KUBET – ซูชิสายพาน ไปกินแล้วข้าง ๆ ทำพัง แต่กลายเป็นเราโดนด่า แถมด่าผิดคนอีก

          สาวไปกินซูชิสายพาน กลับเจอเรื่องไม่คาดคิดจนพนักงานเข้ามาตำหนิ สุดท้ายกลายเป็นกรณีศึกษาที่คนทำธุรกิจควรจดจำไว้ให้ดี เพราะลูกค้าเสียความรู้สึก ทั้งที่ไม่ผิด

ซูชิสายพาน



          วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง มีการเล่าประสบการณ์การไปกินซูชิสายพาน แต่กลับถูกพนักงานตำหนิจนเสียความรู้สึก รายละเอียดเรื่องราวมีดังนี้
          อนุญาตแชร์ประสบการณ์ ที่เกิดขึ้นตอนไปกินซูชิสายพานเจ้าหนึ่งค่ะ
          เรื่องคือวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เรากับแฟน ได้ไปทานซูชิสายพานที่ห้างใหญ่แห่งหนึ่งค่ะ เราไปทานที่นี่ได้ 5-6 ครั้งแล้วค่ะ เข้าใจกฎและมารยาทในการรับประทานทุกอย่างเป็นอย่างดี

          เราได้คิวลำดับที่ 290 และได้เข้านั่งทานแบบโต๊ะ หมายเลขโต๊ะคือ 55 ช่วงเวลาที่เราได้เข้านั่งโต๊ะก็ประมาณ 19.05 น.
          เหตุการณ์ทุกอย่างปกติดีค่ะ เราและแฟนสั่งอาหารผ่านแท็บเล็ต และรับประทานกันปกติ จนน่าจะสักประมาณช่วง 19.35-19.40 เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น คือโต๊ะด้านหลังเรา (โต๊ะ 56) ซึ่งทางเราก็ได้ยินเสียงเค้าคุยกันตลอดน่าจะเป็นผู้หญิงทั้งคู่
          ตอนนั้นเรากับแฟน สนใจอาหารบนโต๊ะและทานกันอยู่ เราได้ยินเสียงก๊อกแก๊ก ๆ และเห็นจานซูชิบนสายพานเบียดกันจนจะหลุดออกจากราง และกำลังจะคว่ำมาใส่เรา
ซูชิสายพาน
          ซึ่งต้นเหตุก็คือคุณผู้หญิงโต๊ะ 56 ที่นั่งฝั่งหลังชนกันกับเรา เขาได้ยื่นมือเข้าไปในสายพาน วุ่นวนกับฝาที่ครอบจานซูชิบนสายพาน ทางเราไม่แน่ใจว่าตัวเขาพยายามจะเปิดฝาหรืออะไร แต่ภาพที่เห็นคือ มือเขาเอื้อมหยิบฝาครอบซูชิ และฝาครอบซูชินั้นดันค้างติดอยู่กลางสายพาน  ทำให้ฝาครอบนั้นดันจานซูชิที่กำลังเลื่อนมาหาเรา เกือบจะหลุดออกจากราง
          ทางตัวของเราเองเห็นจานซูชิที่แล่นมากำลังจะเลื่อนตกออกมา เราจึงได้รีบเอาฝ่ามือของเรารองใต้จานซูชิจานนั้น และดันซูชิเข้ารางเลื่อนไป เราตกใจมากที่นั่งทานอยู่ดี ๆ ซูชิก็จะมาตกใส่ เราเลยบ่นเบา ๆ กับแฟนว่า ตกใจหมดเลยถ้าตกและหกใส่เราคงเลอะแย่ ซึ่งทางคุณโต๊ะต้นเหตุด้านหลังก็ไม่ได้มีการหันมาขอโทษอะไรเราเลย เราก็ปล่อยผ่านไม่ได้สนใจอะไร นั่งทานต่อ
          แต่ประมาณไม่กี่นาทีต่อมา กลับมีน้องพนักงานผู้หญิงคนหนึ่ง เดินเข้ามาพูดและตำหนิเราว่าลูกค้าคะอาหารที่อยู่บนสายพานหยิบลงมาแล้วห้ามเอากลับใส่เข้าไปคืนนะคะ

