KUBET – สาวโดนบอกเลิกเพราะ Wi-Fi โรงแรม มือถือรู้รหัสต่อเอง ร้องคนช่วยพิสูจน์ ความจริงคดีพลิก

 
             สาวสุดงง โดนบอกเลิกหาว่านอกใจ เหตุเพราะมือถือรู้รหัสต่อ Wi-Fi โรงแรมเองอัตโนมัติ ร้องคนช่วยพิสูจน์ ความจริงคดีพลิก ไม่หวังคืนดี แต่อยากได้คำขอโทษ



Wi-Fi โรงแรม

             การนอกใจคนรัก
มักมีสัญญาณบางอย่างที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจับได้
แต่บางครั้งสัญญาณที่ว่าก็มีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้
และความจริงอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดเสมอไป

             วันที่ 4
พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Sin Chew เผยเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งในประเทศจีน
เมื่อเร็ว ๆ นี้เธอได้เผชิญกับประสบการณ์ไม่คาดฝัน
ขณะที่ไปเช็กอินที่โรงแรมแห่งหนึ่งกับแฟนหนุ่ม แต่ยังไม่ทันที่จะเข้าพัก
เธอกลับลงเอยด้วยการถูกฝ่ายชายบอกเลิก
หลังจากเห็นว่าโทรศัพท์มือถือของเธอเชื่อมต่อกับ Wi-Fi
ของโรงแรมโดยอัตโนมัติ จึงเชื่อว่าเธอนอกใจเพราะเคยมาที่โรงแรมแห่งนี้แล้ว

            
อย่างไรก็ตาม ทางด้านหญิงสาวรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจอย่างยิ่ง
เธอมั่นใจว่าเธอไม่ได้นอกใจ และไม่เคยมาที่โรงแรมแห่งนี้มาก่อน
จนเมื่อลองสืบหาข้อมูลด้วยตัวเองก็ได้พบความจริงที่น่าตกละลึง
โรงแรมแห่งนี้ใช้ชื่อ Wi-Fi เดียวกับโรงแรมอีกแห่งที่เธอเคยทำงานที่นั่น
อีกทั้งยังตั้งรหัสผ่านเหมือนกันเป๊ะ
ดังนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอซึ่งเคยมีประวัติเชื่อมต่อกับ Wi-Fi
ที่โรงแรมแห่งนั้น จึงเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่โรงแรมแห่งนี้ได้เอง  

            
หญิงสาวต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
จึงนำเรื่องราวที่น่าตกใจนี้ไปเปิดเผยต่อสื่อท้องถิ่น โดยเธอให้สัมภาษณ์ว่า
โรงแรมทั้งสองแห่งตั้งชื่อ Wi-Fi ตรงบริเวณที่เช็กอินว่า “front desk”
ซึ่งมักนิยมใช้กับแผนกต้อนรับของโรงแรม แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ Wi-Fi
บริเวณนั้นของโรงแรมทั้งสองแห่งตั้งรหัสผ่านเดียวกัน นั่นคือ เลข 8 จำนวน 8
ตัว หรือ 88888888

            
ทางนักข่าวจึงต้องการพิสูจน์ความจริง
จึงเดินทางไปที่โรงแรมที่หญิงสาวบอกว่าเคยทำงานอยู่ที่นั่น
จากนั้นก็ทดลองใช้โทรศัพท์มือถือใส่รหัสผ่านเชื่อมต่อกับ Wi-Fi
ที่โรงแรมนั้น ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้จริงตามที่หญิงสาวกล่าว
จากนั้นก็เดินทางไปที่โรงแรมที่หญิงสาวและแฟนหนุ่มมีปัญหากัน
กระทั่งความจริงปรากฏว่า โทรศัพท์มือถือของนักข่าวก็สามารถเชื่อมต่อกับ
Wi-Fi ที่โรงแรมแห่งนี้ได้เองโดยอัตโนมัติ

            
ผลการทดลองดังกล่าวจึงยืนยันได้ว่า สิ่งที่หญิงสาวพูดนั้นเป็นความจริง
โดยเธอได้กล่าวย้ำว่า “ที่ฉันออกมาเช่นนี้
ไม่ได้ต้องการให้แฟนของฉันเปลี่ยนใจหรือกลับมาคืนดี
ฉันแค่ต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
และหวังว่าจะได้รับคำขอโทษจากเขา”

            
เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่ไดัรับความสนใจบนโลกออนไลน์
และเกิดการถกเถียงอย่างดุเดือด ขณะเดียวกันนายหลิว
ซึ่งทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเครือข่ายด้านความปลอดภัยของข้อมูล
ได้แสดงความคิดเห็นเสริมว่า โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์แล็ปท็อป
มีฟังก์ชั่นจัดเก็บชื่อและรหัสผ่าน Wi-Fi โดยอัตโนมัติ
ดังนั้นเมื่อตัวเครื่องเจอกับสัญญาณเครือข่าย Wi-Fi
ที่ถูกตั้งชื่อและรหัสผ่านเดียวกัน แม้จะอยู่ต่างสถานที่กัน
ก็มีความเป็นไปได้ที่มันจะสามารถเชื่อมต่อได้เองโดยอัตโนมัติ   

ขอบคุณข้อมูลจาก Sin Chew

KUBET – นุ๊ก สุทธิดา เปิดภาพล่าสุด น้องปาแปง ลูกชายคนกลางวัย 19 หล่อใสจนสาวกรี๊ด

KUBET – ภาพล่าสุด ชลิต เฟื่องอารมย์ ในวัย 76 ปี กับผลผลิตทุเรียนปีนี้ เจ้าของสวนมาเอง

KUBET – คนสงสัย ปลาอะไรนอนเกลื่อนหาดชะอำ หัวหิน กลุ่มลำบากใจอนุมัติโพสต์

          คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน ชาวเน็ตแห่ตอบเป็นเสียงเดียว ด้านแอดมินรับลำบากใจต้องอนุมัติ



คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Patchalit Sangaime

          วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Patchalit Sangaime โพสต์ในกลุ่ม นี่ตัวอะไร เป็นภาพบริเวณริมชายหาดชะอำ ยาวไปจนถึงหัวหิน พบว่ามีซากปลาบางชนิดลอยมาติดริมชายหาดจำนวนมาก

          จากภาพเผยให้เห็นบริเวณชายหาดซึ่งมีปลาหลายตัวลอยมานอนตายอยู่ ลักษณะคล้ายกับปลาหมอ แต่บริเวณคางเป็นสีดำ โดยเจ้าของโพสต์ระบุว่า “ปลาอะไรครับ ริมหาดทางชะอำ ต่อ หัวหิน ยาวตลอดแนวหาด ลองเสิร์จผ่านกูเกิล เลนส์ ออกมาเป็นปลาน้ำจืด หรือเขาหลงน้ำมา

คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Patchalit Sangaime

          โพสต์นี้กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจจากสมาชิกในกลุ่มต่างวิเคราะห์เป็นเสียงเดียวกันว่า ปลาหมอคางดำ แต่ก็แปลกใจที่มันแพร่ระบาดมาถึงบริเวณริมทะเลซึ่งเป็นบริเวณน้ำเค็มเช่นนี้ได้ ซึ่งหลายพื้นที่ซึ่งติดกับทะเลก็มีการเจอลักษณะเช่นนี้บ้างแล้วเช่นกัน

คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Patchalit Sangaime

          ขณะที่แอดมินกลุ่ม ระบุว่า จริง ๆ แล้ว เจ้าของโพสต์ส่งรูปนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอเห็นภาพก็สังเกตได้ทันทีว่าเป็นปลาหมอคางดำ จึงชั่งใจอยู่นานว่าจะอนุมัติโพสต์ดีไหม เพราะรู้ว่าจะเกิดดราม่าแน่ ๆ แต่ก็ตัดสินใจอนุมัติในที่สุด เพราะเห็นว่ามันเป็นประเด็นสำคัญจริง ๆ และปัญหาการรุกรานของปลาชนิดนี้ก็เรื้อรังมาเป็นปี ๆ แล้ว ถือว่านานพอสมควรนะ

           ข่าวสารจากกรมประมง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 เท่าที่ติดตามข่าวจากกรมประมงแจ้งว่า ได้มีการกำจัดปลาหมอคางดำไปแล้วกว่า 35,000 ตัน ระบาดไปแล้ว 19 จังหวัด และยังกำจัดอย่างต่อเนื่อง แต่อันนี้ก็ไม่ทราบว่ากำจัดในพื้นที่ใดบ้าง ต้องติดตามกันต่อไป

          ก็คงต้องรอดูกันไปครับว่า ผลลัพธ์จากมาตรการของกรมประมงจะเป็นยังไงต่อไป เพราะมันเยอะมากจริง ๆ จนดูเหมือนจำนวนไม่ได้พร่องลงเลย คงต้องกำจัดแบบปูพรมไปเรื่อย ๆ ครับ เราคงต้องเห็นหน้าเจ้าคางดำกันไปอีกนาน

คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Patchalit Sangaime
คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน

คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน

คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน

คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน

คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน

คนโพสต์ถาม ปลาอะไรนอนลอยเกลื่อนชายหาดชะอำ หัวหิน

KUBET – อาหม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา แจงค่าเช่าที่ 2 แสน ขาดทุนสะสมเป็นล้าน

 
          อาม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา พร้อมแจงเหตุผลชัด ค่าเช่าที่เท่าไรถึงทนไม่ไหว แถมยอดขาดทุนสะสมแตะหลักล้านแล้ว ขอโทษทุก ๆ คน




อาหม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช

          วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot
เยาวราช 
มีการโพสต์ประกาศถึงพนักงานทุกคนถึงการปิดกิจการ
มีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้

          ถึงพนักงานทุกท่าน

         
เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดี
เยาวราชไม่มีนักท่องเที่ยวเหมือนเมื่อก่อน
และตลาดร้านอาหารหม่าล่าที่ไม่ได้รับความนิยมเหมือนอดีตที่ผ่านมา
รวมถึงค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น (2XX,XXX) ส่งผลให้ร้านอาม่งหม่าล่าสาขา
เยาวราชขาดทุนสะสม ยอดเงินขาดทุนสะสม มากกว่า 1,000,000 บาท
นี้คือเงินที่เจ้ (ทอฝัน) กับเฮีย (มาร์ค) ช่วยกันเติม ช่วยกันจ่าย
วันนี้มันสุด ๆ แล้ว

          ขอบคุณพนักงานทุกคน ที่ทำงานร่วมกัน
ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ฉันคิดกับพนักงานทุกคนเหมือนครอบครัว
และพยายามปฏิบัติกับทุกคนเหมือนพี่น้อง (ซึ่งจริง ๆ
ไม่รู้ว่าทุกคนจะรู้สึกกับฉันแบบนี้ไหม) ตัวฉันเองรู้สึกผูกพันธ์
รู้สึกหวังดีในทุก ๆ อย่าง
ใจฉันเองอยากบริหารให้บริษัทอยู่ได้และพาทุกคนเติบโต
เจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่สามารถทำได้เหมือนเมื่อก่อน

         
รวมถึงอาจจะต้องมีพนักงานบางท่านที่บริษัทขอเลิกจ้าง
เนื่องด้วยเหตุผลที่กล่าวมา และเจ้เพิ่มช่องทางแก้ไขปัญหานี้แล้ว
คือให้น้อง ๆ ไปทำสาขาอื่น แต่ปฏิเสธ หากยังอยากอยู่แถว ๆ เยาวราช
เลยเป็นเหตุให้ต้องบอกลากัน ฉันเคารพสิทธิของทุกคน ทุกคนสามารถไปหางาน
ที่เหมาะสมมากกว่าตรงนี้ได้เลย และสิ่งที่ฉันจะขอโทษพวกเธอคือ
ขอโทษที่ไม่สามารถบริหารบริษัทให้เติบโตไปในปีนี้ได้ จนถึงขั้นต้องปิดสาขา
ขอโทษจากใจนะ

          ร้านจะเปิดวันสุดท้ายคาดว่า คือ 22 มิถุนายน
2568 แต่วันที่ 23 -26 มิถุนายน เราจะยังมาทำงานกันอยู่
โดยช่วยกันเก็บของทำความสะอาด หรือซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างร่วมกัน

          จึงเขียนเป็นจดหมาย เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบและเข้าใจกัน ขอบคุณที่ทำงานร่วมกัน และขอโทษอีกครั้งที่ต้องปิดร้านสาขานี้

อาหม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช

ร้านสู้สุดใจ ออกไปเรียกลูกค้า

          ทางเพจร้านยังมีการลงคลิปคนในร้านออกไปเรียกลูกค้าตามป้ายรถเมล์ เรียกว่าสู้สุดใจ พยายามทุกทางที่จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้

อาหม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช

อาหม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช

อาหม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช

อาหม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช

อาหม่งหม่าล่า เยาวราช ประกาศปิดสาขา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อาม่งหม่าล่า Homemade hotpot เยาวราช

KUBET – โรงเรียนวัดวรพรตสังฆาวาส เปิดตัวครูใหม่สุดจึ้ง คนแชร์ 12,000 ครั้ง อธิบายแต่ละคำคืออะไร

          เปิดตัวครูใหม่สุดจึ้ง คนแชร์ 12,000 ครั้ง โยงข่าวกีฬาฟุตบอล อธิบายทีละจุด แต่ละคำหมายถึงอะไร สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ



เปิดตัวครูใหม่สุดจึ้ง คนแชร์ 12000 ครั้ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โรงเรียนวัดวรพรตสังฆาวาส


          วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เฟซบุ๊ก โรงเรียนวัดวรพรตสังฆาวาส มีการประกาศเปิดตัวครูใหม่ที่เข้ามาสอนในโรงเรียน จนกลายเป็นไวรัลแชร์ 12,000 ครั้งเข้าไปแล้ว มีข้อความดังนี้

          HERE WE GO!

          โรงเรียนวัดวรพรตสังฆาวาสปิดดีลคว้าสุพัตรา แบบไร้ค่าตัวเรียบร้อยแล้ว!

          สพป.ชลบุรี เขต 2 ยืนยันว่า โรงเรียนวัดวรพรตสังฆาวาสได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว นางสาวสุพัตรา ชัยลา มาร่วมทัพแบบฟรี ๆ ไม่มีค่าตัว เรียบร้อยแล้ว

          นางสาวสุพัตรา ชัยลา ได้รับการบรรจุแต่งตั้งตำแหน่งครูผู้ช่วย สาขาวิชาสังคมศึกษา โรงเรียนวัดวรพรตสังฆาวาส

          พร้อมกันนั้น ยังมีการแนบรูปครูพร้อม Stat ค่าความสามารถการ์ดทองอยู่เบื้องหลัง ซึ่งกระปุกดอทคอมจะอธิบายมุกทีละจุดสำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่า หมายถึงอะไร

อธิบายมุกทีละจุด

         
มุกดังกล่าว มาจากการล้อเลียนกับข่าวเวลาที่ทีมฟุตบอลเปิดตัวนักเตะใหม่
เอามาใช้กับการเปิดตัวครูใหม่แทน และวลีคำว่า HERE WE GO! คือ
วรรคทองของฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวสายฟุตบอลชื่อดัง
ที่เวลามีดีลการย้ายตัวนักฟุตบอลสำเร็จลุล่วง เจ้าตัวก็จะใช้คำว่า HERE WE
GO! ในการยืนยันจนกลายเป็นสัญลักษณ์ไปแล้ว

         
ขณะที่การ์ดทองด้านหลัง เป็นการ์ดทองจากเกมฟุตบอลชื่อดัง EA
ที่ระบุความสามารถนักเตะ เอามาระบุความสามารถครูแทน โดยเลข 82
เป็นความสามารถโดยรวม และ ST คือตำแหน่งกองหน้าของฟุตบอล

สำหรับค่าทักษะอื่น ๆ มีดังนี้


          – PAC หมายถึง ความเร็ว

          – DRI หมายถึง การเลี้ยงบอล

          – SHO หมายถึงการยิงประตู

          – DEF หมายถึง ทักษะการเล่นเกมรับ

          – PAS หมายถึง การส่งบอล

          – PHY หมายถึง ความแข็งแกร่งของร่างกาย

เปิดตัวครูใหม่สุดจึ้ง คนแชร์ 12000 ครั้ง

เปิดตัวครูใหม่สุดจึ้ง คนแชร์ 12000 ครั้ง

KUBET – ลีเดีย แมทธิวเคลียร์ชัด หลังโดนโยงคู่ดาราเตรียมหย่า อัปเดตชีวิตคู่ เป็นไงบ้าง

KUBET – หมอสมุนไพรเถื่อน รักษาแม่ป่วยมะเร็ง สุดท้ายเสียชีวิต ลูกสาวช้ำใจโดนด่าทั้งที่ไม่ได้พาไป

          แม่ป่วยเป็นมะเร็ง น้าแอบพาไปรักษาน้ำหมักสมุนไพร สุดท้ายเสียชีวิต แถมโทษลูกสาวเป็นคนผิด ด้านผู้สื่อข่าวพาทัวร์ชมสถานที่




ลูกสาวสูญเสียแม่ หลังจากน้าแอบพาไปรักษาหมอสมุนไพรเถื่อน

          จากกรณึที่มีลูกสาวเล่าเรื่องราวสุดสะเทือนใจผ่าน TikTok ว่า ตัวเองได้สูญเสียคุณแม่ หลังจากที่รักษาโรคด้วยแพทย์ทางเลือกที่น้องสาวเป็นคนพาแม่ไป โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเป็นดังนี้

          แม่วัย 61 ปี เริ่มป่วยตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 และอาการทรุดลงอย่างรวดเร็วจนต้องรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.อุตรดิตถ์ เบื้องต้นพบว่า มีก้อนเนื้อร้ายในสมองจำนวนมาก จากนั้นต้นเดือนธันวาคม ลูกสาวพาแม่มารักษาที่กรุงเทพฯ และฝากแม่ไว้กับน้าสาว เนื่องจากตัวเองต้องไปทำธุระอื่นประมาณ 2 วัน

ลูกสาวสูญเสียแม่ หลังจากน้าแอบพาไปรักษาหมอสมุนไพรเถื่อน

          ผ่านพ้นมา 2 วัน กลับพบว่า
น้าสาวพาแม่ไปรักษากับหมอสมุนไพรในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
อ้างว่า มีคนแนะนำมา พอไปดูสถานที่พบว่า เป็นบ้านกลางป่า
ไม่มีอุปกรณ์การแพทย์ใด ๆ มีเพียงสองผัวเมียอ้างตัวเป็นหมอสมุนไพร
ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำต้มดอกดาวเรือง และมีการฉีดยาที่ไม่ทราบแหล่งที่มา
รวมถึงห้ามผู้ป่วยรับประทานยาแพทย์แผนปัจจุบัน อ้างว่า มีสเตียรอยด์

          หลังจากรักษาไป 5 วัน แม่ก็หมดสติ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล รักษาที่ห้องไอซียูราว 9 วัน แม่ก็เสียชีวิตจากอาการสมองตาย

         
แม้เรื่องนี้จะผ่านมา 3 เดือน แต่ก็ไม่มีคนรับผิดชอบ ตนจึงต้องออกมาพูด
โดยเฉพาะคนที่พาแม่ไปรักษาในสถานที่แบบนั้น กลับไปบอกญาติคนอื่นว่า
ตนเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตของแม่ ทุกวันนี้ตนไม่อยากได้เงิน ไม่อยากดัง
แค่อยากให้คนที่เกี่ยวข้องมายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่โยนความผิดให้ตน

นักข่าวลงพื้นที่สำนักหมอสมุนไพร

ลูกสาวสูญเสียแม่ หลังจากน้าแอบพาไปรักษาหมอสมุนไพรเถื่อน
ภาพจาก โหนกระแส

         
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดังกล่าว พบว่า อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
การเดินทางเป็นทางลูกรัง สองข้างทางเป็นป่ายูคาลิปตัสและไร่ข้าวโพด
พอถึงที่หมาย พบว่ามีห้องแถวตั้งอยู่ 4 ห้อง ด้านหน้ามีป้าย “บ้านพัก…” มีศาลาคล้ายที่พำนักสงฆ์อยู่ใกล้ ๆ และมีตู้กระจกตู้หนึ่งตั้งอยู่

         
ส่องดูข้างใน พบว่า มีถุงพลาสติกวางไว้หลายถุง มีผงต่าง ๆ
แต่ละถุงมีอักษรเขียนชัดว่าเป็นอะไร เช่น กระดูก + ว่านต่างๆ , ดอกผักโขม ,
ดอกดาวเรือง, กระชายอบแห้ง

          หญิงคนหนึ่ง
ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็นภรรยาเจ้าของบ้าน ส่วนสามีไปซ่อมรถในตัวเมือง
ในอดีตเขาเคยบวชพระนานกว่า 16 พรรษา
ช่วงที่บวชแม่สามีกินยาเพื่อที่จะพยายามจบชีวิตตัวเอง พอไปหาหมอ
หมอบอกว่ารักษาไม่ทัน กลับบ้านได้เลย สุดท้ายสามีจึงศึกษาเรื่องยาสมุนไพร
และได้ทดลองรักษาจนอยู่ต่อได้อีก 20 ปี

         
หลังจากนั้นสามีก็ศึกษาหาความรู้มาเรื่อย ๆ จนเป็นยากลั่นสมุนไพร
ใช้วิธีเดียวกับการกลั่นสุรา เรื่องสมุนไพรที่ใช้รักษา
ก็จะแตกต่างกันไปตามอาการป่วย วิธีการให้ยาก็จะฉีดเข้าเส้นเลือดดำ
และต้มยาเป็นยาดื่ม ยืนยันว่า
การทำแบบนี้ไม่ได้ขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข แต่ต้องการช่วยคน
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มารักษา จะมาจากปากต่อปาก เคยมีคนดัง
และข้าราชการมารักษาที่นี่ด้วย

         
ในอดีตที่แห่งนี้เป็นสถานที่ปฏฺิบัติธรรม ปัจจุบันมีพระสงฆ์อาศัย 2 รูป
โดยพระรูปหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่โรงพิมพ์
ได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายจนป่วย พอเป็นพระ
ได้ทดลองกินยาสมุนไพรที่อาจารย์คิดค้น อาการจึงเริ่มดีขึ้น แต่ยอมรับว่า
ยาสมุนไพรดังกล่าวไม่มีเอกสารรับรอง มีแต่ความเชื่อ

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส