ไวรัลภาพถ่าย Google Earth เนินเขาลึกลับรูปปาก จนดูเหมือนภาพลวงตา เผยปริศนาเบื้องหลังภาพที่แท้เกิดจากอะไร

ภาพจาก Google Earth
วันที่ 5 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์ Sin Chew เผยว่า มีภาพถ่ายดาวเทียมของ Google Earth ภาพหนึ่งได้รับความสนใจจนกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ เป็นภาพถ่ายเนินเขาลึกลับแห่งหนึ่งที่มีรูปร่างแปลกตา เมื่อถ่ายจากมุมมองทางด้านบนดูคล้ายกับรูปริมฝีปากที่พยายามจะส่งจูบ จนดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก จนเรียกกันว่า ริมฝีปากที่ถูกปิดกั้น (Landlocked lips)
ภาพดังกล่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่เมื่อปี 2552 และเพิ่งถูกนำมาแชร์ใหม่อีกครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ Live Science เผยว่า เนินเขาลึกลับแห่งนี้อยู่ในรัฐซิดาโฟล ทางตะวันตกของประเทศซูดาน ห่างจากชายแดนประเทศชาด ประมาณ 95 กิโลเมตร เนินเขามีความยาวประมาณ 900 เมตร และจุดที่กว้างที่สุดยาวประมาณ 350 เมตร
โดยพื้นที่ดังกล่าวเกิดความแห้งแล้ง เนื่องจากภัยแล้งในช่วงเวลาดังกล่าว จึงทำให้เนินเขาปรากฏเป็นสีชัดขึ้นดูเหมือนรูปร่างของริมฝีปากที่โดดเด่น ส่วนพื้นที่เกษตรกรรมและต้นไม้ที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่มาก จึงกลายเป็นเพียงแค่จุดสีดำกระจายอยู่ทั่ว อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายล่าสุดแสดงให้เห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง และพืชพรรณก็เพิ่มขึ้น
แม้จะไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับเนินเขาแปลกประหลาดแห่งนี้
แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญพยายามวิเคราะห์และคาดการณ์จากภาพถ่ายว่ามันก่อตัวขึ้นมาได้อย่างไร
จอช โรริง
นักธรณีสัณฐานวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านพลวัตทางภูมิศาสตร์
จากมหาวิทยาลัยออริกอน ในสหรัฐฯ เผยว่า จากภาพจะเห็นชั้นหินแคบ ๆ
พาดผ่านใจกลางเนินเขา ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นแนวหินที่โผล่ขึ้นมาเป็นชั้น ๆ
โดยชั้นหินลักษณะนี้ทนทานต่อการกัดเซาะ
และสามารถต้านทานน้ำได้มากกว่าชั้นหินที่อ่อนกว่าโดยรอบ
ซึ่งถูกกัดเซาะและผุกร่อนไปแล้ว
ลักษณะดังกล่าวนี้เรียกว่า ไดค์ (Dike) ในทางธรณีวิทยาคือ
แผ่นหินที่ก่อตัวขึ้นจากรอยแตกของหินที่มีอยู่เดิม
อาจมีต้นกำเนิดจากการปะทุของภูเขาไฟ การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก
หรือการตกตะกอน เมื่อแมกมาหลอมเหลว
หรือหินที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแทรกซึมเข้าไปในรอยแตกในหินที่มีอยู่เดิม
โดยตัดผ่านชั้นหินอื่น ๆ โดยรอบ เกิดเป็นโครงสร้างหินแนวตั้ง
โดยพื้นที่ที่มีลักษณะที่คล้ายกันนี้ปรากฏอยู่ในทะเลทรายนิวเม็กซิโก
ในสหรัฐอเมริกา และกลุ่มไดค์แมกเคนซี ในยูคอน ประเทศแคนาดา
ขอบคุณข้อมูลจาก Sin Chew, Live Science