          ทางเราเลยบอกว่าเมื่อกี้โต๊ะข้างหลังเค้าทำฝาครอบค้างบนสายพานและเบียดจานซูชิ จนดันจานซูชิจะร่วงลงมาใส่เรานะ และเสียงผู้หญิงโต๊ะข้างหลังได้ยินเราพูด เขาเลยพูดแทรกขึ้นมาว่าค่ะ โต๊ะเขาทำจริง ๆ น้องพนักงานที่มาตำหนิเราก็เงียบ พูดแค่ว่าค่ะ แล้วก็เดินออกไป
          เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้เราเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก คือถ้าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่มาตำหนิเราจริง ๆ ทำไมถึงเห็นตอนที่เราดันจานซูชิกลับขึ้นไปแล้วมากล่าวหาเราว่าเราหยิบลงมาเพื่อจะกินแต่เปลี่ยนใจหยิบคืนขึ้นไปบนสายพาน? ทำไมถึงกลับคิดว่าเราเสียมารยาทขนาดนั้น ? ขณะเดียวกันทำไมคุณไม่เห็นต้นเหตุขณะที่คุณผู้หญิงโต๊ะ 56 ล้วงมือเข้าไปบนสายพานวุ่นวนหลายนาทีเพื่อที่จะเปิดฝาครอบซูชิหรืออะไรสักอย่าง จนไปโดนจานอื่น ๆ  และไม่ได้มีการเข้าไปตักเตือนหรือตำหนิเขาเลย กลับมาพูดตำหนิเราแทน และพอเราบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางตัวน้องพนักงานไม่ได้กล่าวขอโทษที่เข้าใจผิด กลับเดินออกไปเฉย ๆ   
          ทางเราเลยได้ทำการบอกพี่พนักงานผู้หญิงที่ได้มาเสิร์ฟน้ำรีฟิลให้แฟนเราในตอนนั้น เราบอกว่าขออนุญาต คอมเพลนพนักงานได้ไหมคะ คือเมื่อกี้เกิดเรื่องแบบนี้นะ เราก็ได้เล่าบอก ว่าเราไม่โอเค เสียความรู้สึก  ทางพี่พนักงานคนนี้รีบไหว้ขอโทษเราและบอกว่าเป็นการเข้าใจผิดกันต้องขอโทษจริง ๆ  เราก็พยายามจะไม่คิดอะไร แต่บอกเลยในตอนนั้นเริ่มไม่เอ็นจอยแล้ว คือเสียความรู้สึกไปแล้ว

          สักพักก็มีพี่ผู้หญิงและพี่ผู้ชายซึ่งน่าจะเป็นผู้จัดการหรือผู้ดูแลอะไรสักอย่างของทางร้าน ได้เดินเข้ามาขอโทษและยกมือไหว้เราหลายรอบมาก ทางเราก็ไหว้กลับและได้บอกถึงปัญหา ทางพี่พนักงานทั้ง 2 ท่านก็เข้าใจและบอกว่าจะแก้ปัญหา และอบรมน้องพนักงานให้เข้าใจ  ซึ่งทางเราเองก็อยากจะขอชมพี่หัวหน้าทั้ง 2 ท่านที่ได้รับทราบถึงปัญหาและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมาก ๆ take action ได้ไวมาก ขอบคุณมาก ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงคำขอโทษที่จริงใจนะคะ

          ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราอยากให้ทางร้านช่วยกำชับพนักงานให้ดูเหตุการณ์ให้ถี่ถ้วนก่อน หรือเข้ามาถามที่มาที่ไปก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น  และก็การเลือกปฏิบัติ ความเท่าเทียม ซึ่งทางเราไม่เข้าใจหรอกว่าคุณเอาเหตุผลอะไรเดินเข้ามาตัดสินยัดเยียดความผิดให้เรา และทั้ง ๆ ที่ฝั่งตรงข้ามกระทำผิด เอามือเข้าไปจับไปวุ่นวายกับของบนสายพาน แต่คุณกลับไม่ตักเตือนเลย กลับเลือกที่จะเข้ามาตำหนิเรา ซึ่งทางเราไม่ได้รับคำขอโทษจากโต๊ะด้านหลัง ที่เป็นต้นเหตุจะทำซูชิไหลมาร่วงใส่เราก็เสียความรู้สึกประมาณนึงแล้ว แต่นี่กลับโดนกล่าวหาและตำหนิแบบเข้าใจผิดอีก ยิ่งเสียความรู้สึกเข้าไปใหญ่ค่ะ
          ในอีกมุมนึงถ้าตอนนั้นเราเลือกที่จะปล่อยให้ซูชิจานนั้นตกลงมา ใส่เราและเลอะเทอะ จานตกเสียงดัง คิดว่าใครจะต้องเป็นคนรับผิดชอบซูชิจานนั้น และในสายตาคนอื่นเราคงเป็นลูกค้าที่ซุ่มซ่ามมาก ๆ ที่ทำซูชิหล่นลงมา แบบนี้หรือเปล่าคะ
ซูชิสายพาน

ซูชิสายพาน

มุมมองชาวเน็ตหลากหลาย
          – บางคนมองว่าเจ้าของโพสต์เยอะเกินไป ทั้งที่ควรจบตั้งแต่อยู่ในร้าน
          – บางคนมองว่า เจ้าของโพสต์ทำถูกแล้วที่ออกมาเขียน เพราะเสียความรู้สึกกับเรื่องที่เกิดขึ้น กินอาหารอยู่ดี ๆ ถูกกล่าวหา ย่อมอารมณ์เสียเป็นธรรมดา
          – ตัวแปรสำคัญคือ พนักงานไม่ยอมขอโทษ จึงเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าโต๊ะข้าง ๆ ไม่ยอมรับ ว่าทำพลาด เรื่องคงบานปลายกว่านี้
          – เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่ควรไปอบรมพนักงานได้เช่นกันว่า ต้องมีวิธีพูดกับลูกค้าที่ดีกว่านี้

KUBET – ไก่ทอง ออริจินัล เจอคนอินโดนีเซียขโมยเมนูอาหาร สืบประวัติแล้วรู้เลยไม่ธรรมดา

 

          ร้านอาหารดัง เจอชาวต่างชาติขโมยเมนูอาหาร จนต้องโพสต์ประจาน ยิ่งรู้ดีกรีคนก่อเหตุ ยิ่งไม่ธรรมดา อย่าทำแบบนี้เลย ทั้งที่เมนูออนไลน์ก็มี



เขาคือใคร ขโมยทำไม?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไก่ทอง ออริจินัล – Kaithong Original
          วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เฟซบุ๊ก ไก่ทอง ออริจินัล – Kaithong
Original
ร้านอาหารชื่อดัง
มีการโพสต์เตือนภัยหลังจากที่เจอลูกค้าชาวต่างประเทศหยิบเมนูร้านออกไป
แถมดีกรีไม่ธรรมดา แบบนี้ยิ่งน่าเกลียด มีรายละเอียดดังนี้

         
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 สำนักงานใหญ่ร้านไก่ทอง ออริจินัล
ได้รับรายงานจากสาขาแห่งหนึ่งว่า ประมาณช่วงบ่ายของวันดังกล่าว
มีลูกค้าชาวต่างชาติ 2 ราย เป็นชาย วัยกลางคน สวมเสื้อสีเทา
และหญิงรูปร่างผอม ผมยาว สวมเสื้อสีขาว ได้เข้ามารับประทานอาหารที่ร้าน
โดยฝ่ายชายได้ถ่ายภาพเมนูอาหารและเมนูของหวานของร้านด้วยโทรศัพท์มือถือของตนอย่างละเอียดทุกหน้า
ต่อมาฝ่ายหญิงที่มาด้วยกันได้หยิบเมนูอาหารและเมนูของหวานของทางร้าน
ซึ่งเป็นเล่มเมนูขนาดใหญ่
ไว้สำหรับให้ลูกค้าใช้บริการในร้านเท่านั้นนำใส่ถุงใส่ของของตนและนำออกไปจากร้าน
โดยมีฝ่ายชายที่นั่งอยู่ด้วยกันรู้เห็นในการกระทำดังกล่าวโดยตลอด

         

เมื่อทางสำนักงานใหญ่ทราบเรื่องและได้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดแล้ว
จึงเร่งดำเนินการหาข้อมูลจากชื่อที่ปรากฎในบิลชำระค่าอาหาร
ทำให้ได้ทราบว่าชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวประกอบธุรกิจร้านอาหารไทยในประเทศอินโดนีเซีย
ซึ่งมีร้านอาหารในเครือหลายแห่งด้วยกัน

         
การกระทำของบุคคลทั้งสองดังกล่าว
สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ขาดความเคารพต่อทรัพย์สินของผู้อื่น
และขัดต่อจริยธรรมในการประกอบธุรกิจประเภทเดียวกันเป็นอย่างยิ่ง

         
ทั้งนี้
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลทั้งสองนำข้อมูลที่ได้ไปกระทำการใดๆที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อร้านไก่ทอง
ออริจินัล
ทางร้านจึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ
เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสองตามกฎหมายว่าด้วยทางแพ่งและทางอาญาต่อไป

เขาคือใคร ขโมยทำไม?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไก่ทอง ออริจินัล – Kaithong Original

เขาคือใคร ขโมยทำไม?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไก่ทอง ออริจินัล – Kaithong Original

เขาคือใคร ขโมยทำไม?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไก่ทอง ออริจินัล – Kaithong Original

เขาคือใคร ขโมยทำไม?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไก่ทอง ออริจินัล – Kaithong Original

เขาคือใคร ขโมยทำไม?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไก่ทอง ออริจินัล – Kaithong Original

เขาคือใคร ขโมยทำไม?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไก่ทอง ออริจินัล – Kaithong Original

เขาคือใคร ขโมยทำไม?

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไก่ทอง ออริจินัล – Kaithong Original

ร้านไก่ทอง ออริจินัล ขอประกาศจุดยืนดังนี้ :

          – การจงใจนำทรัพย์สินของทางร้านไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดทางอาญา

          – ทางร้านขอเรียกร้องให้บุคคลที่เกี่ยวข้องแสดงความรับผิดชอบ และดำเนินการคืนทรัพย์สินของร้านโดยเร็วที่สุด

         
– ร้านจะดำเนินการมาตรการที่เหมาะสม
เพื่อไม่ให้เกิดการลอกเลียนแบบหรือการนำไปใช้โดยไม่เหมาะสม
รวมทั้งไม่ให้เกิดพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้ซ้ำขึ้นอีกในอนาคต

         
ร้านไก่ทอง ออริจินัล ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเสมอมา
และขอยืนยันว่าเรายึดมั่นในมาตรฐานทางจริยธรรม
รวมถึงคุณค่าของความตั้งใจในการทำงานตลอดหลายปีที่ผ่านมา

         
เราหวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเครื่องเตือนใจให้กับวงการธุรกิจอาหาร
ว่าความเคารพซึ่งกันและกันคือรากฐานของความเป็นมืออาชีพที่ไม่ควรถูกมองข้าม

          ขอแสดงความนับถือ
          ไก่ทอง ออริจินัล

         
นอกจากนี้ ทางร้านยังอัปเดตเพิ่มเติมด้วยว่า
เล่มเมนูของร้านมีขนาดใหญ่และจัดทำเพื่อใช้งานเฉพาะภายในร้านเท่านั้น
ทั้งนี้ทางร้านมีไฟล์เมนู PDF ออนไลน์ให้เข้าถึงได้ตลอด
จึงไม่จำเป็นต้องนำเล่มเมนูออกไป

KUBET – แมวตกจากฟ้า ทำหม้อไฟวงแตก ซุปลวก 9 คน ร้านฮึ่มจ่อจับตัวการ ทำงานใช้หนี้

          แมวตกจากฟ้า ทำหม้อไฟวงแตก ลูกค้าโดนลวก 9 คน แต่ตัวต้นเหตุสาหัสกว่า แถมค่ารักษาไม่ถูก ร้านลั่นถ้าไม่มีเจ้าของ ต้องเอากลับมาทำงานใช้หนี้ 



แมวตกใส่หม้อไฟ
ภาพจาก 九派新聞 

          วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานเหตุการณ์ที่ร้านหม้อไฟแห่งหนึ่งในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ซึ่งกลายมาเป็นที่สนใจของชาวเน็ตจำนวนมาก เมื่ออยู่ ๆ ลูกค้าที่กำลังนั่งกินหม้อไฟอยู่บริเวณกลางแจ้งก็ถึงคราววงแตก โดนน้ำซุปร้อน ๆ กระจายมาลวกไปถึง 9 คน เหตุมีเจ้าเหมียวร่วงจากฟ้า ตกลงมาใส่หม้อไฟรสเผ็ดร้อนบนโต๊ะ 

          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าเหมียวจอมซนตัวนี้ตกลงมาจากชั้น 2 ใส่หม้อไฟของลูกค้าจนทำให้น้ำซุปกระจาย ไม่เพียงลูกค้า 9 คนจะโดนน้ำซุปลวก แต่โทรศัพท์มือถือของหลายคนยังได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ไม่มีลูกค้าคนไหนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อาการของเจ้าเหมียวดูจะหนักกว่ามาก 
แมวตกใส่หม้อไฟ
ภาพจาก 九派新聞 

          ด้านเจ้าของร้านเผยว่า ลูกค้ากับแมวถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว เพื่อเป็นการขอโทษลูกค้าจึงไม่มีการคิดอาหารในคืนนั้น และทางร้านยังจ่ายเงินค่าตกใจและชดใช้ค่าโทรศัพท์ที่เสียหายแก่ลูกค้าด้วย 

          อย่างไรก็ตาม อาการของเจ้าเหมียวค่อนข้างสาหัส ขาของมันโดนลวก และยังมีอาการกระดูกหัก ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งแม้จะยังดีที่รอดชีวิต แต่ค่ารักษานั้นสูงถึงวันละ 1,000 หยวน (ราว 4,500 บาท) เจ้าของร้านหม้อไฟจึงย้ำว่า “ถ้ายังไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ แมวตัวนี้ต้องกลับไปที่ร้านหม้อไฟเพื่อทำงานใช้หนี้”
แมวตกใส่หม้อไฟ
ภาพจาก 九派新聞 

          ต่อมา เจ้าของร้านยังโพสต์ขอโทษลูกค้าต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าจะมีมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในร้านอีก 

แมวตกใส่หม้อไฟ
ภาพจาก 九派新聞 

          นอกจากนี้เมื่อเรื่องดังกล่าวตกเป็นที่สนใจของชาวเน็ตมากมาย เจ้าของร้านก็ได้เข้ามาอัปเดตอาการของเจ้าเหมียวเพิ่มเติม โดยโพสต์คลิปของเจ้าตัวแสบที่กำลังรักษาตัว เพื่อไม่ให้ทุก ๆ คนต้องเป็นห่วงกัน และเขายังหวังว่าจะมีคนดีใจต่อทุก ๆ ชีวิต แม้ว่าแมวตัวนี้จะเป็นตัวสร้างเรื่องที่ซนไปนิดก็ตาม 

  

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday  

KUBET – ห้องเช่ามรณะ หนุ่ม ๆ ชวนสาวเข้าห้องก่อนดับ 4 ศพ พบต้นเหตุจากเครื่องต้มน้ำ

          สลดพบ 4 ศพในห้องเช่า หลัง 2 หนุ่มชวนสาวเข้าห้อง ตำรวจเจอเปิดเครื่องต้มน้ำร้อนทิ้งไว้ แต่ปิดหน้าต่าง คาดสูดคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไป 




ห้องเช่ามรณะ
ภาพจาก Police

          วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Sinchew รายงานว่า เกิดเหตุสลดพบชาวเวียดนาม 4 ราย เสียชีวิตในห้องเช่าที่เมืองเถาหยวน ของไต้หวัน โดยสภาพศพเริ่มเน่าเปื่อยและไม่มีบาดแผลภายนอกใด ๆ เบื้องต้นคาดว่าเป็นการเสียชีวิตจากคาร์บอนมอนอกไซด์
          จากการสืบสวน พบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ประกอบด้วยแรงงานชาย 2 ราย และแรงงานหญิงที่มีใบอนุญาตทำงาน กับนักศึกษาสาวที่มาเรียนในไต้หวัน สภาพศพไม่มีบาดแผลหรือการบาดเจ็บภายนอก ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจพบว่าหน้าต่างปิดอยู่ตรงระเบียงที่มีเครื่องต้มน้ำ โดยน้ำร้อนถูกเปิดทิ้งไว้ภายในห้องอาบน้ำ จึงคาดว่าทั้งหมดเสียชีวิตจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และเสียชีวิตมานานหลายวันแล้ว 
          จากแถลงของทางตำรวจ ที่พักดังกล่าวถูกเช่าโดยแรงงานชายทั้ง 2 คน ทั้งคู่พบกับหญิงอีก 2 คนผ่านการแนะนำของเพื่อน ก่อนจะชวนสาว ๆ มาสังสรรค์กันในห้องเช่า 

          อย่างไรก็ตาม หลังจากเพื่อนของฝ่ายชายเห็นว่าเขาหายไป ติดต่อไม่ได้มาหลายวัน จึงมาตรวจสอบที่ห้องเช่าดังกล่าวในคืนวันที่ 3 พฤษภาคม ทำให้พบร่างของทั้ง 4 คนที่นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องเช่า โดยชายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น หญิงคนหนึ่งอยู่ในห้องนอน ส่วนชายหญิงอีกคู่อยู่ในห้องนอนอีกห้อง บางศพเริ่มเน่า และบางศพร่างกายเปลี่ยนสีแล้ว 
          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรในช่วงบ่ายวันที่ 4 พฤษภาคม โดยเบื้องต้นแพทย์นิติเวชคาดว่าทั้งหมดเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจเพราะก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่าทั้ง 4 คน ไม่มีการเข้าออกจากห้องอีกหลังวันที่ 30 เมษายน จึงเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ขณะนี้ทางญาติที่เวียดนามได้รับแจ้งข่าวแล้ว ส่วนศพของทั้ง 4 คนจะได้รับการจัดการโดยญาติที่อยู่ในไต้หวัน 
ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew

KUBET – งานแต่ง พิงค์ จิราธิวัฒน์ แวน ทายาทเบทาโกร วิวาห์ชื่นมื่น บ่าว สาว สมกันมาก

KUBET – โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ คุณหญิงปราณี อุ่นพรม มารดา เจ้าคุณพระสินีนาฎ

 
            ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายใน แก่ คุณหญิงปราณี อุ่นพรม มารดาของ เจ้าคุณพระสินีนาฎ พิลาสกัลยาณี



โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ คุณหญิงปราณี อุ่นพรม มารดา เจ้าคุณพระสินีนาฎ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนรัก พลโทหญิง เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี

            วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ เรื่อง
พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายใน แก่ คุณหญิงปราณี
อุ่นพรม มารดาของ เจ้าคุณพระสินีนาฎ พิลาสกัลยาณี โดยมีรายละเอียดดังนี้

            “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
ฝ่ายใน ชั้น ทุติยจุลจอมเกล้า แก่ คุณหญิงปราณี อุ่นพรม

            ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2568

            ประกาศ ณ วันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน”

โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ คุณหญิงปราณี อุ่นพรม มารดา เจ้าคุณพระสินีนาฎ
โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ คุณหญิงปราณี อุ่นพรม มารดา เจ้าคุณพระสินีนาฎ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนรัก พลโทหญิง เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี

KUBET – ไวรัล TikTok ปัญหาโลกแตก แม่ค้าขายทุเรียน เจอลูกค้าแบบนี้ขอบาย อย่าทำเลย

          ปัญหาโลกแตกของแม่ค้าขายทุเรียนที่อยากเล่า เจอลูกค้าแบบนี้แทบอยากเลิกขาย แถมมีเยอะด้วย พร้อมบอกสิ่งที่อยากฝากถึง



ปัญหาโลกแตกของแม่ค้าขายทุเรียนที่อยากเล่า
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ผลไม้ที่คนต่างโหยหาย่อมมีทุเรียน เพราะตรงกับฤดูกาลของมัน ทำให้เกษตรกรที่ปลูกทุเรียนได้รับออร์เดอร์กันล้นหลาม ขายแทบไม่ทัน

         วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 TikTok @paw.wa19 เป็นเกษตรกรปลูกทุเรียนและมีบริการขายออนไลน์ ได้เปิดใจถึงปัญหาของการขายทุเรียนที่ลูกค้ามักไม่เข้าใจว่า ทุเรียนแก่เป็นยังไง พอส่งทุเรียนแก่ไปให้กลับโวยว่าเป็นทุเรียนอ่อน เพราะสีมันไม่ใช่ เห็นแล้วก็ปวดหัว มีข้อความทั้งหมดดังนี้

ปัญหาโลกแตกของแม่ค้าขายทุเรียนที่อยากเล่า
ภาพจาก TikTok @paw.wa19

         ถ้าแบบนี้เรียกทุเรียนอ่อน แม่ค้าคงจะต้องเลิกขายแล้วนะคะ

         เวลาเอฟ ขอคนกินทุเรียนเป็นนะคะ เคลมไม่ไหวนะคะ เคลมทุเรียนแก่ อยากจะร้องไห้วันละ 10 รอบ

ปัญหาโลกแตกของแม่ค้าขายทุเรียนที่อยากเล่า
ภาพจาก TikTok @paw.wa19

        
แล้วเจอแต่แบบนี้ ผ่าก่อนสุกมั่งอะไรมั่ง แล้วทุเรียนนะคะ ความแก่-อ่อน
ห้ามดูที่เม็ดนะคะ เม็ดไม่สามารถบอกความแก่อ่อนของทุเรียนได้ค่ะ
แนะนำให้ซื้อแบบแกะเนื้อเลยค่ะ ไม่ต้องลุ้น

        
ด้านชาวเน็ตเห็นแล้วปวดใจกับปัญหาโลกแตกของพ่อค้าแม่ค้าทุเรียน
จึงได้แต่ให้กำลังใจ และรู้สึกเสียดายของที่ได้คืนมาหลายออร์เดอร์
ทั้งที่เราไม่ได้ผิด

ปัญหาโลกแตกของแม่ค้าขายทุเรียนที่อยากเล่า

KUBET – ห้างทองริฎวาน เจอลูกค้าสีหน้าไม่ดี ตาแดง ถามจนรู้ความจริง และช่วยเอาไว้ทัน

          ลูกค้าเดินเข้าร้านมาขายทอง พนักงานเห็นสีหน้าไม่ดี ตาแดง กระสับกระส่าย พอถามแล้วรู้ความจริง รีบช่วยไว้ได้ทัน ก่อนเกิดเหตุสลด




ลูกค้ามาขายทอง พนักงานเห็นสีหน้าไม่ดี สอบถามจนช่วยได้ทัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ห้างทองริฎวาน ต้นไทร-ตันหยงมัส-สายบุรี
          วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เฟซบุ๊ก ห้างทองริฎวาน ต้นไทร-ตันหยงมัส-สายบุรี มีการเล่าการเตือนภัยสังคมเกี่ยวกับมิจฉาชีพ และขอให้ประชาชนทั่วไประวังตัวไว้ มีรายละเอียดดังนี้

          เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่สาขาตันหยงมัส มีลูกค้าเดินเข้ามาที่ร้านเพื่อทำรายการขายฝาก เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เงิน แต่ด้วยท่าทีที่น่าสงสัย ลูกค้ามีสีหน้าไม่ค่อยดี ตาแดง กระสับกระส่าย ดูเป็นกังวล ด้วยความช่างสังเกตและเป็นห่วง พนักงานของร้าน เลยถามด้วยความเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า มีอะไรให้ช่วยไหม จึงได้ทราบความจริง

          ลูกค้าถูกมิจฉาชีพโทร.หา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมาพร้อมหมายจากคดี ข่มขู่ให้โอนเงิน แจ้งว่าจะดำเนินคดีต่าง ๆ พร้อมกำชับว่าห้ามบอกใครทั้งนั้น ด้วยความหวาดกลัวทำให้หลงเชื่อคำพูดดังกล่าว โอนเงินจำนวนหนึ่งไปแล้ว 1 ครั้งก่อนเข้ามาที่ร้าน และจะนำทองมาขายฝากเพื่อจะโอนเงินให้เพิ่มอีกครั้ง

ลูกค้ามาขายทอง พนักงานเห็นสีหน้าไม่ดี สอบถามจนช่วยได้ทัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ห้างทองริฎวาน ต้นไทร-ตันหยงมัส-สายบุรี

          เมื่อพนักงานทราบเรื่องดังกล่าว จึงห้ามลูกค้าไว้ได้ทัน ก่อนจะหลงเชื่อโอนเงินไปเพิ่ม หลังจากนั้นพนักงานคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงและเห็นเหตุการณ์ต่างค่อย ๆ อธิบายข้อเท็จจริงว่าหากมาในรูปแบบนี้การันตีได้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพและค่อย ๆ พูดปลอบให้ลูกค้าตั้งสติ

          ห้างทองริฎวานขอชื่นชมความดีของพนักงานทีมตันหยงมัสทุกคน ที่ต่างไม่นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้สามารถยับยั้งความเสียหายเพิ่มเติม และขอเตือนภัยคนอื่น ๆว่าอย่าหลงเชื่อสายที่โทรเข้าเพื่อหลอกให้โอนเงินเด็ดขาด

          ชื่อบัญชีมิจฉาชีพ นายนันธวัช อินพ่วง

          ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดเรื่องส่วนตัวของลูกค้านะคะ โพสต์นี้จัดทำขึ้นมาเพื่อเตือนภัยเท่านั้น

ลูกค้ามาขายทอง พนักงานเห็นสีหน้าไม่ดี สอบถามจนช่วยได้ทัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ห้างทองริฎวาน ต้นไทร-ตันหยงมัส-สายบุรี

KUBET – ไวรัล TikTok พ่อบอกว่า อยู่บ้านนอนไม่หลับ จึงไปเป็นวินมอเตอร์ไซค์ 3 เดือน ได้เงินแค่ไหน

 
          พ่อบอกกับลูกว่าอยู่บ้านเฉย ๆ นอนไม่หลับ จึงไปเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ทำได้ 3 เดือน ได้เงินเกือบ 5 หมื่น พร้อมเผยเคล็ดลับที่ทำเงินได้เยอะขนาดนี้




 มอเตอร์ไซค์รับจ้าง
ภาพจาก TikTok @padthai.jsamran
         วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 TikTok @padthai.jsamran มีการลงเรื่องราวของคุณพ่อ เมื่อพ่อบอกกับลูก ๆ ว่า อยู่บ้านเฉย ๆ
นอนไม่หลับ ขอไปเป็นวินมอเตอร์ไซค์ 3 เดือน พร้อมกับเก็บเงินไปด้วย
พอครบกำหนดจึงเอาเงินมานับ

          จากในคลิปจะพบว่า
เงินที่ได้มาจากการเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ถูกเอาเก็บใส่กระเป๋าอย่างดี
เมื่อออกมานับก็จะมีเงินทุกแบบ ทั้งเหรียญบาท เหรียญสิบ ธนบัตร 20 บาท, 50
บาท แม้กระทั่ง 1,000 บาทก็ยังมี ผลสุดท้ายเงินที่นับได้คือ 48,195 บาท

มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

ภาพจาก TikTok @padthai.jsamran

มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

ภาพจาก TikTok @padthai.jsamran

มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

ภาพจาก TikTok @padthai.jsamran

มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

ภาพจาก TikTok @padthai.jsamran

มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

ภาพจาก TikTok @padthai.jsamran

         
สำหรับเคล็ดลับการทำงาน 3 เดือนแล้วได้ยอดเกือบ 50,000 บาท
ทางเจ้าของคลิประบุว่า พ่อเป็นคนไม่เลือกลูกค้า จากเพชรเกษมไปไกลยันสำโรง
ยันสวนสยามก็มี ทำให้เก็บหอมรอมริบได้ และอีกส่วนหนึ่งที่มีเงินเยอะขนาดนี้
เป็นเพราะภาระน้อย ไม่มีหนี้ ทำให้เงินเหลือเก็บ

มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

KUBET – สาวลดน้ำหนัก ครึ่งปีได้ 24 กก. แพทย์เผย 1 เคล็ดลับสำคัญ ทำก่อนมื้ออาหาร ช่วยคุมน้ำตาล

          ประสบการณ์สาวลดน้ำหนัก ครึ่งปีได้ 24 กิโลกรัม แพทย์เผย 1 เคล็ดลับสำคัญ ทำก่อนมื้ออาหาร ช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือด 



ลดน้ำหนัก

          วันที่ 4 พฤษภาคม 2569 เว็บไซต์ SETN เผยเรื่องราวจากดร.เสี่ยว เจียเจี้ยน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักในไต้หวัน ได้แชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักของหญิงรายหนึ่ง โดยใช้วิธีเปลี่ยนลำดับการรับประทานอาหาร และดื่มเครื่องดื่มโปรตีนจากพืชก่อนอาหาร จนทำให้ประสบความสำเร็จ สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 24 กิโลกรัม ภายในระยะเวลาแค่ 6 เดือน อีกทั้งยังมีระดับน้ำตาลในเลือดก็คงที่มากขึ้นด้วย 
          โดยก่อนหน้านี้ หญิงสาวรายนี้จะมีพฤติกรรมกินข้าวและผักโดยตักกินพร้อมกันเต็มคำ และเธอมักจะเคยชินกับการลือกกินอาหารประเภทแป้งกินก่อน เช่น บะหมี่ หรือขนมปัง ก่อนที่จะกินอาหารประเภทอื่น อย่างไรก็ตาม ดร.เสี่ยว ชี้ว่า ลำดับการรับประทานนี้อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเธอพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังรับประทานอาหาร รวมถึงการรู้สึกหิวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

          ดร.เสี่ยว อธิบายว่า การบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงในขณะท้องว่าง ร่างกายจะดูดซึมอย่างรวดเร็วและกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่น (Postprandial Glycemic Excursions) ทำให้มีการหลั่งอินซูลินในปริมาณมาก และเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เกิดกระบวนการสร้างกรดไขมันใหม่ในตับเพิ่มมากขึ้น 
          ดังนั้นวิธีการแก้ไขคือ การปรับเปลี่ยนลำดับการกินอาหาร โดยกินโปรตีนอย่างเนื้อ ปลา ไข่ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองให้เพียงพอ ก่อนจะกินอาหารประเภทอื่น โดยโปรตีนที่กินเข้าไปก่อนจะถูกย่อยสลายเป็นกรดอะมิโน และกรดอะมิโนจะกระตุ้นให้ลำไส้หลั่งสารเอนเทอโรซิน ซึ่งจะสามารถช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร ทำให้แป้งและน้ำตาลที่กินเข้าไปในภายหลังถูกกล้ามเนื้อนำไปใช้อย่างช้า ๆ

          ดร.เสี่ยว แนะนำว่า คือผู้หญิงควรดื่มโปรตีนจากพืชก่อนอาหารทุกมื้อ เนื่องจากโปรตีนจะถูกย่อยเป็นกรดอะมิโนได้เร็วขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่เท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ปัญหาการได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ และการสูญเสียกล้ามเนื้อระหว่างการลดน้ำหนักได้อีกด้วย เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว 
          จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ในสหรัฐฯ พบว่า การกินโปรตีนและผักก่อนคาร์โบไฮเดรต จะทำให้ระดับอินซูลินหลังอาหารลดลง เมื่อเทียบกับการกินคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังมีอีกรณีศึกษาหนึ่งของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยพบว่า การกินโปรตีนและผักก่อน แล้วจึงค่อยกินคาร์โบไฮเดรต สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารได้อย่างมีนัยสำคัญ  

          ดร.เสี่ยวสรุปว่า จากผลการปฏิปฏิบัติในระยะยาวพบว่า การปรับลำดับการกินอาหารด้วยวิธีนี้ สามารถช่วยให้ร่างกายใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานได้มากขึ้น เมื่อพักผ่อนหรือออกกำลังกายหลังรับประทานอาหาร นอกจากนี้ ค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสม (HbA1c) ในร่างกายก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเหนื่อยล้าในช่วงบ่ายลดลงมาก รวมทั้งประสิทธิภาพในการทำงานก็เพิ่มขึ้น 
          “ดูเหมือนว่าการปรับลำดับการรับประทานอาหารไม่เพียงแต่ทำให้ควบคุมน้ำหนักและน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้มีพลังงานมากขึ้นด้วย” ดร.เสี่ยว กล่าว 
ขอบคุณข้อมูลจาก SETN