อุทาหรณ์ ลูกทำสีผมที่ร้าน กลับทำหนังศีรษบวม แผลติดเชื้อมีหนอง ต้องผ่าตัด 2 รอบ เตือนใจจะทำอะไร ต้องทำกับผู้เชี่ยวชาญ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สตางค์เล่าเรื่อง
วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 เฟซบุ๊ก สตางค์เล่าเรื่อง ออกมาเผยเรื่องราวเตือนภัยเกี่ยวกับการทำสีผม หลังมีวัยรุ่นผู้โชคร้ายไปทำสีผมที่ร้านแห่งหนึ่ง แต่เจอช่างที่ขาดความชำนาญ จนสุดท้ายหนังศีรษะบวม มีหนอง แผลติดเชื้อ จนต้องทำการผ่าตัด ซึ่งทางครอบครัวหวังให้ทางร้านแสดงความรับผิดชอบ
โดยระบุว่า น้องอายุ 16 เป็นนักกีฬาของจังหวัด เริ่มแรกน้องไปทำสีผมที่ร้านทำผมแห่งหนึ่งใน จ.แพร่ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2568 พร้อมเพื่อนอีก 2 คน น้องแสบร้อนที่หัว ทางร้านล้างออกให้หลังจากน้องมีอาการ แต่หัวน้องบูดบวมละปริ มีน้ำใส ๆ ซึมออกมา และผมน้องเป็นสังกะตังออกจากร้านมา
แต่น้องมีภารกิจเดินทางไปแข่งกีฬาแห่งชาติที่ จ.ชลบุรี โดยไม่ได้พบหมอตั้งแต่แรก ได้แต่ยาทาแผล กลับมาแม่พาไปพบหมอผิวหนังแห่งหนึ่ง 2 ครั้ง แต่ไม่ดีขึ้น แม่ก็เปลี่ยนหมอก็ยังไม่ดีขึ้น จนหัวน้องเป็นแผลลาม และน้องแพ้ยาที่คุณหมอใช้รักษาจนผื่นขึ้นทั้งตัว
กลับมาจากภารกิจ แม่พาน้องเข้าหาหมอที่ รพ.แพร่ เมื่อวันที่ 28 หมอให้น้องแอดมิตเนื่องจากแผลติดเชื้อ กินไประดับ 3 ของหนังศรีษะ หมอทำการผ่าตัดครั้งแรกวันที่ 30 เมษายน และจะทำการผ่าตัดครั้งที่ 2 ในวันที่ 14 พฤษภาคม เพื่อนำหนังตรงขามาปะให้น้อง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สตางค์เล่าเรื่อง
แม่ไม่มีปัญญาไปสู้รบปรบมือกะทางร้าน แม่เกรงใจคนที่พาไปทำจึงยังไม่ได้เข้าไปคุยกับทางร้าน แม่ขอความเห็นใจแม่ขอเตือนภัยในโพสต์นี้ สำหรับคนที่ชอบทำสีผมกับช่างที่ไม่มีความชำนาญและใช้ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ แม่วอนขอให้คุณหมอที่เชี่ยวชาญมารักษาน้องเพราะน้องยังเด็ก และขอให้ทางร้านออกมารับผิดชอบและเยียวยาให้น้องด้วย
นอกจากนี้ สตางค์เล่าเรื่อง ยังเล่าอีกว่า
แม่ของน้องร้องไห้ตลอดและขอให้ตนช่วยเหลือน้อง
ซึ่งจากประสบการณ์เป็นช่างทำผม การฟอกผมต้องใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3%
หรือ 6% ในการฟอกผม ต้องไม่ชิดโคนจนเกินไปเพราะหนังศีรษะเรามีความร้อน
ถ้าชิดโคนมากเกินไปลูกค้าจะแสบหนังศีรษะ
ยิ่งใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เปอร์เซ็นต์สูง 9% หรือ 12%
ยิ่งมีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้สูง หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะกัดหนังศีรษะ
ทำให้เกิดแผลและเกิดอาการแพ้ได้
ในกรณีน้องอายุ 16
ไม่เคยทำเคมีใด ๆ ทั้งสิ้นอาจทำให้แพ้สารเคมี
หรือช่างลงครีมฟอกบนหนังหัวโดยตรง โดยขาดความชำนาญในการทำงาน
แม่น้องชี้ว่าได้ทำการรักษาตั้งแต่เกิดแผลบนหนังศีรษะ
แต่อาการไม่ดีขึ้นเลยรักษาตามคลินิกแพทย์ผิวหนัง
แต่ก็ไม่หายจนต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาล
และแผลที่หนังศีรษะก็ได้ลุกลามไปเรื่อย ๆ จึงขอเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์
ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องทำกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สตางค์เล่าเรื่อง