ดราม่าวิจารณ์เดือด หญิงป่วยหนักสิ้นใจที่ธนาคาร หลังเจ้าหน้าที่ยืนกราน เจ้าของบัญชีต้องมาถอนเงินด้วยตัวเอง กลายเป็นเหตุสลด

ภาพจาก Weibo
มีเรื่องราวดราม่าร้อนแรงบนสังคมออนไลน์ของจีน
โดยธนาคารแห่งหนึ่งตกเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงรายหนึ่งต้องสิ้นลมหายใจลงอย่างน่าสลดที่ธนาคาร
ภายหลังจากทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารแจ้งว่า
เธอผู้เป็นเจ้าของบัญชีต้องมาถอนเงินด้วยเองเท่านั้น
ทั้งที่เธอกำลังป่วยหนัก
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ชายชื่อสกุลเผิง จากมณฑลหูหนาน ประเทศจีน
ได้โพสต์เรื่องราวผ่านทางชุมชนออนไลน์ด้วยความโกรธแค้น กล่าวหาว่า
ระบบการจัดการและดำเนินการของธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีน สาขาเขตซือเฟิง
เมืองจูโจว เป็นสาเหตุที่ทำให้ป้าของเขาซึ่งกำลังป่วยหนัก
ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
โดยเผิงเผยว่า
ป้าของเขาป่วยด้วยโรคเรื้อรังหลายชนิดมาเป็นเวลานาน จนเมื่อไม่นานมานี้
เธอเกิดอาการสโตรก ประสบภาวะสมองขาดเลือด
จึงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกลางเมืองจูโจว ในมณฑลหูหนาน
เธอจึงได้ให้ลูกสาวของเธอ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเผิง
นำบัตรประชาชนพร้อมสมุดบัญชีเงินฝากไปที่ธนาคารดังกล่าวเพื่อถอนเงินจำนวน
50,000 หยวน (ราว 231,000 บาท)
เพื่อมาชำระค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งแรก
ก่อนที่จะสามารถส่งเธอไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่งได้
อย่างไรก็ตาม
ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งนั้นปฏิเสธไม่ยอมให้ลูกสาวป้าของเผิงถอนเงิน
โดยยืนยันว่าตามกฎระเบียบของทางธนาคาร ผู้เป็นเจ้าของบัญชีตัวจริงเท่านั้น
ถึงจะมีสิทธิ์ถอนเงินจากบัญชีได้ นั่นหมายความว่า
ป้าของเผิงต้องไปถอนเงินที่ธนาคารด้วยตัวเอง
เผิงเผยว่า
ลูกสาวป้าได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารทราบอย่างชัดเจนว่า
แม่ของเธอป่วยหนักและไม่สามารถเดินทางมาที่ธนาคารได้
แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังยืนกรานเช่นเดิมว่า
เจ้าของเงินฝากจะต้องมาเป็นผู้ถอนเงินด้วยตัวเอง
เมื่อไม่มีทางเลือก
ทางครอบครัวป้าของเผิงจึงพาเธอนั่งรถเข็นผู้ป่วยมาที่ธนาคารเพื่อดำเนินการถอนเงิน
อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารแจ้งว่าต้องดำเดินการยกเลิกบัญชีเงินฝากประจำ
ถึงถอนเงินจำนวนดังกล่าวได้ และใช้เวลาดำเนินการถึง 2 ชั่วโมง
ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. จนเกือบ 18.00 น. ก็ยังไม่แล้วเสร็จ
ในที่สุดจึงเกิดภาพสุดเศร้าสลดอย่างที่สุด
เมื่อป้าของเผิงได้สิ้นใจจากไปในระหว่างรอเงินของเธออยู่ที่หน้าประตูธนาคาร
โดยเจ้าหน้าที่แพทย์ของหน่วยฉุกเฉินได้รับแจ้งและมาถึงที่ธนาคาร
ก่อนจะยืนยันการเสียชีวิตของเธอ

เรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงและถูกวิจารณ์อย่างดุเดือด
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาดังกล่าว ได้เผยกับสื่อว่า
สาเหตุที่ใช้เวลานานเนื่องจาก
หญิงสูงวัยเจ้าของบัญชีต้องเข้ารับการยืนยันตัวตนผ่านระบบจดจำใบหน้า
แต่เกิดความล้มเหลว เนื่องจากเธออ่อนแรงเกินกว่าจะกระพริบตา
หรือก้มศีรษะได้ตามขั้นตอนที่กำหนด
ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐของเมืองจูโจว
เผยว่าได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว โดยในวันเกิดเหตุตำรวจได้เข้ามาดำเนินการ
และยืนยันว่าหญิงสูงวัยรายนี้เสียชีวิตจากอาการป่วยกะทันหัน
ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ส่วนตัวแทนทางธนาคารได้กล่าวว่า “เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิต
และสัญญาว่าจะช่วยเหลือครอบครัวในการแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนเรื่องคดีอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยรายละเอียด”
ชาวเน็ตต่างโกรธแค้นต่อวิธีดำเนินการจัดการของธนาคารอันนำไปสู่การเสียชีวิต
โดยกล่าวทำนองว่า
“ธนาคารกำหนดให้ลูกค้าต้องมาถอนเงินด้วยตนเองโดยคำนึงถึงความปลอดภัย
แต่ระเบียบข้อบังคับไม่มีมนุษยธรรมเลยเหรอ
เมื่อลูกค้าเป็นผู้สูงอายุที่ป่วยหนัก
ธนาคารไม่มีวิธียืดหยุ่นหรือรับมือกับสถานการณ์ได้เลยเหรอ
ปล่อยให้ลูกค้าต้องตายที่หน้าธนาคารเช่นนี้ เป็นภาพที่น่าอนาถใจมาก”
ทั้งนี้
ตามรายงานระบุว่า ธนาคารหลายแห่งในประเทศจีน
กำหนดให้ต้องใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในการประมวลผลเพื่อการถอนเงิน
ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุเช่นเดียวกัน
ครอบครัวต้องเข็นผู้สูงอายุไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงิน
โดยมีชายรายหนึ่งเสียชีวิตในปี 2566 และอีกกรณีเมื่อปีที่ผ่านมา
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha