KUBET-ข่าว สาระ บันเทิง วาไรตี้

          เด็กหญิงวัย 10 ขวบใช้เวลาว่างเดินเร่ขายของ หาเงินได้ฟ่อนใหญ่เอาไปฝากธนาคาร ขอบคุณยายที่สอนหนูหาเงิน ด้านชาวเน็ตแห่ชื่นชมเพียบ

ภาพจาก TikTok @t12.t15

          วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ผู้ใช้ TikTok @t12.t15 ของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ลงคลิปผลตอบแทนความขยันของน้อง ที่ใช้เวลาว่างจากการร่ำเรียนเดินเร่ขายของเล่น จนสามารถมีเงินเก็บเป็นจำนวนมากตั้งแต่อายุยังน้อย

          ในคลิปเห็นภาพของเด็กหญิงที่นำเงินจำนวนมาก มีทั้งธนบัตรแบงก์ 100 แบงก์ 20 มัดรวมกันเป็นปึก และเหรียญที่ถุงแยกใส่ถุงไว้แล้ว นำมาฝากที่ธนาคารพร้อมกับบัญชีเงินฝาก เป็นภาพของความชื่นใจที่ได้เห็นเงินที่หามาได้ก่อนจะนำมาเก็บออมไว้เพื่ออนาคต

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

          จากหลายภาพจะเห็นได้ว่า เบื้องหลังที่เด็ก 10 ขวบเก็บเงินได้มากมายเกินวัย มาจากความตั้งใจใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเดินขายของ ทั้งขนม และของเล่น เร่ขายตามสถานที่ต่าง ๆ ให้กับผู้คนและนักท่องเที่ยว ซึ่งพอได้เงินมาน้องก็เรียนรู้ที่จะเก็บสะสมไว้เพื่อรวมไปฝากธนาคารไว้

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

          นอกจากนี้ น้องวัย 10 ขวบ ได้ลงภาพกับคุณยาย พร้อมระบุว่า
ขอบคุณยายที่สอนให้หนูรู้จักหาเงิน
และขอบคุณพี่เต้ยที่คอยตักเตือนซัพพอร์ตหนูอยู่ตลอด  

         
คลิปนี้กลายเป็นไวรัลชวนใจฟูจนมียอดเข้าชมกว่า 1.5 ล้าน
ด้านชาวเน็ตได้เห็นต่างชื่นชมในความขยันของเด็กหญิง 10 ขวบ
ยกย่องว่าด้วยวัยเท่านี้
การหาเงินได้หลักหลายหมื่นแบบนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เก่งมาก ๆ
และต่างมั่นใจว่าด้วยความขยันหาเงินเช่นนี้
อนาคตของน้องจะต้องไม่ลำบากอย่างแน่นอน

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

ภาพจาก TikTok @t12.t15 

         ยูทูบเบอร์สาว เปิดใจ ไม่ใส่ชุดชั้นในมากว่า 2 ปี ชีวิตติดธรรมชาติ เผยมีส่วนหนึ่งสีชมพูอย่างหากได้ยาก ทำเพื่อน ๆ ต่างก็อิจฉา หรือนี่จะเป็นเคล็ดลับ ?

ภาพจาก Threads nanaq1111

          วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ ETtoday นำเสนอเรื่องราวของ NanaQ ยูทูบเบอร์สาวของไต้หวันที่มีชื่อเสียงในเรื่องการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ซึ่งไม่นานมานี้เธอออกมาเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ใส่ชุดชั้นในมาเกิน 2 ปี แล้ว โดยอ้างว่านิสัยนี้เองที่ทำให้หน้าอกของเธอมีรูปทรงกลมกลึงสวยขึ้น แถมยังทำให้มีลานนมสีชมพูด้วย ทำเอาเพื่อน ๆ หลายคนอิจฉา และเข้ามาบอกเลยว่า ลานนมสีชมพูนั้นหายากมาก

          โดยยูทูบเบอร์สาวเล่าว่า ตอนที่เธอไปแคมปิ้งและพูดคุยกับกลุ่มเพื่อน LGBTQ+ เพื่อนคนหนึ่งที่ดื่มเข้าไปหลายแก้ว ประกาศด้วยความภาคภูมิใจว่าตัวเองมีลานนมสีชมพู แต่เธอตอบกลับไปว่า “มีอะไรน่าอวดขนาดนั้น ฉันก็มีเหมือนกัน”

ภาพจาก Threads nanaq1111

          แต่ไม่คิดว่าหลังจากพูดออกไป ทุกคนต่างก็ช็อกแล้วบอกว่าลานนมสีชมพูนั้นหาได้ยากมาก เธอเองก็ตกใจที่ได้รู้ว่ามันหายากขนาดนั้น และเป็นสิ่งที่หลานคนใฝ่ฝันอยากมี

          “ฉันยังประหลาดใจเมื่อได้รู้ว่ามีสิ่งที่เรียกว่าครีมหัวนมชมพูดในตลาด มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เสียเงินเปล่า”

ภาพจาก Threads nanaq1111

          เมื่อถามถึงความลับของเธอ NanaQ อธิบายว่า จริง ๆ
แล้วเธอไม่ได้มีการดูแลผิวเป็นพิเศษอะไร
“บางทีอาจเพราะฉันไม่ชอบสวมชุดชั้นในมาก่อนหน้านี้ และตอนนี้ก็ไม่ได้สวมเลย
ทำให้ไม่มีการเสียดสีกับผิวหนัง
และไม่มีปัญหาคันหรือผื่นผิวหนังจากเนื้อผ้า” NanaQ ระบุ
และเผยว่าแม้แต่ตอนที่เธออาบน้ำก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่อ่อนโยน
จึงอาจเป็นการลดการระคายเคืองจากผิวโดยไม่รู้ตัว

ภาพจาก Threads nanaq1111

         
อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับนี้ก็เป็นเพียงการคาดเดาจากเธอ
แต่ข้อความดังกล่าวที่เธอนำมาโพสต์ไว้บน Threads ก็ได้รับความสนใจไม่น้อย
ทั้งนี้ สำหรับการดูแลจุดดังกล่าวให้เรียบร้อย
หญิงสาวเสริมว่าเธอจะใช้สติ๊กเกอร์สำหรับติดหัวนมแทน
 
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

         ดราม่าเดือด พ่อพาลูกสาวเข้าร้านเสื้อผ้าดัง หาที่ให้แอบนั่งอึหลังราวแขวนเสื้อ แถมถ่ายคลิปอวดภูมิใจ บอกบรรยากาศเหมาะ แก้อาการท้องผูกได้ดี 

ภาพจาก Instagram muxi_family

         วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เน็กซ์แอปเปิล เผยว่า มีประเด็นดารม่าร้อนแรงเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเป็นครอบครัวคนดังบนโซเชียลของไต้หวัน ภายหลังจากผู้เป็นพ่อได้พาลูกสาววัย 2 ขวบ เข้าไปที่ร้านเสื้อผ้าชื่อดังยูนิโคล่ (Uniqlo) เพื่อใช้เป็นสถานที่ “ถ่ายหนัก” ของลูกสาว พร้อมทั้งยังอัดคลิปวิดีโออวดความภาคภูมิใจ โดยบอกว่า บรรยากาศร้านเหมาะแก่การขับถ่าย และช่วยแก้อาการท้องผูกของลูกสาวเขาได้เป็นอย่างดี

         จากคลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่ แสดงให้เห็นว่า พ่อรายนี้ได้พาลูกสาวของเขาเข้าไปนั่งแอบอยู่ที่ด้านหลังราวแขวนเสื้อสูทของผู้หญิง ซึ่งสามารถบังตัวของเด็กหญิงได้จนมิดชิด ในระหว่างที่เธอกำลังนั่งถ่ายอุจจาระ ส่วนพ่อของเธอก็ถ่ายคลิปลูกสาว พร้อมกับบอกว่า ทุกครั้งที่ท้องผูก พ่อจะพาลูกสาวมานั่งถ่ายที่นี่ โดยหลังจากทดลองเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ก็พบว่าได้ผลทุกครั้ง

         “ดูเหมือนว่าเราจะพบวิธีที่ได้ผลดีกว่าใบสั่งยาของแพทย์แล้ว น่าทึ่งมาก ยูนิโคล่เจ๋งมาก !” ผู้เป็นพ่อ กล่าว

ภาพจาก Instagram muxi_family

         โดยครอบครัวนี้ได้โพสต์คลิปวิดีโอทางโซเชียล พร้อมทั้งเขียนข้อความอธิบายว่า “ลูกสาวของเรากินยาตามใบสั่งแพทย์มานานกว่า 2 ปีเนื่องจากอาการท้องผูก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ อาการก็ยังไม่ดีขึ้น แต่เราพบวิธีแก้ปัญหาอย่างไม่คาดคิดที่ยูนิโคล่ บรรยากาศในร้านของคุณเหมาะมากสำหรับการขับถ่ายอย่างไม่เจ็บปวด และมันก็ได้ผลหลังจากทดสอบมาหลายสัปดาห์”

         ทั้งนี้ทางครอบครัวยังได้ขอโทษทางร้านล่วงหน้า โดยกล่าวว่า “หากบริษัทของคุณได้รับการร้องเรียนจากลูกค้าว่า เสื้อผ้ามีกลิ่นอึเจ้าตัวน้อย โปรดติดต่อเรา และเราจะรับผิดชอบจนถึงที่สุด ขอบคุณพนักงานสำหรับความอดทนและความเข้าใจ”

ภาพจาก Instagram muxi_family

         ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา
ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด ชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปแสดงความไม่พอใจ
กล่าวว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เด็กไม่ผิดเพราะยังไม่รู้เรื่องอะไร
แต่ผู้ปกครองที่เป็นคนพาไป
ทั้งยังสนับสนุนและส่งเสริมว่าพฤติกรรมเช่นนี้เป็นความสำเร็จ
ถือเป็นความคิดที่รับไม่ได้อย่างยิ่ง

         “นี่มันน่ารังเกียจ ใครจะกล้าซื้อเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็น ?”

         “ถามจริง นี่กลายเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจได้อย่างไร”  

         ทั้งนี้ หลังเจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทางครอบครัวนี้ได้เขียนข้อความเน้นย้ำว่า “เราไม่สามารถขอให้เด็กอายุ
2 ขวบ กลั้นอุจจาระไว้หลังจากไม่ได้ถ่ายเป็นเวลา 3 วันได้
ขอบคุณพนักงานร้านที่ได้ช่วยเหลือและดูแลเราในตอนนั้น
ในอนาคตเราจะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่ให้ลูกขับถ่ายในที่สาธารณะอีก
เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดสินจากผู้คนภายนอก”

ขอบคุณข้อมูลจาก Next Apple, Mirror Media

          ไฟไหม้บ้าน พอรื้อทำความสะอาดเจอซองยา กระเป๋าซุกไว้เพียบ เพียงแค่เปิดออกดู ความโชคร้ายในความโชคดี มีเงินอยู่ครึ่งล้าน

          สุดท้ายยอดเงินที่นับได้ทั้งหมดมีมูลค่า 5 แสนบาท ยังไม่รวมนับเหรียญ ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่จะนำเงินก้อนนี้มาซ่อมบ้านที่เสียหายได้ ชาวเน็ตแซวเก็บเก่งจริง ๆ มีทุกซอกทุกมุม

ภาพจาก TikTok @khunnaynong2

          สาวระบาย ช่างตัดผมได้ทรงไม่ตรงปก ถามย้ำแล้วบอกว่าตัดเป็น แต่ผลงานออกมาทำเฟลหนักมาก ด้านชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ท่านเปา

          วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก ท่านเปา เปิดเผยเรื่องราวทุกข์ใจของน้องผู้หญิงคนหนึ่ง หลังนำแบบทรงผมไปให้ร้านตัดผมตัด แต่ผลที่ออกมานั้นห่างไกลกับทรงที่คาดหวังไว้ ทำให้เสียใจจนร้องไห้ ต้องใช้ชีวิตอย่างอับอาย และไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปกับผมของตัวเองที่ออกมาเช่นนี้ดี

          เจ้าของเรื่องราว ระบุว่า อยากมาระบายค่ะ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ไปตัดผมร้าน ๆ หนึ่ง โดยโทร. ไปหาทางร้านว่าจะเข้าไปตัดผมทรงนักเรียน ช่างคิดราคาเท่าไหร่ เค้าเลยบอกราคามา 300 บาทรวมสระ พอไปถึงก็บอกว่า หนูจะตัดทรงนักเรียน ก็ได้ทำการเปิดรูปให้ดูตามในภาพว่าประมาณนี้ ช่างพูดว่า นี่มันไม่ใช่ทรงนักเรียนมันคือบ๊อบ หนูก็โอเค ๆ งั้นเอาประมาณนี้ ช่างเลยตัดผมออกไปครึ่งหนึ่งก่อนแล้วไปสระผม ซึ่งก่อนจะสระผม หนูถามย้ำอีกรอบแล้วตัดได้ใช่ไหม ช่างบอกว่าตัดได้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ท่านเปา

          พอสระผมเสร็จก็มานั่งแล้วเริ่มวัดว่าจะเอาสั้นเท่าไหร่ หนูเลยบอกไปว่าเอาประมาณนี้ (ทำมือเทียบ ๆ คาง) ช่างเลยตัด แล้วจู่ ๆ เขาก็บอกว่า พี่ขอซอยผมออกหน่อยนะ เพราะผมมันพอง เราผมหยักศกใช่ไหม ซึ่งหนูก็บอกว่าใช่

          ตอนแรกคิดว่าเค้าจะซอยออกแค่ปลาย ๆ แต่เค้าหยิบผมขึ้นมาเกือบกลางหัวแล้วซอยเลย ซึ่งหนูก็ตกใจ แต่จังหวะนั้นคือทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าถามเพราะคิดว่าอาจจะเป็นเทคนิคช่าง (อันนี้หนูโง่เองค่ะที่ไม่ถามหรือไม่ลุกออก) แล้วช่างก็ซอยผมหนูทั้งหัวด้วยหวีสไลด์ (ไม่แน่ใจว่าหวีหรือมีดนะคะเพราะสายตาสั้น)

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ท่านเปา

          หลังจากนั้นช่างก็พูดว่าจะไปทำทรงนักเรียนทื่อ ๆ ได้ยังไง หนูก็เงียบไม่ได้พูดอะไร จนมาด้านข้าง เขาก็ซอยออกไปเป็นตามในภาพ ซึ่งหนูคิดแล้วว่ามันไม่ใช่ เลยหยิบมือถือมาแล้วถามว่าพี่ตัดให้หนูแบบนี้ใช่ไหม ช่างตอบมาว่า ใช่ หนูก็เลยเงียบแล้วเขาก็มาตัดหน้าม้าต่อ แต่เค้าไม่ได้ใช้กรรไกร ช่างทำการหยิบผมด้านหน้าหนู ไม่ได้มีการวัดใด ๆ แล้วใช้หวีสไลด์ สไลด์หน้าม้าหนูออก ซึ่งมันแหว่งค่ะ

          หนูเลยมีการปัด ๆ ทำเป็นจัดทรงหน้าม้า เขาคงเห็นสีหน้าเลยหยิบกรรไกรมาเล็ม ๆ ออกแต่ก็ยังไม่เท่ากันอยู่ดีจังหวะนั้นหนูช็อกทำไรไม่ถูก คิดว่าเขาตัดไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้วจะลุกก็ไม่ทันเลย เลยปล่อยบวกกับมองไม่เห็นชัด ๆ

          พอหลังจากทำเสร็จหนูก็ดูในกระจก
แล้วพูดว่า เหมือนหมวกกันน็อกเลยแล้วก็ลุกไปคิดเงิน
ตอนนั้นยังไม่ได้คิดว่ามันจะแย่ขนาดนี้จนกลับมาบ้าน หนูเลยถ่ายรูปดู เช็กดู
สรุปคือมันออกมาเป็นแบบนี้เลยค่ะ หนูร้องไห้ ตอนเย็น ก่อนนอน
ตื่นนอนมาก็ร้องไห้ เพราะสภาพผมมันน่าเกลียดมากจริง ๆ
วันที่ตัดมาวันแรกหนูไม่กล้ามองหน้าพนักงานเซเว่นด้วยซ้ำเพราะอายกับหัวตัวเอง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ท่านเปา

          ตอนเช้าหนูเลยโทร.
หาช่างเพื่อถามว่าเขาเป็นเจ้าของร้านไหม เขาถามว่ามีอะไร
หนูเลยบอกว่าเขาตัดผมออกมามันไม่ใช่แบบที่หนูต้องการเลย
เขาก็บอกว่าเขาบอกแล้วว่าจะซอยผม เพราะหนูผมหยักศกผมมันจะพอง
แล้วเขาเลยบอกให้เข้าไปตอนเย็น จะได้ดูว่าจะแก้ไขยังไง
ซึ่งตอนแรกหนูจะเข้าไปแต่คิดไปคิดมาหนูก็ไม่เข้าดีกว่าเพราะเขาคงไม่ได้รับผิดชอบอะไรนอกการจะตัดผมหนูเพิ่มแล้วก็ไม่รู้จะเข้าไปด้วยเหตุผลยังไงดี หนูควรทำยังไงดีคะ เราควรเรียกร้องอะไรไหม

         
หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป
ปรากฏว่ามีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นหลายมุมมอง
บ้างก็มองว่าส่วนหนึ่งที่ดูไม่เป็นทรงกับแบบมากเช่นนี้
อาจเพราะสภาพผมที่ไม่เหมือนกับแบบด้วย
แต่อย่างน้อยช่างก็ควรจะตัดออกมาให้ลูกค้าพอใจที่สุด
ซึ่งหลายคนต่างก็เข้าใจหัวอก
เพราะการจะหาช่างที่เก่งและถูกใจนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ เป็นต้น

          สาวไปเที่ยวจุดตั้งแคมป์ เดินไปจะเข้าห้องน้ำ เอะใจลองมองให้ทั่วดูก่อน เจอความพีคในพีค แค่เห็นก็ขนลุกแล้ว

ภาพจาก TikTok @ploy3285

          กลายเป็นอีกหนึ่งบททดสอบจิตใจสำหรับคนชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ซึ่งบางจุดแม้ว่าจะมีสิ่งของอำนวยความสะดวกก็จริง แต่ด้วยความที่ใกล้ป่าและต้นไม้ ทำให้มีแขกไม่ได้รับเชิญปะปนมาด้วยเสมอ

          วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ผู้ใช้ TikTok @ploy3285 เผยบรรยากาศห้องน้ำแห่งหนึ่งใกล้กับจุดตั้งแคมป์ ซึ่งดูเผิน ๆ เหมือนไม่มีอะไรต้องคิดมาก แต่พอเข้าไปใกล้ ๆ ก็ถึงกับขนลุกหนักมาก

          จากคลิปเผยให้เห็นบริเวณหน้าประตูห้องน้ำ ซึ่งเมื่อซูมดูใกล้ ๆ จะพบว่าบนประตูมีตุ๊กแกขนาดใหญ่เกาะอยู่ จนทำเอาคิดหนักหากจะต้องเดินผ่าน แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเมื่อลองมองดี ๆ จะเห็นว่า บริเวณด้านหน้าประตูนั้นมีงูอีก 1 ตัวเกาะอยู่ที่ไม้กวาดอีกด้วย เรียกว่าเป็นการเผชิญหน้ากันของสัตว์ 2 ชนิดที่เป็นศัตรูโดยธรรมชาติ แต่ทั้งคู่นั้นเลือกโลเคชั่นได้ชวนลำบากใจคนที่ไม่เกี่ยวข้องจริง ๆ

ภาพจาก TikTok @ploy3285

ภาพจาก TikTok @ploy3285

          ปรากฏว่าคลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลจนมียอดเข้าชมกว่า 4
แสนครั้ง ด้านชาวเน็ตได้เห็นแล้วต่างตกใจกับสถานการณ์ชวนพีค
โดยหลายคนก็เชื่อว่า สิ่งที่เจอหน้าห้องน้ำยังหนักขนาดนี้
หากเข้าไปข้างในห้องอาจจะมีอะไรที่น่ากลัวกว่านี้ก็เป็นได้ 

 
           สามี-ภรรยา ผวาถูกหลอกทำประกัน 120 ล้าน เชื่อโดนวางแผนฆ่า ด้านผู้รับผลประโยชน์โต้เดือด ชี้อีกฝ่ายขอให้ทำเอง เพราะติดหนี้กว่า 50 ล้าน

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

           หลังจากสืบหาข้อมูลจึงพบว่า
ประกันชีวิตของอุ๊และโต้ง มีชื่อของวัชรีเป็นผู้รับผลประโยชน์
และพบด้วยว่า ตัวแทนคนที่ขายประกันก็คือ พิมพ์พันธุ์และสามี
ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับอุ๊ และเป็นโจทก์ฟ้องอุ๊กับโต้ง จนติดคุก
ทำให้จึงเชื่อว่าทั้งหมดนี้อาจจะเป็นการวางแผนจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุเพื่อหวังเงินประกันหรือไม่นั้น

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

วัชรี โต้สองผัวเมียคือมิจฉาชีพ ชี้อีกฝ่ายเสนอให้ทำประกันเอง ปมติดหนี้อยู่ 50 ล้าน

          
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์  ช่อง 3 รายงานว่า วัชรี
ชี้แจงโดย ยอมรับว่า เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอุ๊และ น.ส.พิมพ์พันธุ์ จริง
มีการทำธุรกิจร่วมกัน แต่ อุ๊และโต้งมีพฤติกรรมเป็นมิจฉาชีพ
โดยก่อนหน้านี้อุ๊และ โต้ง มาขอกู้เงินกับเธอเพื่อไปปล่อยเงินกู้
แต่แล้วก็โกงเธอไปหลายล้านบาท
แล้วยังมีการยืมเงินเธอไปลงทุนเทรดหุ้นเสียหายอีกกว่า 19 ล้านบาท รวม ๆ
แล้วทั้งคู่ติดหนี้เธอกว่า 50 ล้านบาท
เธอจึงพยายามขอเงินคืนพร้อมขู่ไปว่าถ้าไม่คืนก็จะมีการฟ้องร้อง

          
ส่วนกษิรา
ที่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทและเป็นผู้รับผลประโยชน์จากประกันของโต้ง
วัชรีบอกว่า เธอรู้จัก กษิรา ได้ประมาณ 2 ปี
ก็เป็นมิจฉาชีพมาหลอกให้เธอลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารและสุดท้ายก็โกงเธอไปเหมือนกัน

          
เรื่องการทำประกันชีวิต วัชรีเปิดข้อความแชตที่โต้ง
ส่งหาเธอตั้งแต่ก่อนติดคุกว่า ให้เธอหาบริษัททำประกันให้หน่อย เอาสักก 4-5
ฉบับ เน้นประกันอุบัติเหตุเพื่อจะเอาเงินมาใช้หนี้ให้กับเธอ
ซึ่งเธอก็ไปดำเนินการทำประกันให้ หลังพ้นโทษออกมา
ทั้งคู่ก็เป็นคนขอให้เธอทำประกันให้อีก ยืนยันว่า ทำประกันทุกครั้ง
โต้งรับรู้และทำไม่ต่ำกว่า 10 ฉบับ

          
ส่วนที่ใส่ชื่อของเธอเป็นผู้รับผลประโยชน์
และในช่องความสัมพันธ์ว่าเป็นภรรยาของโต้ง วัชรี อ้างว่า
เป็นไปตามที่ตกลงกับโต้งไว้แบบนี้ ส่วนที่ทำประกันโดยไม่ได้เห็นหน้ากัน
เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด ทำผ่านระบบออนไลน์จึงไม่ได้เจอกับตัวแทน

          
วัชรี ยืนยันว่า ในระหว่างที่โต้งติดคุก ปี 2563
เธอไม่เคยทำประกันสักฉบับให้กับโต้งและอุ๊เลย ส่วนประกันบางฉบับ
เธอยอมรับว่ามีการขอเวนคืนกรมธรรม์จริง เนื่องจากเธอเป็นคนส่งเบี้ย
แล้วส่งไม่ไหว พอครบ 3 ปีจึงขอเวนคืนกรมธรรม์

          
ประเด็นว่าทำไม วัชรี ต้องจ่ายเบี้ยประกันแทนโต้ง
มีการตกลงอะไรกันไว้หรือไม่ วัชรี บอกว่า ไม่เข้าใจคำถาม
แต่ที่เธอต้องจ่ายเพราะโต้งไม่มีเงิน ระหว่างนั้น วัชรีโทรศัพท์หา สามี
พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่า
ให้สัมภาษณ์ต่อไม่ไหวแล้วเธอปวดหัวและสามีก็สั่งไม่ให้สัมภาษณ์แล้ว
จากนั้นไม่นานสามีของวัชรีก็กลับเข้ามาที่บ้านและขอให้ผู้สื่อข่าวหยุดสัมภาษณ์
บอกว่า เรื่องของอุ๊กับโต้งให้ไปคุยกันที่ศาล

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ญาติคนฟ้องสองผัวเมียจนติดคุก รับทำกรมธรรม์ให้คู่กรณีจริง แต่ไม่ใช่ช่วงที่ติดคุก

          
ด้าน น.ส.พิมพ์พันธุ์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของโต้ง อุ๊และวัชรี
ตัวแทนบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ยืนยันว่า
กรมธรรม์ทุกฉบับที่เธอได้ทำให้กับโต้งและอุ๊ ได้รับความยินยอมจากทั้งคู่
เนื่องจากทั้งคู่ติดหนี้วัชรีหลายสิบล้านบาท
จึงขอทำประกันเพื่อหวังใช้หนี้ให้กับวัชรี โดยที่วัชรีเป็นคนจ่ายเบี้ยเอง

          
พิมพ์พันธุ์ ยืนยันว่า กรมธรรม์ทุกฉบับของอุ๊และโต้งถูกทำขึ้นก่อนติดคุก
บางฉบับที่เห็นว่า ทำขึ้นในระหว่างที่นายโต้งติดคุก
เนื่องจากมีการจ่ายเบี้ยตอนเดือนเมษายน 2563 ไม่กี่วันก่อนที่โต้งจะติดคุก
หลังจากนั้นกรมธรรม์ก็มาอนุมัติในเดือนพฤษภาคม
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โต้งติดคุก
ส่วนเรื่องเอกสารการตรวจสุขภาพนางสาวพิมพ์พันธุ์ระบุว่า ตรงนี้เธอไม่ทราบ
เนื่องจากไม่ใช่ของบริษัทเธอที่ทำประกันฉบับดังกล่าวนั้น

          
อย่างไรก็ดี พิมพ์พันธุ์ ปฏิเสธว่า
เธอไม่ได้แนะนำให้ใส่ชื่อของวัชรีในประกันของโต้ง โดยระบุว่าเป็นภรรยา
ตามที่พัชรี กล่าวอ้างว่าเธอเป็นคนแนะนำ

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์