เดือน: พฤษภาคม 2025

 
             ดราม่าวิจารณ์เดือด หญิงป่วยหนักสิ้นใจที่ธนาคาร หลังเจ้าหน้าที่ยืนกราน เจ้าของบัญชีต้องมาถอนเงินด้วยตัวเอง กลายเป็นเหตุสลด

ภาพจาก Weibo

               ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ชายชื่อสกุลเผิง จากมณฑลหูหนาน ประเทศจีน
ได้โพสต์เรื่องราวผ่านทางชุมชนออนไลน์ด้วยความโกรธแค้น กล่าวหาว่า
ระบบการจัดการและดำเนินการของธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีน สาขาเขตซือเฟิง
เมืองจูโจว เป็นสาเหตุที่ทำให้ป้าของเขาซึ่งกำลังป่วยหนัก
ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด

               โดยเผิงเผยว่า
ป้าของเขาป่วยด้วยโรคเรื้อรังหลายชนิดมาเป็นเวลานาน จนเมื่อไม่นานมานี้
เธอเกิดอาการสโตรก ประสบภาวะสมองขาดเลือด
จึงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกลางเมืองจูโจว ในมณฑลหูหนาน
เธอจึงได้ให้ลูกสาวของเธอ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเผิง
นำบัตรประชาชนพร้อมสมุดบัญชีเงินฝากไปที่ธนาคารดังกล่าวเพื่อถอนเงินจำนวน
50,000 หยวน (ราว 231,000 บาท)
เพื่อมาชำระค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งแรก
ก่อนที่จะสามารถส่งเธอไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่งได้

               อย่างไรก็ตาม
ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งนั้นปฏิเสธไม่ยอมให้ลูกสาวป้าของเผิงถอนเงิน
โดยยืนยันว่าตามกฎระเบียบของทางธนาคาร ผู้เป็นเจ้าของบัญชีตัวจริงเท่านั้น
ถึงจะมีสิทธิ์ถอนเงินจากบัญชีได้ นั่นหมายความว่า
ป้าของเผิงต้องไปถอนเงินที่ธนาคารด้วยตัวเอง

               เผิงเผยว่า
ลูกสาวป้าได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารทราบอย่างชัดเจนว่า
แม่ของเธอป่วยหนักและไม่สามารถเดินทางมาที่ธนาคารได้
แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังยืนกรานเช่นเดิมว่า
เจ้าของเงินฝากจะต้องมาเป็นผู้ถอนเงินด้วยตัวเอง

               เมื่อไม่มีทางเลือก

ทางครอบครัวป้าของเผิงจึงพาเธอนั่งรถเข็นผู้ป่วยมาที่ธนาคารเพื่อดำเนินการถอนเงิน
อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารแจ้งว่าต้องดำเดินการยกเลิกบัญชีเงินฝากประจำ
ถึงถอนเงินจำนวนดังกล่าวได้ และใช้เวลาดำเนินการถึง 2 ชั่วโมง
ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. จนเกือบ 18.00 น. ก็ยังไม่แล้วเสร็จ

               ในที่สุดจึงเกิดภาพสุดเศร้าสลดอย่างที่สุด

เมื่อป้าของเผิงได้สิ้นใจจากไปในระหว่างรอเงินของเธออยู่ที่หน้าประตูธนาคาร
โดยเจ้าหน้าที่แพทย์ของหน่วยฉุกเฉินได้รับแจ้งและมาถึงที่ธนาคาร
ก่อนจะยืนยันการเสียชีวิตของเธอ

               เรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงและถูกวิจารณ์อย่างดุเดือด
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาดังกล่าว ได้เผยกับสื่อว่า
สาเหตุที่ใช้เวลานานเนื่องจาก
หญิงสูงวัยเจ้าของบัญชีต้องเข้ารับการยืนยันตัวตนผ่านระบบจดจำใบหน้า
แต่เกิดความล้มเหลว เนื่องจากเธออ่อนแรงเกินกว่าจะกระพริบตา
หรือก้มศีรษะได้ตามขั้นตอนที่กำหนด

               ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐของเมืองจูโจว
เผยว่าได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว โดยในวันเกิดเหตุตำรวจได้เข้ามาดำเนินการ
และยืนยันว่าหญิงสูงวัยรายนี้เสียชีวิตจากอาการป่วยกะทันหัน
ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ส่วนตัวแทนทางธนาคารได้กล่าวว่า “เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิต
และสัญญาว่าจะช่วยเหลือครอบครัวในการแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนเรื่องคดีอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยรายละเอียด”

               ชาวเน็ตต่างโกรธแค้นต่อวิธีดำเนินการจัดการของธนาคารอันนำไปสู่การเสียชีวิต
โดยกล่าวทำนองว่า
“ธนาคารกำหนดให้ลูกค้าต้องมาถอนเงินด้วยตนเองโดยคำนึงถึงความปลอดภัย
แต่ระเบียบข้อบังคับไม่มีมนุษยธรรมเลยเหรอ
เมื่อลูกค้าเป็นผู้สูงอายุที่ป่วยหนัก
ธนาคารไม่มีวิธียืดหยุ่นหรือรับมือกับสถานการณ์ได้เลยเหรอ
ปล่อยให้ลูกค้าต้องตายที่หน้าธนาคารเช่นนี้ เป็นภาพที่น่าอนาถใจมาก”

               ทั้งนี้
ตามรายงานระบุว่า ธนาคารหลายแห่งในประเทศจีน
กำหนดให้ต้องใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในการประมวลผลเพื่อการถอนเงิน
ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุเช่นเดียวกัน
ครอบครัวต้องเข็นผู้สูงอายุไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงิน
โดยมีชายรายหนึ่งเสียชีวิตในปี 2566 และอีกกรณีเมื่อปีที่ผ่านมา

ขอบคุณข้อมูลจาก Soha

          ไขปริศนา ถนนบางนา – ตราด รถติดยาวกว่า 30 กิโลเมตร กว่าจะถึงบ้านใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง เป็นเพราะอะไร ทั้งที่ไม่ใช่วันหยุดยาว แม้กระทั่ง 4 ทุ่มครึ่งยังไม่หาย

          ด้านชาวเน็ต ต่างเข้ามาวิเคราะห์ว่า สภาพการจราจรแบบนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากฝนตกหนักจนน้ำท่วม ทำให้การจราจรขยับแทบไม่ได้ บางคนต้องใช้เวลาอยู่บนถนน กว่าจะถึงบ้านก็ 2 ชั่วโมงขึ้นไป

          พร้อมกันนั้น ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า 4 ทุ่มครึ่ง บนถนนบางนา-ตราด ก็ยังคงมีรถติดอยู่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว / เฟซบุ๊ก ข่าวสารเมืองปราการ v2

             เกิดเหตุฟ้าผ่าปราสาทนครวัด ในกัมพูชา ขณะทำพิธีบวงสรวง เสียชีวิตสลด 3 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 10 ราย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก សៀមរាបជួសជុលនឹងថែទាំម៉ូតូ

               วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Khmer Times รายงานว่า
เกิดเหตุการณ์สลด ฟ้าผ่าปราสาทนครวัด
หมู่ปราสาทชื่อดังอันเป็นที่เคารพในจังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
ในระหว่างที่กำลังทำพิธีบวงสรวง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
และได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย

               เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ
17.00 น. ของเมื่อวานนี้ (16 พฤษภาคม)
ในขณะที่นักท่องเที่ยวที่มาจากต่างสถานที่และชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมาก
กำลังมารวมตัวกันที่ปราสาทนครวัดเพื่อทำพิธีบวงสรวงเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ด้านบนปราสาท
ซึ่งในขณะนั้นมีฝนตก แต่อยู่ ๆ เกิดเหตุภัยทางธรรมชาติอย่างไม่คาดฝัน
ฟ้าผ่าลงมาที่บริเวณปราสาทนครวัด

               เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน
3 ราย ตามรายงานเบื้องต้นระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา
โดยมาจากกรุงพนมเปญ 1 ราย จากจังหวัดกำปอด 1 ราย
และเป็นชาวบ้านในพื้นที่อีก 1 ราย ไม่มีชาวต่างชาติรวมถึงชาวไทย
ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย ไม่มีรายละเอียดเปิดเผย

               บนโซเชียลมีเดียได้เผยแพร่ภาพขณะเกิดเหตุการณ์

ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยท้องถิ่นได้นำรถฉุกเฉินจำนวนหลายคันเข้าไปยังพื้นที่
เพื่อเร่งเข้าช่วยเหลือพาตัวผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
ขณะที่สื่อท้องถิ่นเผยให้เห็นภาพผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากที่กำลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

 
            แพทย์สาววัย 26 เปิดเรื่องราวอาชีพเสริมหลังเลิกงาน เก็บขยะรีเซิลเคิลขายช่วยครอบครัว เผยไม่อายแถมภูมิใจ รายได้มากกว่าโรงพยาบาล

ภาพจาก Weibo

            ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น แพทย์หญิงรายนี้อายุ 26 ปี
ชื่อสกุลเซียง อยู่ในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน เธอเผยว่า
เธอเป็นแพทย์ประจำแผนกฟื้นฟูสมรรถภาพของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่
ในวันทำงานเวลากลางวัน เธอเริ่มงานประจำเวลา 8.00 น. และเลิกงานเวลา 17.30
น.
หน้าที่หลักของเธอคือการช่วยผู้ดูแลรักษาป่วยสูงอายุที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในด้านฟื้นฟูสมรรถภาพ
และฝึกการเคลื่อนไหวร่างกาย

ภาพจาก Weibo

             ส่วนหลังเวลาเลิกงาน
เซียงจะไปทำงานเสริมเก็บขยะรีไซเคิลขาย
เนื่องจากพ่อและแม่ของเธอเปิดสถานที่รีไซเคิลขยะ
โดยจะเน้นเก็บขยะรีไซเคิลที่เป็นโลหะเป็นหลัก รวมไปถึงขยะประเภทอื่น ๆ ด้วย
ซึ่งขยะเหล่านี้จะถูกคัดแยกและจัดหมวดหมู่ทุกวันก่อนนำไปขาย
แม้ว่าที่พ่อแม่จะจ้างคนงาน แต่ขยะมีจำนวนมาก
พ่อแม่ของเธอจึงต้องทำงานจนถึง 21.00-22.00 น. กว่าจะได้กลับบ้าน
เธอจึงต้องการช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่
ในขณะเดียวกันก็ยังได้ทักษะการเอาชีวิตรอด

             เซียงเล่าอย่างภาคภูมิใจว่า
เงินเดือนพื้นฐานที่โรงพยาบาลเดือนละ 4,000 หยวน (ราว 18,500 บาท)
ซึ่งแม้ว่าเธอจะไม่ได้ช่วยเหลืองานของครอบครัว
พ่อแม่ของเธอก็ยังให้เงินค่าขนมอยู่ แต่เธออยากช่วยเหลือพวกเขา
และรายได้ที่เธอได้จากอาชีพเก็บขยะรีไซเคิลก็มากกว่าเงินเดือนพื้นฐานที่โรงพยาบาลเสียอีก
 

             เซียงได้แชร์คลิปวิดีโอเรื่องราวของเธอในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
จนได้รับทั้งกระแสตอบรับเชิงบวกและลบจำนวนมาก
หลายคนมองว่าการเก็บขยะเป็นเรื่องสกปรกและไม่ถูกสุขอนามัย
แต่เธอก็ได้อธิบายว่า ขยะโลหะรีไซเคิลไม่สกปรกอย่างที่คิด
แต่จะมีสนิมเกาะติดเสื้อผ้าบ้าง
ซึ่งหากระมัดระวังและมีขั้นตอนการจัดการเป็นอย่างดีก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย
ส่วนบางคนที่กล่าวตำหนิแสดงท่าทีรังเกียและเรียกเธอว่าคนเก็บขยะนั้น
เธอไม่ได้ให้ความสนใจ และตอนนี้เธอก็ปรับตัวได้เป็นอย่างดี

ภาพจาก Weibo

ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT

          นิสสัน ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น จ่อปลดพนักงาน 20,000 คน พร้อมปิด 7 โรงงานทั่วโลก หลังเผชิญความท้าทาย ขอดขายลด กำไรหด ยอมลดขนาดองค์กร

ภาพจาก RICHARD A. BROOKS / AFP

          วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นิสสัน (Nissan) บริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศแผนลดขนาดองค์กรครั้งใหญ่ โดยเตรียมปลดพนักงานเพิ่มอีก 11,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่งประกาศแผนปลดพนักงาน 9,000 ตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีพนักงานถูกเลิกจ้างกว่า 20,000 ตำแหน่ง พร้อมกันนั้นจะมีการปิดโรงงานอีก 7 แห่งทั่วโลก ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ที่บริษัทต้องเผชิญ

          รายงานเผยว่า นิสสัน เผชิญสถานการณ์กำไรหดหายในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 6.98 หมื่นล้านเยน (ราว 1.59 หมื่นล้านบาท) ในช่วง 12 เดือน จนถึงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ลดลงถึง 88% จากปีงบประมาณก่อนหน้า

          สถานการณ์ที่บริษัทกำลังเผชิญนี้ นับเป็นโจทย์ยากสำหรับ อีวาน เอสปิโนซา (Ivan Espinosa) CEO คนใหม่ของนิสสัน ที่จะต้องพลิกฟื้นสถานการณ์ ซึ่งเขาได้ประกาศว่าบริษัทจะต้องให้ความสำคัญกับการปรับปรุงตนเองอย่างเร่งด่วนและรวดเร็วขึ้น รวมถึงมุ่งเน้นความสามารถในการทำกำไร โดยพึ่งพายอดขายน้อยลง

          อนึ่ง สำหรับการปลดพนักงาน 20,000 ตำแหน่ง นับเป็น 15% จากกำลังคนทั่วโลกของบริษัท พร้อมกันนั้นนิสสันยังเตรียมปิดโรงงานผลิต 7 แห่งทั่วโลก คงเหลือไว้เพียง 10 โรงงาน จาก 17 โรงงาน ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่ามีตำแหน่งงานใดบ้างที่ได้รับผลกระทบจากแผนปลดคนดังกล่าว รวมถึงจะมีการปิดโรงงานที่ใดบ้าง
 
ขอบคุณข้อมูลจาก CNN, USA Today

          เปิดเงินเดือนพระสงฆ์ (อัตรานิตยภัต) ส่องรายได้ เจ้าคุณแย้ม รับเท่าไหร่ ไม่รวมค่าปัจจัยจากผู้ทำบุญ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก วัดไร่ขิง พระอารามหลวง

          วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ThaiPBS รายงานว่า สำหรับ พระธรรมวชิรานุวัตร เดิมชื่อ แย้ม ฉายา กิตฺตินฺธโร เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2498 เป็นบุตรของนายหยวก อินทร์กรุงเก่า และนางทวี ศรีบุญรอด เกิดที่บ้านคลองรางไทร ต.บางภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2510 ขณะมีอายุได้ 12 ปี ณ วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ต่อมาเมื่ออายุได้ 21 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดไร่ขิง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2519

ประวัติ พระธรรมวชิรานุวัตร

          – พ.ศ. 2510 สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดรางกำหยาด ต.บางภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม

          – พ.ศ. 2513 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษาวัดไร่ขิง อ.สามพราน สำนักเรียนคณะจังหวัดนครปฐม

          – พ.ศ. 2513 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 3 ประโยค สำนักศาสนศึกษาวัดไร่ขิง อ.สามพราน สำนักเรียนคณะจังหวัดนครปฐม

          – พ.ศ. 2535 เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท ที่พระครูโสภณปัญญาวุธ

          – พ.ศ. 2540 เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

          – พ.ศ. 2545 เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

          – พ.ศ. 2549 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระพิพัฒน์วิริยาภรณ์ (สป.)

          – พ.ศ. 2554 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชวิริยาลังการ สุวิธานศาสนกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

          – พ.ศ. 2558 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพศาสนาภิบาล ไพศาลสังฆกิจธำรง อุบาลีวงศพิพัฒน์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

          – พ.ศ. 2565 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่พระธรรมวชิรานุวัตร พิพัฒนกิจวิธาน สีลสมาจารธำรง อุบาลีวงศวราภรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

เปิดเงินเดือน เจ้าคุณแย้ม ตำแหน่งพระราชาคณะ และเจ้าคณะภาค 14

          ขณะที่ เดลินิวส์ เปิดเผยอัตราเงินเดือนพระสงฆ์ (อัตรานิตยภัต) ที่รัฐบาลเป็นผู้จ่าย เพื่อสนับสนุนเป็นค่าภัตตาหารประจํา แด่พระสังฆาธิการ พระสมณศักดิ์ พระเปรียญธรรม 9 ประโยค และพระเลขานุการ ตามความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน

          อัตราเงินเดือนพระสงฆ์ (นิตยภัต) ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน อ้างอิงจากคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2554 ที่ให้แก่พระที่มีสมณศักดิ์ทั้งหมด 76 สมณศักดิ์ ตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ไปจนถึงเลขานุการเจ้าคณะตำบล ดังนี้

          สมเด็จพระสังฆราชเจ้า 37,700 บาท
          สมเด็จพระสังฆราช 34,200 บาท
          ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช 30,800 บาท
          สมเด็จพระราชาคณะ 27,400 บาท
          กรรมการมหาเถรสมาคม 23,900 บาท
          เจ้าคณะใหญ่หนต่าง ๆ (มหานิกาย/ธรรมยุต) 23,900 บาท
          พระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ 20,500 บาท
          เจ้าคณะภาค 17,100 บาท
          แม่กองบาลี 17,100 บาท
          แม่กองธรรม 17,100 บาท
          รองเจ้าคณะภาค 13,700 บาท
          เจ้าคณะจังหวัด 10,300 บาท

          เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช 10,300 บาท
          พระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นสัญญาบัตร 13,700 บาท
          พระราชาคณะชั้นธรรม 13,700 บาท
          พระราชาคณะชั้นเทพ 10,300 บาท
          พระราชาคณะเจ้าคณะจังหวัด 10,300 บาท
          พระราชาคณะชั้นราช 6,900 บาท
          พระราชาคณะปลัดขวา 5,500 บาท
          พระราชาคณะปลัดซ้าย 5,500 บาท
          พระราชาคณะปลัดกลาง 5,500 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญ ป.ธ.9 ประโยค 5,500 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญ ป.ธ.7-8 ประโยค 5,200 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญ ป.ธ.5-6 ประโยค 4,800 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญ เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก 4,800 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญ ป.ธ.4/รองเจ้าคณะจังหวัด 4,500 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญ เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท 4,500 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญ ป.ธ.3 4,100 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ 4,100 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญยก (เจ้าคณะอำเภอ) 4,100 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญ เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นตรี 4,100 บาท

          พระเปรียญธรรม 9 ประโยค 4,100 บาท
          พระคณาจารย์เอก 4,100 บาท
          พระราชาคณะชั้นสามัญยก 3,800 บาท
          พระครูปลัดชั้นเอกของสมเด็จพระราชาคณะ 3,800 บาท
          พระคณาจารย์โท 3,800 บาท

          พระราชาคณะชั้นสามัญยก/เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ 3,800 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก 3,800 บาท
          เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนต่าง ๆ (มหานิกาย/ธรรมยุต) 3,800 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท 3,400 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก 3,400 บาท
          พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ 3,400 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เทียบเท่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ 3,400 บาท
          พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก 3,400 บาท
          เลขานุการเจ้าคณะภาค 3,400 บาท

          พระครูปลัด รองสมเด็จพระราชาคณะ 3,400 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นโท 3,100 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นตรี 3,100 บาท
          พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท 3,100 บาท
          พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก 3,100 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เทียบเท่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก 3,100 บาท
          พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก 3,100 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นเอก 3,100 บาท
          เลขานุการรองเจ้าคณะภาค 3,100 บาท
          เลขานุการเจ้าคณะจังหวัด 3,100 บาท

          พระครูปลัดของเทียบรองสมเด็จพระราชาคณะ 3,100 บาท
          พระครูฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราชชั้นเอก 3,100 บาท
          พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะอำเภอชั้นโท 2,700 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นโท 2,700 บาท
          พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท 2,700 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เทียบเท่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท 2,700 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก 2,700 บาท
          พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นตรี 2,700 บาท
          พระครูฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราชชั้นโท 2,700 บาท
          พระครูปลัดของพระราชาคณะชั้นธรรม 2,700 บาท
          เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัด 2,700 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นตรี 2,500 บาท
          พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท 2,500 บาท
          เจ้าอธิการ 2,500 บาท

          พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี 2,200 บาท
          เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ 2,200 บาท
          พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ 1,800 บาท
          พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ 1,800 บาท
          เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอ 1,800 บาท
          พระอธิการ 1,800 บาท
          เลขานุการเจ้าคณะตำบล 1,200 บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiPBS, เดลินิวส์

          ส่องค่าเช่าที่ งานวัดไร่ขิง ร้านค้ายอมรับตัวเลขประมูลสูงขึ้นทุกปี ด้านร้านดังเคยทุ่มมากสุด 2.3 ล้านบาท

ภาพจาก วัดไร่ขิง พระอารามหลวง

          วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ข่าวช่อง 3 สอบถาม คุณอิ๊ฟ อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้ประมูลแผงค้าหอยจ้อ ห่อหมก ในงานประจำปี ซึ่งแต่ละปีจะมีการประมูลสองครั้งคือช่วงเดือนสี่ และเดือนสิบ ปีที่แล้วประมูลที่ 190,000 บาท ส่วนครั้งล่าสุดเมื่อเดือนสี่ เธอประมูลที่ 235,000 บาท ระยะเวลา 20 วัน แต่สำหรับงานวันจริงเก้าวันเก้าคืน ซึ่งเงินหมุนเวียนในการประมูลร้านค้ามีมูลค่าสูงมาก เพราะมีประมาณเป็น 100 ร้านค้า ซึ่งตอนประมูล จะต้องจ่ายเป็นเงินสดมาทั้งหมด

          ส่วนเงินค่าประมูลราคากว่า 2 แสนบาทนั้น ยอมรับว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดตั้งแต่เคยประมูลแผงมา แต่ยืนยันว่าการประมูลเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ และไม่ได้มีการบังคับว่าต้องประมูลเท่าไหร่ และโปร่งใส ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการขายแล้วนั้นถือว่าของเธอยังได้กำไรอยู่บ้าง

          ขณะเดียวกัน โลกออนไลน์แชน์คลิปของ  ผู้ใช้ TikTok @amppangver เจ้าของแบรนด์ขนม ปังเว่อร์ ทำคลิปรีวิวค่าแผงงานวัดไร่ขิง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยเล่าประสบการณ์ส่วนตัวกับการประมูลค่าแผงมาหลายปี ซึ่งพบว่าราคาสูงขึ้นทุกปี แต่อีกปัจจัยหนึ่งเพราะร้านได้ย้ายมาอยู่ในจุดที่ทำเลดีมากขึ้น จนมียอดขายที่สูงเช่นกัน

          เจ้าของร้าน เล่าว่า ในปี 2565 ค่าเช่าพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 120,000 บาท โดยในช่วงต้นปี 2566 ค่าเช่า 400,000 บาท และในช่วงปลายปีเดียวกัน ค่าเช่าเกือบ 500,000 บาท ต่อมาช่วงต้นปี 2567 ร้าน ปังเว่อร์ ย้ายมายังทำเลทองภายในงาน ค่าเช่าพุ่งมาที่ 2,300,000 บาท และในช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ค่าเช่าอยู่ที่ 1,500,000 บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3

          เด็ก 3 ขวบสุดทรมาน มีไฝยักษ์ตามตัว ต้องผ่าตัดจนหัวปูดเป็นมิกกี้ เมาส์ ในที่สุดก็ยิ้มออกหลังผ่าตัดรอบ 2 สำเร็จ ตอนนี้หัวยุบแล้ว แถมผ่าไฝออกเรียบร้อย

          วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Sinchew รายงานว่า ฉีเป่า เด็กจีนวัย 3 ขวบ จากมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ซึ่งเกิดมาพร้อมกับไฝยักษ์และมีไฝอยู่หลายจุดตามร่างกาย ได้ตกเป็นเป้าความสนใจหลังจากต้องผ่าตัดใส่อุปกรณ์การแพทย์เข้าไปบนศีรษะทั้ง 2 ข้าง จนทำให้ผิวหนังบริเวณศีรษะของเขาขยายออก ดูเหมือนกับตัวการ์ตูนดังอย่าง มิกกี้ เมาส์

          แม่ของฉีเป่า เล่าว่า ทุกอย่างดูปกติดีตอนที่ตรวจครรภ์ ไม่คิดว่าแพทย์จะพบว่าเด็กมีไฝดำขนาดใหญ่หลังจากเกิดมา ฝีเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลด้านรูปลักษณ์ แต่ยังเสี่ยงที่จะกลายเป็นเนื้อร้าย ดังนั้น เธอจึงได้แต่โทษตัวเองและพยายามหาทางรักษาลูก

          ในที่สุดทางครอบครัวก็พาเด็กชายจากมณฑลฝูเจี้ยนมารักษาที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งในการผ่าตัดรอบแรกจะเป็นการฝังอุปกรณ์ที่ศีรษะทั้ง 2 ด้าน รวมถึงฉีดน้ำเข้าไป ซึ่งแม่ยอมรับว่า “ก่อนหน้านี้เขาอึดอัดมาก มีก้อน 2 ก้อนยื่นออกมา เขาต้องระมัดระวังมาก อีกทั้งหนังศีรษะของเขายังบางลงเรื่อย ๆ จนเรากังวลทุกวันว่ามันจะแตก”

          หลังจากการผ่าตัดรอบแรก ฉีเป่าตกเป็นเป้าสายตาของผู้คน เนื่องจากรูปทรงของศีรษะที่ตอนนี้ดูเหมือนมิกกี้ เมาส์ และคนที่ผ่านไปผ่านมามักจะทักอยู่เสมอ ทำให้เด็กชายที่เคยเป็นคนร่าเริงเริ่มเงียบลง และมักจะนั่งอยู่บนรถเข็นโดยไม่พูดอะไร

          แต่แม้จะต้องเผชิญกับความลำบาก แม่ของเด็กชายยอมรับว่าพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งตั้งแต่ต้นก็จริง แต่ก็เลือกที่จะเช็ดน้ำตาแล้วเดินหน้าให้ถึงที่สุด จนในที่สุดหลังจากเวลาผ่านไปนาน 5 เดือน ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่ 2 เพื่อนำอุปกรณ์ที่ศีรษะออก รวมถึงนำไฝของเด็กชายออกไปด้วย การผ่าตัดครั้งนี้ประสบความสำเร็จ โดยใช้เวลานานถึง 6 ชั่วโมงครึ่ง
 
          อย่างไรก็ตาม เด็กชายยังจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพิ่มเติม แต่ถึงอย่างนั้นอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เด็กชายมีความสุขมาก และในช่วงวันแม่ของจีนที่ผ่านมา เขายังบอกอีกว่าชอบถ่ายรูป และหวังว่าเมื่อโตไปจะหาเงินมาซื้อลิปสติกให้แม่ด้วย
 
          ทางโรงพยาบาลเผยว่า ไฝยักษ์ที่เด็กชายมีตั้งแต่เกิดเป็นความผิดปกติของเมลาโนไซต์ ที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิวหนัง มันมีโอกาสที่จะใหญ่ขึ้นตามวัย และมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ทางการแพทย์จึงมักแนะนำให้ผ่าตัดออก
 

ภาพจาก Weibo

ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew

          ไวรัล 1.2 ล้าน เมื่อสาวเดินในรีสอร์ต แต่บอกว่าตกน้ำ คนดูก็ได้แต่งง ตกน้ำตรงไหน เห็นแต่หิน ก่อนมีคำเฉลย สังเกตไม่เห็นจริง ๆ

ภาพจาก TikTok @bonus_bo12345

          วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 TikTok @bonus_bo12345 มีการลงคลิปไวรัล 1.2 ล้านครั้ง เมื่อเธอไปพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่พัทยา จ.ชลบุรี และจุดนี้มีที่นั่งสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจของลูกค้าอีกหลายคน

ภาพจาก TikTok @bonus_bo12345

          ระหว่างที่เธอเดินอยู่นั้น เธอยอมรับว่า
เธอตกน้ำจริง ๆ แต่สำหรับคนดูคลิป ก็งงว่า ตกน้ำยังไง ไม่เห็นมีน้ำเลย
เห็นแต่ก้อนหินบนพื้น ซึ่งคำเฉลยก็คือ จุดที่เห็นก้อนหิน ก็คือจุดที่มีน้ำ
แต่เพราะมันใสมาก ทำให้คนมองไม่ออก เวลาเดิน ต้องเดินผ่านเนินกระเบื้องสูง

ภาพจาก TikTok @bonus_bo12345

ภาพจาก TikTok @bonus_bo12345

ภาพจาก TikTok @bonus_bo12345

ภาพจาก TikTok @bonus_bo12345