5,145อ่าน
KUBET – โอปอล สุชาตา เปิดภาพครอบครัวอีกครั้ง กับแคปชั่นหัวใจสีขาว อบอุ่นมาก
KUBET – อีเจี๊ยบ เลียบด่วน เล่าประสบการณ์อยู่ไอซียู 20 วัน กลายเป็นโรคอะไร
อีเจี๊ยบ เลียบด่วน คัมแบ็ก เล่าเหตุการณ์กินน้ำเยอะ กับ อาหารรสจัด ทำให้อยู่ไอซียูถึง 20 วัน จากโรครุมเร้า เตือนดูแลสุขภาพด้วย

วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เฟซบุ๊ก อีเจี๊ยบ เลียบด่วน มีการโพสต์อัปเดตเรื่องราวชีวิต หลังจากหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้โพสต์ถี่เหมือนแต่ก่อน มีรายละเอียดเรื่องราวดังนี้
อีเจี๊ยบกลับมาผงาดแล้วโว้ย
กราบสวัสดีแทบเท้าลูกเพจทุกท่าน อีเจี๊ยบกลับมาแล้ว หลังจากหายไปนาน คิดถึงมาก ๆ
ผมรู้สึกตื่นเต้นกับโพสต์นี้เป็นพิเศษ หลายคนคงอยากรู้ว่าที่ผ่านมามันหายไปไหน ทำอะไร ปิดเพจมั้ย จะกลับมารึป่าว หรือโกอินเตอร์ไปแล้ว 5555
โพสต์นี้ผมจึงอยากมาเล่าเรื่องราวระหว่างที่ผมหายไป บอกก่อนนะโพสต์นี้ยาวมาก ถ้าใครโควต้าไม่เกิน 8 บรรทัด ผมแนะนำให้ไปอ่านประโยคบอกรักที่ท่อนสุดท้ายได้เลย 5555
เรื่องมันเริ่มมาจากกันยายนปีที่แล้ว ผมมีอาการหายใจไม่เต็มปอด หายใจไม่อิ่ม ตอนแรกคิดว่าน่าจะมาจากอาการกรดไหลย้อนที่เคยเป็นบ่อยๆ (คิดเองเออเองตามประสาคนไม่ใส่ใจสุขภาพ 555)
จนถึงวันที่สอง เริ่มหายใจไม่ออกต้องหายใจทางปาก นอนราบไม่ได้ รู้สึกเหนื่อยตลอดทั้งคืน
จนเช้ามาคิดว่าไปโรงบาลขอยามากินสักกะหน่อย พอไปถึงผมถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน พร้อมกับอุปกรณ์และเครื่องมือขนาดใหญ่สารพัดที่ถาโถมเข้ามา (นึกว่ามาขุดเจาะบ่อน้ำมัน) 5555
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง พยาบาลก็มาพร้อมกับคำตอบที่ว่าผมเป็น “น้ำท่วมปอด” แต่! มันยังไม่ได้หมดแค่นั้น สาเหตุของน้ำท่วมปอดที่แท้จริงคือเส้นเลือดหัวใจตีบสามเส้น ต้องทำบอลลูนเส้นเลือดหัวใจ
โดยคุณหมอวินิจฉัยว่าจะทำบอลลูนแค่สองเส้นเท่านั้น อีกหนึ่งเส้นที่หลือมันเล็ก น่าจะใช้กินยารักษาไป
เริ่มต้นการรักษาด้วยการทำบอลลูนหนึ่งเส้นก่อน หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนจึงกลับมาทำอีกหนึ่งเส้น และมีการติดตามอาการทุก ๆ หนึ่งเดือน
หลังการรักษาเสร็จสิ้น ผมกลับมาใช้ชีวิตลั้ลลาได้อย่างคนปกติ โดยไม่ได้คิดเลยว่าหายนะแห่งการใช้ชีวิตกำลังจะมาเยือน
หลังจากการทำบอลลูนเส้นที่สองได้สามเดือน ผมกลับมามีอาการแบบเดิมคือหายใจไม่เต็มปอด นอนราบไม่ได้ และขาบวมมาก
สรุปก็คือ เข้า icu “น้ำท่วมปอด” มันกลับมาอีกแล้ว อาจจะด้วยมาจากสาเหตุที่ว่าหัวใจยังเต้นผิดจังหวะ และผมเองก็เป็นคนกินอาหารรสจัดและกินน้ำเยอะ มันเลยเข้ากันได้ดีระหว่างโรคหัวใจกับพฤติกรรมที่ผมเป็น 5555
ออกจากโรงบาลรอบนี้ ผมตั้งปณิธานว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่เป็น “นิวเจี๊ยบ” งดเค็ม งดอาหารรสจัด ดื่มน้ำแบบจำกัด ด้วยอาหารมื้อแรกที่ออกจากโรงบาลคือ
“ซูชิและซาซิมิ” 55555
หลังจากการเข้า icu รอบนี้ผมก็มีอาการน้ำท่วมปอดบ่อย ๆ น้อยบ้าง
มากบ้าง พอเริ่มมีอาการก็จะควบคุมอาหารและจำกัดน้ำ
ไม่กี่วันอาการก็จะหายไปเอง จนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมมีอาการแบบเดิมคือ
ขาบวมมาก หายใจไม่อิ่ม นอนราบไม่ได้
คิดว่างดอาหารรสจัด จำกัดน้ำแบบเดิม ใช้ระบบซ่อมแซมตัวเองเดี๋ยวก็หาย จึงไม่ได้ไปหาหมอ
ปล่อยให้เวลาผ่านล่วงเลยไปเกือบหนึ่งเดือนจนรู้สึกว่าขาบวมแดงผิดปกติ
และคนรอบข้างบอกว่าผมเริ่มมีอาการมึน ๆ อึน ๆ งง ๆ จึงจับผมไปหาหมอ
ไปถึงโรงพยาบาลคุณหมอจับแอดมิต
วันแรกคุณหมอแจ้งว่ามีอาการน้ำท่วมปอดแบบทุกครั้งที่เคยเป็น
จนเข้าวันที่สองผมเริ่มมีไข้ หนาวสั่น ไอไม่หยุด รู้สึกคลื่นไส้
เหมือนจะอาเจียน เกือบครึ่งชั่วโมง
คนที่บ้านบอกว่าตอนนั้นผมเริ่มไม่รู้สึกตัวแล้ว
และหลังจากนี้จะเป็นเรื่องราวที่ผมจำอะไรไม่ได้อีกเลย (คนที่บ้านเป็นคนเล่าให้ผมฟังทั้งหมด)
คืนแรกของการเข้า
icu หมอได้เอกซเรย์ปอดเจาะเลือด และเช็คค่าต่าง ๆ ในร่างกาย
ผลที่ได้ออกมาเหมือนผมถูกรางวัลแจ็กพอต
คือนอกเหนือจากหัวใจที่ยังเต้นผิดจังหวะ และกล้ามเนื้อหัวใจขยาย
ยังมีภาวะไตวาย ค่าตับสูง และติดเชื้อในกระแสเลือด
ตลอด 20 วันที่อยู่ใน icu ผมแทบไม่ได้สติ
รับรู้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จนตอนนี้ผ่านมาหนึ่งเดือน รักษาตัวจนดีขึ้นแล้ว ที่เล่ามาทั้งหมดแค่อยากจะบอกทุกคนว่า
“รักษาสุขภาพให้ดี” อย่าคิดว่าเกิดมาทั้งทีอยากทำอะไรก็ทำ
อยากกินอะไรก็กิน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่ ให้ไปตรวจสุขภาพก็ไม่ไป
เพราะไม่ตรวจเท่ากับ…….ไม่เป็นอะไร (ผมรู้หลายคนคิดก็เหมือนกัน) 55555
สุดท้ายแล้วการที่คุณป่วยมันไม่ใช่แค่คุณที่เจ็บ
แต่คนรอบข้างที่รักคุณเค้าเจ็บกว่าที่ต้องมองดูคุณป่วยโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้
พวกคุณอาจจะอยากบอกว่า “ไม่เอาดิเจี๊ยบ ไม่เสือกสิ” แต่ถ้าการเสือกของผมจะช่วยเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตได้บ้าง ก็ยินดี
ผมอีเจี๊ยบ
เลียบด่วน ขอขอบคุณ คุณหมอ คุณพยาบาล ทุกท่านที่ดูแลผมเป็นอย่างดี
และที่ลืมไม่ได้จริงๆผมขอขอบคุณพี่ หนุ่ม กรรชัย
ที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจ โดยที่ไม่สมน้ำหน้าและแอบสาปแช่ง ขอบคุณจริง ๆ
ครับ
สุดท้ายจริง ๆ ผมหวังให้ลูกเพจทุกคนมีสุขภาพกายและใจที่ดี จะได้อยู่คุยเล่นกันไปแบบนี้นาน ๆ
ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของผมจนจบ
อดีตช่างมัน ปัจจุบันรักษาสุขภาพนะ
ผมรักพวกคุณทุกคน

