KUBET – วีนา ปวีนา คว้ามงฯ มิสยูนิเวิร์ส สระบุรี 2025 แบบไม่พลิกโผ พร้อมชิงมง MUT 2025

KUBET – ลูกสาวฟ้องแม่วัย 91 ปี หลังถูกไล่ออกจากบ้านที่กินอยู่ฟรีนาน 31 ปี

         ลูกสาวฟ้องร้องแม่สูงอายุ วัย 91 ปี ฉุนโดนไล่ออกจากบ้าน หลังกินอยู่อาศัยฟรีมายาวนาน 31 ปี ล่าสุดศาลตัดสินแล้วให้ฝ่ายใดชนะ



ลูกสาวลุยฟ้อง แม่สูงวัย อายุ 91 ฉุนโดนไล่ออกจากบ้าน
 ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ World of buzz รายงานว่า เกิดข้อพิพาทชวนปวดร้าวในครอบครัว เมื่อลูกสาวเดินหน้าฟ้องร้องแม่อายุ 91 ปี เพราะไม่พอใจที่ถูกไล่ออกจากบ้าน หลังจากที่เธออาศัยอยู่กับครอบครัวแบฟรี ๆ มายาวนาน 31 ปี

          รายงานระบุว่า ริต้า หญิงชาวสิงคโปร์ เป็นลูกสาวของพ่อแม่ซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต่อมาในปี 2528 เธอได้แต่งงานและออกจากบ้านไป ซึ่งหลังจากหย่าร้าง เธอกับลูกชายได้ย้ายกลับมาอยู่ในบ้านของครอบครัวอีกครั้ง โดยอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่บริษัทซื้อไว้ในปี 2537

          ตลอดระยะเวลา 36 ปี ริต้า ที่ ริต้า ทำงานในธุรกิจของครอบครัว นอกจากจะมีบ้านให้อยู่ฟรี เธอยังได้รับเงินเดือน 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 51,000 บาท) และยังได้รับพิเศษจากแม่อีกเดือนละ 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 25,000 บาท)

          อย่างไรก็ดี รอยร้าวระหว่างเธอกับคนในครอบครัวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เธอนั้นแอบยื่นเรื่องเพื่อดูแลผลประโยชน์ให้กับ คุณพ่อ อายุ 93 ปี ซึ่งมีอาการทางสมอง แต่ต่อมากลับพบว่า คุณพ่อ ได้มอบอำนาจดังกล่าวให้กับพี่ชายทำหน้าที่แทนไปแล้ว

          ต่อมา ริต้า กล่าวหาว่าพี่ชายของเธอได้บังคับให้พ่อแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้จัดการมรดก และได้ยื่นฟ้องต่อศาลครอบครัวเพื่อระงับการมอบอำนาจดังกล่าว ในช่วงเวลาเดียวกัน เธอยังยื่นขอคำสั่งคุ้มครอง โดยกล่าวอ้างว่าพี่ชายใช้ความรุนแรงในครอบครัว

ลูกสาวลุยฟ้อง แม่สูงวัย อายุ 91 ฉุนโดนไล่ออกจากบ้าน

          ระหว่างนั้น ริต้า
พยายามให้แม่เซ็นเอกสารโดยไม่เปิดเผยรายละเอียดของเนื้อหา
ซึ่งแม่ของเธอมองว่าลูกสาวนั้นมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและพยายามบีบบังคับให้เธอเซ็นเอกสารดังกล่าวให้ได้
จนเกิดเป็นข้อบาดหมางระหว่างแม่และลูกสาวอย่างร้าวลึกเกินเยียวยา

         
ก่อนการพิจารณาคดี 1 สัปดาห์ แม่ของริต้า ประสบความสำเร็จในการยื่นสั่งให้
ริต้า ออกจากบ้าน หลังได้รับมติจากกรรมการบริษัทว่า
สมาชิกในครอบครัวที่จะเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของบริษัทได้นั้น
จากนี้จะไม่มีชื่อของ ริต้า อีกต่อไป หลังจากมีคำสั่งดังกล่าว
เธอถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้ามเข้าอพาร์ตเมนต์
ซึ่งมีการนำสัมภาระส่วนตัวของเธอถูกบรรจุลงในกล่องและวางไว้ตั้งไว้ที่ทางเดิน

