KUBET-ข่าว สาระ บันเทิง วาไรตี้

          หนุ่มกินแซ่บงานเลี้ยงแม้ไม่รู้จักเจ้าภาพ คนอมยิ้มหลังรู้ที่มา ชื่นชมเจ้าภาพน่ารักมาก ที่แท้นักท่องเที่ยวมาร่วมจอย เห็นคึกคักนึกว่าร้านอาหาร

ภาพจาก TikTok @lindaproton

         เป็นเรื่องราวที่พบเห็นกันในบางครั้ง กับกรณีของคนแปลกหน้าแอบเข้ามากินอาหารงานเลี้ยง แม้ไม่ได้รับเชิญ และไม่รู้จักเจ้าภาพ แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมาเลเซียเมื่อไม่นานมานี้ กลับเป็นเรื่องชวนอมยิ้มที่ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์อย่างมาก

         จากรายงานของเว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 ผู้ใช้ TikTok @lindaproton ได้โพสต์ภาพของชายคนหนึ่งที่อยู่ ๆ ก็เดินเข้ามาในบ้านที่กำลังจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง และมีภาพนั่งกินอาหารเนียนอยู่กับแขกคนอื่น ๆ แต่ที่น่าสนใจคือชายคนนี้เป็นคนต่างถิ่น ที่เจ้าภาพเองก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แถมยังพูดคนละภาษากันด้วย

ภาพจาก TikTok @lindaproton

         ในคลิประบุแคปชั่นว่า “เหตุการณ์ตลก ๆ เกิดขึ้นตอนที่เรากำลังจัดงานเลี้ยงฉลอง โชคดีที่เรามีเพื่อนที่พูดภาษาจีนได้ พ่อหนุ่มอายมากที่รู้ว่าเข้ามาผิดที่ แต่ที่นี่คือมาเลเซีย แน่นอนว่าเราต้องกิน”

ภาพจาก TikTok @lindaproton

         กลายเป็นว่า ชายคนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเที่ยวมาเลเซีย
ทำให้ไม่คุ้นกับธรรมเนียมเปิดบ้านจัดงานเลี้ยง
จึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นร้านอาหาร อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขารู้ความจริง
ทางเจ้าภาพก็ไม่ได้ไล่เขาออกไป
แถมยังยืนยันให้เขาอยู่ร่วมงานและกินอาหารให้อร่อย
ขณะที่หนุ่มจีนเองก็ขอบคุณเจ้าภาพเช่นกัน

ภาพจาก TikTok @lindaproton

        
ก็เรียกว่าเป็นโมเมนต์ดี ๆ ที่สร้างความทรงจำดี ๆ ทั้ง 2 ฝ่าย
โดยเจ้าภาพได้นำอาหารหลายเมนูมาให้หนุ่มต่างชาติคนนี้ลิ้มลอง
ขณะที่ชาวเน็ตเองต่างก็เข้ามาชื่นชมเจ้าภาพที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนอย่างใจกว้าง
พร้อมชื่นชมหนุ่มจีนคนนี้ที่ยินดีตอบรับน้ำใจของเจ้าภาพ
และเข้ามาร่วมเป็นแขกในงานได้อย่างกลมกลืน
 
ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzz

          สาววัย 21 โชว์ชีวิตหรูจนโด่งดัง ไวรัลใช้เงินพ่อแม่วันละเกือบ 2 แสน แจงดราม่าโดนว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย

ภาพจาก Instagram chloeabeth

          วันที่ 25 เมษายน 2568 เว็บไซต์ kenh14 รายงานเรื่องราวของ โคลอี้ เลียม หรือที่รู้จักกันในชื่อ Chloe L. สาวคนดังชาวสิงคโปร์ วัย 21 ปี ซึ่งเธอนั้นนิยามตัวเองว่าเป็น ลูกสาวอยู่บ้าน จนมีผู้ติดตามกว่า 1.1 ล้านคนผ่าน TikTok

          สิ่งหนึ่งที่ทำให้คอนเทนต์ของ โคลอี้ มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก มาจากไลฟ์สไตล์ที่ไม่ได้พบเห็นกันบ่อย ๆ เพราะเธอนั้นไม่จำเป็นต้องไปทำงานนอกบ้าน แต่ก็มีเงินใช้เท่าที่ต้องการ ด้วยบัตรเครดิตของพ่อกับแม่ผู้ซึ่งเป็นมหาเศรษฐี

          โคลอี้ จึงเลือกที่จะลงคอนเทนต์การใช้ชีวิตประจำวันตามสไตล์ของคนร่ำรวย จนกลายมาเป็นโมเมนต์ในฝันของหลาย ๆ คน เช่น การช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม การไปทานอาหารหรูหรา และการไปคาเฟ่กับก๊วนเพื่อน

          นอกจากนี้ โคลอี้ ยังได้รับฉายาว่า “เจ้าหญิง Van Cleef ของสิงคโปร์” เนื่องจากเธอนั้นเป็นแฟนตัวยงของ Van Cleef แบรนด์จิวเวลรี่สุดหรูจากฝรั่งเศส มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ซึ่งครั้งแรกเธอที่เธอสะสมของแบรนด์เนม เริ่มจากการใช้เงินของตัวเองซื้อแหวน แบรนด์ Perlé ซึ่งคุณแม่และครอบครัวต่างชื่นชอบแบรนด์นี้ คุณแม่ของฉันก็ชอบแบรนด์นี้เหมือนกัน ครอบครัวของเธอซื้อของจากแบรนด์นี้เยอะมาก

ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

          อย่างไรก็ดี โคลอี้ ยอมรับว่าเธอรู้สึกตกใจไม่น้อยที่มีผู้คนสนใจไลฟ์สไตล์ของเธอมากมายเช่นนี้ โดยเฉพาะกับการใช้เงินกับทุกเรื่องได้แบบไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อย ซึ่งสิ่งนี้เปรียบเหมือนความฝันของหลาย ๆ คนทั่วโลก

          แต่สำหรับ โคลอี้แล้ว เธอยืนยันว่า คนรอบ ๆ ตัวของเธอต่างก็ใช้ชีวิตเช่นนี้ เพียงแต่พวกเขาไม่ค่อยได้แชร์มันลงบนโซเชียลเท่านั้น เธอมองว่าการใช้เงินของพ่อแม่ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นเรื่องสุดแสนจะปกติ เพราะเธอทำแบบนี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เพื่อน ๆ รอบตัวเธอต่างก็มีไลฟ์สไตล์แบบนี้เหมือนกัน

          หนึ่งในคอนเทนต์ที่ทำให้ชื่อของ โคลอี้ กลายเป็นไวรัล คือคลิปการใช้ชีวิตธรรมดาหนึ่งกับการเป็นลูกสาวของพ่อแม่ ด้วยการใช้เงินไปประมาณ 5,075 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 170,000 บาท) ใน 24 ชั่วโมง เริ่มจากเข้าช้อป Cartier เพื่อซ่อมสร้อยข้อมือ ก่อนจะซื้อต่างหูใหม่คู่หนึ่งในราคา 4,250 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 142,000 บาท)

ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

          จากนั้น โคลอี้ ไปทานมื้อกลางวันกับพ่อของเพื่อนสนิทที่ร้านอาหารหรูในราคา 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,000 บาท) ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ถูกที่สุดของเธอในวันนั้นคือการสั่งของหวาน 1 ชิ้น ในราคา 25 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 800 บาท)

ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

          ในช่วงท้ายคลิป โคลอี้ ก็ได้สรุปว่าเงินที่ใช้ไปทั้งหมดในวันนี้ “ฟรี” เนื่องจากเธอไม่ต้องจ่ายเงินใดใด เพราะเป็นการใช้เงินของพ่อกับแม่ทั้งหมด ซึ่งเธอยังย้ำว่าคอนเทนต์นี้ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่หรูหราเป็นพิเศษ เป็นเพียงวันธรรมดา ๆ วันหนึ่งในชีวิตประจำวันเท่านั้น

          นอกจากนี้ ยังมีอีกคลิปที่ โคลอี้
และครอบครัวของเธอไปทริปกินข้าว ด้วยการเดินทางจากสิงคโปร์ไปยังอินโดนีเซีย
ที่บ้านของลุงซึ่งเลี้ยงปลาคาร์ป แพงสุดตัวละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 33
ล้านบาท)
โดยครอบครัวของเธอขึ้นเครื่องบินส่วนตัวข้ามประเทศเพื่อไปกินมื้อกลางวัน
ก่อนจะเดินทางกลับสิงคโปร์ในช่วงเย็น

ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

          เรื่องราวของ
โคลอี้
ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกทึ่งกับการใช้ชีวิตของกลุ่มคนรวยของจริง
และมองว่าอาชีพเป็นลูกสาวของพ่อแม่แบบโคลอี้เป็นอะไรที่น่าอิจฉาสุด ๆ
แต่ก็หนีไม่พ้นที่จะมีกระแสบางส่วนไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วยกับการใช้เงินของพ่อแม่
เพราะมองว่ามันไม่ใช่อะไรที่น่าภูมิใจ
และยังติงด้วยว่าพ่อแม่เธอควรที่จะสอนลูกให้พึ่งพาตัวเองให้มากกว่านี้หรือไม่

          ล่าสุด
โคลอี้ เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวผ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร Grazia
เธอยืนยันว่า ได้อ่านความคิดเห็นที่มีทั้งในเชิงบวกและแง่ลบแล้ว
และได้อธิบายหลายครั้งผ่านคอมเมนต์ใน TikTok ของตัวเอง เธอยืนยันว่า
คลิปที่เธอลงไปนั้นไม่ใช่เรื่องแต่ง ไม่ได้ทำให้มันสวยหรูเกินไป และย้ำว่า
ทุกอย่างที่ได้เห็นนั้นคือชีวิตจริงของเธอจริง ๆ
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะใช้ชีวิตแบบที่คนอื่นได้เห็นทุกวัน
มันก็มีวันที่เธอนั้นเจอกับความกดดันและปัญหาในชีวิตของเธอเช่นเดียวกัน

          โคลอี้
เล่าถึงช่วงเวลาในวัยเด็กของเธอว่า
พ่อแม่ผลักดันให้เธอทำทุกอย่างให้หนักขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเทนนิส
การเล่นเปียโน เป็นข้อตกลงที่เธอนั้นไม่สามารถต่อรองได้เลย
ซึ่งการจะบ่นไปหรือตัดพ้อไป ล้วนไม่อยู่ในตัวเลือกเช่นกัน

          ปัจจุบัน
โคลอี้ ยังคงต้องเอาจริงเอาจังทางด้านการเรียน
ในฐานะนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์
ศึกษาเกี่ยวกับการเงินและการตลาด ซึ่งความจริงแล้วก่อนหน้านี้
เธอไม่ใช่คนที่มีเทสต์ด้านการแต่งตัวมากมายนัก
โดยในตู้เสื้อผ้านั้นมีแต่ชุดนักเรียนและชุดเล่นเทนนิส
จนกระทั่งเธอได้เข้ามาสู่โลก TikTok ก็ทำให้ได้มารู้จักแฟชั่น
จนกลายมาเป็นอีกในตัวตนที่ผู้ติดตามต่างชื่นชอบในตัวเธอ

          ทั้งนี้แม้ที่ผ่านมา
โคลอี้
จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวและภูมิหลังของพวกเขามากนัก
ซึ่งหลายคนนั้นเชื่อว่าเธอนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูล Liem ที่ร่ำรวย
ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อตระกูล Sampoerna แห่งสิงคโปร์

ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

ภาพจาก TikTok @chloeabeth4545

ภาพจาก Instagram chloeabeth

ภาพจาก Instagram chloeabeth

ภาพจาก Instagram chloeabeth

ภาพจาก Instagram chloeabeth

ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14, ibtimes

           เหตุระเบิดใหญ่ท่าเรือสำคัญประเทศอิหร่าน เสียชีวิตกว่า 25 ราย บาดเจ็บพุ่ง 800 คน ควันดำปกคลุมพื้นที่ สั่งปิดโรงเรียน สถานที่ราชการชั่วคราว

ภาพจาก MOHAMMAD RASOLE MORADI / IRNA / AFP

          วันที่ 27 เมษายน 2568 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือ ชาฮิด ราจี ท่าเรือพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน ใกล้กับเมืองบันดาร์อับบาส ซึ่งล่าสุดมีตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย และบาดเจ็บอีก 800 ราย

          การระเบิดดังกล่าว ทำให้หน้าต่างและหลังคาของอาคารใกล้เคียงแตก และรถยนต์ได้รับความเสียหาย ประชาชนรายงานว่า รู้สึกถึงแรงกระแทกจากแรงระเบิดแม้อยู่ในพื้นที่ที่ห่างออกไปถึง 50 กิโลเมตร

          วิดีโอที่ได้รับการยืนยัน แสดงให้เห็นไฟลุกไหม้ขึ้นก่อนจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ โดยผู้คนต่างพากันหลบหนีจากการระเบิด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่บนถนน ซึ่งเต็มไปด้วยเศษซากการระเบิดและควันดำที่พวยพุ่งปกคลุมทั่วบริเวณ

          ผู้เห็นเหตุการณ์เผยกับสื่อท้องถิ่นว่า โกดังทั้งหมดเต็มไปด้วยควัน ฝุ่น และขี้เถ้า จำไม่ได้ว่าตัวเองนั้นไปอยู่ใต้โต๊ะเองหรือกระเด็นไปเพราะแรงระเบิด

          ภาพทางอากาศแสดงให้เห็นว่าพื้นที่อย่างน้อย 3 จุดเกิดไฟไหม้ ซึ่งในเวลาต่อมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอิหร่าน ยืนยันว่า ไฟนั้นลามจากตู้คอนเทนเนอร์หนึ่งไปยังอีกตู้คอนเทนเนอร์หนึ่ง โดยได้สั่งการให้โรงเรียนและสำนักงานในภูมิภาคปิดทำการชั่วคราวในวันนี้

          ด้าน Ambrey Intelligence บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางทะเล วิเคราะห์ว่า ไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากการจัดการที่ไม่เหมาะสมในการขนส่งเชื้อเพลิงแข็งสำหรับใช้กับขีปนาวุธของอิหร่าน เชื่อว่าตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้รับผลกระทบนั้นมีเชื้อเพลิงแข็งสำหรับขีปนาวุธบรรจุอยู่ ซึ่งพวกเขาทราบว่าช่วงมีนาคม ที่ผ่านมา มีเรือที่ติดธงอิหร่านได้ขนถ่ายเชื้อเพลิงจรวดโซเดียมเปอร์คลอเรตที่ท่าเรือดังกล่าว

          ขณะที่ Financial Times สื่อชื่อดัง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานว่ามีเรือ 2 ลำขนเชื้อเพลิงจากจีนมายังอิหร่าน

          สื่อของรัฐ อ้างคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ว่า การระเบิดเกิดขึ้นหลังจากเกิดไฟไหม้และลามไปยังตู้คอนเทนเนอร์ที่ไม่ได้ปิดผนึก ซึ่งเก็บ “วัสดุไวไฟ” เอาไว้

ภาพจาก AFP PHOTO / HO / IRIBNEWS

         เจ้าหน้าที่ศุลกากร ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา ระบุว่า
การระเบิดดังกล่าวน่าจะเกิดจากไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในคลังสินค้าจัดเก็บวัสดุอันตรายและสารเคมี

         
รายงานล่าสุด Ambrey
ได้อ้างแถลงจากขององค์การป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติของอิหร่านว่า
เจ้าหน้าที่ได้ออกคำเตือนไปยังท่าเรือ ชาฮิด ราจี
ให้เฝ้าระวังการจัดเก็บสารเคมีให้ปลอดภัย

          นอกจากนี้
สื่อท้องถื่นรายงานด้วยว่า บริษัทผลิตน้ำมันแห่งชาติของอิหร่าน ระบุว่า
เหตุระเบิดที่ท่าเรือดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงกลั่นน้ำมัน
ถังเชื้อเพลิง และท่อส่งน้ำมันของประเทศ

         
ด้าน ประธานาธิบดี มาซูด เปเซซเคียน ของอิหร่าน แถลงแสดงความ
เสียใจและเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
พร้อมประกาศดำเนินการสอบสวนโดยรัฐบาล
พร้อมส่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่เพื่อนำการสอบสวน

         
สำหรับท่าเรือชาฮิด ราจี
เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดของอิหร่าน
โดยเป็นท่าเรือที่เรือขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ของอิหร่านส่วนใหญ่ต้องแล่นผ่าน

         
ท่าเรือดังกล่าวตั้งอยู่บนช่องแคบฮอร์มุซ
ซึ่งเป็นช่องทางเดินเรือหลักสำหรับบรรทุกน้ำมัน
โดยอยู่ห่างจากบันดาร์อับบาส
เมืองท่าสำคัญทางชายฝั่งทางใต้ของอิหร่านไปทางตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร
และเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือหลักของกองทัพเรืออิหร่าน

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC 

          คู่รักพนักงานแอบพรอดรักสุดเร่าร้อนในห้องประชุม พีคไม่รู้บริษัทกำลังถ่ายทอดสดอยู่ ด้านต้นสังกัดสั่งพักงานทันที

ภาพจาก X @Appraiser008 

          วันที่ 25 เมษายน 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า โลกออนไลน์ของจีนกำลังแชร์คลิปเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างการประชุมออนไลน์ เมื่อจู่ ๆ ทุกสายตากลับหลุดโฟกัสไปที่คู่รักปริศนาที่กำลังพรอดรักกันอย่างเร่าร้อนในห้องประชุม โดยไม่คิดว่าฉากนี้จะถูกแพร่ภาพสดสู่สายตาผู้คนในบริษัท

          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมออนไลน์ของบริษัทรัฐวิสาหกิจจีน ซึ่งที่ห้องประชุมของบริษัทสาขาอานฮุย กลับเผยให้เห็นภาพของคู่รักชาย-หญิงกำลังกอดและจูบกันอย่างดูดดื่มในห้องประชุม แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้เลยว่าภาพอันเร่าร้อนถูกถ่ายทอดสดไปยังศูนย์กลางควบคุมที่อยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 10 คนที่อยู่ในศูนย์ควบคุมถึงกับตกตะลึง

ภาพจาก X @Appraiser008 

ภาพจาก X @Appraiser008 

          จากคลิปเผยให้เห็นบรรยากาศในห้องประชุมแห่งหนึ่ง
ซึ่งพบว่าบนจอด้านหน้าเป็นภาพของอีกห้องประชุมที่เกือบจะว่างเปล่า
เว้นแต่ข้าง ๆ นั้นมีคู่รักชาย-หญิงกำลังพลอดรักกันอย่างดูดดื่ม
ทั้งกอดและจูบจนแนบชิด
แถมชายชายยังเอื้อมมือไปลูบไล้บั้นท้ายของคนรักไม่หยุด
ทำเอาเหล่าพนักงานที่บังเอิญได้เห็นภาพนี้ถึงกับอุทานกันอย่างอื้ออึง
ก่อนที่ภาพในห้องประชุมดังกล่าวจะตัดไป

ภาพจาก X @Appraiser008 

         
ภายหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกแชร์สนั่น
ทางบริษัทดังกล่าวได้ออกแถลงการณ์เร่งด่วนเมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา
ระบุว่า หลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว
บริษัทจึงเร่งประชุมฉุกเฉินเมื่อคืนนี้
ก่อนตัดสินใจสั่งพักงานพนักงานที่เกี่ยวข้อง
เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลเชิงลบอย่างยิ่งต่อบริษัท
พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคมและประชาชน  

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

          ชอตนี่ทำว้าวุ่น งูจงอางโผล่ท้ายรถกู้ภัย จ้องจะฉกสุดหวาดเสียว พบกำลังจะนำไปปล่อย ดันงูหลุดกลางทาง งานเข้าสิพี่น้อง

ภาพจาก TikTok เล่ย์ กู้ภัย รีวิวแหลก

          กลายเป็นคลิปไวรัลที่ชาวเน็ตถึงกับลั่น เมื่อผู้ใช้ TikTok เล่ย์ กู้ภัย รีวิวแหลก ออกมาเปิดคลิป จากกู้ภัยหวิดกลายเป็นผู้ประสบภัย เมื่อกู้ภัยจับงูจงอางได้ ใส่ท้ายรถกำลังจะนำไปปล่อย แต่งูดันหลุดบนรถ เรียกว่างานเข้าจัง ๆ

          โดยจากคลิป เผยให้เห็นงูจงอางตัวใหญ่ โผล่หัวและตัวทักทายให้เห็นผ่านทางกระจกที่กั้นระหว่างห้องโดยสารกับส่วนท้ายรถ ขณะที่ทางกู้ภัยก็บอกอย่างขำ ๆ “วอนผู้โดยสารโปรดนั่งเฉย ๆ ด้วยครับ รัดเข็มเข็ดนิรภัยให้หน่อยครับผม อย่าเล่นไปเล่นมาครับ”

          ด้านโหนกระแส เผยข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร
จุดคลองลาน เผยว่า
หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้มาช่วยจับงูจงอางที่เลื้อยเข้าบ้าน
เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ตนก็จับงูมาขังไว้ในลังพลาสติก
เตรียมนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ โดยงูจงอางตัวนี้วัดความยาวได้ 6.66 เมตร

ภาพจาก โหนกระแส

          แต่ช่วงสายวานนี้
(25 เมษายน)
ตนนำลังพลาสติกที่จับงูจงอางใส่ไว้หลังรถกู้ภัยที่มีหลังคาครอบ
แต่ไม่ได้รัดเชือกลังเอาไว้
ทำให้งูดันฝาลังพลาสติกหลุดออกมาเลื้อยไปมาภายในกระบะหลังรถกู้ภัย
และเพิ่งจะสังเกตเห็นระหว่างจอดรับแวะอาสากู้ภัยอีกคน
ที่จะไปช่วยกันจับงูปล่อยป่า ในอุทยานแห่งชาติแม่วงศ์ จึงถ่ายคลิปเก็บไว้

          ทั้งนี้
ตนขับรถไปถึงจุดที่จะปล่อยงู และเปิดฝาท้ายลางงูลงมาจากรถได้สำเร็จ
พร้อมปล่อยให้เลื้อยเข้าป่าไปทันที ยอมรับว่าตอนแรกก็ตกใจ
กลัวจะมีช่องให้งูมุดเลื้อยเข้ามาในห้องโดยสารได้
ทำให้ขับรถไปในสภาพทั้งหวาดเสียวและตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ส่วนงูนั้นก็เลื้อยไปมาเหมือนพยายามจะเข้ามาฉกเจ้าหน้าที่กู้ภัยเช่นกัน

ภาพจาก TikTok เล่ย์ กู้ภัย รีวิวแหลก

ภาพจาก TikTok เล่ย์ กู้ภัย รีวิวแหลก

ภาพจาก TikTok เล่ย์ กู้ภัย รีวิวแหลก

ภาพจาก TikTok เล่ย์ กู้ภัย รีวิวแหลก

ภาพจาก TikTok เล่ย์ กู้ภัย รีวิวแหลก

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส

          เปิดไทม์ไลน์ชายจีน ฆ่าโหดพัทยา อ้างเหตุผลลงมือวิปริต-กรีดศพ อยากแกล้งศพเล่น โมโหที่ถูกทำร้าย-ไม่ยอมร่วมรัก แม้ตกลงซื้อบริการ

ภาพจาก NBTCONNEXT

อ่านข่าว : ฆ่าโหดสาวสองหมกห้องพัก คนเฝ้าช็อกสภาพศพ พบฝีมือคนจีน รวบคาสนามบิน

ภาพจาก ดาวแปดแฉก

          จากการสอบสวน นายตงหยวน ฟู่ ผ่านล่ามประจำตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ชลบุรี ให้การว่า

          – ช่วงเย็นวันที่ 25 เมษายน ได้เจอผู้ตายที่ย่านชายหาดพัทยาใต้ มีการแลกชื่อติดต่อกันผ่าน วีแชท โดยไม่รู้อีกฝ่ายเป็นสาวประเภทสอง

          – ช่วง 3 ทุ่มกว่า ๆ ผู้ตายก็ติดต่อมาและนัดเจอกันที่ห้องเช่าของตน เมื่อมาถึงก็ตกลงราคาขอร่วมรักกันที่ 8,000 บาท

          – แต่เมื่อถึงเวลา ผู้ตายกลับไม่ยอม ขัดขืน ตนจะขอเงินคืนครึ่งหนึ่งก็ไม่ให้ จึงมีปากเสียงกันรุนแรงและลงมือต่อสู้กัน อีกทั้งตนยังถูกถีบตกเตียง เมื่อลุกขึ้นได้จึงกระโดดขึ้นมานั่งคร่อมผู้ตายบนเตียง แล้วบีบคอจนแน่นิ่งไป

          – ตนลากศพเข้าห้องน้ำ แล้วใช้กรรไกรที่ซื้อมาก่อนหน้านี้เฉือนเต้านมทั้ง 2 ข้าง ควักซิลิโคนออกมา

          – จากนั้นรู้สึกว่าอยากเล่น และแกล้งศพ จึงใช้กรรไกรกรีดตั้งแต่คนจนถึงอวัยวะเพศ แล้วตัดหัวใจออกมาวางไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไปยืนยันว่าไม่ได้แตะต้อง

          – หลังลงมือก็ล้างศพ ล้างคราบเลือด แล้วกลับไปนอนตามปกติ เมื่อตื่นขึ้นมาก็รีบจองตั๋วเครื่องบิน ออกจากที่เกิดเหตุได้โดยทิ้งศพไว้

          – นั่งวินรถจักรยานยนต์รับจ้างมานั่งรถบัสโดยสาร เดินทางมาสนามบินสนามสุวรรณภูมิเพื่อหนีกลับประเทศจีน

ภาพจาก NBTCONNEXT

          เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ
ว่าเพราะมีอาการป่วยหรือมีอาการทางจิตหรือไม่ นายตงหยวน ฟู่ ชี้ว่า
ไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่เคยไปหาหมอ

          นอกจากนี้
นายตงหยวน ฟู่ อ้างว่าสาเหตุที่ทำลงไป เพราะถูกผู้ตายทำร้ายจนโมโห
ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ และอยากขอโทษครอบครัวของผู้ตาย
สำหรับตนเองทำงานเป็นช่างเชื่อมเหล็กอยู่ที่ประเทศจีน เคยมาเที่ยวไทย 3
ครั้งแล้ว โดยครั้งแรกมากับกรุ๊ปทัวร์ แต่ครั้งที่ 2-3 เดินทางมาเอง
เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัย

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

          ด้าน พ.ต.อ.
เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผยว่า
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและจำนนต่อหลักฐาน
ส่วนเรื่องอวัยวะของผู้ตายที่หายไป ต้องรอผลนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
สำหรับถุงหิ้วที่นำออกมา ยืนยันว่าเป็นถุงใส่ขวดน้ำดื่ม
ไม่ใช่ปอดของผู้ตายตามที่ปรากกฏเป็นข่าว

          ส่วนในเรื่องของการทำแผนประกอบคำสารภาพขอประชุมวางแผนเรื่องนี้อีกครั้งในวันที่ 27 เมษายน

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์

          ฆ่าโหดสาวประเภทสอง คาห้องพักพัทยา สุดเหี้ยมกรีดผ่าร่าง ควักปอด-หัวใจ จะหนีออกนอกประเทศ แต่ถูกรวบได้คาสุวรรณภูมิ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก

          วันนี้ (26 เมษายน 2568) เดลินิวส์ รายงานว่า เกิดเหตุฆาตกรรมภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านพัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจสอบพร้อม ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี แพทย์เวร และหน่วยกู้ภัย พบศพสาวประเภทสองไม่ทราบชื่อ ถูกฆ่าโหด ช่วงกลางอกมีรอยแผลถูกของมีคม กรีดยาวลงไปจนถึงหน้าท้อง จนอวัยวะภายในร่างกายไหลทะลักออกมา เลือดนอนอยู่ในพื้นห้องน้ำ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง

          เจ้าหน้าที่ปิดกั้นที่เกิดเหตุพร้อมเข้าเก็บหลักฐานภายในห้องอย่างละเอียด พบว่าปอดข้างขวาของผู้ตายถูกควักหายไป หัวใจถูกควักออกมาอยู่ข้างลำตัว สภาพน่าสยดสยอง

          แม่บ้านของอพาร์ตเมนต์ ให้การว่า
เมื่อช่วงประมาณตี 2 ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันจากในห้อง
เป็นเสียงคนจีนกับเสียงสาวประเภทสอง
ต่อมาได้ยินเสียงสาวประเภทสองส่งเสียงร้องว่า ปล่อยกู อย่าทำกู
จากนั้นก็มีเสียงคนเดินลงส้นเท้าและถีบประตูห้องหลายครั้งติดต่อกัน นานร่วม
1 ชั่วโมง ก่อนที่เสียงจะเงียบหายไป

         
เมื่อตนตื่นมาตอนเช้าก็รีบนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปแจ้งเจ้านาย
เจ้านายจึงให้ตนไปเคาะประตูและตักเตือนผู้เช่าห้อง
แต่เมื่อเคาะแล้วไม่มีใครตอบรับ จึงนำกุญแจสำรองมาเปิดไข
และพบศพสาวประเภทสองนอนจมกองเลือดอยู่ในห้อง ส่วนคนจีนหายตัวไป
จึงรีบมาบอกเจ้านายและโทร. แจ้งตำรวจ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก

         
ด้านคนดูแลอพาร์ตเมนต์ เผยว่า ห้องดังกล่าวมีคนจีนชื่อ นายตงหยวน ฟู่ อายุ
42 ปี มาเปิดเช่าห้องเมื่อวานนี้ (25 เมษายน) ช่วง 09.00 น. โดยขอเช่า 1
สัปดาห์ ดูจากพาสปอร์ตพบว่าเคยเดินทางเข้าไทยมา 2-3 ครั้ง
ในนามนักท่องเที่ยว

          จากนั้นตนไม่ได้สนใจอะไร
กระทั่งคนนอนเฝ้าอพาร์ตเมนต์มาแจ้งว่ามีการทะเลาะวิวาทกันเสียงดัง
จึงให้คนเฝ้าไปเตือน ก่อนจะพบศพ โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า
ชายชาวจีนได้ออกไปทางด้านหลังอพาร์ตเมนต์ช่วง 06.00 น. ที่ผ่านมา
พร้อมกระเป๋าเดินทาง

          เบื้องต้นทางตำรวจได้แกะรอยชาวจีนจากกล้องวงจรปิด คาดว่าจะยังหลบหนีไปได้ไม่ไกล

          ขณะที่ต่อมา เพจ ดาวแปดแฉก รายงานว่า ทาง ผบช.ภ.2 สั่งชุดสืบสวน รวบตัวชายจีน อายุ 42 ปี ผู้ต้องสงสัย ได้คาสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว

ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีกี้ของแทร่ แอ๊บแอ้แอ๊บแอ้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีกี้ของแทร่ แอ๊บแอ้แอ๊บแอ้

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, ดาวแปดแฉก