KUBET – ดราม่า คิวเท โอ็ปป้า ตั้งใจช่วยซื้อลอตเตอรี่ แต่เจอจัดหนัก ชุด 10 ใบ 3,900 มีอีกจุดเอ๊ะ
KUBET – แม่ปลอมเป็นลูกสาว หลอกหนุ่ม ๆ นาน 10 ปี เผยคลิปเสียงเด็ดมัดตัว
หญิงสุดช้ำ แม่แท้ ๆ แอบสวมรอยใช้รูปหลอกผู้ชาย จนอีกฝ่ายเดือดขู่ฆ่าลูกสาว เปิดคลิปต้นตอที่หลายคนหลงเชื่อ แม่ปลอมเสียงเหมือนสาวมาคุยเอง

ภาพจาก โหนกระแส
วันที่ 23 มิถุนายน 2568 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า เกิดกรณีน่าตกใจขึ้นอีกครั้ง คุณน้อยหน่า ซึ่งโพสต์คลิปลง TikTok ระบายความในใจว่า เธอถูกแม่แท้ ๆ นำรูปภาพไปใช้สร้างโปรไฟล์ปลอม เพื่อพูดคุยกับผู้ชายหลายรายผ่านโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook, LINE, TikTok และ Instagram
คุณน้อยหน่าเล่าว่า เรื่องนี้ดำเนินมานานกว่า 10 ปี แต่เพิ่งมาทราบความจริงเมื่อไม่นานมานี้ โดยแม่ใช้รูปเธอในการสวมรอยแชตในเชิงชู้สาว บางรายถึงขั้นโอนเงินมาให้จำนวนมาก และที่รุนแรงคือเธอถูกขู่ทำร้าย ทั้งที่ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับเรื่องใดเลย อย่างไรก็ดี พอจับได้ แต่แม่กลับไม่ยอมรับผิด ซ้ำยังโยนความผิดให้เธอว่าเธอเป็นคนคุยเอง จนเธอโดนผู้ชายคนหนึ่งขู่ฆ่า
หนึ่งในคนที่แม่แอบอ้างรูปเธอไปคุย เขาเดินทางมาที่บ้าน นำของฝากมาให้กับแม่ และฝากให้ถึงเธอ ซึ่งทำให้เธอเริ่มรู้สึกแปลก ๆ จึงพยายามสืบหาความจริง จนพบว่าผู้ชายเหล่านี้เข้าใจผิดว่าตนเป็นคนที่พวกเขาคุยด้วยมาตลอด

ภาพจาก โหนกระแส
จุดเริ่มต้นเอะใจกับพฤติกรรมของแม่
ในวันวาเลนไทน์ปี 2563 แม่ได้ชวนเธอออกไปกินข้าว อ้างว่าจะพบลูกค้า แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าผู้ชายคนนั้นมอบช่อดอกไม้ให้เธอ และโพสต์ภาพลง TikTok พร้อมแคปชั่นหวานซึ้ง ทำให้เธอเริ่มตั้งข้อสงสัยอย่างจริงจัง
เธอเริ่มติดต่อผู้ชายบางรายเพื่ออธิบายความจริง หนึ่งในนั้นคือ “คุณสอง” (นามสมมติ) ซึ่งคุยกับแม่เธอมานานกว่า 5 ปี โดยเข้าใจมาตลอดว่าคุยกับเธอ และถึงขั้นพูดคุยกันเรื่องแต่งงาน คุณสองถึงกับตกใจ และตัดสินใจถอยห่างทันทีหลังรู้ความจริง ทำให้แม่ไม่พอใจและโกรธเธออย่างรุนแรง
คุณน้อยหน่ายืนยันว่า เคยขอร้องแม่ให้หยุดพฤติกรรมนี้หลายครั้ง แต่แม่ยังคงไม่ยอมหยุด และยังคงใช้รูปของเธอคุยกับผู้ชายหลายราย รวมแล้วมากกว่า 10 คน

ภาพจาก โหนกระแส
เผยปมสุดทน จับได้แต่แม่ไม่หยุด อีกฝ่ายไม่เชื่อว่าโดนหลอก เดือดถึงขั้นตามขู่ฆ่า
หนึ่งในเคสที่รุนแรงที่สุด คือผู้ชายชื่อแจ็ค ซึ่งโอนเงินมากว่า 100,000 บาท โดยไม่รู้ว่าคุยกับแม่ของเธออยู่ เธอพยายามอธิบายว่า ตัวเองไม่ใช่คนรับเงิน แจ็คจึงสอบถามไปยังแม่ของเธอ ทำให้แม่ไม่พอใจอย่างหนัก และเกิดเหตุการณ์รุนแรงตามมา
เมื่อเธอขอให้น้องชายช่วยพูดคุยกับแม่ กลับกลายเป็นเหตุการณ์ปะทะคารมหนัก แม่มีอาการคลุ้มคลั่ง ทุบตีตัวเอง ใช้กุญแจเหล็กทำร้ายร่างกาย พร้อมตะโกนร้องขอซิมโทรศัพท์คืน เพราะต้องการติดต่อกับผู้ชายคนนั้นต่อ จนทำให้เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เพื่อหลีกหนีปัญหา และป้องกันไม่ให้โดนคนอื่นเข้าใจผิดจากสิ่งที่แม่ทำ
หลังจับได้เรื่องแจ็ค แม่ยังแต่งเรื่องใส่ร้ายตน โทร. ไปคุยกับแม่ของแจ็คว่า ตอนแรกเป็นน้อยหน่าตัวจริง แต่ยอมรับว่าช่วงหลังแม่เป็นคนคุยแทนลูกสาว เพราะน้อยหน่าไปติดผู้ชายใหม่จนทะเลาะกับแจ็ค แจ็คก็เมาบอกว่าจะมาหาที่บ้าน แม่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยแสร้งเป็นน้อยหน่าคุยกับแจ็ค ทำนองว่ารักษาความสัมพันธ์ให้ ทำให้แจ็คไม่เชื่อว่าเขานั้นคุยกับแม่คนเดียวตั้งแต่ต้นมาโดยตลอด

ภาพจาก โหนกระแส
แฉคลิปแม่สับรางคุยไม่หยุด แถมปลอมเสียงเป็นสาว พูดคุยศัพท์วัยรุ่น
คุณน้อยหน่าเผยหลักฐานสำคัญ เป็นพฤติกรรมของแม่ที่ทำให้คนหลงเชื่อ พบว่าแม่พยายามทำเสียงเลียนแบบเธอ เพื่อมีความสัมพันธ์ในเชิงลามกกับผู้ชายผ่านโทรศัพท์ ทำให้ผู้ชายหลายคนเข้าใจผิดว่าได้มีความสัมพันธ์กับเธอจริง ๆ
ต่อมา คุณน้อยหน่าออกรายการโหนกระแส โดยเปิดคลิปจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นจังหวะที่แม่ดัดเสียงแล้วพูดในลักษณะคล้ายสาววัยรุ่น ในคลิปแม่กำลังนั่งคุยกับบุคคลหนึ่งอยู่ แล้วก็มีสายโทร. เข้าโทรศัพท์อีกเครื่อง แม่จึงตัดสายที่คุยอยู่ แล้วไปรับสายเครื่องนั้น
เมื่อแม่รับสายก็พูดว่า “มาแว้วว ทำงานอยู่ค้าบบ”, “เลิกงานแว้ว” บอกว่ากำลังพักเบรกกินข้าวกลางวัน และอ้างว่าเมื่อสักครู่คุยกับเพื่อนผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชายที่ไหน มีการพูดคุยถามไถ่ เย้าแหย่กันเหมือนคู่รักวัยรุ่น

ภาพจาก โหนกระแส

ภาพจาก โหนกระแส
ด้าน หนุ่ม กรรชัย ได้ฟังถึงกับตกใจกับอีกมุมของคุณแม่ ซึ่งเมื่อลองให้คุณน้อยหน่าพูดประโยคเดียวกัน ก็เสียงไม่ได้เหมือนกัน จึงยิ่งมั่นใจว่าเธอนั้นเล่าเรื่องจริง ซึ่งคุณน้อยหน่าเผยว่าเธอบอกกับแม่แล้วว่าเธอมีหลักฐานหมด ขอให้แม่หยุดทำแบบนี้ได้แล้ว แต่แม่กลับท้าทายว่า “กูไม่กลัว มึงไปออกโหนกระแสได้เลย”
ต่อมา หนุ่ม กรรชัย คุยกับดิว น้องชายน้อยหน่า พยายามจะขอพูดคุยกับแม่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่แม่บอกว่าไม่สะดวก หนุ่ม กรรชัย จึงเสนอว่าตนเองจะขอนัดพูดคุยกันนอกรอบ ไม่ต้องออกรายการก็ได้ ซึ่งแม่ตอบตกลง

ภาพจาก โหนกระแส
KUBET – ไวรัล ภาพลวงตา เขียวหรือน้ำเงิน เฉลยสีเดียวกันเป๊ะ เป็นไปได้ไงเหลือจะเชื่อ
ไวรัลภาพลวงตา เห็นในกรอบเป็นสีเขียวหรือน้ำเงิน เฉลยคือสีเดียวกันเป๊ะ ทำคนเหลือจะเชื่อ เผยเหตุผลทำไมถึงมองเป็นสีที่ต่างกัน

ภาพจาก X @gggggocha
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์มิเรอร์มีเดีย เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีภาพลวงตาที่น่าประหลาดใจ ถูกแชร์เป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ และจุดประกายให้เกิดการถกเถียง เนื่องจากเมื่อมองดูครั้งแรกจะเห็นว่า ในช่องสี่เหลี่ยมด้านซ้ายและด้านขวาของภาพมีสีที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ด้านหนึ่งเป็นสีเขียว ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นสีน้ำเงิน แต่ความจริงที่ถูกเฉลยกลับกลายเป็นว่า สีในช่องสี่เหลี่ยมทั้งสองช่องนั้นเหมือนกันทุกประการ
ผู้ใช้บัญชี X @gggggocha ในญี่ปุ่น ได้นำภาพนี้มาโพสต์ โดยแสดงให้เห็นสมุดพับลายจุดสีม่วงสลับกับสีเหลือง โดยตรงกลางของทั้งสองหน้ามีช่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายมองเห็นเป็นสีเขียว และด้านขวามองเห็นเป็นสีน้ำเงิน อย่างไรก็ดี ในภาพดังกล่าวนี้ผู้โพสต์ได้เขียนข้อความแสดงความตกตะลึงว่า

ภาพจาก X @gggggocha
“ไม่อยากจะเชื่อว่า สี่เหลี่ยมตรงกลางเป็นสีเดียวเป๊ะ ๆ เพราะฉันเป็นคนทำมันขึ้นมาเอง”
หลังจากนั้นไม่นานภาพนี้ก็ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว
มีผู้เข้าไปดูมากกว่า 23.3 ล้านครั้ง พร้อมทั้งคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น
โดยหลายคนกล่าวไปในทิศทางเดียวกัน “เป็นไปได้ไงที่จะเป็นสีเดียวกัน เพราะเห็นเป็น 2 สี ที่ต่างกันอย่างชัดเจน”

ภาพจาก X @gggggocha
ทั้งนี้มีผู้ทดลองขยายภาพเปรียบเทียบให้เห็นใกล้ ๆ
โดยแสดงให้เห็นว่า ช่องสี่เหลี่ยมทางด้านซ้ายและด้านขวาเป็นสีเดียวกันจริง
แต่เนื่องจากด้านบนของช่องสี่เหลี่ยมฝั่งซ้ายเป็นจุดสีเหลือง
ส่วนอีกฝั่งเป็นจุดสีม่วง
จึงทำให้สีในช่องสี่เหลี่ยมพื้นหลังดูเหมือนว่าจะเป็นสีที่ต่างกัน ทั้ง ๆ
ที่ความจริงแล้วเป็นสีเดียวกัน กลายเป็นภาพลวงตาที่น่าประหลาดใจ
มีผู้ใช้โซเชียลได้อธิบายปรากฏการณ์นี้โดยอ้างอิงจากศาสตราจารย์อากิโยชิ
คิตาโอกะ จากมหาวิทยาลัยริตสึเมอิคัง ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โดยเชื่อว่าปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “ภาพลวงตามุนเกอร์ (Munker Illusion)” เป็นปรากฏการณ์ทางสายตาที่ทำให้เราเห็นสีที่แตกต่างกันจากสีพื้นฐานเดียวกัน

ภาพจาก X @gggggocha
โดยภาพลวงตานี้เกิดขึ้นจากการที่สีของวัตถุถูกรบกวนจากสีของวัตถุข้างเคียงที่อยู่ใกล้เคียง
ทำให้เรามองเห็นสีที่ต่างไปจากความเป็นจริง
การดูดกลืนสีที่ทำให้สีรอบข้างมีเฉดสีเดียวกัน รวมไปถึงคอนทราสต์สี
ซึ่งหมายถึงความแตกต่างของความสว่างระหว่างสีหนึ่งกับพื้นหลัง
ทำให้ได้เฉดสีตรงข้ามจนมองว่าสีดูแตกต่างกัน

ภาพจาก X @gggggocha
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media
KUBET – ลูกค้าข้องใจ โต๊ะยอดฮิตร้านอาหาร ทำไมนั่งลำบาก เฉลยมีไว้ทำไม
ลูกค้าข้องใจ โต๊ะเหล็กร้านอาหารยอดฮิต มีแท่งนี้ไว้ทำไม ชาวเน็ตแห่ระบาย นั่งขยับขายากจริง พร้อมวิเคราะห์สาเหตุที่ผลิตแบบนี้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประณัตดา มาค่ะ
วันที่ 22 มิถุนายน 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ประณัตดา มาค่ะ โพสต์ในกลุ่ม “พวกเราคือผู้บริโภค” ระบายปัญหาคาใจหลังไปกินร้านอาหารหลายร้านแล้วเจอโต๊ะเหล็กที่คุ้นตา ซึ่งพบว่าลูกค้าไปนั่งแล้วค่อนข้างจะขยับได้ลำบาก
จากภาพเป็นโต๊ะเหล็กที่มีการทำแนวเหล็กอีกชั้นในแนวกว้าง ซึ่งทำให้ลูกค้าจะขยับขา ขยับตัวได้ค่อนข้างจำกัด เพราะจะไปติดกับแท่งเหล็กของโต๊ะดังกล่าว

เจ้าของเรื่องราวระบุว่า
“ถึงผู้ผลิตโต๊ะรุ่นนี้ เหล็กที่อยู่ตรงนี้มีไว้ทำไมคะ
เวลานั่งแล้วติดขามาก เห็นร้านอาหารหลาย ๆ ร้านใช้โต๊ะรุ่นนี้
ดูสะอาดแต่นั่งลำบากมากเลยค่ะ”
หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป
ปรากฏว่ามีชาวเน็ตเข้ามาแชร์ประสบการณ์ชวนอึดอัดเมื่อเจอร้านใช้โต๊ะลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก
เช่น นอกจากจะขยับขาลำบากแล้ว ยังค่อนข้างลื่น วางจาน แก้วน้ำ
ไม่ค่อยจะอยู่เช่นกัน
ส่วนคำถามว่าทำไมจึงออกแบบมาแบบนี้ หลายคนก็เข้าใจว่า
ทำไว้เพื่อความทนทานของขาโต๊ะให้ตั้งตรงอยู่เสมอ
ซึ่งจะเห็นว่าขาโต๊ะฝั่งเดียวกันก็จะมีแท่งเหล็กเชื่อมไว้เช่นกัน
แต่เป็นการเชื่อมที่ด้านล่าง แต่พอเป็นแนวกว้างก็ขยับขึ้นมาเชื่อมสูงขึ้น
อาจเพื่อเว้นช่องไว้สอดเก็บเก้าอี้ เป็นต้น

