สาววัย 28 ปี เที่ยวต่างแดนพร้อมครอบครัว ป่วยเข้าโรงพยาบาล 2 วันเสียชีวิตลึกลับ ร่างถูกส่งกลับประเทศ ผลชันสูตรพบหัวใจหาย

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Sin Chew เผยเรื่องราวเคสที่น่าตกใจของหญิงสาวชาวอังกฤษวัย 28 ปี เมื่อเธอเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศตุรกีกับครอบครัว ก่อนที่จะรู้สึกไม่สบายจนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล แต่หลังจากนั้นเธอกลับเสียชีวิตอย่างลึกลับ กระทั่งเมื่อร่างของเธอถูกส่งกลับมายังอังกฤษและได้รับการชันสูตรพลิกศพ ผลที่ออกมาทำให้ครอบครัวช็อกสุดขีด เมื่อพบว่า หัวใจของเธอหายไป
ตามรายงานของ Daily Mail เผยว่า เบธ มาร์ติน วัย 28 ปี และ ลุค มาร์ติน สามีของเธอ พร้อมด้วยลูกเล็ก 2 คน จากเมืองพอร์ตสมัท ในอังกฤษ ได้เดินทางไปเที่ยวประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา ทว่าหลังจากที่ไปถึงได้เพียงไม่นาน เธอก็มีอาการไม่สบาย วันที่ 28 เมษายน เธอถูกพาตัวไปที่โรงพยาบาลด้วยภาวะสับสนทางจิตใจ และอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว จึงถูกส่งต่อไปยังห้องไอซียูเพื่อรับการรักษา
ลุค เผยว่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่เบธอยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาล เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมภรรยา เขาไม่ทราบถึงความร้ายแรงของอาการป่วยของภรรยา และทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้อธิบายถึงวิธีการดูแลรักษาเธอให้เขาทราบ เขาทราบเพียงแค่ว่า เบธเสียชีวิตในวันที่สอง หลังจากเข้าโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังคงไม่ทราบแน่ชัด
และที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ลุคกลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยถูกกล่าวหาว่าวางยาพิษฆาตกรรมภรรยาตนเอง และถูกตำรวจท้องที่เข้าสอบสวน อย่างไรก็ดี ในท้ายที่ เขาสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ และพ้นข้อกล่าวหาดังกล่าว
จนกระทั่งเมื่อศพของเบธถูกส่งกลับมายังอังกฤษ ทางครอบครัวได้ดำเนินการส่งชันสูตรพลิกศพเพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด แต่ผลปรากฏว่า แพทย์ไม่พบหัวใจของเธอ หัวใจของเธอถูกนำออกไปจากร่างของเธอโดยที่ไม่มีใครทราบ สร้างความตกใจให้กับทางครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง จึงแจ้งความไปยังเจ้าหน้าที่ให้ติดตามสืบสวน ซึ่งขณะนี้ทางการตุรกีได้เริ่มการสอบสวนโรงพยาบาลแห่งนี้แล้ว
ข้อมูลจากคำแนะนำการเดินทางของสำนักงานต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร เผยว่า กฎหมายของตุรกีระบุไว้ว่า เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพสามารถเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อหรืออวัยวะเพื่อการตรวจสอบ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัว และไม่ต้องแจ้งให้ครอบครัวทราบ โดยตัวอย่างเนื้อเยื่อหรืออวัยวะดังกล่าวมักจะถูกส่งคืนหลังจากการตรวจสอบแล้ว แต่ในบางกรณี เจ้าหน้าที่อาจยังคงเก็บไว้
ตอนนี้ครอบครัวของเบธต่างก็พยายามค้นหาคำตอบอย่างสิ้นหวังว่าเธอเสียชีวิตได้อย่างไร และเพราะเหตุใด โดยลุคกล่าวว่า เขากำลังเผชิญกับอาการบาดเจ็บทางจิตใจที่ร้ายแรงที่สุด โดยเฉพาะเมื่อต้องบอกลูก ๆ ว่า พวกเขาจะไม่มีวันได้พบแม่อีก “เราไปเที่ยวกัน 4 คน แต่กลับมาได้เพียงแค่ 3 คน มันเจ็บปวดหัวใจอย่างที่สุด”
ทั้งนี้ ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การเสียชีวิตของเบธเกี่ยวข้องกับการค้าอวัยวะผิดกฎหมาย ขณะที่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ตุรกีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการปลูกถ่ายอวัยวะสูงที่สุดในโลก โดยในปี 2566 มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ 61.5 คนต่อ 1 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 25.84 คน รายงานระบุว่า การค้าอวัยวะผิดกฎหมายยังคงแพร่หลายในตุรกี
ตามรายงานของ Global Financial Integrity กลุ่มนักวิจัยในสหรัฐฯ เมื่อปี 2560 ชี้ว่า ราคาอวัยวะหัวใจในตลาดมืด อยู่ที่ประมาณ 130,000-290,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.2-9.5 ล้านบาท)
ขอบคุณข้อมูลจาก Sin Chew, Daily Mail