายมากจริง ๆ ครั้งหน้าผมจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว”
 
         
ด้านชาวบ้านในพื้นที่เมื่อทราบข่าว ก็ถึงกับหัวเราะ
บอกว่าในตอนกลางคืนมักจะมีกลุ่มนกนางแอ่นจำนวนมาก มารวมตัวกันอยู่ใกล้ ๆ
จุดจอดรถดังกล่าว ชาวบ้านจึงไม่มีใครนำรถไปจอดที่นั่น
แต่นักท่องเที่ยวที่มาจากนอกเมืองนั้นไม่รู้ จึงมักตกเป็นเหยื่อเสมอ

ภาพจาก Weibo

          ขณะที่ชาวเน็ตเห็นสภาพรถของชายคนนี้ บ้างก็เข้ามาคอมเมนต์ เช่น “ขนมคงไม่ตกลงจากฟ้า แต่ขี้นกตกลงมาแน่นอน” และ “นายจอดรถไว้ใกล้ ๆ ส้วมของคนอื่นนะ”
 
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ SaharaReporters รายงานกรณีช็อกที่เกิดขึ้นในประเทศไนจีเรีย เมื่อแม่รายหนึ่งทิ้งลูก ๆ 3 คนไว้ที่บ้าน และเดินทางไปโบสถ์ที่อยู่ห่างออกไปราว 70 กิโลเมตรเพื่อเตรียมตัวสอบ แต่เมื่อกลับมาบ้านอีกครั้งกลับพบภาพใจสลาย ลูกชายวัย 5 ขวบ กับลูกสาววัย 7 และ 9 ขวบ ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม และซ่อนศพไว้ในตู้แช่แข็ง

          ตอนนั้นเองที่เพื่อนบ้านเล่าว่า มีคนแปลกหน้า 2 คนบุกเข้ามาที่บ้านของเธอ และก็เห็นลูกของเธอกลับมาที่บ้านแล้วหลังออกไปซื้อของ ได้ยินแบบนั้นแม่จึงรีบกลับไปตามหาลูกที่บ้านทันที กระทั่งพบภาพที่ทำให้ใจแม่แหลกสลาย

          ด้าน นายอีเจซี พ่อของเด็ก เผยว่า ตอนที่เกิดเหตุนั้นเขาทำงานอยู่นอกบ้าน และเพิ่งทราบเรื่องเมื่อภรรยาโทรศัพท์มาแจ้งข่าวร้าย เธอเล่าว่าหลังจากที่ตัวเองกับคนอื่น ๆ ค้นหาเด็กไปทุกที่ก็ยังไม่พออะไร ด้วยความสิ้นหวังพวกเขาจึงลองเปิดตู้แช่แข็งที่บ้านดู และพบว่ามีศพของเด็ก ๆ อยู่ในนั้น

          ทั้งนี้ คาดว่าฆาตกรน่าจะบุกเข้ามาตอนเที่ยง ช่วงที่เด็กทั้ง 3 คนกำลังกินอาหารกัน เนื่องจากยังพบร่องรอยอาหารอยู่ในจาน ในลักษณะที่คล้ายกับยังกินไม่เสร็จ

          ขณะนี้ทางตำรวจได้นำศพของเด็กทั้ง 3 คนไปไว้ยังห้องเก็บศพแล้ว และกำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางตำรวจยังไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร หรือมีแรงจูงใจอะไรในการก่อเหตุ แต่คาดว่าพ่อแม่ของเด็กรวมถึงเพื่อนบ้าน ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุฆาตกรรมนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก SaharaReporters , Sinchew

           หญิงลงโมเมนต์ซึ้ง ชิมเมนูสุดท้ายของสามีผู้ล่วงลับ หลังเก็บแช่แข็งไว้ 2 ปี กลั้นน้ำตาสัมผัสรสชาติที่จดจำได้ดี

ภาพจาก TikTok @sabfortony 

           วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568
เว็บไซต์ฮินดูสถานไทม์ส รายงานว่า หญิงสาวคนหนึ่งลงคลิปชวนซาบซึ้งใจ
เมื่อเธอนั้นตัดสินใจนำเมนูแกงกะหรี่ที่สามีผู้ล่วงลับทำเอาไว้ให้เป็นมื้อสุดท้ายออกมากิน
หลังจากเก็บแช่แข็งมื้อนี้เอาไว้อย่างดีเป็นเวลา 2 ปี

          
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับ ซาบริน่า
เธอลงคลิปแชร์โมเมนต์ตื้นตันใจผ่านโลกโซเชียล แคปชั่นว่า
“มาชิมเมนูสุดท้ายของสามีของฉันไปพร้อมกัน” โดยเล่าว่า
ทุกครั้งที่เธออยากกินอะไร โทนี่ ผู้เป็นสามี ก็จะทำให้กินเสมอ
เขาทำหน้าที่ทำอาหารหลักในบ้าน มื้อสุดท้ายของเขาคือเมนูแกงกะหรี่
ซึ่งเธอนั้นแบ่งไปแช่แข็งไว้ หวังว่าจะเก็บรักษามันไว้ตลอดไป

 

          
อย่างไรก็ดี เมื่อถึงคราวที่จะต้องย้ายบ้าน ซาบริน่า
จึงตัดสินใจนำเมนูสุดท้ายของสามีออกมากิน หลังเก็บรักษาไว้นานกว่า 2 ปี
โดยบางช่วงถึงกับกลั้นน้ำตาด้วยความคิดถึงสามี โดยเธอนั้นกล่าวว่า
ขอบคุณโทนี่สำหรับอาหารมื้อสุดท้ายในบ้านหลังนี้

          
หลังจากนำมาอุ่นใหม่ ซาบริน่า ได้ลองชิมแล้วเผยว่า
มันยังคงมีรสชาติเหมือนที่เธอคุ้นเคย แม้ผักต่าง ๆ จะสภาพไม่สดใหม่
แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันอร่อยมาก ๆ พร้อมกับระบุข้อความว่า
ฉันจะคิดถึงอาหารที่เขาทำตลอดไป

          
คลิปดังกล่าวสร้างความตื้นตันใจให้กับผู้คนในโลกออนไลน์
จนมียอดเข้าชมมากกว่า 5 ล้านครั้ง
โดยมีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยต่างเข้าใจถึงความรู้สึกของการได้กินอาหารจากคนที่เรารัก
หลายคนเห็นคลิปแล้วต่างสัมผัสได้ถึงความรักของเธอซึ่งมีต่อสามีเช่นกัน
เป็นเรื่องราวน่าเศร้าที่งดงามอย่างแท้จริง
           

ภาพจาก TikTok @sabfortony 

ภาพจาก TikTok @sabfortony 

ขอบคุณข้อมูลจาก Hindustan Times  

 

 
             ศาลยกฟ้อง ตู้ห่าว – อดีตภรรยา พร้อมพวกรวม 19 คน คดีอาชญากรข้ามชาติ ฟอกเงินและยาเสพติด ชี้พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักไม่พอ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai PBS News

ภาพจาก ข่าวช่องวัน

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้

          ชอตพีค เปิดอดีต พีม เคยไว้ผมยาว เผ่านมงู เจอเล่าแบบเห็นภาพ เอางูถูหลังคนรู้จัก ทำโซเชียลฮือฮา เผ่านมงู คืออะไร

ภาพจาก โหนกระแส

          เป็นประเด็นร้อนในสังคมขณะนี้ กับกรณี พีม แก๊ง LGBTQ+ ก่อเหตุสาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง พร้อมทำร้ายร่างกายและข่มขู่ ซึ่งต่อมามีเหยื่อออกมาแสดงตัวและเข้าแจ้งความหลายราย รวมถึงมาออกรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 เพื่อพูดคุยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงวีรกรรมในอดีต

          อย่างไรก็ตาม ช่วงหนึ่งของรายการที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือเรื่องราวของ “เผ่านมงู” ซึ่งผู้ร่วมรายการที่เป็นกลุ่มผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในอดีตพีมเคยแต่งหญิง ไว้ผมยาว ทำหน้าอก เป็นสาวประเภทสอง ก่อนที่จะเอาหน้าอกออก อยากเป็นเกย์ เพราะเป็นกะเทยแล้วไม่รุ่ง

ภาพจาก โหนกระแส

          จากนั้น นะนาย ยังเล่าว่าตัวเองเคยรู้จักกับพีม เคยไปอยู่ด้วยกันกับเขา ก็นอนด้วยกันแบบไม่ได้มีซัมติงอะไรเพราะตนมีแฟนอยู่แล้ว ตอนนั้นก็อยู่กับแบบพี่ แบบเพื่อนปกติ เพราะยังไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่กลายเป็นว่า พีม ได้เอาอวัยวะเพศที่แข็งปึ้งมาถูหลังของตน พอเกิดเหตุการณ์นั้นเลยทำให้ตนเริ่มรับไม่ได้ ก็เลยออกมา แต่ตอนนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเพราะตนไม่ได้มีเรื่องเงินอะไรกับเขา ออกมาได้โดยไม่มีปัญหา

ภาพจาก โหนกระแส

ภาพจาก โหนกระแส

          นะนาย ยังเล่าถึงช่วงเวลานั้นว่า “พีมเอาอวัยวะเพศ แข็ง ๆ อะ
มาถูหนู เอางูอะค่า ถูข้างหลังหนูเลย นอน ๆ เนี่ย อย่างงี้เลย
ตอนนั้นเค้ายังผมยาวอยู่ด้วย เผ่านมงูค่า หนูเลยแบบว่าพูดดีกว่า
เพราะหนูก็เป็นคนโดนเหมือนกัน”

         
จุดนี้ทำเอาผู้ร่วมรายการถึงกับตะลึง เช่นเดียวกับ หนุ่ม กรรชัย
ที่ยังทำท่าชี้จุดบริเวณหลังที่น่าจะโดนถูให้ได้เห็นภาพกัน
ซึ่งเหตุการณ์นี้เองที่ทำเอาผู้ชมหลายคนสงสัย กับศัพท์คำว่า “เผ่านมงู” ที่หลายคนไม่รู้จัก

ภาพจาก โหนกระแส 

 
เผ่านมงู คืออะไร

          สำหรับ
เผ่านมงู เป็นศัพท์ที่มักใช้เรียกกลุ่ม LGBTQ
ที่ผ่านการศัลยกรรมหน้าอกมาแล้ว ทำให้มี “นม” เหมือนผู้หญิง
แต่ขณะเดียวกันยังคงมี “งู” ซึ่งหมายถึงอวัยวะเพศชาย
ที่บางคนเลือกจะเก็บไว้ ยังไม่ได้ผ่านการแปลงเพศ
ทำให้มีทั้งนมและงูในคนเดียวกันนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส

          เด็กนักเรียน วัย 8 ขวบ ถูกครูวัย 40 ปี แทงเสียชีวิตที่โรงเรียน ประวัติเคยลาเพราะป่วยซึมเศร้า เพิ่งกลับมาสอนช่วงปลายปี

         วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ CBS NEWS รายงานว่า เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกาหลีใต้ หลังมีครูหญิงวัย 40 ปี ก่อเหตุแทงเด็กนักเรียน วัย 8 ขวบ เสียชีวิตที่โรงเรียน

         เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองแทจอน เด็กนักเรียนหญิงวัย 8 ขวบ เสร็จสิ้นการเรียนที่โรงเรียนประถม และเตรียมไปเรียนพิเศษวิชาศิลปะแบบส่วนตัวที่อีกโรงเรียนในเวลา 16.40 น. แต่ต่อมาพ่อกับแม่เด็กกลับพบว่าเด็กไม่ได้ไปเรียนพิเศษแต่อย่างใด จึงทำการแจ้งให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ

         เมื่อสอบถามไปที่โรงเรียน ได้ตรวจสอบพบว่ามีความผิดปกติที่ห้องโสตฯ บนชั้น 2 ของอาคาร คาดว่ามีคนติดอยู่ด้านในห้องดังกล่าว ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบภายในห้องนั้น ด้านในพบครูและนักเรียนนอนอยู่บนพื้น เด็กอยู่ในสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยมีรายงานว่าเด็กมีบาดแผลถูกแทงที่คอและบริเวณใบหน้า  

         หลังเกิดเหตุ ครูรายดังกล่าวถูกควบคุมตัว
โดยพบว่ามีบาดแผลถูกแทงที่คอและแขน คาดว่าเกิดจากการพยายามทำร้ายตัวเอง
จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้ครูเคยพักการสอนไปเนื่องจากมีอาการซึมเศร้า
และเพิ่งกลับมาสอนอีกครั้งช่วงปลายปี 2567 อย่างไรก็ดี
มีรายงานว่า ครูผู้ก่อเหตุไม่ได้รู้จักกับเด็กหญิงที่เสียชีวิตแต่อย่างใด

        
เบื้องต้น ครูหญิงให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุฆาตกรรมเด็กวัย 8 ขวบ
โดยเจ้าหน้าที่ส่งตัวครูรายนี้ไปรักษาบาดแผล
ก่อนเตรียมสอบปากคำโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจในในภายหลัง
ส่วนโรงเรียนได้ปิดการเรียนการสอนชั่วคราวหลังเกิดเหตุ

ขอบคุณข้อมูบจาก CBS NEWS, Korea Joongang Daily

ภาพจาก X @RedSkullxxx

          วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand รายงานว่า เมื่อเวลา 23.45 น. วานนี้ (10 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุมีรถประจำทาง สาย 167 เสียหลักปีนสลิงสายกราวด์ยึดเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณแยกมไหสวรรย์ ทิศทางมุ่งหน้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ติดห้อยอยู่เช่นนั้น ไม่สามารถลงมาได้ จึงประสานอาสาสมัครกู้ภัย พร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

          ในที่เกิดเหตุ พบรถประจำทางปรับอากาศ สาย 167 สีส้ม ทะเบียน 16-8442 กรุงเทพมหานคร หมายเลขข้างรถ 4-26 (17) เส้นทาง เคหะพระรามที่ 2 – สวนลุมพินี อยู่ในลักษณะยกตัวล้อพ้นจากพื้นทั้ง 4 ล้อ โดยมีขากระจกมองข้างด้านซ้ายเกี่ยวอยู่บนสลิงสายกราวด์ยึดเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่ ไม่สามารถเคลื่อนตัวไปไหนได้ ติดคาห้อยตัวอยู่แบบนั้น แต่เคราะห์ดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และไม่ส่งผลกระทบการจราจร เนื่องจากเป็นช่วงกลางดึกที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนน้อย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand

          ด้าน นางสาวอภินญา อายุ 34 ปี พนักงานขับรถเมล์ เผยว่า ตนขับลงมาจากสะพานกรุงเทพแล้วจะเลี้ยวโค้งมาเพื่อเข้าถนนจอมทอง แต่ในจุดนี้มีน้ำมันอยู่บนพื้น ทำให้ล้อรถลื่น จนควบคุมรถไม่อยู่ เสียหลักปีนกับสลิงดังกล่าว โดยตอนเกิดเหตุมีผู้โดยสารอยู่บนรถ 3 คน เนื่องจากเป็นรถเที่ยวสุดท้าย ก่อนเข้าอู่ ผู้โดยสารทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บ

          ทั้งนี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เข้าดำเนินการเคลื่อนย้ายรถเมล์คันดังกล่าว และจากการตรวจสอบบริเวณเสาไฟ ไม่พบความเสียหาย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand