ผู้จัดอ้าง เจตนาจัดงานจริง พบคนสมัครงานวิ่งทิพย์กว่า 1800 คน เพจดังแฉเพิ่ม ผู้จัดเดียวกันมีคิวจัดอีก 4 งานใกล้ ๆ กัน ใครสมัครแล้ว เช็กด่วน !

ภาพจาก บิ๊กเกรียน
ภายหลังจากเหตุการณ์ผู้จัดงานวิ่ง Run for Destination 2025 เทนักวิ่งเป็นพัน ล่าสุด (25 พฤษภาคม 2568) สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า กลุ่มนักวิ่งกว่า 70 คน เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ประเวศ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้จัดงานวิ่งดังกล่าวแล้ว หลังเดินทางมาถึงงานในช่วงเช้า แต่ไม่พบงานตามที่ตกลงและจ่ายเงินไป นอกจากซุ้มงาน
ด้าน นางสาวสาวิตรี พุ่งพวง 41 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดใจว่า เธอเดินทางมาจากนนทบุรี เห็นงานวิ่งจากเพจเฟซบุ๊ก จึงลงสมัคร แต่ก็เอะใจอยู่เพราะค่าสมัครถูก แต่ให้ของจำนวนมาก ทั้งนาฬิกา กระเป๋า รองเท้า เธอจึงสมัครไป และเมื่อถึงวันรับ bib (เลขวิ่ง) เธอก็รู้สึกแปลก เพราะสถานที่ไม่มีการจัด ส่วนของอื่น ๆ ยังไม่แจกให้ อ้างว่าติดฝนส่งไม่ทัน และเมื่อเช็กดูชื่อของกลุ่มผู้จัดงาน พบว่าปลายทางที่โอนไปเป็นนิติบุคคล ที่มีทุนจดทะเบียนการวิ่งจริง

ภาพจาก บิ๊กเกรียน
แต่วันนี้เมื่อมาถึงที่จัดงาน กลับยิ่งตกใจที่สถานที่ไม่พร้อม ไม่มีการเตรียมการอะไร นอกจากโต๊ะ 1 ตัว กับเจ้าหน้าที่ 2 คน จึงรวมตัวกับกลุ่มนักวิ่งด้วยกัน กระทั่งรู้ว่าไม่มีการจัดงานขึ้นจริง ทำให้เสียความรู้สึกมาก
สอบถาม นางปณิศรา ทีมสต๊าฟที่ถูกจ้าง เผยว่า ได้รับการติดต่อให้มาแจกน้ำและทำสต๊าฟบอกเส้นทางให้นักวิ่ง ได้ค่าจ้างคนละ 500 บาท มากัน 63 คน เมื่อมาถึงทีมงานก็ลงจุดแจกน้ำและกระจายไปตามเส้นทาง แต่ไม่มีงานเกิดขึ้นจริง ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่างานล่มได้อย่างไร แต่สังเกตว่าสถานที่ไม่เหมือนทุกงานที่เคยทำ ไฟ แสง สี เสียง ไม่พร้อม ซุ้มปล่อยตัวเหมือนเด็กอนุบาล เหรียญรางวัลเห็นมีแต่ไม่เยอะเท่าคนวิ่ง
ทั้งนี้ เธอเพิ่งเคยทำงานกับผู้จัดนี้ครั้งแรก แต่ยังดีที่ได้ค่าตอบแทนมาหมดแล้ว เหลือแค่ค่าถุงขยะหลักร้อย โดยตอนจะจ่ายค่าจ้าง ทีมผู้จัดได้ผลัดมา 3-4 ครั้งแล้ว จนเธอบอกว่าถ้าไม่พร้อมก็ยกเลิกจ้าง หรือยกเลิกจัดงานก็ได้ แล้วเพิ่งจ่ายเงินครบเมื่อวานนี้

ภาพจาก บิ๊กเกรียน
และที่ผ่านมา เธอติดต่อกับผู้จัดชื่อไอซ์ อุ๊ ผึ้ง ผ่านการคุยโทรศัพท์และแชตเท่านั้น ไม่เคยเจอตัวจริง และเธอทราบมาว่างานวิ่งที่ถูกเทครั้งนี้ เป็นงานวิ่งที่ถูกเลื่อนมาตั้งแต่เมื่อ 26 มกราคมปีที่แล้ว อีกทั้งเธอยังเพิ่งทราบว่าถูกกลุ่มผู้จัดฟ้องดำเนินคดี ข้อหาฉ้อโกงเสื้อเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ทั้งที่ผู้จัดเป็นคนเสนอให้เธอมาขายเสื้อวิ่งที่หน้าสวน 100 ตัว โดยเธอจะได้ค่าเปอร์เซนต์ตัวละ 50 บาท ซึ่งก็ขายหมดและโอนเงินให้แล้ว 60,000 บาท โดยมีอีก 5,000 บาท เก็บไว้เป็นค่าเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกัน แต่กลับถูกดำเนินคดี
ขณะที่ พ.ต.อ. ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.ประเวศ เผยว่า อยู่ระหว่างสอบปากคำ 2 ผู้จัดงาน ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ต้นสน 99 สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ซึ่งเบื้องต้นทางผู้จัด อ้างว่ามีเจตนาในการจัดงานจริง เนื่องจากมีการแจกอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น bib เสื้อ นาฬิกา และหมวก ให้กับผู้วิ่งประมาณ 600 คน จากผู้ลงสมัครกว่า 1,800 คน
ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ
และตรวจสอบรายละเอียดของการจัดส่งของที่ลงไว้ในเพจ
ว่าส่งให้ตามสเปคจริงหรือไม่
รวมถึงต้องไปตรวจสอบช่องทางการรับอุปกรณ์ทางรับหน้างาน รับล่วงหน้า
หรือรับทางไปรษณีย์ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
และรวบรวมหลักฐาน
ทั้งนี้
หากมีความผิดทางอาญาจะเข้าข่ายการฉ้อโกง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค,
พ.ร.บ.คอมพ์ รวมถึงจะเข้าข่ายความผิดทางคดีแพ่ง
แต่ขอให้ตำรวจสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งหน่วยที่อนุญาตสถานที่ในการจัดงาน ซึ่งเป็นการดูแลของสำนักสิ่งแวดล้อม
กรุงเทพมหานคร ส่วนผู้เสียหาย ตำรวจให้แจ้งความลงบันทึกประจำวัน
ส่วนใครที่ไม่สะดวกจะให้ลงรายละเอียดใน Google ฟอร์ม
และจะนำมารวบรวมในสำนวน

ภาพจาก Drama-addict
อย่างไรก็ตาม
นักวิ่งจะได้เงินคืนหรือไม่
ผู้กำกับไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นเรื่องทางแพ่งและทางผู้จัด
แต่ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินเรื่องโดยเร็วที่สุด
ขณะที่เพจ Drama-addict การจัดงานวิ่งในเวลาไล่กันอีกหลายงาน
รวมถึงงานแบดมินตัน ซึ่งเท่าที่มีข้อมูลขณะนี้ พบอย่างน้อย 4 งาน คือ
– Brown&White Minimarathon วันที่ 28 กันยายน 2568 จัดงานที่ สวนจตุจักร ค่าสมัคร 500 – 750 บาท
– สีสดใสในวันวิ่ง วันที่ 29 กันยายน 2568 จัดงานที่ สวนจตุจักร
– ชอบที่จะวิ่ง วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 จัดงานที่ สวนลุมพินี
– TONSON 99 BADMINTON CUP #1 วันที่ 1 มิถุนายน 2568 จัดงานที่ สนามแบดพาเพลิน รังสิต ค่าสมัคร 1,000 – 1,200 บาท
ทั้งนี้
พบว่า ห้างหุ้นส่วนจํากัด ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์
เพิ่งจะจดทะเบียนบริษัทเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
โดยมีชื่อผู้ถือหุ้น 2 คน

ภาพจาก Drama-addict

ภาพจาก บิ๊กเกรียน
ภาพจาก Drama-addict
ภาพจาก Drama-addict
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3