         
จากเรื่องนี้ ริต้า ยื่นฟ้องเพื่อขอคืนการครอบครองอพาร์ตเมนต์
และเรียกร้องค่าชดเชยค่าที่พักในโรงแรม
และเรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวเธอ โดยโต้แย้งว่า
เธอมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในอพาร์ตเมนต์
โดยอ้างข้อตกลงกับผู้ปกครองและบริษัทที่อนุญาตให้เธออาศัยอยู่ที่นั่นโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า
อย่างไรก็ตาม แม่ของริต้า ปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว
โดยชี้ว่าไม่มีข้อสนับสนุนใดบอกว่า ริต้า
จะสามารถอยู่อาศัยในอพาร์ตเมนต์ไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่มีเวลาจำกัด

         
หลังจากพิจารณาข้อโต้แย้งของทั้งสองฝ่ายแล้ว
ผู้พิพากษาพบว่าพยานหลักฐานเบื้องต้นของริต้าไม่เพียงพอ
ก่อนจะตัดสินใจแม่ของริต้าเป็นฝ่ายชนะคดี

ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzzz, Sinchew

KUBET – ลำไย ไหทองคำ เขินบิด บอส เอวหวาน หลุดปากเรียกคำนี้ กลางไลฟ์ ชาวเน็ตแซะยับ

KUBET – รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนสาวหมกห้องแอร์ หวังตายตามแต่เปลี่ยนใจ

         รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนสาวก่อนเปิดแอร์หมกไว้ อ้างฉุนฝ่ายหญิงท้าทายให้ฆ่า คิดย้อมใจจบชีวิตตามแต่ไม่กล้า คนเศร้าเห็นภาพแมวอยู่เฝ้าร่าง



รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนหมกห้องแอร์
ภาพจาก ข่าวช่องวันเสาร์-อาทิตย์

          วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในห้องเช่า หมู่ 3 ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่าง น.ส.กฤติกานต์ อายุ 28 ปี เสียชีวิตอยู่บนเตียง สภาพมีรอยฟกช้ำบริเวณลำคอ แผ่นหลัง และฝ่ามือทั้งสองข้าง

          ต่อมา ตำรวจสามารถควบคุมตัว นายสุรศักดิ์ อายุ 31 ปี แฟนหนุ่มของผู้ตาย อยู่ในที่เกิดเหตุสภาพอิดโรย พร้อมให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยหลังก่อเหตุตั้งใจจะผูกคอตายตาม แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจและตัดสินใจเข้ามอบตัว

รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนหมกห้องแอร์
ภาพจาก ข่าวช่องวันเสาร์-อาทิตย์


          ขณะที่ เดลินิวส์ รายงานว่า ตำรวจคุมตัว นายสุรศักดิ์ มาทำแผนบริเวณที่เกิดเหตุ โดยผู้ก่อเหตุเล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6-10 พฤษภาคม ตนเองกับแฟนไปเที่ยวที่เกาะช้าง ตลอดทริปเกิดมีปากเสียงกันมาตลอด เมื่อกลับมาถึงห้องพักก็ยังคงทะเลาะกันรุนแรง พร้อมอ้างว่าผู้ตายได้พูดท้าทายว่า “ฆ่าให้ได้ถ้าแน่จริง” ทำให้เกิดความโมโห ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ใช้มือบีบคอไป 1 ครั้ง แต่เมื่อเห็นว่ายังมีชีวิตอยู่ จึงเกิดการทะเลาะกันอีกครั้ง จึงใช้สายชาร์จโทรศัพท์รัดคอจนแน่นิ่ง จากนั้นเปิดเแอร์ทิ้งไว้เพื่อหมกศพของแฟนไว้ในห้องพัก

รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนหมกห้องแอร์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+

รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนหมกห้องแอร์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+

รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนหมกห้องแอร์
ภาพจาก ข่าวช่องวันเสาร์-อาทิตย์

          หลังก่อเหตุ นายสุรศักดิ์
สารภาพว่ารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำอย่างมาก พยายามที่จะฆ่าตัวตายตาม
แต่ไม่กล้า จึงออกจากห้องพักไปซื้อเบียร์มาดื่มย้อมใจ
หวังว่าจะกล้าลงมือจบชีวิตตัวเองได้ แต่ก็ยังไม่ทำไม่ได้
ก่อนที่หลบหนีออกจากห้องพักในช่วงเย็นของวันที่ 10 พฤษภาคม
กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในวันเดียวกัน

รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนหมกห้องแอร์
ภาพจาก ข่าวช่องวันเสาร์-อาทิตย์

         
เบื้องตจ้นตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากเพื่อนของผู้ตาย สังเกตถึงความผิดปกติ
เพราะผู้ตายไม่ได้ไปทำงาน และไม่สามารถติดต่อได้
จึงแวะไปดูที่ห้องก็พบว่าเป็นศพนอนเสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุ นายสุรศักดิ์
มีฉายาในวงการว่า เป้ คัลเลอร์ เป็นที่รู้จักในกลุ่มวัยรุ่นแต่งรถซิ่ง
เนื่องจากรับงานทำสีรถ มักมีนิสัยอารมณ์ร้อน ชอบทำร้ายร่างกายแฟน ซึ่ง
น.ส.กิตติกานต์ เพิ่งคบหากับนายสุรศักดิ์ได้ไม่นาน
ฝ่ายหญิงทำงานเป็นพนักงานแผนกเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้าในพิษณุโลก
โดยเพื่อนของผู้ตายหลายคนเคยเตือนเรื่องการคบหากับฝ่ายชายแล้ว
แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์สลดขึ้น

รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนหมกห้องแอร์
ภาพจาก ข่าวช่องวันเสาร์-อาทิตย์

          นอกจากนี้่พบว่า
นายสุรศักดิ์ เขียนจดหมายลาตายไว้ด้วย ใจความว่า ขอโทษทุกคน ผมเหนื่อยมาก
ผมทำทุกอย่างให้มันดี แต่มันก็แย่ลง ทุกวันนี้ผมไม่เคยมีความสุขเลย
ส่วนในห้องพักที่เกิดเหตุ นอกจากร่างของฝ่ายหญิงผู้เสียชีวิตแล้ว
ยังพบว่ามีแมวที่เลี้ยงไว้อีก 1 ตัว อยู่ในจุดเกิดเหตุ
โดยแอบอยู่บริเวณใต้เตียง
จนสร้างความเห็นใจให้กับผู้คนที่ติดตามข่าวเป็นอย่างมาก

รวบ เป้ คัลเลอร์ รัดคอแฟนหมกห้องแอร์
ภาพจาก ข่าวช่องวันเสาร์-อาทิตย์

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, เดลินิวส์, ข่าวช่องวันเสาร์-อาทิตย์ 
 

KUBET – บุฟเฟต์พรีเมียม ร้านดัง จ่อปิดสาขากลางสยาม เปิดถึงแค่ 18 พ.ค. นักกินแอบเศร้า

          บุฟเฟต์นานาชาติร้านดัง ประกาศปิดสาขาใจกลางสยาม นักกินแอบเศร้า ตามไปกินได้ถึงวันสุดท้าย 18 พ.ค.



บุฟเฟต์พรีเมียม ร้านดัง จ่อปิดสาขากลางสยาม
 ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wisdom International Buffet

          เป็นข่าวที่ทำให้บรรดานักกินแอบเศร้าไปตามกัน หลังจากเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ร้านบุฟเฟต์ดังอย่าง Wisdom International Buffet ซึ่งให้บริการอาหารบุฟเฟต์นานาชาติ 4 สัญชาติ สไตล์ Fine Dining สุดพรีเมียม ออกมาประกาศผ่านเพจของทางร้าน เตรียมปิด Wisdom Buffet สาขา สยามสแควร์วัน ชั้น 5 โดยจะเปิดให้บริการวันสุดท้าย ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้

          ทางเพจ ระบุว่า ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุน และเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำที่ดีในสาขาสยามสแควร์วัน ชั้น 5 มาโดยตลอด ทั้งนี้ คุณลูกค้าสามารถใช้บริการแทนได้ที่สาขา พารากอน ชั้น 4 หรือสาขาใกล้เคียงอื่น ๆ

บุฟเฟต์พรีเมียม ร้านดัง จ่อปิดสาขากลางสยาม
 ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wisdom International Buffet

บุฟเฟต์พรีเมียม ร้านดัง จ่อปิดสาขากลางสยาม
 ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wisdom International Buffet

          สำหรับ Wisdom International Buffet สาขาอื่นที่ยังเปิดให้บริการ มีดังนี้

          – The Promenade ชั้น 2

          – Mega Bangna ชั้น 1

          – Siam Paragon ชั้น 4

          – Future Park Rangsit ชั้น 2

          – The Mall Lifestore Bangkapi ชั้น 1

          – The Mall Lifestore Bangkae ชั้น 3

          – Central Westgate ชั้น G 

KUBET – อุทาหรณ์ ลูกทำสีผม แต่หนังศีรษะบวม แผลติดเชื้อมีหนอง ต้องผ่าตัด หวังร้านรับผิดชอบ

          อุทาหรณ์ ลูกทำสีผมที่ร้าน กลับทำหนังศีรษบวม แผลติดเชื้อมีหนอง ต้องผ่าตัด 2 รอบ เตือนใจจะทำอะไร ต้องทำกับผู้เชี่ยวชาญ



ทำสีผมหนังศีรษะเป็นแผล
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สตางค์เล่าเรื่อง

          วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 เฟซบุ๊ก สตางค์เล่าเรื่อง ออกมาเผยเรื่องราวเตือนภัยเกี่ยวกับการทำสีผม หลังมีวัยรุ่นผู้โชคร้ายไปทำสีผมที่ร้านแห่งหนึ่ง แต่เจอช่างที่ขาดความชำนาญ จนสุดท้ายหนังศีรษะบวม มีหนอง แผลติดเชื้อ จนต้องทำการผ่าตัด ซึ่งทางครอบครัวหวังให้ทางร้านแสดงความรับผิดชอบ

          โดยระบุว่า น้องอายุ 16 เป็นนักกีฬาของจังหวัด เริ่มแรกน้องไปทำสีผมที่ร้านทำผมแห่งหนึ่งใน จ.แพร่ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2568 พร้อมเพื่อนอีก 2 คน น้องแสบร้อนที่หัว ทางร้านล้างออกให้หลังจากน้องมีอาการ แต่หัวน้องบูดบวมละปริ มีน้ำใส ๆ ซึมออกมา และผมน้องเป็นสังกะตังออกจากร้านมา

          แต่น้องมีภารกิจเดินทางไปแข่งกีฬาแห่งชาติที่ จ.ชลบุรี โดยไม่ได้พบหมอตั้งแต่แรก ได้แต่ยาทาแผล กลับมาแม่พาไปพบหมอผิวหนังแห่งหนึ่ง 2 ครั้ง แต่ไม่ดีขึ้น แม่ก็เปลี่ยนหมอก็ยังไม่ดีขึ้น จนหัวน้องเป็นแผลลาม และน้องแพ้ยาที่คุณหมอใช้รักษาจนผื่นขึ้นทั้งตัว

          กลับมาจากภารกิจ แม่พาน้องเข้าหาหมอที่ รพ.แพร่ เมื่อวันที่ 28 หมอให้น้องแอดมิตเนื่องจากแผลติดเชื้อ กินไประดับ 3 ของหนังศรีษะ หมอทำการผ่าตัดครั้งแรกวันที่ 30 เมษายน และจะทำการผ่าตัดครั้งที่ 2 ในวันที่ 14 พฤษภาคม เพื่อนำหนังตรงขามาปะให้น้อง

เตือนภัยทำสีผม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สตางค์เล่าเรื่อง

          แม่ไม่มีปัญญาไปสู้รบปรบมือกะทางร้าน แม่เกรงใจคนที่พาไปทำจึงยังไม่ได้เข้าไปคุยกับทางร้าน แม่ขอความเห็นใจแม่ขอเตือนภัยในโพสต์นี้ สำหรับคนที่ชอบทำสีผมกับช่างที่ไม่มีความชำนาญและใช้ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ แม่วอนขอให้คุณหมอที่เชี่ยวชาญมารักษาน้องเพราะน้องยังเด็ก และขอให้ทางร้านออกมารับผิดชอบและเยียวยาให้น้องด้วย

          นอกจากนี้ สตางค์เล่าเรื่อง ยังเล่าอีกว่า
แม่ของน้องร้องไห้ตลอดและขอให้ตนช่วยเหลือน้อง
ซึ่งจากประสบการณ์เป็นช่างทำผม การฟอกผมต้องใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3%
หรือ 6% ในการฟอกผม ต้องไม่ชิดโคนจนเกินไปเพราะหนังศีรษะเรามีความร้อน
ถ้าชิดโคนมากเกินไปลูกค้าจะแสบหนังศีรษะ
ยิ่งใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เปอร์เซ็นต์สูง 9% หรือ 12%
ยิ่งมีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้สูง หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะกัดหนังศีรษะ
ทำให้เกิดแผลและเกิดอาการแพ้ได้

          ในกรณีน้องอายุ 16
ไม่เคยทำเคมีใด ๆ ทั้งสิ้นอาจทำให้แพ้สารเคมี
หรือช่างลงครีมฟอกบนหนังหัวโดยตรง โดยขาดความชำนาญในการทำงาน
แม่น้องชี้ว่าได้ทำการรักษาตั้งแต่เกิดแผลบนหนังศีรษะ
แต่อาการไม่ดีขึ้นเลยรักษาตามคลินิกแพทย์ผิวหนัง
แต่ก็ไม่หายจนต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาล
และแผลที่หนังศีรษะก็ได้ลุกลามไปเรื่อย ๆ จึงขอเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์
ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องทำกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

อุทาหรณ์ทำสีผม

ทำสีผมแผลติดเชื้อ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สตางค์เล่าเรื่อง

KUBET – หญิงพบ จม.เก่า หลังสามีตาย ตัดสินใจไปรับพ่อสามีถึงที่ น้ำตาซึมเมื่อเห็นของที่เขาเก็บไว้ให้

          หญิงไม่เคยเจอพ่อสามี จนได้เห็นจดหมายเก่า ตัดสินใจเดินทางไกล 5,000 กม. ไปรับพ่อสามีถึงที่ ก่อนรู้ความจริงชวนน้ำตาซึม



ลูกสะใภ้เดินทางไปหาพ่อสามี

          วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ SOHA เผยเรื่องราวของ หลินซิน หญิงวัย 42 ปี ที่ทำงานเป็นหัวหน้าบัญชีของบริษัทก่อสร้างในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เรื่องที่เธอจะเล่าไม่ใช่แค่การเดินทาง 5,000 กิโลเมตร ไปหาพ่อสามีที่ขาดการติดต่อไป แต่ยังเป็นการเผยความจริงที่ทำให้เธอต้องเสียน้ำตา

          หลินซิน เล่าว่า สามีของเธอป่วยหนักและเสียชีวิตไปนานกว่า 1 ปีแล้ว หลังจากเสร็จพิธีศพเธอก็พยายามสู้ เพราะลูก 2 คนยังเล็ก แม้ว่าการจัดการงานบ้าน การทำงาน และเลี้ยงลูกตามลำพัง ทำให้บางครั้งเธอก็อยากยอมแพ้ก็ตาม

          ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เธอคาใจ นั่นคือพ่อของสามีที่ขาดการติดต่อไป ไม่แม้แต่จะมางานศพของลูกชาย โดยช่วงที่สามียังมีชีวิต เขากับพ่อแทบจะไม่ค่อยได้คุยกัน ความสัมพันธ์ค่อนข้างเหินห่าง เธอเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงว่าหลังจากสามีเข้าเมืองมาเรียนมหาวิทยาลัย เขาก็แทบไม่ติดต่อพ่ออีกเลย ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา พวกเธอใช้ชีวิตโดยแทบจะไม่มีพ่อสามีมาเกี่ยวข้อง เขาเองก็ไม่เคยโทร. ไปถามพ่อว่าเป็นอย่างไร ไม่เคยเปรยว่าจะชวนมาอยู่ด้วยกัน

          จนเมื่อสามีจากไป อยู่ ๆ หลินซินก็ค้นพบจดหมายจำนวนหนึ่งที่ส่งมาจากทิเบต ถูกเก็บไว้ในกล่องจดหมายเก่า ๆ ทั้งหมดลงชื่อว่า “พ่อ” จดหมายเหล่านี้ถูกส่งมาเกือบทุกปี แต่ทั้งหมดกลับถูกเก็บใส่ลิ้นชักไว้ เธอไม่รู้ว่าระหว่างพ่อลูกมีเรื่องอะไรกัน แต่เมื่อได้เห็นลายมือที่เขียนสั่น ๆ กับข้อความที่เต็มไปด้วยความรักจากพ่อ ทำให้เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู๋ และตัดสินใจว่าจะไปตามหาพ่อสามี

ภารกิจเดินทางไกล สู่การพบความจริงที่ไม่เคยรู้

         
เนื่องจากพ่อสามีไม่มีโทรศัพท์มือถือ หลินซินจึงโทร. ติดต่อหาคนอื่น ๆ
ในหมู่บ้านจนได้ที่อยู่ จากนั้นก็ขับรถระยะทางไกล 5,000 กิโลเมตร
จากเซี่ยงไฮ้ไปหาพ่อสามีที่ทิเบต โดยฝากให้ตากับยายดูแลหลานชั่วคราว

         
การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาเกือบเดือน เธอต้องฝ่าฝน ฝ่าหิมะ
และเส้นทางบนภูเขาสุดอันตราย แต่ด้วยความมุ่งมั่นในที่สุดเธอก็ไปถึง
ในตอนนั้น พ่อสามีนั่งรอเธออยู่ในบ้านไม้หลังเล็ก ๆ และมองดูเธออย่างอึ้ง ๆ
ราวไม่อยากเชื่อสายตา
ว่าลูกสะใภ้ที่อยู่ไกลจะเดินทางข้ามประเทศมาหาเขาจริง ๆ

         
“พ่อคะ ฉันมารับพ่อไปอยู๋กับหลาน ๆ แล้วนะ
เราคงอยู่ไม่ได้ถ้าพ่อไม่ได้ไปอยู่กับเรา” หลินซิน กล่าว
และนั่นทำให้ชายชราน้ำตาไหล

          น่าประหลาดใจที่ตอนนั้น
พ่อสามีเพียงยื่นกล่องไม้ใบหนึ่งมาให้โดยไม่พูดอะไร
เมื่อเปิดดูพบว่าภายในมีสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่งมีเงินกว่า 800,000 หยวน (ราว
3.6 ล้านบาท) พร้อมจดหมายอีกหลายสิบฉบับที่เขาเขียนถึงลูกชาย
แต่ไม่เคยได้ส่งไป

          “พ่อทำแบบนี้ทำไมคะ” หลินซิน ถาม

          พ่อสามีก็ตอบกลับช้า
ๆ เล่าว่า เขารู้ถึงความผิดพลาดในอดีตของตัวเอง ตอนที่ภรรยาของเขาจากไป
เขาเศร้ามากจนเอาแต่ดื่มเหล้าและทุบตี ด่าทอลูกชาย
เมื่อลูกชายจากบ้านเกิดไปเมืองใหญ่ เขาก็ไม่กล่าวโทษอะไรลูก
แต่นับจากนั้นเขาก็เลิกดื่มเหล้า พยายามทำงานแทบทุกอย่าง ทั้งเลี้ยงผึ้ง
เก็บน้ำผึ้งขาย รับจ้างตัดหญ้า เพื่อเก็บเงินส่งไปให้ลูกชาย

          “แต่เขาไม่ยอมรับมัน พ่อไม่กล้าจะไปตามหาเขา พ่อรู้ตัวว่าพ่อสูญเสียลูกชายเพียงคนเดียวไปแล้ว” ชายชรากล่าว

         
โดยเงินเหล่านี้ เดิมพ่อสามีตั้งใจจะเก็บไว้ให้ลูกชายกับสะใภ้ซื้อบ้าน
หรือนำไปดูแลหลาน ๆ แต่หลังจากสามีของหลินซินเสียชีวิต
เขาก็ตั้งใจจะใช้เงินนี้สร้างหลุมศพใหญ่ ๆ แทน อย่างไรก็ตาม
เมื่อเห็นสะใภ้เดินทางมาหาเขาจึงอยากมอบเงินก้อนนี้ไว้ให้เธอ

          “พ่อทำผิดไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้พ่อแค่อยากจะสนิทกับสะใภ้และหลาน ๆ ตราบเท่าที่พ่อยังมีชีวิต ก็ยังสามารถแก้ไขความผิดได้”

         
สิ่งที่ได้ฟังทำให้หลินซินสะเทือนใจมาก
เธอยังจำได้ถึงช่วงเวลาแสนลำบากที่เธอกับสามีต้องดิ้นรนหาเงินมาจ่ายค่าบ้าน
ลูก ๆ ก็ต้องหยุดเรียนพิเศษเพราะไม่มีเงินพอ
แน่นอนว่าหากมีเงินก้อนนี้คงจะทำให้ชีวิตของพวกเธอง่ายขึ้น
แต่เหนือสิ่งอื่นใด เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของผู้เป็นพ่อ
ที่ยังเฝ้ามองดูครอบครัวของเธอจากที่ไกล ๆ

          แม้ว่าสามีของเธออาจยังไม่พร้อมที่จะให้อภัย
แต่เธอคิดว่าลูก ๆ ควรมีโอกาสได้ทำความเข้าใจและรักปู่ของเขา
ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจพาพ่อสามีกลับมาอยู่ด้วยกันที่เซี่ยงไฮ้
ซึ่งนับจากนั้น พ่อสามีก็ได้กลายมาเป็นที่พึ่งพาของหลาน ๆ
เขามักจะตื่นมาต้มโจ๊กแต่เช้า พาหลานไปส่งที่โรงเรียน
และยังไปเล่นโยคะที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ บ้าน

         
เมื่อใดก็ตามที่เธอกลับบ้านดึก พ่อสามีก็จะเตรียมมื้อดึกไว้ให้
และอยู่รอกันจนพร้อมหน้าทั้งบ้านแล้วจึงกินข้าวด้วยกัน
นับเป็นความอบอุ่นที่อยู่ในใจของคนทั้งครอบครัว

ขอบคุณข้อมูลจาก SOHA

KUBET – เด็ก10 ขวบ เดินเร่ขายของ เก็บเงินไปฝากได้เป็นฟ่อน ชาวเน็ตแห่ชื่นชม

          เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่เอาไปฝากธนาคาร ขอบคุณยายที่สอนหนูหาเงิน ด้านชาวเน็ตแห่ชื่นชมเพียบ



เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15

          วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ผู้ใช้ TikTok @t12.t15 ของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ลงคลิปผลตอบแทนความขยันของน้อง ที่ใช้เวลาว่างจากการร่ำเรียนเดินเร่ขายของเล่น จนสามารถมีเงินเก็บเป็นจำนวนมากตั้งแต่อายุยังน้อย

          
          ในคลิปเห็นภาพของเด็กหญิงที่นำเงินจำนวนมาก มีทั้งธนบัตรแบงก์ 100 แบงก์ 20 มัดรวมกันเป็นปึก และเหรียญที่ถุงแยกใส่ถุงไว้แล้ว นำมาฝากที่ธนาคารพร้อมกับบัญชีเงินฝาก เป็นภาพของความชื่นใจที่ได้เห็นเงินที่หามาได้ก่อนจะนำมาเก็บออมไว้เพื่ออนาคต

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

          จากหลายภาพจะเห็นได้ว่า เบื้องหลังที่เด็ก 10 ขวบเก็บเงินได้มากมายเกินวัย มาจากความตั้งใจใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเดินขายของ ทั้งขนม และของเล่น เร่ขายตามสถานที่ต่าง ๆ ให้กับผู้คนและนักท่องเที่ยว ซึ่งพอได้เงินมาน้องก็เรียนรู้ที่จะเก็บสะสมไว้เพื่อรวมไปฝากธนาคารไว้

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

          นอกจากนี้ น้องวัย 10 ขวบ ได้ลงภาพกับคุณยาย พร้อมระบุว่า
ขอบคุณยายที่สอนให้หนูรู้จักหาเงิน
และขอบคุณพี่เต้ยที่คอยตักเตือนซัพพอร์ตหนูอยู่ตลอด  

         
คลิปนี้กลายเป็นไวรัลชวนใจฟูจนมียอดเข้าชมกว่า 1.5 ล้าน
ด้านชาวเน็ตได้เห็นต่างชื่นชมในความขยันของเด็กหญิง 10 ขวบ
ยกย่องว่าด้วยวัยเท่านี้
การหาเงินได้หลักหลายหมื่นแบบนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เก่งมาก ๆ
และต่างมั่นใจว่าด้วยความขยันหาเงินเช่นนี้
อนาคตของน้องจะต้องไม่ลำบากอย่างแน่นอน

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่
ภาพจาก TikTok @t12.t15 

KUBET – ยูทูบเบอร์สาวเปิดใจ ไม่ใส่ชุดชั้นใน 2 ปี ปล่อยโล่งธรรมชาติ แย้มมีจุดหนึ่งชมพู แบบหาได้ยาก

         ยูทูบเบอร์สาว เปิดใจ ไม่ใส่ชุดชั้นในมากว่า 2 ปี ชีวิตติดธรรมชาติ เผยมีส่วนหนึ่งสีชมพูอย่างหากได้ยาก ทำเพื่อน ๆ ต่างก็อิจฉา หรือนี่จะเป็นเคล็ดลับ ?



ยูทูบเบอร์สาวเปิดใจ ไม่ใส่ชุดชั้นใน 2 ปี แย้มมีจุดหนึ่งชมพู
ภาพจาก Threads nanaq1111

          วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ ETtoday นำเสนอเรื่องราวของ NanaQ ยูทูบเบอร์สาวของไต้หวันที่มีชื่อเสียงในเรื่องการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ซึ่งไม่นานมานี้เธอออกมาเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ใส่ชุดชั้นในมาเกิน 2 ปี แล้ว โดยอ้างว่านิสัยนี้เองที่ทำให้หน้าอกของเธอมีรูปทรงกลมกลึงสวยขึ้น แถมยังทำให้มีลานนมสีชมพูด้วย ทำเอาเพื่อน ๆ หลายคนอิจฉา และเข้ามาบอกเลยว่า ลานนมสีชมพูนั้นหายากมาก

          โดยยูทูบเบอร์สาวเล่าว่า ตอนที่เธอไปแคมปิ้งและพูดคุยกับกลุ่มเพื่อน LGBTQ+ เพื่อนคนหนึ่งที่ดื่มเข้าไปหลายแก้ว ประกาศด้วยความภาคภูมิใจว่าตัวเองมีลานนมสีชมพู แต่เธอตอบกลับไปว่า “มีอะไรน่าอวดขนาดนั้น ฉันก็มีเหมือนกัน”

ยูทูบเบอร์สาวเปิดใจ ไม่ใส่ชุดชั้นใน 2 ปี แย้มมีจุดหนึ่งชมพู
ภาพจาก Threads nanaq1111

          แต่ไม่คิดว่าหลังจากพูดออกไป ทุกคนต่างก็ช็อกแล้วบอกว่าลานนมสีชมพูนั้นหาได้ยากมาก เธอเองก็ตกใจที่ได้รู้ว่ามันหายากขนาดนั้น และเป็นสิ่งที่หลานคนใฝ่ฝันอยากมี

          “ฉันยังประหลาดใจเมื่อได้รู้ว่ามีสิ่งที่เรียกว่าครีมหัวนมชมพูดในตลาด มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เสียเงินเปล่า”

ยูทูบเบอร์สาวเปิดใจ ไม่ใส่ชุดชั้นใน 2 ปี แย้มมีจุดหนึ่งชมพู
ภาพจาก Threads nanaq1111

          เมื่อถามถึงความลับของเธอ NanaQ อธิบายว่า จริง ๆ
แล้วเธอไม่ได้มีการดูแลผิวเป็นพิเศษอะไร
“บางทีอาจเพราะฉันไม่ชอบสวมชุดชั้นในมาก่อนหน้านี้ และตอนนี้ก็ไม่ได้สวมเลย
ทำให้ไม่มีการเสียดสีกับผิวหนัง
และไม่มีปัญหาคันหรือผื่นผิวหนังจากเนื้อผ้า” NanaQ ระบุ
และเผยว่าแม้แต่ตอนที่เธออาบน้ำก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่อ่อนโยน
จึงอาจเป็นการลดการระคายเคืองจากผิวโดยไม่รู้ตัว

ยูทูบเบอร์สาวเปิดใจ ไม่ใส่ชุดชั้นใน 2 ปี แย้มมีจุดหนึ่งชมพู
ภาพจาก Threads nanaq1111

         
อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับนี้ก็เป็นเพียงการคาดเดาจากเธอ
แต่ข้อความดังกล่าวที่เธอนำมาโพสต์ไว้บน Threads ก็ได้รับความสนใจไม่น้อย
ทั้งนี้ สำหรับการดูแลจุดดังกล่าวให้เรียบร้อย
หญิงสาวเสริมว่าเธอจะใช้สติ๊กเกอร์สำหรับติดหัวนมแทน
 
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

KUBET – ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ฟาดคนแซะ เวทีนางงามหรือแม่ค้า ลั่นนางงามขายของไม่ได้ คือ สวยไม่มีมูลค่า