KUBET – คนไทยร่ำไห้ ติดสนามบินเวียดนาม 12 ชม. จนท. ที่ไม่ช่วย ไม่พูดอังกฤษ

          คนไทยร่ำไห้สุดอึดอัด ติดอยู่ในสนามบินเวียดนาม 12 ชม. พ้อเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ไม่พูดภาษาอังกฤษด้วย ซ้ำโดนนินทา



คนไทยร่ำไห้ ติดในสนามบินเวียดนาม 12 ชม. พ้อเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ซ้ำโดนนินทา
ภาพจาก TikTok @icesuki.diary
          กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความตกใจให้กับคนไทยที่มีแผนเดินทางไปเที่ยวประเทศเวียดนาม กรณีวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 TikTok @icesuki.diary โพสต์คลิปแชร์ประสบการณ์สุดอึดอัดใจหลังติดอยู่ในสนามบินเวียดนามนานถึง 12 ชั่วโมง โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษในการสื่อสารด้วย

          จากคลิปฝ่ายชายร้องไห้พร้อมพูดว่า เกลียดเวียดนาม เกลียดเจ้าหน้าที่สนามบิน เกลียดสนามบินเวียดนาม จะไม่มาอีกแล้ว ลงจากเครื่องก็โดนนินทา กลัวไปที่อื่นแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก

คนไทยร่ำไห้ ติดในสนามบินเวียดนาม 12 ชม. พ้อเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ซ้ำโดนนินทา
ภาพจาก TikTok @icesuki.diary
          โดยคลิประบุข้อความว่า เมื่อคุณต้องติดอยู่ในสนามบินเวียดนาม 12 ชั่วโมง ออกไปไหนไม่ได้ เงินเวียดนามก็ไม่มี เจ้าหน้าที่สนามบินก็ทำหน้ากวน…ใส่ ไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษ ตอบมาแต่ภาษาเวียดนาม แล้วเดินหนี แถมโดนคนเวียดนามนินทาตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน

          ต่อมาฝ่ายหญิงลงคลิปเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทริปนี้ตั้งใจต่อเครื่องที่เวียดนาม 12 ชั่วโมงเพื่อเที่ยวในเวียดนาม ก่อนจะบินต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยทริปนี้ได้จองโรงแรมไว้แล้ว แต่เมื่อเดินทางออกจากเครื่อง เจ้าหน้าที่สนามบินกลับนำตั๋วไปดูและพาให้ไปเข้าแถวยื่นเอกสาร จนมารู้ตัวอีกทีกลายเป็นว่าทั้งคู่เข้าสู่เกตภายในสนามบิน และไม่สามารถออกไปยังตัวเมืองได้ ซึ่งหลังจากนั้นทั้งคู่ได้พยายามสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษหลายครั้ง เธอเล่าว่าใช้โทรศัพท์ไม่ได้เพราะไม่มีสัญญาณทำให้แปลภาษาคุยกับเจ้าหน้าที่ไม่ได้ ส่วนเจ้าหน้าที่นั้นตอบกลับเป็นภาษาเวียดนาม บางรายมีท่าทีไม่พอใจ ตะคอก หายใจแรง และเดินหนี ทำให้เกิดความเครียดและความรู้สึกแย่จนเป็นที่มาของคลิปดังกล่าว

คนไทยร่ำไห้ ติดในสนามบินเวียดนาม 12 ชม. พ้อเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ซ้ำโดนนินทา
ภาพจาก TikTok @icesuki.diary

          หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ากลายเป็นไวรัลจนมียอดเข้าชมกว่า 1.8 ล้านครั้ง โดยมีชาวเน็ตเข้ามาแชร์ประสบการณ์คล้ายคลึงกันเมื่อไปเที่ยวเวียดนาม เช่น เจ้าหน้าที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ดูไม่เป็นมิตร บางรายก็ยอมรับว่าไปเที่ยวแล้วไม่ประทับใจ น่าจะไปแค่ครั้งเดียวพอ เป็นต้น

          ขณะเดียวกัน มีคนเสริมว่า นักท่องเที่ยวอาจจะอยากเที่ยวเวียดนามก่อน เพราะมีเวลาต่อเครื่อง 12 ชั่วโมง ซึ่งต้องออกประตู Arrival แต่ว่าเมื่อยื่นบอร์ดดิ้ง พาส สำหรับไฟลต์ถัดไป เจ้าหน้าที่จึงพาไปจุด Transit (จุดต่อเครื่องแทน) ตรงนี้ทำให้ออกไปเที่ยวเวียดนามไม่ได้ และติดแหง็กในสนามบิน อีกทั้งยังมีเรื่องการสื่อสาร ทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง

คนไทยร่ำไห้ ติดในสนามบินเวียดนาม 12 ชม. พ้อเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ซ้ำโดนนินทา

คนไทยร่ำไห้ ติดในสนามบินเวียดนาม 12 ชม. พ้อเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ซ้ำโดนนินทา

คนไทยร่ำไห้ ติดในสนามบินเวียดนาม 12 ชม. พ้อเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ซ้ำโดนนินทา

คนไทยร่ำไห้ ติดในสนามบินเวียดนาม 12 ชม. พ้อเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ซ้ำโดนนินทา

คนไทยร่ำไห้ ติดในสนามบินเวียดนาม 12 ชม. พ้อเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ซ้ำโดนนินทา

KUBET – ถ่ายคลิปตอนฝนตก เจอบางอย่างกลิ้งผ่านหน้าบ้าน เฉลยมันคืออะไร

          เจ้าของบ้านถ่ายคลิปตอนฝนตก หลุดโฟกัสอะไรกลม ๆ กลิ้งผ่านหน้าบ้าน แซวของใครมาเก็บไปด่วน



ฝนตกหนัก ลมพัดแรง
ภาพจาก TikTok @silikanda2807

          ช่วงนี้หลายพื้นที่ต่างต้องรับมือกับฝนตกหนัก ซึ่งนอกจากจะต้องระวังเรื่องของการเดินทาง บางครั้งแม้จะอยู่ที่บ้านก็ต้องตรวจเช็กว่ามีบางอย่างถูกลมสูญหายหรือไม่ด้วย

          วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 โลกออนไลน์แชร์คลิปจากผู้ใช้ TikTok @silikanda2807 เผยคลิปบรรยากาศในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นช่วงที่ฝนกำลังตกหนัก มีลมพัดแรง แต่จู่ ๆ ก็ต้องหลุดโฟกัสกับอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยคุ้นตา ลักษณะเป็นวงกลมขนาดใหญ่ กลับมากลิ้งอยู่บนถนนในหมู่บ้านซะอย่างนั้น

ฝนตกหนัก ลมพัดแรง
ภาพจาก TikTok @silikanda2807

ฝนตกหนัก ลมพัดแรง
ภาพจาก TikTok @silikanda2807

          จากคลิปจะเห็นว่า ฝาวงกลมขนาดใหญ่ ถูกลมพัดจอยลอยกลิ้งไปไกลหลายบ้าน ซึ่งดูแล้วบ้านแถวนั้นก็ไม่น่าใช่เจ้าของฝาดังกล่าว โดยเจ้าของคลิประบุว่า “ของใคร มาเก็บด่วน”

          คลิปนี้กลายเป็นไวรัลซึ่งมียอดเข้าชมกว่า
1.1 ล้านครั้ง ด้านชาวเน็ตได้เห็นต่างก็คาดเดาว่ามันคืออะไร
หรือถ้าเป็นฝาก็ดูไม่ออกมามันเป็นฝาอะไร ซึ่งต่อมาเจ้าของคลิปได้เฉลยว่า
มันคือฝาปิดถังน้ำ โดนพัดมาจากหลังโครงการเลยทีเดียว

ฝนตกหนัก ลมพัดแรง
ภาพจาก TikTok @silikanda2807

ฝนตกหนัก ลมพัดแรง

ฝนตกหนัก ลมพัดแรง

ฝนตกหนัก ลมพัดแรง

ฝนตกหนัก ลมพัดแรง

ฝนตกหนัก ลมพัดแรง

KUBET – เค้กพวงมาลัย ลูกค้าป่วน คิดว่าราคา 400 บาท แถมตอบกลับแพงมาก ใครจะไปซื้อ

          ลูกค้าติดต่อมาขอซื้อเค้ก บอก คิดว่าราคา 400 บาท ต้นทุนไม่ได้แพงขนาดนั้น แถมเอดูเขตทิ้งทวน งานนี้คนแชร์ทะลุ 3 พันครั้ง โกรธแทน



ลูกค้าติดต่อมาขอซื้อเค้กพวงมาลัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ฌาฬุฎา รุจิตร

          หนึ่งในปัญหาปวดหัวของบรรดาคนค้าขาย ย่อมเจอเรื่องการต่อราคาของลูกค้า ทำให้กำไรลดลง แถมบางคนก็พูดจาทำให้คนขายเสียน้ำใจอีก

          วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เฟซบุ๊ก ฌาฬุฎา รุจิตร แม่ค้าขายเค้กรายหนึ่ง เล่าเรื่องลูกค้าทักแชตมาถามว่า เค้กพวงมาลัยสูง 2 ชั้นราคาเท่าไร ทางแม่ค้าก็ตอบตามราคาจริงไป คาดว่าน่าจะใกล้ ๆ หรือแตะหลักพันบาท ส่วนทางลูกค้าเห็นราคาก็ช็อก กลับบอกว่า “คิดว่า 300-400 บาท วัตถุดิบไม่น่าจะแพงขนาดนั้น เพราะเราก็ขายของเหมือนกัน


ลูกค้าติดต่อมาขอซื้อเค้กพวงมาลัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ฌาฬุฎา รุจิตร

          เจอแบบนี้แม่ค้าก็โมโห ตอกกลับไปว่า งั้นลองมาทำเองดู พร้อมกับตำหนิอีกว่า “ขออนุญาตไม่ตอบกลับนะคะ
ดิฉันมีเกียรติพอ ไม่ได้ดูถูกเงิน 300-400 บาท แต่บางทีมันก็เกินไป
ถ้ารู้ดีขนาดนี้ แนะนำให้เป็นนักโภชนาการ นักการตลาด อย่ามาเป็นลูกค้า”

          สุดท้าย ลูกค้าตอกกลับอีกว่า “ก็แค่เค้ก ราคาแพงมาก ไม่มีใครเขาซื้อหรอกค่ะคุณน้อง”

ลูกค้าติดต่อมาขอซื้อเค้กพวงมาลัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ฌาฬุฎา รุจิตร

         
ด้านชาวเน็ตเห็นแล้วทนไม่ไหว แชร์กันไปถึงหลัก 3,000 ครั้งแล้ว มองว่า
ลูกค้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย แถมนิสัยแย่มาก เค้กงานดีขนาดนี้ เอาอะไรมา
300-400 บาท

ลูกค้าติดต่อมาขอซื้อเค้กพวงมาลัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ฌาฬุฎา รุจิตร

ลูกค้าติดต่อมาขอซื้อเค้กพวงมาลัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ฌาฬุฎา รุจิตร

ลูกค้าติดต่อมาขอซื้อเค้กพวงมาลัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ฌาฬุฎา รุจิตร

ลูกค้าติดต่อมาขอซื้อเค้กพวงมาลัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ฌาฬุฎา รุจิตร

ลูกค้าติดต่อมาขอซื้อเค้กพวงมาลัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ฌาฬุฎา รุจิตร

KUBET – สาวร่างยักษ์สูง 220 ซม. ตั้งท้องหนุ่มต่างไซซ์ เจอดราม่า ท้องได้จริงเหรอ เปิดให้ดูเต็มตา

           สาวร่างยักษ์สูง 220 เซนติเมตร ตั้งท้องแฟนหนุ่มต่างไซซ์ เจอดราม่า ท้องได้จริงเหรอ เปิดให้ดูเต็มตา แต่คนยังสงสัยแปลก ๆ



สาวร่างยักษ์สูง 220 ซม. ตั้งท้องหนุ่มต่างไซซ์ เจอดราม่า ท้องได้จริงเหรอ
ภาพจาก Douyin 小玥2米2孕中期
           ความแตกต่างทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอายุ น้ำหนัก หรือส่วนสูง ไม่ได้เป็นปัญหาต่อความรักแต่อย่างใด หากคนสองคนรักกันด้วยใจ รูปลักษณ์ภายนอกใด ๆ ก็ไม่สำคัญ ดังนั้นเราจึงมักจะได้เห็นคู่รักต่างวัยหรือคู่รักต่างไซซ์ที่มีความสุขมากมาย เช่นเดียวกับ “คู่รักต่างความสูง” คู่นี้

           วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เน็กซ์แอปเปิล เผยเรื่องราวของ เสี่ยวเยว่ หญิงชาวจีน จากเมืองฉงชิ่ง ฉายาสาวร่างยักษ์ ด้วยส่วนสูงที่มากถึง 220 เซนติเมตร เธอคบหากับจือห่าว แฟนหนุ่มที่มีส่วนสูง 168 เซนติเมตร เนื่องจากความสูงที่ต่างกันมากถึง 52 เซนติเมตร จึงทำให้ทั้งสองกลายเป็นคู่รักที่ได้รับความสนใจและมีผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มออนไลน์

สาวร่างยักษ์สูง 220 ซม. ตั้งท้องหนุ่มต่างไซซ์ เจอดราม่า ท้องได้จริงเหรอ
ภาพจาก Douyin 小玥2米2孕中期
           กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เสี่ยวเยว่ ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอทาง Douyin ประกาศข่าวเซอร์ไพรส์ว่า เธอกำลังตั้งท้องได้กว่า 4 เดือนแล้ว โดยเธอและแฟนหนุ่มวางแผนที่จะแต่งงานกันในเดือนมิถุนายนนี้

           โดยเสี่ยวเยว่ได้เขียนข้อความว่า “โอ้ มันไม่น่าเชื่อเลยที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน และฉันก็ยังไม่ได้เตรียมตัว ฉันไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจหรือน่าตกใจ ฉันจะบันทึกชีวิตประจำวันของฉันเอาไว้ให้ติดตาม”

สาวร่างยักษ์สูง 220 ซม. ตั้งท้องหนุ่มต่างไซซ์ เจอดราม่า ท้องได้จริงเหรอ
ภาพจาก Douyin 小玥2米2孕中期

           เรื่องราวนี้สร้างความตกตะลึงให้กับหลาย ๆ คนไปตามกัน ผู้คนส่วนหนึ่งเข้าไปร่วมแสดงความยินดี และเกิดมีคำถามต่าง ๆ มากมาย บางส่วนกังวลว่าลูกของพวกเขาจะเติบโตมีส่วนสูงแค่ไหนในอนาคต เนื่องจากพ่อและแม่มีส่วนสูงที่ต่างกันมากเช่นนี้ นอกจากนี้ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยสงสัยว่าเธอตั้งท้องจริงหรือไม่  

           หลังจากเรื่องราวของเธอตกเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม เสี่ยวเยว่ได้ อัปโหลดคลิปวิดีโออัปเดตการเปลี่ยนทางร่างกาย โดยเธอได้ยกเสื้อผ้าขึ้นโชว์พุงป่องของเธอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ชาวเน็ตบางรายก็ยังเข้าไปตั้งคำถามว่า “พุงปลอมหรือเปล่า ?”, “พุงใหญ่จังเลย”, “ดูเหมือนพุงปลอมเลย”

สาวร่างยักษ์สูง 220 ซม. ตั้งท้องหนุ่มต่างไซซ์ เจอดราม่า ท้องได้จริงเหรอ
ภาพจาก Douyin 小玥2米2孕中期

           จากนั้น เสี่ยวเยว่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น เพื่อตอบคำถามกับคนที่สงสัยว่าเธอท้องจริงหรือไม่ โดยเธอกล่าวว่า “เมื่อถึงกำหนดคลอดในเดือนตุลาคม และทารกคลอดออกมา ทุกอย่างก็จะเปิดเผย และไม่จำเป็นที่เราจะต้องปลอมแปลงการตั้งครรภ์”

           สำหรับเสี่ยวเยว่และแฟนหนุ่ม ทั้งสองอายุ 29 ปี พบกันผ่านทางอินเทอร์เน็ตและคบหากันมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน โดยสาเหตุที่เธอสูง 220 เซนติเมตรเป็นเพราะพันธุกรรม โดยพ่อของเธอสูงราว 200 ซม. อย่างไรก็ดี เธอไม่ได้เติบโตมากับพ่อแม่ มีเพียงตายายที่เลี้ยงดูเธอมา  

           “ตอนนี้ ในที่สุดฉันก็ได้พบกับคนที่รักฉันและลูกในท้องจริง ๆ ฉันไม่คาดคิดว่าจะมีคนมีคนมาตั้งคำถามกับฉัน และมองฉันในมุมที่ต่างออกไป เพียงเพราะฉันโพสต์วิดีโอเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของฉันทางออนไลน์ ฉันแค่หวังว่าทุกคนจะมองในมุมฉันและสามารถเข้าใจฉันได้” เสี่ยวเยว่ กล่าว

สาวร่างยักษ์สูง 220 ซม. ตั้งท้องหนุ่มต่างไซซ์ เจอดราม่า ท้องได้จริงเหรอ
ภาพจาก Douyin 小玥2米2孕中期
สาวร่างยักษ์สูง 220 ซม. ตั้งท้องหนุ่มต่างไซซ์ เจอดราม่า ท้องได้จริงเหรอ
ภาพจาก Douyin 小玥2米2孕中期

ขอบคุณข้อมูลจาก Next Apple

KUBET – โพสต์ล่าสุด สมรักษ์ คำสิงห์ หลัง เบส ขอไม่ช่วยแล้ว คอมเมนต์ทัวร์ลงเพียบ

KUBET – ญี่ปุ่นดราม่า คนแห่ซื้อชุดอาหาร หยิบแต่ของเล่น ทิ้งอาหารเต็มร้าน-หกบนพื้น

          โซเชียลญี่ปุ่นดราม่า คนแห่ซื้อเซตอาหารเด็ก เอาแต่ของเล่น ทิ้งอาหารไว้เต็มร้าน แถมมีภาพของหกเลอะหน้าเคาน์เตอร์ โวยพวกแห่ซื้อไปขายต่อ ทิ้งขว้างของกิน



ทิ้งอาหารเต็มร้านเอาแต่ของเล่น
ภาพจาก X @NScVdviPJE71064

          เกิดเป็นกระแสดราม่าที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากบนโลกโซเชียลฝั่งญี่ปุ่น หลังปรากฏภาพถุงอาหารและเครื่องดื่มจำนวนมาก ที่ถูกกองทิ้งไว้เต็มเคาน์เตอร์ภายในร้านฟาสต์ฟู้ดดัง เบียดกันจนมีเครื่องดื่มตกลงมาหกเต็มพื้น นับเป็นภาพปรากฏการณ์หายากที่สร้างความไม่พอใจแก่ผู้พบเห็น หลายคนถึงกับวิจารณ์พฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ที่ทำให้อาหารเหลือทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์

          โดยรายงานจากเว็บไซต์ ETtoday เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อร้านฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดัง ในประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัวของเล่นเซตใหม่ที่จะแถมมากับชุดอาหารเด็ก ซึ่งของเล่นที่ว่านี้ก็คือตัวการ์ตูน จิคาวะ สุดน่ารัก ที่มีให้เลือกหลายสะสมหลายแบบ ไม่เพียงแค่จะน่ารักโดนใจแฟนการ์ตูน แต่ยังนับว่ามีมูลค่าในกลุ่มนักสะสมอีกด้วย นำมาสู่กระแสการซื้ออย่างบ้าคลั่งทั่วประเทศ

          ด้วยเหตุนี้คนที่มารอซื้อจึงไม่ได้มีเฉพาะแฟนการ์ตูน แต่ยังดึงดูดกลุ่มคนที่หวังจะนำไปขายต่อเพื่อทำกำไรด้วย จึงเกิดกระแสแห่ซื้อเซตอาหารสำหรับเด็กปริมาณมาก แต่คนกลุ่มนี้กลับหยิบเพียงของเล่นแถมกลับไป ทิ้งแฮมเบอร์เกอร์และเฟรนช์ฟราย รวมถึงเครื่องดื่มในเซตไว้ที่ร้าน ทำให้อาหารต้องถูกทิ้งไปเสียเปล่า ๆ แถมอาหารบางส่วนยังล้นจนหกเต็มพื้น ภาพที่ปรากฏทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจในหมู่ชาวญี่ปุ่นอย่างมาก

ทิ้งอาหารเต็มร้านเอาแต่ของเล่น
ภาพจาก X @NScVdviPJE71064

          ด้านผู้ใช้ X ชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ยังเปิดภาพของร้านฟาสต์ฟู้ดดัง สาขาในห้างควีนสแควร์ ที่เมืองโยโกฮาม่า พร้อมกล่าวโทษคนจีนว่าเป็นผู้แห่มาซื้อชุดอาหารเด็ก จำนวนมาก เพื่อนำของเล่นไปขายต่อ โดยมีอาหารที่ถูกวางทิ้งไว้เต็มไปหมด จนพนักงานต้องนำมาวางเรียงบนโต๊ะในร้าน

          โดยกระแสคอมเมนต์ เช่น

          – ทั้งร้านดูเหมือนสนามรบ
          – เห็นมีรถจอดเต็มทางเข้าร้าน นึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นซะอีก
          – มันควรเป็นชุดอาหารสำหรับเด็ก ทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงมาแย่งซื้อล่ะ ?
          – คนพวกนี้ไม่ใช่แฟนจิคาวะ แต่เป็นพวกนำไปขายต่อ
          – อาหารถูกทิ้งไปเสียเปล่า ๆ
          – ทิ้งขว้างอาหาร ต้องถูกพระเจ้าลงโทษ

          ขณะที่พนักงานในร้านบางสาขายอมรับว่า พวกเขาต่างก็ยุ่งกันทั้งวันจนแขนล้าไปหมด แถมยังเผชิญกับความเครียดมากด้วย

         
ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้ ทางแมคโดนัลด์ของญี่ปุ่น
ได้ออกมาขอร้องประชาชนในการบริโภคอย่างมีเหตุผล โดยเน้นย้ำว่า
“กรุณาอย่าซื้อชุดอาหารสำหรับเด็กในปริมาณมาก เพื่อนำไปขายต่อ”

ทิ้งอาหารเต็มร้านเอาแต่ของเล่น
ภาพจาก X @NScVdviPJE71064

ทิ้งอาหารเต็มร้านเอาแต่ของเล่น
ภาพจาก X @NScVdviPJE71064

ทิ้งอาหารเต็มร้านเอาแต่ของเล่น
ภาพจาก X @NScVdviPJE71064

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

KUBET – ชมพู่ อารยา เปิดลุค 4 เดินพรมแดงเมืองคานส์ 2025 สวยสง่าปนเซ็กซี่ งานดีมาก

KUBET – สาวไม่ดื่มเหล้า ไม่มีประวัติ แต่เป็นมะเร็งตับรุนแรง พบต้นเหตุอาหารเพื่อสุขภาพ 1 อย่าง

          สาวไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เคยมีประวัติ แต่เป็นมะเร็งตับรุนแรง พบต้นเหตุอาหารเพื่อสุขภาพ 1 อย่าง เผยกินเป็นประจำทุกวัน



สาวไม่ดื่มเหล้า ไม่มีประวัติ แต่เป็นมะเร็งตับรุนแรง เพราะอาหารสุขภาพนี้

          วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Hk01 เผยว่า ดร.หลิว ปัวเหริน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและวิทยาศาสตร์สุขภาพในไต้หวัน ได้แชร์เคสของคนไข้หญิงรายหนึ่ง ซึ่งไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบบี หรือซี แต่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับระดับรุนแรงที่มีการแพร่กระจายไปยังปอด จนพบต้นเหตุที่คาดไม่ถึงคือ อาหารเพื่อสุขภาพชนิดหนึ่งที่เธอกินเป็นอาหารเช้าเกือบทุกวันมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา

          โดย ดร.หลิว ได้เผยว่า คนไข้หญิงรายนี้มีสุขภาพดี ปกติไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่มีประวัติการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือซี กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เธอได้มาเข้ารักษากับแพทย์ด้วยอาการอาหารไม่ย่อย แต่ภายหลังจากตรวจร่างกายโดยละเอียด ผลที่ออกมากลับกลายเป็นความน่าตกใจ เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นมะเร็งตับ ซึ่งอยู่ในระยะที่รุนแรงมีการแพร่กระจายไปยังปอด

          ภายหลังจากการซักประวัติ ทำให้ทราบว่า คนไข้หญิงรายนี้ชอบกินเนยถั่ว เธอกินเนยถั่วและขนมปังทาเนยถั่วเป็นประจำทุกเช้า และมีพฤติกรรมเช่นนี้มานานถึง 20 ปี ดร.หลิว จึงคาดว่ามะเร็งตับของคนไข้รายนี้น่าจะเกิดจากการบริโภคเนยถั่วที่ปนเปื้อนอะฟลาทอกซินเป็นเวลานาน

          เนยถั่ว ซึ่งทำมาจากถั่วลิสง เป็นของโปรดของใครหลายคน อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ทั้งไขมันดีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจปนเปื้อนอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยสำนักงานวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ระบุว่า สารนี้มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งตับ มะเร็งไต และมะเร็งกระเพาะอาหาร

          ดร.หลิว แนะนำว่า การหลีกเลี่ยงสารอะฟลาทอกซิน ควรยึดหลักการกินอาหารที่ปรุงสดใหม่ และสำหรับผู้ชื่นชอบถั่วลิสง ควรเลือกกินถั่วลิสงแบบสดใหม่ที่มาทั้งเปลือก เพื่อลดโอกาสการปนเปื้อนของอะฟลาทอกซิน

7 อาการของมะเร็งตับโดยทั่วไป

          1. ปวดท้องด้านขวาบน

          2. ปวดไหล่ขวา เมื่อตับโตจะไปกระตุ้นเส้นประสาทกะบังลมซึ่งเชื่อมต่อกับเส้นประสาทไหล่ขวา

          3. เบื่ออาหาร น้ำหนักลด คลื่นไส้ และเซื่องซึม

          4. มีก้อนเนื้อในช่องท้องส่วนบน

          5. ผิวและตาขาวเหลืองเล็กน้อย และคันผิวหนัง เนื่องจากท่อน้ำดีถูกอุดตันด้วยเนื้องอก ตะกอนสีน้ำดีจึงสะสมในเลือด ทำให้เกิดอาการตัวเหลือง

          6. ปัสสาวะสีชาและอุจจาระสีเทาอ่อน

          7. มีภาวะการสะสมของเหลวในช่องท้อง

ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01

KUBET – เหตุช็อก กัปตันไปส้วม-ผู้ช่วยหมดสติ 200 ชีวิตบนเครื่องระทึก ไร้คนขับอยู่ 10 นาที

          เหตุช็อกกลางอากาศ กัปตันไปเข้าห้องน้ำ กลับเข้าห้องนักบินไม่ได้
หลังผู้ช่วยหมดสติ กว่า 200 ชีวิตบนเครื่องลอยเคว้ง ไร้คนขับเป็น 10 นาที



นักบินหมดสติ
ภาพจาก M101Studio / Shutterstock.com

          เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานเหตุการณ์สุดประหลาดที่น่าตกใจบนเครื่องบินของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) ของประเทศเยอรมนี เมื่ออยู่ ๆ เครื่องบินที่เดินทางกันมาพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 200 ชีวิต ต้องตกอยู่ในสภาพ “ไร้นักบิน” เป็นเวลานานถึง 10 นาที หลังจากกัปตันไปเข้าห้องน้ำ แต่กลับมาเข้าห้องนักบินไม่ได้ เพราะนักบินผู้ช่วยหมดสติ  

          หน่วยงานสืบสวนการบินของสเปน ได้เผยแพร่รายงานผลการสอบสวนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า เหตุการณ์ระทึกกลางอากาศนี้เกิดขึ้นบนเครื่องบินแอร์บัส A321 ซึ่งมีผู้โดยสาร 199 คน และลูกเรืออีก 6 คน ออกเดินทางจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี มุ่งหน้าไปยังปลายทางที่เมืองเซบียา ประเทศสเปน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567

          ในระหว่างการเดินทางซึ่งเหลือเวลาบินอีกประมาณ 30 นาที กัปตันวัย 43 ปี ซึ่งไม่ได้ระบุชื่อในรายงาน ได้ไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว โดยให้นักบินผู้ช่วย (First Officer) อายุ 38 ปี อยู่เพียงลำพังในห้องนักบิน ซึ่งในขณะนั้นกัปตันเห็นว่า “นักบินผู้ช่วยสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้และมีสติตื่นตัว” 

          อย่างไรก็ดี หลังจากผ่านไปประมาณ 8 นาที
เมื่อกัปตันกลับมาที่ห้องนักบิน
เขากลับพบว่าไม่สามารถเข้าไปในห้องนักบินได้
แม้จะใส่รหัสรักษาความปลอดภัยเพื่อเปิดประตู กัปตันจึงโทร.
ติดต่อภายในไปยังห้องนักบิน แต่ไม่มีคนรับสาย
เขาจึงตกใจและกดรหัสฉุกเฉิน

          ทว่าตอนนั้นเองนักบินผู้ช่วยกลับเป็นคนเปิดประตูห้องนักบินด้วยตนเองจากด้านใน กัปตันจึงรีบเข้าควบคุมเครื่องบินอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ผู้ช่วยนักบินหน้าซีด เหงื่อออก และเคลื่อนไหวร่างกายแปลก ๆ
กัปตันจึงแจ้งขอความช่วยเหลือจากลูกเรือ  

          ลูกเรือและผู้โดยสารที่เป็นแพทย์ได้เข้าช่วยปฐมพยาบาลผู้ช่วยนักบินที่มีอาการผิดปกติ
โดยแพทย์มีความเห็นว่า เขาอาจจะเป็นโรคหัวใจ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์
ผู้ช่วยนักบินให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า เขาไม่รู้ตัวว่าหมดสติไปนานแค่ไหน
และจำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ ก่อนหน้านั้นเขาจำได้ว่ากำลังบินเหนือเมืองซาราโกซา
ก่อนที่จะกลับมาจำได้อีกครั้งคือตอนที่ลูกเรือและแพทย์มาตรวจรักษา

          “การหมดสติเกิดขึ้นอย่างกะทันหันมาก จนเขาไม่สามารถแจ้งลูกเรือคนอื่นว่าเขาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้” ข้อมูลในรายงานระบุ

          ในช่วงเวลาดังกล่าวเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินได้บันทึกเสียงแปลก ๆ ที่เกิดขึ้น
ซึ่งสอดคล้องว่าเกิดภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพที่รุนแรงกับผู้ช่วยนักบิน
และทำให้เครื่องบินอยู่ในสภาพไร้นักบินคนขับเป็นเวลานานราว 10 นาที
แต่สาเหตุที่เครื่องบินลำนี้สามารถบินต่อไปได้อย่างเสถียร
เป็นเพราะฟังก์ชันระบบอัตโนมัติของเครื่องบิน

          หลังจากกัปตันเข้าบังคับเครื่องบินได้
เขาตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดฉุกเฉินที่กรุงมาดริด
ซึ่งเป็นสนามบินที่ใกล้ที่สุด ก่อนที่ผู้ช่วยนักบินจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
หลังประเมินอาการ แพทย์มีความเห็นว่า
“ภาวะไร้ความสามารถอย่างกะทันหันและรุนแรงของเขาเป็นผลมาจากโรคลมชักที่เกิดจากภาวะทางระบบประสาท”  

          ผู้ช่วยนักบินรายดังกล่าวถูกระงับใบรับรองทางการแพทย์สำหรับนักบินเป็นการชั่วคราว
ซึ่งเป็นไปตามมาตรการด้านความปลอดภัย ขณะที่โฆษกของสายการบินเผยกับรายงานของสื่อท้องถิ่น ระบุเพียงว่า
“ทางเราทราบเรื่องรายงานการสอบสวนแล้ว
และแผนกความปลอดภัยการบินของเราก็ได้ดำเนินการสอบสวนเช่นกัน”
แต่ทางสายการบินไม่ได้เปิดเผยผลการสอบสวนแต่อย่างใด 

ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post

KUBET – อุทาหรณ์ช็อก เด็ก 2 ขวบ ตกอพาร์ตเมนต์ชั้น 7 ดับสลด เพราะโซฟาตั้งตรงทางเดิน

          อุทาหรณ์สะเทือนใจ เด็กชายวัย 2 ขวบตกอพาร์ตเมนต์ชั้น 7 ดับสลด หลังปีนโซฟาที่ตั้งอยู่ตรงริมทางเดิน จุดอันตรายที่คาดไม่ถึง 



อุทาหรณ์ช็อก เด็ก 2 ขวบ ตกอพาร์ตเมนต์ชั้น 7
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Buletin Malaysia


          วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซเผยว่า เกิดอุบัติเหตุสะเทือนใจ เด็กชายวัย 2 ขวบ พลัดตกลงมาจากชั้น 7 ของอาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในเมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตอย่างน่าสลด โดยพบต้นเหตุเป็นจุดอันตรายที่คาดไม่ถึง คือโซฟาเก่าที่ถูกนำมาตั้งเรียงไว้ที่ริมทางเดินบนตึก  

          เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า เด็กชายรายดังกล่าวปีนขึ้นไปบนโซฟา ซึ่งวางอยู่ริมทางเดินที่ด้านหลังเปิดโล่ง ก่อนที่เด็กชายจะเสียหลักพลัดตกลงมายังด้านล่างร่างกระแทกพื้นอย่างรุนแรง หลังจากเกิดเหตุเด็กชายถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง แต่น่าเศร้าเมื่อแพทย์ไม่สามารถช่วยยื้อชีวิตเอาไว้ได้

อุทาหรณ์ช็อก เด็ก 2 ขวบ ตกอพาร์ตเมนต์ชั้น 7
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Buletin Malaysia


          เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เผยว่า
ได้รับแจ้งกรณีการเสียชีวิตของเด็กชายจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลปุตราจายา
เมื่อเวลาประมาณ 14.24 น. โดยข้อมูลระบุว่า
ผู้เป็นพ่ออุ้มร่างลูกชายตัวน้อยที่โชกเลือดมาที่โรงพยาบาล
ก่อนที่เด็กชายจะถูกประกาศว่าเสียชีวิตในเวลา 13.30 น.

         
อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รวมไปถึงการชันสูตรพลิกศพเพื่อทราบรายละเอียดของการเสียชีวิตที่แน่ชัด
ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนสังคมออนไลน์
โดยผู้คนต่างตำหนิถึงความประมาททั้งส่วนอาคารที่พักอาศัยไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงนำโซฟาเก่ามาวางตั้งเอาไว้ตรงบริเวณดังกล่าว
ถึงถึงว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

         
นอกจากนี้เหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าวยังเป็นอุทาหรณ์เตือนใจเหล่าผู้ปกครองที่ต้องตระหนักและย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าไม่ควรคลาดสายตาจากบุตรหลานของตน
โดยเฉพาะวัยเด็กเล็ก เพราะหากพลาดไปแม้แค่เสี้ยววินาทีเดียว
ก็อาจจะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้
เช่นเดียวกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzz