
ตำนานนางเอก AV สุดฮอตเจ้าของคัพ F คัมแบ็กวงการกลับมาถ่ายทำอีกครั้ง ในวัย 54 แต่ยังหุ่นแซ่บตะลึง ด้านผู้เชี่ยวชาญเผยสิ่งที่น่าทึ่ง
วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวของ ไอดะ รุกะ (Aida Ruka) อดีตนักแสดง AV ชาวญี่ปุ่น หนึ่งในระดับตำนานของวงการ โดยเธอได้ออกจากวงการไปถึง 15 ปี จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอได้สร้างความเซอร์ไพรส์ที่น่าตื่นเต้น ด้วยการประกาศคัมแบ็กหวนคืนสู่วงการอีกครั้งในวัย 54 ปี ซึ่งแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปนาน แต่ตำนานก็ยังคงเป็นตำนาน หุ่นของเธอยังแซ่บอย่างน่าทึ่งราวกับสาวเพิ่งเข้าสู่วัย 30
ไอดะ รุกะ มีส่วนสูง 163 เซนติเมตร มาพร้อมกับขนาดหน้าอกคัพ F เธอเดบิวต์เข้าสู่งวงการ AV ครั้งแรกตั้งแต่เมื่อปี 2538 ก่อนที่จะอำลาวงการไปเมื่อปี 2553 และหันไปทำธุรกิจเปิดบาร์ กระทั่งในปีนี้ ถือโอกาสครบรอบ 30 ปีนับตั้งแต่เดบิวต์ ไอดะ รุกะ กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ขณะนี้เธอได้เตรียมตัวออกผลงานใหม่ในชื่อเรื่องว่า “ตำนานฟื้นคืนชีพ” โดยจะปล่อยในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568
ประกาศคัมแบ็กของ ไอดะ รุกะ สร้างความฮือฮาให้กับแฟน ๆ ผู้ติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา เธอได้เปิดบัญชี X (Twitter) ให้แฟน ๆ ได้คอยติดตามอัปเดต และเตรียมพร้อมที่จะต้อนรับการกลับมาของระดับตำนาน
ด้านอวี้เจียน ฮวน ชุนชิว ผู้เชี่ยวชาญ AV ของญี่ปุ่นในไต้หวัน ได้เขียนบทความถึงไอดะ รุกะ บนเว็บไซต์ Play NO.1 กล่าวว่า เธอดูแลและรักษารูปลักษณ์ของเธอได้เป็นอย่างดี ในวัย 54 ปี แม้ว่าหน้าตาของเธอจะมีสัญญาณของความมีอายุเพิ่มมากขึ้น แต่โดยรวมแล้วเธอยังดูสวยฮอตเช่นเดียวกับสาววัย 30 โดยเฉพาะหุ่นสุดแซ่บเธอ หน้าอกของเธอยังดูอิ่มเอิบและกระชับเต่งตึง ซึ่งถือว่ายังคงเป็นจุดเด่นของเธอที่น่าดึงดูดใจ
“แม้เแต่สีของหัวนมของเธอยังคงดูอ่อนเยาว์ นี่คือสิ่งที่มหัศจรรย์ที่น่าทึ่งสุดของผลงานใหม่ของเธอ” อวี้เจียน กล่าว
ภาพจาก X @rukaaida
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday
สาวสุดงง โดนบอกเลิกหาว่านอกใจ เหตุเพราะมือถือรู้รหัสต่อ Wi-Fi โรงแรมเองอัตโนมัติ ร้องคนช่วยพิสูจน์ ความจริงคดีพลิก ไม่หวังคืนดี แต่อยากได้คำขอโทษ
วันที่ 4
พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Sin Chew เผยเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งในประเทศจีน
เมื่อเร็ว ๆ นี้เธอได้เผชิญกับประสบการณ์ไม่คาดฝัน
ขณะที่ไปเช็กอินที่โรงแรมแห่งหนึ่งกับแฟนหนุ่ม แต่ยังไม่ทันที่จะเข้าพัก
เธอกลับลงเอยด้วยการถูกฝ่ายชายบอกเลิก
หลังจากเห็นว่าโทรศัพท์มือถือของเธอเชื่อมต่อกับ Wi-Fi
ของโรงแรมโดยอัตโนมัติ จึงเชื่อว่าเธอนอกใจเพราะเคยมาที่โรงแรมแห่งนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางด้านหญิงสาวรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจอย่างยิ่ง
เธอมั่นใจว่าเธอไม่ได้นอกใจ และไม่เคยมาที่โรงแรมแห่งนี้มาก่อน
จนเมื่อลองสืบหาข้อมูลด้วยตัวเองก็ได้พบความจริงที่น่าตกละลึง
โรงแรมแห่งนี้ใช้ชื่อ Wi-Fi เดียวกับโรงแรมอีกแห่งที่เธอเคยทำงานที่นั่น
อีกทั้งยังตั้งรหัสผ่านเหมือนกันเป๊ะ
ดังนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอซึ่งเคยมีประวัติเชื่อมต่อกับ Wi-Fi
ที่โรงแรมแห่งนั้น จึงเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่โรงแรมแห่งนี้ได้เอง
หญิงสาวต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
จึงนำเรื่องราวที่น่าตกใจนี้ไปเปิดเผยต่อสื่อท้องถิ่น โดยเธอให้สัมภาษณ์ว่า
โรงแรมทั้งสองแห่งตั้งชื่อ Wi-Fi ตรงบริเวณที่เช็กอินว่า “front desk”
ซึ่งมักนิยมใช้กับแผนกต้อนรับของโรงแรม แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ Wi-Fi
บริเวณนั้นของโรงแรมทั้งสองแห่งตั้งรหัสผ่านเดียวกัน นั่นคือ เลข 8 จำนวน 8
ตัว หรือ 88888888
ทางนักข่าวจึงต้องการพิสูจน์ความจริง
จึงเดินทางไปที่โรงแรมที่หญิงสาวบอกว่าเคยทำงานอยู่ที่นั่น
จากนั้นก็ทดลองใช้โทรศัพท์มือถือใส่รหัสผ่านเชื่อมต่อกับ Wi-Fi
ที่โรงแรมนั้น ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้จริงตามที่หญิงสาวกล่าว
จากนั้นก็เดินทางไปที่โรงแรมที่หญิงสาวและแฟนหนุ่มมีปัญหากัน
กระทั่งความจริงปรากฏว่า โทรศัพท์มือถือของนักข่าวก็สามารถเชื่อมต่อกับ
Wi-Fi ที่โรงแรมแห่งนี้ได้เองโดยอัตโนมัติ
ผลการทดลองดังกล่าวจึงยืนยันได้ว่า สิ่งที่หญิงสาวพูดนั้นเป็นความจริง
โดยเธอได้กล่าวย้ำว่า “ที่ฉันออกมาเช่นนี้
ไม่ได้ต้องการให้แฟนของฉันเปลี่ยนใจหรือกลับมาคืนดี
ฉันแค่ต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
และหวังว่าจะได้รับคำขอโทษจากเขา”
เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่ไดัรับความสนใจบนโลกออนไลน์
และเกิดการถกเถียงอย่างดุเดือด ขณะเดียวกันนายหลิว
ซึ่งทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเครือข่ายด้านความปลอดภัยของข้อมูล
ได้แสดงความคิดเห็นเสริมว่า โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์แล็ปท็อป
มีฟังก์ชั่นจัดเก็บชื่อและรหัสผ่าน Wi-Fi โดยอัตโนมัติ
ดังนั้นเมื่อตัวเครื่องเจอกับสัญญาณเครือข่าย Wi-Fi
ที่ถูกตั้งชื่อและรหัสผ่านเดียวกัน แม้จะอยู่ต่างสถานที่กัน
ก็มีความเป็นไปได้ที่มันจะสามารถเชื่อมต่อได้เองโดยอัตโนมัติ
คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน ชาวเน็ตแห่ตอบเป็นเสียงเดียว ด้านแอดมินรับลำบากใจต้องอนุมัติ
วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Patchalit Sangaime โพสต์ในกลุ่ม นี่ตัวอะไร เป็นภาพบริเวณริมชายหาดชะอำ ยาวไปจนถึงหัวหิน พบว่ามีซากปลาบางชนิดลอยมาติดริมชายหาดจำนวนมาก
จากภาพเผยให้เห็นบริเวณชายหาดซึ่งมีปลาหลายตัวลอยมานอนตายอยู่ ลักษณะคล้ายกับปลาหมอ แต่บริเวณคางเป็นสีดำ โดยเจ้าของโพสต์ระบุว่า “ปลาอะไรครับ ริมหาดทางชะอำ ต่อ หัวหิน ยาวตลอดแนวหาด ลองเสิร์จผ่านกูเกิล เลนส์ ออกมาเป็นปลาน้ำจืด หรือเขาหลงน้ำมา
โพสต์นี้กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจจากสมาชิกในกลุ่มต่างวิเคราะห์เป็นเสียงเดียวกันว่า ปลาหมอคางดำ แต่ก็แปลกใจที่มันแพร่ระบาดมาถึงบริเวณริมทะเลซึ่งเป็นบริเวณน้ำเค็มเช่นนี้ได้ ซึ่งหลายพื้นที่ซึ่งติดกับทะเลก็มีการเจอลักษณะเช่นนี้บ้างแล้วเช่นกัน
ขณะที่แอดมินกลุ่ม ระบุว่า จริง ๆ แล้ว เจ้าของโพสต์ส่งรูปนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอเห็นภาพก็สังเกตได้ทันทีว่าเป็นปลาหมอคางดำ จึงชั่งใจอยู่นานว่าจะอนุมัติโพสต์ดีไหม เพราะรู้ว่าจะเกิดดราม่าแน่ ๆ แต่ก็ตัดสินใจอนุมัติในที่สุด เพราะเห็นว่ามันเป็นประเด็นสำคัญจริง ๆ และปัญหาการรุกรานของปลาชนิดนี้ก็เรื้อรังมาเป็นปี ๆ แล้ว ถือว่านานพอสมควรนะ
ข่าวสารจากกรมประมง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 เท่าที่ติดตามข่าวจากกรมประมงแจ้งว่า ได้มีการกำจัดปลาหมอคางดำไปแล้วกว่า 35,000 ตัน ระบาดไปแล้ว 19 จังหวัด และยังกำจัดอย่างต่อเนื่อง แต่อันนี้ก็ไม่ทราบว่ากำจัดในพื้นที่ใดบ้าง ต้องติดตามกันต่อไป
อาม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา พร้อมแจงเหตุผลชัด ค่าเช่าที่เท่าไรถึงทนไม่ไหว แถมยอดขาดทุนสะสมแตะหลักล้านแล้ว ขอโทษทุก ๆ คน
ถึงพนักงานทุกท่าน
เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดี
เยาวราชไม่มีนักท่องเที่ยวเหมือนเมื่อก่อน
และตลาดร้านอาหารหม่าล่าที่ไม่ได้รับความนิยมเหมือนอดีตที่ผ่านมา
รวมถึงค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น (2XX,XXX) ส่งผลให้ร้านอาม่งหม่าล่าสาขา
เยาวราชขาดทุนสะสม ยอดเงินขาดทุนสะสม มากกว่า 1,000,000 บาท
นี้คือเงินที่เจ้ (ทอฝัน) กับเฮีย (มาร์ค) ช่วยกันเติม ช่วยกันจ่าย
วันนี้มันสุด ๆ แล้ว
ขอบคุณพนักงานทุกคน ที่ทำงานร่วมกัน
ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ฉันคิดกับพนักงานทุกคนเหมือนครอบครัว
และพยายามปฏิบัติกับทุกคนเหมือนพี่น้อง (ซึ่งจริง ๆ
ไม่รู้ว่าทุกคนจะรู้สึกกับฉันแบบนี้ไหม) ตัวฉันเองรู้สึกผูกพันธ์
รู้สึกหวังดีในทุก ๆ อย่าง
ใจฉันเองอยากบริหารให้บริษัทอยู่ได้และพาทุกคนเติบโต
เจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่สามารถทำได้เหมือนเมื่อก่อน
รวมถึงอาจจะต้องมีพนักงานบางท่านที่บริษัทขอเลิกจ้าง
เนื่องด้วยเหตุผลที่กล่าวมา และเจ้เพิ่มช่องทางแก้ไขปัญหานี้แล้ว
คือให้น้อง ๆ ไปทำสาขาอื่น แต่ปฏิเสธ หากยังอยากอยู่แถว ๆ เยาวราช
เลยเป็นเหตุให้ต้องบอกลากัน ฉันเคารพสิทธิของทุกคน ทุกคนสามารถไปหางาน
ที่เหมาะสมมากกว่าตรงนี้ได้เลย และสิ่งที่ฉันจะขอโทษพวกเธอคือ
ขอโทษที่ไม่สามารถบริหารบริษัทให้เติบโตไปในปีนี้ได้ จนถึงขั้นต้องปิดสาขา
ขอโทษจากใจนะ
ร้านจะเปิดวันสุดท้ายคาดว่า คือ 22 มิถุนายน
2568 แต่วันที่ 23 -26 มิถุนายน เราจะยังมาทำงานกันอยู่
โดยช่วยกันเก็บของทำความสะอาด หรือซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างร่วมกัน
ทางเพจร้านยังมีการลงคลิปคนในร้านออกไปเรียกลูกค้าตามป้ายรถเมล์ เรียกว่าสู้สุดใจ พยายามทุกทางที่จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช