KUBET – ดวงเดือนมิถุนายน 2568 ราศีใดปังบ้าง จากดวง 12 ราศี มีโอกาสก้าวหน้า ปากพารวย

          ดวงเดือนมิถุนายน 2568 กับดวง 12 ราศี ราศีใดปังบ้างในเดือนนี้ ขอแค่ลงมือทำก็ประสบความสำเร็จได้ ข้อมูลจากสมาคมโหรแห่งประเทศไทย


ดวงเดือนมิถุนายน 2568 กับดวง 12 ราศี
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล


          วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เฟซบุ๊ก สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีการ ดูดวง เดือนมิถุนายน 2568 เป็นดวง 12 ราศี มีรายละเอียดดังนี้


ดวงเดือนมิถุนายน 2568 กับดวง 12 ราศี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

ราศีเมษ

          มีเกณฑ์ได้เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ ด้วยพลังงานที่ล้นเหลือที่มีโอกาสสำเร็จ

ราศีพฤษภ

          ชีวิตเหมือนวนลูปอยู่กับที่ ไม่มีอะไรคืบหน้า ถือว่าเป็นช่วงเวลาพักผ่อน

ราศีมิถุน

          ความสำเร็จก้าวหน้ารอคุณอยู่ แม้จะต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยยากก็ตาม

 ราศีกรกฎ
 

          ปากพารวย การติดต่อเจรจาสำเร็จราบรื่น คนให้การยอมรับนับถือในฝีมือ

ราศีสิงห์

          สถานการณ์ที่เคยมีปัญหาอยู่ จะเริ่มคลี่คลายเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่

ราศีกันย์

          อึดถึกทน เป็นคำนิยามที่เหมาะกับคุณมากในเดือนนี้ ขอให้อดทนให้มาก

 ราศีตุลย์
 

          ปัญหาต่าง ๆ รุมเร้าเข้ามาไม่หยุด ขอให้มีสติ ค่อย ๆ คิดแก้ไข ไม่นานจะดีเอง

ราศีพิจิก

          มีเรื่องสำคัญเข้ามาให้ต้องคิดและตัดสินใจ ควรปรึกษาผู้มีประสบการณ์

ราศีธนู

          ชีวิตราบรื่นเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำสิ่งใดมักจะสำเร็จได้โดยง่าย

ราศีมังกร

          โอกาสดีมาถึงแล้ว หากคิดทำสิ่งใดอยู่ขอให้รีบลงมือ มีโอกาสสำเร็จสูง

ราศีกุมภ์

          ควรหลีกเลี่ยงคนหรือสิ่งที่คลุมเครือไม่โปร่งใส อาจทำให้คุณเดือดร้อนได้

ราศีมีน

          คิดดี ทำดี พูดดี แล้วสิ่งดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นคน งาน หรือโอกาสดี ๆ จะวิ่งเข้าหาเอง

KUBET – โอปอล Miss World 2025 เงินรางวัล เวทีสุดหิน ภารกิจต่อจากนี้ เส้นทางนางงามที่แท้จริง

KUBET – แพนด้า สุกี้ บะหมี่ ปิดกิจการรอบ 2 ลูกค้าประจำเสียดายความอร่อย กับสาเหตุที่ไม่รอด

 
          ร้านสุกี้ดัง ปิดกิจการรอบ 2 วันที่ 3 มิถุนายน 2568 ขอบคุณทุกการสนับสนุน ลูกค้าประจำล้วนเสียดาย



ปิดกิจการรอบ 2
ภาพจาก เฟซบุ๊ก แพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง Panda Suki Restaurant

        วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เฟซบุ๊ก แพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง Panda
Suki Restaurant 
ซึ่งเป็นร้านสุกี้ชื่อดังย่านพระราม 5 มีการประกาศว่า ร้านแพนด้า สุกี้
บะหมี่ จะเปิดให้บริการวันสุดท้ายวันที่ 3 มิถุนายน 2568
ขอบคุณทุกการสนับสนุน
ปิดกิจการรอบ 2
ภาพจาก เฟซบุ๊ก แพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง Panda Suki Restaurant

          ด้านลูกค้า เห็นแล้วก็ต่างเสียดาย
เพราะเมนูเป็ดย่าง หมูแดงร้านนี้ขึ้นชื่อ บางคนก็วิเคราะห์สาเหตุว่า
ทำเลที่ตั้งไม่เหมาะกับการทำกิจการ เพราะรถประจำทางไม่ค่อยผ่าน นอกจากนี้
ร้านดังกล่าวเคยปิดกิจการไปแล้วในเดือนพฤษภาคม 2567
ก่อนจะกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกรอบในเดือนสิงหาคม แล้วก็ต้องปิดกิจการ
จบแบบเดิม

ปิดกิจการรอบ 2
ปิดกิจการรอบ 2
ภาพจาก เฟซบุ๊ก แพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง Panda Suki Restaurant

ปิดกิจการรอบ 2
ภาพจาก เฟซบุ๊ก แพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง Panda Suki Restaurant

ปิดกิจการรอบ 2

ภาพจาก เฟซบุ๊ก แพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง Panda Suki Restaurant

KUBET – พระมั่วสีกา วัย 68 ปี พาเข้าม่านรูด สวมชุดธรรมดา อึ้งค่าบริการที่จ่ายให้ทุกครั้ง

 

          เห็นชายปริศนาวัย 68 เข้าม่านรูดกับหญิง สุดท้ายเป็นพระที่นับถือ เห็นบิณฑบาตรบ่อย ๆ อึ้ง จ่ายค่าบริการครั้งละ 300 บาท ทำมาหลายครั้งแล้ว



พระมั่วสีกา
ภาพจาก โหนกระแส
          วันที่ 1 มิถุนายน 2568 โหนกระแส รายงานว่า
เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางเข้าวัดแห่งหนึ่งใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
หลังทราบว่ามีคนถ่ายภาพระรูปหนึ่งเข้าโรงแรมม่านรูดกับหญิงสาวกลางวันแสก ๆ

 
        ชาวบ้านที่เปิดเผย กล่าวว่า
ตนเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดปกติเดินอยู่ในพื้นที่กับหญิงสาว แต่จำได้ว่าเป็นพระ
เพราะเห็นเดินมาบิณฑบาตรทุกเช้า ตนรับไม่ได้จึงสะกดรอยตามไป
จนพบว่าพาไปที่ม่านรูด จึงถ่ายภาพเก็บเอาไว้ลงโซเชียล เรื่องนี้
ทางม่านรูดก็แจ้งความดำเนินคดีตน ฐานทำให้เสียหาย ส่วนทางตำรวจบอกว่า
ไม่มีการบ่งบอกชื่อสถานที่ให้เสียหาย ทำให้ไม่มีความผิด

         
ต่อมา ตำรวจเดินทางไปยังม่านรูดเพื่อดูวงจรปิด พบว่า
มีชายกับหญิงเข้ามาใช้บริการจริง เป็นพระจริง
จึงเดินทางมาที่วัดตามที่รายงานไปแล้ว
และพระสงฆ์รูปดังกล่าวก็ยอมรับวาเป็นความจริง

         
สำหรับพระรูปดังกล่าว อายุ 68 ปี สารภาพว่า ทำแบบนี้มาหลายครั้ง
ได้ชวนผู้หญิงไปหลับนอนจริง ทำเสร็จแล้วทุกครั้งจะให้เงินครั้งละ 300 บาท

 
        ขณะที่พระครูปลัดวชิรานันท์ วชิราวุโธ ตำแหน่ง พระวินยาธิการ
กล่าวว่า พระดังกล่าวปาราชิกตั้งแต่วันที่เสพเมถุนแล้ว
ถือว่าขาดจากความเป็นพระทันที ไม่สามารถบวชได้อีก จึงไม่ต้องสึก
เปลี่ยนเสื้อเป็นฆราวาสได้เลย ส่วนในทางกฎหมายไม่มีความผิด
เพราะสมัครใจทั้งสองฝ่าย

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส

KUBET – ไวรัล TikTok 1 ล้านครั้ง ไรเดอร์ส่งเค้ก แต่หน้าเละ เลยขอไถ่โทษด้วยวิธีนี้

          ไวรัล 1 ล้าน เมื่อไรเดอร์ส่งเค้ก แต่หน้าเละ จนต้องขอไถ่โทษด้วยวิธีนี้ เห็นแล้วเอ็นดู พร้อมวรรคทองที่ทำให้คนขำ อย่าเอาให้ใครดูนะ เสียเชิงชาย



ไวรัล 1 ล้าน ไรเดอร์ส่งเค้ก แต่หน้าเละ ขอไถ่โทษด้วยวิธีนี้
ภาพจาก TikTok @pianoza

          หนึ่งในความเสี่ยงของการสั่งของกินผ่านไรเดอร์ โดยเฉพาะการสั่งเค้กคือ ความเสี่ยงที่หน้าเค้กจะเละจากการเดินทาง ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้น เท่ากับว่าไรเดอร์งานงอกทันที

          วันที่ 1 มิถุนายน 2568 TikTok @pianoza มีการสั่งเค้กวันเกิดผ่านไรเดอร์ให้มาส่งถึงที่ ทว่าระหว่างทางคนขับเจอถนนขรุขระ ส่งผลให้เค้กเละไปซีกหนึ่ง และเพื่อรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ ทางไรเดอร์ขอปั่นจิ้งหรีด 10 รอบเป็นการทำโทษตัวเอง ซึ่งลูกค้าก็ขอให้อัดคลิปโชว์ด้วย

ไวรัล 1 ล้าน ไรเดอร์ส่งเค้ก แต่หน้าเละ ขอไถ่โทษด้วยวิธีนี้
ภาพจาก TikTok @pianoza


          จากนั้นทั้งคู่มีการแอดไลน์กันเพื่อส่งคลิป ทางไรเดอร์ก็พิมพ์มาด้วยความเอ็นดูว่า “อำมหิต”, “พี่อย่าให้ใครดูนะ เสียเชิงชาย” และเมื่อดูคลิป ไรเดอร์ก็ปั่นจิ้งหรีดตามสัญญาจริง ๆ ส่วนทางลูกค้าก็จะให้รีวิว 5 ดาวเป็นการตอบแทน

 
        ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาแซว จนเรื่องนี้เป็นไวรัล 1
ล้านในประโยคต่าง ๆ ที่ไรเดอร์พูด น่าเอ็นดูจริง ๆ เช่น อำมหิต,
พี่อย่าเอาให้ใครดูนะ, เสียเชิงชาย จนมีคนกดหัวใจมากมาย
ส่วนลูกค้าก็แซวกลับว่า ไรเดอร์ขอทำเองนะ เราไม่ได้ขอ

ไวรัล 1 ล้าน ไรเดอร์ส่งเค้ก แต่หน้าเละ ขอไถ่โทษด้วยวิธีนี้
ภาพจาก TikTok @pianoza

          ขณะที่ ไรเดอร์อีกราย เข้ามายอมรับว่า การส่งเค้กเป็นสิ่งที่ไรเดอร์กลัวที่สุด เพราะมันพร้อมเละได้ตลอดทาง

ไวรัล 1 ล้าน ไรเดอร์ส่งเค้ก แต่หน้าเละ ขอไถ่โทษด้วยวิธีนี้

ไวรัล 1 ล้าน ไรเดอร์ส่งเค้ก แต่หน้าเละ ขอไถ่โทษด้วยวิธีนี้
ภาพจาก TikTok @pianoza

ไวรัล 1 ล้าน ไรเดอร์ส่งเค้ก แต่หน้าเละ ขอไถ่โทษด้วยวิธีนี้
ภาพจาก TikTok @pianoza

ไวรัล 1 ล้าน ไรเดอร์ส่งเค้ก แต่หน้าเละ ขอไถ่โทษด้วยวิธีนี้
ภาพจาก TikTok @pianoza

KUBET – ไวรัล TikTok ไรเดอร์โยนพัสดุเข้าบ้าน ทั้งที่มีตะกร้าไว้ให้ พอรู้เหตุผลโกรธไม่ลง

          พนักงานขนส่ง โยนพัสดุเข้าบ้าน ทั้งที่มีตะกร้าวางไว้ให้ พอรู้สาเหตุที่เจ้าตัวมาตอบใต้คอมเมนต์ ทำเอาตำหนิไม่ลง คนดูคลิป 6 ล้าน



ไวรัล 6 ล้าน ไรเดอร์โยนพัสดุเข้าบ้าน ทั้งที่มีตะกร้าให้
ภาพจาก TikTok @pair.ajm

          วันที่ 1 มิถุนายน 2568 TikTok @pair.ajm มีการลงคลิปคนดู 6 ล้านครั้ง เป็นกล้องวงจรปิดที่ถ่ายหน้าบ้านเอาไว้ จังหวะนั้นจะเห็นว่า พนักงานขนส่งเจ้าหนึ่งมาส่งของ พร้อมกับโยนพัสดุเข้ามาในรั้วบ้าน ก่อนที่ไม่นานนัก จะมีพนักงานขนส่งอีกเจ้าหนึ่งขับตามหลังมาส่งพัสดุเช่นกัน พอเขาเห็นพัสดุอันแรกถูกโยนเข้าไปในบ้าน ก็เอื้อมไปหยิบ แล้วเอามาใส่ตะกร้าที่วางไว้อีกมุมหนึ่ง

ไวรัล 6 ล้าน ไรเดอร์โยนพัสดุเข้าบ้าน ทั้งที่มีตะกร้าให้
ภาพจาก TikTok @pair.ajm
ไวรัล 6 ล้าน ไรเดอร์โยนพัสดุเข้าบ้าน ทั้งที่มีตะกร้าให้
ภาพจาก TikTok @pair.ajm

          เรื่องนี้ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงทัวร์ลงพนักงานคนแรกมาก อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นเรื่องน่าเห็นอกเห็นใจแทน เพราะว่า เจ้าตัวได้เห็นคลิปดังกล่าว และเข้ามาอธิบายใต้คอมเมนต์ว่า “มารายงานตัวครับ วันนั้นเพื่อนผมมาวิ่งแทนคนที่วิ่งประจำครับ เลยไม่รู้จุดวางพัสดุครับ”

          คำตอบนี้ มีคนถูกใจกว่า 3 พันครั้ง ทางเจ้าของบ้านจึงตอบกลับไปว่า “ยังเถียงกับแฟนอยู่เลยว่าทำไมวันนี้พี่ขนส่งวางตรงนี้หรือคนใหม่มาส่งแทน” ส่วนทางพนักงานขนส่งก็ตอบว่า หลังจากนี้จะใส่ในตะกร้าตลอดครับ

ไวรัล 6 ล้าน ไรเดอร์โยนพัสดุเข้าบ้าน ทั้งที่มีตะกร้าให้

KUBET – โอปอล สุชาตา Miss World 2025 คนแรกของไทย ความภูมิใจที่สุด ฟังคำตอบพิชิตมงกุฎ

KUBET – แพทย์เตือน 3 ของใช้ในบ้าน "ซ่อนพิษ" หลายครอบครัวใช้ทุกวัน ไม่รู้อันตรายใกล้ตัว

 
           แพทย์เตือน 3 ของใช้ในบ้าน “ซ่อนพิษ” หลายครอบครัวใช้ทุกวัน ไม่รู้อันตรายใกล้ตัว อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อย่างที่คาดไม่ถึง
 



ของใช้ในบ้าน

             หลายคนอาจไม่รู้ว่าของใช้ในบ้านบางชนิดที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนั้น
ซ่อนสารพิษและอันตรายเอาไว้ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อย่างที่คาดไม่ถึง
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนถึง 3
ของใช้ในบ้านที่ซ่อนพิษ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายครอบครัวคุ้นเคยและใช้ทุกวัน
โดยไม่รู้ว่าอันตรายอยู่ใกล้ตัว 

            วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์
Soha เผยว่า ดร.ซอราบห์ เซธี (Saurabh Sethi)
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารและตับ ในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเป็นที่รู้จักบนโซเชียลมีเดีย มีผู้ติดตามบน TikTok มากกว่า 473,000
ฟอลโลเว่อร์ ได้ออกมาเตือนว่า มีของใช้ในบ้าน 3 สิ่งที่เป็นพิษต่อสุขภาพ
แต่ของทั้ง 3 สิ่งนี้ปรากฏอยู่ในหลายบ้าน และใช้กันเป็นประจำทุกวัน
ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้นำไปทิ้งโดยเร็วที่สุด 

1. เทียนหอม 

            ดร.เซธี
กล่าวว่า เทียนหอมมีสารเคมีที่เรียกว่า พาทาเลต (Phthalate)
คือกลุ่มสารเคมีที่ใช้เพื่อทำให้พลาสติกมีความอ่อนตัว ยืดหยุ่น ทนทาน
และเพิ่มอายุการใช้งาน แต่เป็นที่ทราบกันว่า
สารดังกล่าวนี้จะไปรบกวนหรือขัดขวางระดับความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น
เอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน จนอาจนำไปสู่ปัญหาด้านการสืบพันธุ์ 

            นอกจากนี้
การสูดดมสารพาทาเลตมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ อาทิ
โรคหอบหืด ภูมิแพ้
และภูมิคุ้มกันบกพร่องโดยข้อมูลจากการศึกษาในสัตว์แสดงให้เห็นว่า
สารพาทาเลตบางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง 

            อย่างไรก็ดี หากจำเป็นต้องใช้แนะนำให้เลือกใช้ “เทียนไร้กลิ่นหรือเทียนธรรมชาติที่ทำจากถั่วเหลืองหรือขี้ผึ้ง

 

2. เขียงพลาสติก 

            ของใช้ในครัวที่หาซื้อได้ง่ายและใช้งานสะดวก
แต่เขียงพลาสติกอาจเสียรูป และเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย
ไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกที่รุนแรงเหมือนเขียงไม้
อีกทั้งไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูง ดร.เซธี  กล่าวว่า
เขียงพลาสติกสามารถปล่อยไมโครพลาสติกลงในอาหารได้ 

            “เมื่อถูกใช้งานไป
เขียงพลาสติกจะเสื่อมสภาพลง ส่งผลให้ไมโครพลาสติกถูกปล่อยออกมาในอาหาร
และอาจสะสมอยู่ในร่างกายได้ ควรเลือกใช้เขียงที่ทำจากไม้
เพื่อลดความเสี่ยงนี้” 

            ไมโครพลาสติกเป็นอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กมาก
โดยทั่วไปมีขนาดน้อยกว่า 5 มิลลิเมตร
สามารถทำให้เซลล์ในร่างกายเกิดการอักเสบและเสียหาย
และขัดขวางการทำงานของอวัยวะ โดยสามารถสะสมอยู่ในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ลำไส้
เลือด และสมอง ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคลำไส้อักเสบ
และปัญหาด้านการเผาผลาญนอกจากนี้ไมโครพลาสติกยังส่งผลต่อการเจริญพันธุ์และระบบประสาทได้อีกด้วย

3. กระทะเคลือบเทฟลอนที่มีรอยขีดข่วน

            ดร.เซธี
กล่าวว่า “การใช้กระทะเคลือบสารกันติดที่มีรอยขีดข่วนหรือรอยบิ่น
อาจทำให้สาร PFAS หลุดออกมาในอาหารได้ หากสารชนิดนี้สะสมในร่างกายมากเกินไป
อาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ”  

            สาร
PFAS (Per- and Polyfluoroalkyl Substances)
เป็นกลุ่มสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้นมากกว่า 10,000 ชนิด
มีคุณสมบัติทนทานต่อความร้อน น้ำ และน้ำมัน มักถูกเรียกว่า
“สารเคมีตลอดกาล” เนื่องจากสารเหล่านี้ไม่สามารถสลายตัวได้ในสิ่งแวดล้อม
หรือร่างกายมนุษย์ 

            มีงานวิจัยทางการแพทย์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า
สาร PFAS นำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
พัฒนาการล่าช้าในเด็ก ความผิดปกติของฮอร์โมนสืบพันธุ์ คอเลสเตอรอลสูง
ความเสียหายของตับ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ครรภ์เป็นพิษ รวมไปถึงมะเร็งไต
หรือมะเร็งอัณฑะ  

            ดังนั้น ดร.เซธีแนะนำว่า
ควรเปลี่ยนกระทะเหล่านี้ทันทีที่มีรอยขีดข่วนหรือรอยบิ่น
ไม่เช่นนั้นก็เปลี่ยนไปใช้กระทะทางเลือกอื่นซึ่งทำจากวัสดุที่ปลอดภัยกว่า
เช่น สเตนเลส หรือเหล็กหล่อ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Soha, Mirror
 

KUBET – คดีเดือด ผู้จัดการโดนไล่ออก เพราะจูบลูกน้องหญิงในที่ทำงาน ฟ้องกลับบริษัทจนชนะ

          คดีเดือด ผู้จัดการอาวุโสระดับผู้บริหารโดนไล่ออก เพราะจูบลูกน้องหญิงในที่ทำงาน ฟ้องกลับบริษัท สุดท้ายกลายเป็นชนะ 



คดีเดือด ผู้จัดการโดนไล่ออก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยเรื่องราวคดีความที่เป็นประเด็นได้รับความสนใจบนสังคมออนไลน์ของจีน เมื่อผู้จัดการอาวุโสของบริษัทแห่งหนึ่งถูกไล่ออก เหตุเพราะจูบพนักงานหญิงที่อยู่ภายใต้การทำงานของเขา แต่เขาไม่พอใจ จึงฟ้องกลับทางบริษัท และผลสุดท้ายปรากฏว่าเขาชนะคดีในที่สุด 

จุดเริ่มต้น 

          ชายสกุลหลิน อยู่ในตำแหน่งระดับผู้บริหาร
เป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตที่บริษัทเดินเรือต่างประเทศแห่งหนึ่งในเมืองชิงเต่า
มณฑลซานตง ประเทศจีน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 เขาถูกเลิกจ้าง
ด้วยเหตุผลว่าละเมิดนโยบายของบริษัท โดยการล่วงละเมิดทางเพศพนักงานหญิง
และใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิดเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

          ทางบริษัทพบว่า
หลินมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพนักงานหญิงชื่อสกุลซื่อ
ซึ่งรายงานไม่ได้ระบุแน่ชัดถึงสถานะการสมรสของทั้งสอง
โดยกล้องวงจรในที่ทำงานสามารถบันทึกภาพหลินกอดจูบพนักงานหญิงรายนี้บนบันได
ทางบริษัทจึงกล่าวหาว่า หลินลวนลามลูกน้องหญิง
และยังเสนอเลื่อนตำแหน่งให้กับเธอ  

          อย่างไรก็ดี หลินปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และเดินหน้าฟ้องร้องบริษัทต่อศาล เพื่อขอให้คืนสถานะเดิมในบริษัท รวมทั้งเรียกร้องค่าชดเชย

การตัดสินคดี

          ศาลชั้นต้นในเมืองชิงเต่าได้พิจาณาว่า
พฤติกรรมของหลินที่มีต่อซื่อไม่เหมาะสม
และละเมิดจรรยาบรรณสำหรับผู้บริหารของบริษัท ดังนั้นศาลจึงมีความเห็นว่า
การเลิกจ้างเขาเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายแล้วสำหรับบริษัท

          หลินเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อ
จากนั้นศาลอุทธรณ์พบว่า ทางบริษัทไม่มีหลักฐานใด ๆ
ที่แสดงให้เห็นว่าหลินได้รับผลประโยชน์ส่วนตัวจากตำแหน่งของเขา
นอกจากนี้แม้ว่าบริษัทจะระบุว่า “พนักงานควรยึดมั่นในมาตรฐานทางธุรกิจและศีลธรรมระดับสูง” แต่สิ่งนี้เป็นเพียงหลักการที่ทางบริษัทคาดหวัง
ไม่ได้เป็นกฎระเบียบหรือข้อบังคับ

          ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินว่า “การกระทำของพนักงานจะสอดคล้องกับมาตรฐานทางศีลธรรมหรือไม่
ไม่ควรนำมาพิจารณาในการเลิกจ้าง”
ทั้งนี้ในชั้นศาล
ชื่อยังกล่าวกับผู้พิพากษาว่า เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิน และยืนยันว่า
เขาไม่เคยคุกคามทางเพศ หรือข่มขู่เธอเลย

          กระทั่งในวันที่ 17
กุมภาพันธ์ 2560 ศาลชั้นสูงได้เผยผลการตัดสินที่สิ้นสุด
โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
พร้อมสั่งให้ทางบริษัทจ้างหลินกลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิม
และจ่ายค่าชดเชยให้เขาตลอดระยะเวลาที่ถูกไล่ออก
โดยพิจารณาจากรายได้ต่อปีของเขาที่ 1.13 ล้านหยวน (ราว 5 ล้านบาท)

ประเด็นร้อนแรง 

          สหภาพแรงงานเซี่ยงไฮ้เพิ่งจะนำเรื่องราวคดีความนี้มาเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่
22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน
แต่ไม่ได้เผยถึงสาเหตุที่นำมาเปิดเผยล่าช้า
จากนั้นไม่นานคดีนี้ก็จุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือด 

          ชาวเน็ตรายหนึ่ง
แสดงความเห็นว่า “คดีนี้สอนให้เรารู้ว่าเราควรเข้าใจกฎหมายมากขึ้น
เพื่อปกป้องสิทธิของเรา”
ในขณะที่อีกรายแย้งว่า “เหตุใดผู้พิพากษาจึงไม่พิจารณาว่า
การกระทำของพวกเขาขัดต่อความสงบเรียบร้อยและประเพณีอันดีของสังคม” 

ขอบคุณข้อมูลจาก South China Morning Post