
โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า ผิดหวังกับร้านอิซากายะชื่อดัง เรื่องมีอยู่ว่าวันพุธที่ 19 มีนาคม เวลาประมาณ 21.00 น.ไปทานร้านอาหารญี่ปุ่นนี้ ซึ่งเป็นร้านประจำที่ชอบไป แต่ครั้งนี้ปลาซาบะมีเศษเซรามิกอยู่ในเนื้อปลา ประมาณ 1 นิ้วตามในภาพ

ตอนมาเสิร์ฟก็ไม่ได้สังเกต มารู้ตัวอีกทีตอนกัดเข้าไปแล้ว พอคายออกจึงพบว่ามีเศษเซรามิกอยู่ในปลา และทำให้ฟันแตก ตอนนั้นตกใจมาก เลยให้พนักงานติดต่อกับทางเจ้าของร้าน ซึ่งพี่ผู้หญิงเจ้าของร้านบอกไม่รับผิดชอบ เพราะว่าสั่งปลามาจาก supplier บอกว่าจะต้องติดต่อก่อน เนื่องจากเศษเซรามิกไม่ใช่ภาชนะของทางร้าน และสอบถามตนว่าได้ไปทำฟันมาหรือเปล่าเลยแตก (ซึ่งตนไม่ได้ไปทำมา)
ความรับผิดชอบที่ให้ได้คือ ไม่คิดค่าปลาซาบะอย่างเดียว ตนเลยพูดไปว่าจะจ่ายค่าอาหารทั้งหมด แต่ช่วยรับผิดชอบค่าทำฟัน เจ้าของร้านบอก “ค่าทำฟันมันแพง จ่ายไม่ไหว ไปแจ้งความได้เลย”

วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม ตนจึงได้เข้ารับการรักษา เสียค่าใช้จ่าย 1,200 บาท หมอบอกโชคดีที่ไม่โดนส่วนที่สำคัญมาก ตอนค่ำวันนั้นจึงไปที่ร้านอีกรอบเพื่อพูดคุยกับเจ้าของว่าจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะราคาฟันไม่ได้แพงมาก พอได้โทร. คุยก็ยังโทษว่าเป็นความผิดของ supplier และจะไม่ชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมพูดกับตนว่า “ยิ่งคุยเดี๋ยวก็ยิ่งทะเลาะกันอีก” ตนจึงถามไปว่า ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณจะทำอย่างไร เจ้าของร้านบอกว่า “ก็ทำอะไรไม่ได้”
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนยังไม่ได้รับคำขอโทษจากทางร้านเลย เล่าให้เพื่อนฟังก็เป็นลูกค้าร้านนี้เยอะ หลาย ๆ คนบอกร้านนี้ทรงมาดีตลอด และไม่คิดว่าเจ้าของร้านจะเป็นคนแบบนี้ ร้านอาหารในเครือของแก ตนไปกินประจำตลอด มี 3 ร้าน ลูกค้าเยอะตลอด หลังจากนี้คงลาขาดแล้ว เจ้าของแย่ไม่ไหว

เรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นที่ผู้บริโภคจำนวนมากต่างให้ความสนใจจนถูกแชร์ออกไปกว่า 1 พันครั้ง ซึ่งหลายคนต่างมองว่าร้านนั้นควรจะมีความจริงใจและรับผิดชอบกับลูกค้ามากกว่านี้ โดยการปัดความรับผิดชอบเช่นนี้อาจจะไม่คุ้มค่ากับชื่อเสียงและความไว้วางใจที่ลดน้อยลงไป เป็นต้น

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Steve Suranant