KUBET – พ่อวัย 55 พาคู่หมั้นลูกชายวัย 17 หนีไปแต่งงานเอง แม่ทรุดลูกสะใภ้กลายเป็นเมียน้อย
พ่อวัย 55 จัดงานแต่งงานให้ลูกชายวัย 17 ปี อยู่ ๆ พาคู่หมั้นลูกหนีไปแต่งเอง แม่ช็อกหนัก ว่าที่ลูกสะใภ้กลายเป็นเมียน้อย

วันที่ 22 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์ Sin Chew เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีเหตุการณ์น่าตกใจเกิดขึ้นที่เมืองรามปุระ รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เมื่อชายวัย 55 ปีรายหนึ่ง ชื่อว่า ชากีร์ พาคู่หมั้นของลูกชายหนีไปแต่งงานกันเอง ในระหว่างที่กำลังจัดงานแต่งงานให้ลูกชาย ทำให้ทั้งครอบครัวต้องช็อกสุดชีวิต โดยเฉพาะภรรยาของเขา เมื่ออยู่ ๆ ว่าที่ลูกสะใภ้กลับกลายเป็นเมียน้อยของสามีตัวเอง
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ชากีร์ แต่งงานกับภรรยาและมีลูก 6 คน และลูก ๆ ของเขาหลายคนก็แต่งงานจนมีหลานให้เขาแล้ว กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้จัดการให้อามาน ลูกชายคนเล็กวัย 17 ปี กับหญิงสาววัย 22 ปี ชื่อว่า ไอชา ได้ทำพิธีหมั้นหมายกันไปเป็นที่เรียบร้อย
ชากีร์ ในฐานะว่าที่พ่อตา ได้ติดต่อกับไอชา ว่าที่ลูกสะใภ้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องการจัดงานแต่งงาน แต่ปรากฏว่ากลับมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อย ๆ เปลี่ยนไป จนพัฒนากลายเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งแบบคนรัก จนทำให้ชาบานา ภรรยาของชากีร์ เริ่มรู้สึกผิดสังเกต
ชาบานา เผยว่า สามีของเธอเริ่มติดต่อกับไอชาบ่อยครั้ง แม้กระทั่งตอนที่อยู่ต่อหน้าเธอ เขาก็แสดงท่าทีใกล้ชิด เธอแสดงความไม่พอใจออกมาหลายครั้ง แต่สามีกลับดุด่าว่าเธอ จนถึงขั้นทำร้ายเธอ พร้อมยืนยันว่า “จะให้ลูกชายแต่งงานกับไอชา” ส่วนอามาน ผู้เป็นลูกชายและว่าที่เจ้าบ่าว ตอนแรกก็ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติใด ๆ แต่ต่อมาก็เห็นว่า พ่อและคู่หมั้นของตนคุยโทรศัพท์กันบ่อย ๆ
จนกระทั่งความลับถูกเปิดเผย อามานแอบไปเจอรูปภาพที่น่ารังเกียจของพ่อและว่าที่ภรรยาของเขาในโทรศัพท์ของพ่อ เขาจึงตัดสินใจปฏิเสธการแต่งงานในครั้งนี้ ทว่าในระหว่างที่ครอบครัวกำลังต่อต้านไม่เห็นด้วย อยู่ ๆ ชากีร์กลับหอบเงินสดราว 200,000 รูปี (ประมาณ 75,000 บาท) และทองคำ 17 กรัม ออกจากบ้าน แล้วหนีไปกับไอชา คู่หมั้นของลูกชาย
ชาบานา ทั้งโกรธแค้นและใจสลาย กล่าวว่า “ผู้หญิงคนนั้นควรจะเป็นลูกสะใภ้ในอนาคตของฉัน แต่ตอนนี้เธอกลับกลายเป็นเมียของสามีฉัน !”
หลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ก็สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนในท้องถิ่นจำนวนมาก ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์และประณามอย่างดุเดือด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางการเข้ามาช่วยดำเนินการจัดการ
ขอบคุณข้อมูลจาก Sin Chew